|
The Golden Compass Review | |
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|---|
VJ FF>>Member Cool
เข้าร่วม: 05 Apr 2006 ตอบ: 1989 ที่อยู่: หน้าคอม 555 |
His Dark Materials : The Golden Compassกำกับ คริส ไวซ์ แสดงนำ นิโคล คิดแมน, แดเนี่ยล เคร้ก, ดาโกต้า บลู ริชาร์ด แนว แฟนตาซี คะแนน 6 / 10 V Chirasreshtha สิ่งสำคัญที่สุดของการสร้างหนังจากหนังสือ คือการกุมหัวใจของหนังสือทั้งหมดและถ่ายทอดออกมาในเวลาสองชั่วโมง หนังสือชุด His Dark Materials เป็นหนึ่งในหนังสือชุดที่ไม่เพียงแต่มีเนื้อหาละเอียดแต่ยังมีความลึกซึ้งไม่น้อย และบทแรกของหนังสือชุดนี้อย่าง The Golden Compass ก็มีใจความสำคัญยิ่งอันจะนำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดในอีกสองตอนที่เหลือ The Golden Compass เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กสาวนามว่าไลร่า เธอถูกเลี้ยงดูอยู่ในวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด โดยมีเหล่านักวิชาการคอยคุ้มครองเธอ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ถูกมิสซิสโคลเตอร์ซึ่งดูราวกับมีอำนาจเหนือเหล่านักวิชาการและคณะผู้ปกครองทั้งหลายมาพาตัวเธอไป ขณะเดียวกันนั้นในเมืองที่ไลร่าอยู่ก็มีเรื่องการลักพาตัวเด็กเกิดขึ้น และเพื่อนของเธอก็เป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกลักพา เมื่อไลร่ารู้ความจริงเบื้องหลังของมิสซิสโคลเตอร์ เธอจึงหนีออกมาและร่วมกับคณะยิปซีออกเดินทางเพื่อช่วยเพื่อนของเธอและลูกๆ ของเหล่ายิปซีจากแผนการชั่วร้าย ดูเผินๆ แล้วเนื้อหนังก็ไม่ได้มีอะไรเลย หากแต่นัยยะสำคัญของเรื่องนั้นถูกซ่อนอยู่ภายใต้แนวคิดในเรื่องของศาสนาจักรและบาปดั้งเดิมของมนุษย์ที่ถูกนำเสนอในแบบแฟนตาซีต่างหากที่เป็นจุดสำคัญของเรื่อง ทว่า ผู้กำกับเลือกที่จะเดินไปในทางที่เสี่ยงต่อความล่อแหลมให้น้อยที่สุด ทำให้หนังไม่สามารถจับหัวใจของเรื่องได้อย่างที่หนังสือทำไว้ และนั่นทำให้มันไม่สามารถจับหัวใจผู้ชมได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเคยอ่านหนังสือมาก่อนหรือไม่ จริงอยู่ที่การไม่นำเรื่องศาสนจักรเข้ามาเป็นประเด็นเด่นชัดในเรื่องอาจทำให้หนังเป็นหนังแฟนตาซีที่เข้าใจง่ายขึ้น แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้หนังแบนราบไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตามผู้กำกับยังคงประเด็นอยู่ที่การเติบโต อีกทั้งเดินเรื่องไปตามเหตุการณ์ในหนังสืออย่างครบถ้วน ดูแล้วก็เห็นความพยายามที่จะเก็บรายละเอียดของหนังสือให้ได้ แต่การเก็บรายละเอียดก็ทำให้หนังเดินเรื่องเร็วจนคนดูไม่ทันได้ซึมซับหรือคล้อยตามไปกับเหตการณ์หนัง ซึ่งสำหรับการเป็นบทแรกของหนังไตรภาคแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หนังจะต้องเอาคนดูให้อยู่ แต่ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะไม่ได้เรียนรู้อะไรจากหนังชุด The Lord of the Rings เลย หนังขายแฟนตาซีที่มีเด็กเป็นดารานำนั้น สิ่งสำคัญคือตัวเด็กที่เป็นตัวนำ หากเด็กไม่สามารถมัดใจคนดูได้ ก็ยากที่คนดูจะเกิดอารมณ์ร่วมไปกับหนัง ในขณะที่แดเนี่ยล แรดคลิฟฟ์, เอ็มม่า วัตสัน, รูเพิร์ต กรินท์ ทำให้คนดูหลงรักได้ทันทีที่พวกเขาขึ้นจอ หรือเหล่าเด็กๆ นาร์เนียที่คนดูก็เทใจให้ทันทีนั้น แต่ดาโกต้า บลู ริชาร์ดหรือไลร่าในเรื่องกลับขาดเสน่ห์ตรงนี้ไปอย่างน่าเสียดาย การปรากฏตัวของเธอครั้งแรกไม่สร้างความประทับใจเลย และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนดูจึงไม่รู้สึกรู้สาอะไรไปกับเธอตลอดเรื่อง แต่สำหรับการแสดงหนังครั้งแรกแล้ว เธอก็ทำได้ดีทีเดียว คือการแสดงของเธอไม่บกพร่อง แต่เธอขาดเสน่ห์ที่จะมัดใจคนดูนั่นเอง ตรงกันข้าม หากไม่ได้พลังดาราและฝีมือการแสดงขั้นเทพของนิโคล คิดแมนเข้ามาแล้ว หนังอาจแบนราบไปยิ่งกว่านี้ ที่บอกว่าขั้นเทพเพราะอะไรเหรอครับ เนื่องจากบทของคุณนายโคลเตอร์นั้นสำคัญกับเรื่องมาก และซับซ้อนมาก หากใครที่อ่านหนังสือจะทราบดี ดังนั้นการแสดงของนิโคลในหนังจึงยอดเยี่ยมอย่างหาที่ติไม่ได้ เธอสามารถแสดงอากัปกริยาที่ดูแล้วร้ายกาจอย่างมากแต่ขณะเดียวกันมันก็ลุ่มลึกและดูมีอะไรให้ค้นหาเช่นกัน ซึ่งเรียกว่าเป็นไปตามบทที่ตัวละครตัวนี้ควรจะเป็นจริงๆ ด้านเอวา กรีนและแดเนี่ยล เคร้กนั้นหลายคนอาจมองว่ามาทำไม โผล่หน้ามากันแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ด้วยเป็นตัวละครที่จะมีบทสำคัญต่อไปในอีกสองภาคจึงต้องใช้ดารามีฝีมืออย่างพวกเขา ... ถ้าหากมีภาคต่อไปนะครับ ประเด็นของหนัง Golden Compass นั้นอยู่ที่บาปดั้งเดิมของมนุษย์ (original sin) เมื่ออดัมและอีฟได้ทำผิด ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าเด็ดเอาแอปเปิ้ลหรือผลไม้ต้องห้ามมากิน ซึ่งบาปแรกนี้เองที่นำไปสู่บาปอื่นๆ และการล่มสลายของมนุษย์ เมื่อลูกหลานของมนุษย์จะต้องเกิดมาพร้อมบาปนี้ติดตัว หนังไม่ได้ชี้ให้เห็นเรื่องนี้เลยแม้แต่นิด ทั้งที่มันเป็นส่วนสำคัญที่ว่า ทำไมจึงมีการทดลองผ่าแยกสัตว์ภูต (Daemon) คุณนายโคลเตอร์บอกกับไลร่าว่าในอดีตบรรพบุรุษของพวกเขาได้ทำผิดพลาดมหันต์และนั่นคือสิ่งที่คณะปกครอง (The Magisterium) ต้องการแก้ไข ความข้อนี้จะนำไปสู่การคลายปริศนาของเรื่องในภาคต่อไป แต่การที่หนังไม่สามารถทำให้คนดูเข้าใจได้ ทำให้คนดูไม่รู้สึกอยากจะรู้อีกต่อไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหนังกันแน่ ฟิลลิป พูลแมนนั้นนำเอารายละเอียดเล็กและแนวคิดในเรื่องสวรรค์และนรกจากบทกวี Paradise Lost ของจอห์น มิลตันมาใช้ในไตรภาคของเขา ในบทกลอนนี้กล่าวถึงสงครามระหว่างสวรรค์กับนรก ระหว่างเทวดาและปีศาจ เมื่อเทวดาที่ก่อกบฎและปีศาจถูกพระเจ้าเนรเทศไปยังนรก (Pandaemonium) (คำว่า daemon นั้นมาจากแพนดีโมเนี่ยมอันนี้) และทำให้เหล่าปีศาจและเทวดากบฎหาทางแก้แค้นและตกลงใจว่าจะวางยาพิษโลกโลกมนุษย์เป็นการตอบแทนที่ถูกเนรเทศจากสวรรค์ นอกจากนี้ Paradise Lost ยังพูดถึงเรื่องของอดัมและอีฟที่หลังจากที่กินผลไม้ต้องห้ามและถูกเนรเทศมาอยู่โลกมนุษย์ ทั้งคู่แยกจากกันและได้พบว่าสิ่งที่ตนทำผิดไปส่งผลอย่างไรกับโลกใหม่ที่พระเจ้าสร้างขึ้น แต่ความหวังยังมีเพราะยังมีนางฟ้าที่มาโปรดอดัมและบอกกับเขาว่าสักวันเขาจะพบ A paradise within thee, happier farr สวรรค์ที่แท้อยู่ในอก นรกอยู่ในใจนั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจงงว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนังเด็กขี่หมีไปช่วยเพื่อนที่ถูกลักพาตัวเพื่อนำไปทำการทดลองผ่าแยกสัตว์ภูตของตน มันเกี่ยวตรงที่พูลแมนเอาแนวคิดเค้าโครงเรื่องที่เล่าไปแล้วมาผูกเป็นนิทานเด็กสมัยใหม่ที่เย้ยหยันศาสนจักรคริสเตียนอยู่ในที ว่าด้วยการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม (ดีม่อน/สัตว์ภูต)ของมนุษย์และการล่อลวงของผู้มีอำนาจ ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าจะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อถึงภาคสามนั่นล่ะครับ The Womb of nature and perhaps her Grave, Of neither Sea, nor Shore, nor Air, nor Fire, But all these in thir pregnant causes mix't Confus'dly, and which thus must ever fight, Unless th' Almighty Maker them ordain His dark materials to create more Worlds, Into this wilde Abyss the warie fiend Stood on the brink of Hell and look'd a while, Pondering his Voyage... ธุลีปริศนาอาจนำพาและเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ของมนุษย์และจิตวิญญาณที่มิอาจซ่อนเร้น ดังเช่นที่โลกของไลร่าไม่มีใครสามารถซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงได้ภายใต้หน้ากากฉาบรอยยิ้ม และเข็มทิศอาจเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ทางออกของปัญหาทั้งมวล แต่ทว่า เข็มทิศทองคำนี้ดูจะพาเราไปไกลจากหนทางที่ควรจะเป็นเหลือเกิน... หมายเหตุ Magisterium หมายถึง อำนาจทางการสั่งสอนของพระศาสนจักร _________________ |
Mon Dec 10, 2007 3:41 am | |
gitchiyaya222527 FF>>Member Cool
เข้าร่วม: 02 Jun 2007 ตอบ: 2715 ที่อยู่: CINDY Love of Siam |
6/10 เลยเหรอเคอะ
หุหุ ใจดีจังเลยเค่อะ _________________ CINDY™ - Fashion Dies, But Style is Forever. |
Mon Dec 10, 2007 7:48 am | |
ปารีด ฮี๋ตัน Jr. FF>>Member เก๋ๆ เดิร์นๆ
เข้าร่วม: 05 Dec 2007 ตอบ: 960 |
ถึงนิโคลจะขั้นเทพ แต่หนูปาเชื่อว่า เรื่องนี้นิโคลไม่เทพคร่ะ ง่อยมากๆ
หนูปาดูเรื่องนี้แล้วไม่สนุก แปลได้สองแบบคร่ะ รสนิยมหนูปาไม่ดี กับหนูปาคงจะแก่แล้ว _________________ |
Mon Dec 10, 2007 11:02 am | |
Darth เวเฟอร์ FF>>Member Cool
เข้าร่วม: 14 Mar 2006 ตอบ: 1191 ที่อยู่: ภาชนะ |
|
Mon Dec 10, 2007 2:49 pm | |
อิเหียก FF>>Member เก๋ๆ เดิร์นๆ
เข้าร่วม: 19 Mar 2006 ตอบ: 574 ที่อยู่: ห้วย หนอง คลอง บึง |
นึกว่า เดมอน ของแต่ละคน จะมาสู้กันตูมๆๆๆๆ ซะอีก แอบเซ็งเล็กน้อย
_________________ " อิเหียก แม่ทุกรี" |
Tue Dec 11, 2007 12:10 am | |
Bobby FF>>Member มือใหม่หัดโพสต์
เข้าร่วม: 01 Jul 2006 ตอบ: 112 ที่อยู่: School Dance ..++ |
เป็นหนังที่เล่าเรื่องโอเค ครับ
แต่ดูจริงๆแต่ละฉากไม่ปะติดปะต่อกันเลย ตัวละครก็เล่าผ่านมุมมองนางเอกมุมเดียว เลยไม่รู้ว่าตัวละครบางตัวนั้นมีลักณะเช่นไร สรุปคือ ผิดหวังอยู่โขเลย ทั้งๆที่ไม่ได้อ่านหนังสือ แต่รู้สึกว่า 2 ช.ม. เห็นไล่หนีกัน จับตัว มีแค่เนี้ย _________________ |
Tue Dec 11, 2007 5:30 pm | |
Katie_Rabbit FF>>Member เก๋ๆ เดิร์นๆ
เข้าร่วม: 25 May 2007 ตอบ: 922 ที่อยู่: Apatow Productions |
หนังสือยังไม่เคยอ่านแต่ในภาคของหนังก็ค่อนข้างชอบนะ
.เข้าไปดูไม่ได้หวังอะไรมากมาย
_________________ Tweet me |
Wed Dec 12, 2007 5:48 pm | |
hilaryduff_love FF>>Member มือใหม่หัดโพสต์
เข้าร่วม: 14 Mar 2006 ตอบ: 150 |
ในหนังสือทำได้ดีกว่านี้คับ ถ้าาคแรกไท่ชอบแล้วจะชอบภาค 2 กันป่าวเนี่ย เพราะมีแต่ไลร่ากับวิล แล้วก็มิสซิสโคลเตอร์กับตัวประกอบเล็กๆน้อยๆ
|
Wed Dec 12, 2007 6:46 pm | |
หน้า 1 จาก 1 |
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน |
|