ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ในโรงหนัง
มันยากมากเลยหรือ?
(ยาวหน่อยแต่ก้อลองอ่านกันดู)
http://blog.aanthe.com/?p=6
มันยากเหรอแค่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี
EDIT ตัวโต ๆ : เนื่องจากผมโดนบางท่านเข้าใจผิดว่า ผมเป็นเจ้าของเรื่องนี้ คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมพบในพันทิพดอทคอม และผมไม่เห็นด้วยกับคุณโชติศักดิ์ เลยอยากจะเอามาให้อ่านกันเพราะในพันทิพย์ลบทิ้งไปแล้วครับ
ได้อ่านกระทู้พันทิพ ไปสะดุดอยู่เรื่องนึง (สะดุดอีกแล้ว-*-) เลยขออนุญาติ คุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง เอามาลงถึงแม้กระทู้พันทิพจะหายไปหรือถูกลบไปแล้ว แต่ copy มาให้อ่านกัน
คุณโชติศักดิ์ โพสไว้ในพันทิพดังนี้
เรื่องมันมีอยู่ว่า
เมื่อวาน(20 กันยายน 2550)
ผมและเพื่อนชื่อชุติมาได้เข้าไปดูหนังที่ชั้น9 เซ็นทรัลเวิร์ล (หนังรอบ 19.15 น. แต่ผมเข้าโรงประมาณ 19.30 น.)และเมื่อถึงเพลงสรรเสริญผมและเพื่อนก็ไม่ได้ยืน (แต่นั่งด้วยความสงบ และได้หยุดรับประทานขนมและน้ำ) ซึ่งผมและเพื่อนปฏิบัติเช่นนี้มานานแล้ว
ปรากฏว่าผม(คนเดียว)ถูกปาด้วยกระดาษที่ขยำเป็นก้อนขนาดเล็กกว่าลุกเท็นนิสถูกบริเวณต้นคอ ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะเคยเจอแบบนี้มาแล้ว 1-2 ครั้ง ต่อมาเมื่อเพลงเล่นไปประมาณกลางเพลงชายคนหนึ่งที่นั่ง(ตอนนั้นเขายืน)อยู่ถัดเพื่อนผมไปทางซ้ายมือ 2-3 ที่นั่ง ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายนวมินทร์ หันบอกให้ผมและเพื่อนลุกขึ้นยืนโดยเขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผมและเพื่อนก็ไม่ได้สนใจเขาจนเพลงจบชายคนนั้นจึงเดินไปตามพนักงานโรงหนังมา (ทราบเพียงชื่อเล่นว่า นิค) และบอกให้พนักงานคนดังกล่าวเชิญผมและเพื่อนออกไป พนักงงานจึงบอกกับเขาว่า พี่ใจเย็นๆ และผมได้บอกกับพนักงานว่า ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำไม่ผิด แต่ต่อให้ผิดโรงหนังก็ไม่ต้องกลัวเดือดร้อน เพราะไม่เกี่ยวกับโรงหนัง หลังจากนั้นพนักงานก็ถอยไปยืนบริเวณทางเดินด้านข้าง ชายคนนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วกรีดร้องและเริ่มด่าผมและเพื่อน เช่น ทุเรศ, ทำไมไม่รักในหลวง เป็นคนไทยซะเปล่า ขนาดฝรั่งยังยืนเลย พร้อมกับไล่ผมและเพื่อนให้ออกไปจากโรงด้วยอาการที่เกรี้ยวกราด ซึ่งระหว่างนั้นเขามีม้วนกระดาษอยู่ในมือและใช้มันชี้หน้าเพื่อนของผมอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเขาพูดจบ(รอบแรก) คนอื่นๆในโรงก็ปรบมือให้กับเขาหลังจากนั้นชายคนนั้นก็เดินเขามาด่าเพื่อผมอีกครั้ง เพื่อนผมจึงตอบไปว่า เงียบหน่อยค่ะ และผมพูดว่า ถ้าพี่มีปัญหาพี่ก็ออกไป ผมนั่งสบายดีไม่มีปัญหา และผมจะไม่ออกไปเพราะผมจะดูหนังหลังจากนั้นชายคนนั้นชายคนนั้นก็เดินเข้ามาด่าผมและเพื่อนอีกครั้ง และได้ขว้างม้วนกระดาษในมือมาโดนบริเวณหน้าอกของเพื่อนผม พร้อมชี้นิ้วมาที่หน้าเพื่อนผมในระยะห่างประมาณ 2 คืบ พร้อมกับกระชากกล่องป็อปคอนในมือเพื่อนผมแล้วสาดมันใส่ผมและเพื่อน แล้วขว้างกล่องป็อบคอนโดนเพื่อนผมและกระเด็นมาโดนผมด้วย แล้วปัดแก้วน้ำอัดลมที่วางอยู่ที่ที่วางแขนจนตกแตก ซึ่งในขณะนั้นคนอื่นๆในโรงก็เริ่มด่าและไล่ผมและเพื่อนผมและเพื่อนจึงยืนขึ้น และผมได้โทรไปที่ 191 ทันที และเดินคุยโทรศัพท์กับตำรวจจนออกมานอกโรง ระหว่างที่เดินออกจากโรง ผมเดินผ่านหน้าชายคนนั้น เขาได้ชี้มาที่เสื้อผม แล้วด่าว่า ใส่เสื้อบ้าอะไร
*เมื่อออกมานอกโรงหนัง ผมกับเพื่อนรอจนพบกับตำรวจ และบอกกับตำรวจว่าจะรอคู่กรณี เพราะกลัวเขาหนีไป พอหนังจบ คนดูทั้งหมดออกมาตรงประตุทางออก ผมกับเพื่อนได้เข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง โดยตั้งใจจะเข้าไปถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ทันไดถ่าย ผู้จัดการโรงหนังได้เข้ามาบอกว่าไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปในโรง เพราะเป็นกฎ ถ้าจะถ่ายต้องทพเรื่องมา ผมจึงขอให้ตำรวจที่ตามเข้าไป มาดูที่เกิดเหตุแทนหลังจากนั้นผมออกไปนอกดรงหนัง พบคู่กรณีและคนดูคนอื่นๆ ยืนรวมกันอยู่กับตำรวจอีกนาย ผมจึงเดินทางไป สน.ปทุมวัน และคุ่กรณีได้ตามมาทีหลังเมื่อถึง สน. ตำรวจได้ให้ผมและลงบันทึกประจำวันและได้ทำเรื่องส่งผมไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ (ตำรวจบอกว่ามันเป็นขั้นตอนของทางการ) โดยทางร้อยเวรได้นัดผมไปแจ้งความและสอบปากคำเมื่อบ่ายวันนี้ (21 กันยายน) ส่วนหมอที่ รพ.ตำรวจ ได้นัดผมมาฟังผลเมื่อเช้าวันนี้เมื่อเช้าผมจึงไปฟังผลที่ รพ.ตำรวจ และกลับมาที่ สน.ตอนบ่ายระหว่างรอตำรวจเจ้าของคดีเล่าให้ผมฟังว่า คู่กรณีจะแจ้งความกับเพื่อนในข้อหา หมิ่นพระบรมฯ ถ้าผมกับเพื่อนจำดำเนินคดีคุ่กรณี (ดังนั้นเท่าที่ผมทราบล่าสุดคือ ผมและเพื่อนยังไม่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่พระบรมฯ)
อย่างไรก็ตาม ผมและเพื่อนก็ได้เข้าแจ้งความตามนัด โดยแจ้งคนละ 4 ข้อหา ของผมมี
1.ดูหมิ่นซึ่งหน้า
2.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย
3.ทำให้เสียทรัพย์
4.ร่วมกันบังคับข่มขืนใจให้กระทำหรือไม่กระทำการ
ส่วนของเพื่อนผมมี 1.ดูหมิ่นซึ่งหน้า 2.ทำร้ายร่างกาย 3.ทำให้เสียทรัพย์ 4.ร่วมกันบังคับข่มขืนใจให้กระทำหรือไม่กระทำการ (ต่างกันตรงข้อกล่าวหาที่ 2. ซึ่งผมถูกทำร้ายจากคน 2 คน แต่เพื่อนผมถูกทำร้ายจากคนคนเดียว)
นอกจากนั้น คุณสหายดอกหญ้าได้โทรไปเสนอให้ผมและเพื่อนฟ้องชายคนนั้นข้อหาก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะเพิ่มอีก 1 คดี ซึ่งเพื่อนผมที่เป็นทนายกำลังดูข้อกฎหมายอยู่สรุปก็คือ ผมและเพื่อนได้แจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีเขาไปแล้ว ส่วนว่าเขาจะแจ้งผมกลับหรือไม่ ยังไม่ทราบหมายเหตุ*
ตอนเกิดเหตุ ผมใส่เสื้อรณรงค์ของเครือข่าย 19 กันยาฯ
- ซึ่งขณะนี้ผม กำลังตัดสินใจ ว่าจะ เสนอ ให้เครือข่ายฯ ฟ้องเขาด้วยดีหรือไม่ เพราะผมมองว่ามันเป็นการหมิ่นเครือข่ายฯ
- แต่มีแนวโน้มว่าคงไม่เสนอ
- ส่วนสิ่งที่สหายดอกหญ้าโพสต์ในกระทู้ http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=28290
เกี่ยวกับกรณีนี้นั้นคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งคงเป็นเรื่องของการสื่อสาร เพราะโทรคุยกันด้วยความเร่งรีบมากๆ
.
หลายคนอาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ผมและเพื่อนมองว่ามันคือประเด็นที่ต้องต่อสู้ เพื่อยืนยันความคิดความเชื่อ 3 ประเด้น คือ
1. เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ยืน
2. ถ้ามีกฎหมายที่บังคับให้เรายืน กฎหมายนั้นละเมิดสิทธิ์เรา และกฎหมายนั้นต้องถูกยกเลิก3. ไม่ว่าใครจะทำอะไร ผิดถูกอย่างไร เขาต่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่จะไม่ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกดูหมิ่น
ผมและเพื่อนอยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าการกระทำแบบชายคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และต้องได้รับโทษ นอกจากนั้น ผมและเพื่อนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะปฏิบัติการยืนยันสิทธิ์ของเราอีก ซึ่งอยากเชิญชวนทุกท่านที่รักอิสระภาพ รักความเสมอภาค และต้องการต่อสู้กับความอยุติธรรมโปรดปฏิบัติการร่วมกันผมไม่ได้คาดหวังคนมากมาย
มี 10 คน ก็ไป 10 คน
มี 5 คน ก็ไป 5 คน
มี 2 คน ก็ไป 2 คน
แต่ก่อนที่จะไป หากมีคนสนใจก็อยากให้ช่วยกันพูดคุยด้วยว่าเราไปปฏิบัติการที่ไหน, วันไหน(วันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ดี), หนังเรื่องอะไร และรอบกี่โมง เมื่อได้ความชัดเจนแล้ว อาจจะมีจดหมายเชิญชวนที่ค่อนข้างทางการออกมาอีกครั้ง หมายเหตุ(อีกครั้ง)
เป็นความบังเอิญเหลือเกิน ที่วันที่ 20 กันยายน 2550 เป็นวันสำคัญสำหรับผม 2 โอกาส คือ
1) เป็นวันครบรอบ 3 ปี การก่อตั้งนิตยสารนักศึกษา QUESTIONMARK (ซึ่งเป็นอดีตไปแล้ว?) และ
2) เป็นวันครบรอบ 1 ปี การก่อตั้งเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร (ซึ่งยังมีอยู่หรือเปล่า?) อย่าไงรก็ตาม ผมไม่ได้ไปดูหนังเนื่องในโอกาสพิเศษใดๆ เพียงแค่ต้องไปซื้ออุปกรณ์ทำงานแถวนั้น แล้วบังเอิญเกิดอารมณ์อยากดูขึ้นมา
พออ่านเสร็จเห็นมี link อยู่ก็เลยตามไปอ่านอีกกระทู้ที่อ้างว่าชื่อคุณสหายดอกหญ้า
สืบเนื่องมาจากการที่คุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง แกนนำเครือข่าย
19 กันยา ต้านรัฐประหาร ปฏิเสธที่จะลดตัวลงมาร่วมในวัฒนธรรม
ไพร่ทาส ไม่ยืนตรงระหว่างเพลงสรรเสริญก่อนฉายภาพยนตร์
ส่งผลให้ทาสศักดินาผู้หนึ่ง เข้ามากล่าววาจาผรุสวาท และ
ทำร้ายร่างกายคุณโชตศักดิ์ พร้อมแสดงอาการหยาบคาย อัน
เป็นลักษณะหนึ่งของทาสศักดินาที่พวกเราคงรู้กันดีอยู่แล้ว
คุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง ได้ตัดสินใจ แจ้งความ ฟ้องร้องคู่กรณี
ดังกล่าวในข้อหา ทำร้ายร่างกาย โดยก่อนหน้านี้ ชายผู้นี้ได้
ข่มขู่ไว้แล้วว่า หากคุณโชติศักดิ์ทำการฟ้องร้อง และฟ้อง
กลับในข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเป็นอาวุธในการ
กดขี่ประชาชนให้อยู่ใต้อุ้งเท้าของศักดินาต่อไป
หากคู่กรณีของคุณโชติศักดิ์ ทำการฟ้องกลับจริงๆ ก็จะเข้าสู่กระ
บวนการทางกฏหมายในศาลทันที ซึ่งขณะนี้ คุณโชติศักดิ์
ยังไม่มีทนายความ
ทั้งนี้ อาจมีการฟ้องคู่กรณีคนดังกล่าวจากทางเพื่อนๆที่อยู่
ในเหตุการณ์ ด้วยข้อหา ก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ
เนื่องจาก เหตุในโรงภาพยนตร์ สร้างความวุ่นวายแก่ผู้อื่น
จำนวนมาก
และทางเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร อาจตัดสินใจ
ฟ้องเพิ่มในข้อหา หมิ่นประมาท ด้วย เพราะมีการกล่าวพาด
พิงถึงเครือข่ายฯ ในทางดูหมิ่น
นอกจากนี้ คุณโชติศักดิ์ กำลังวางแผน นัดเคลื่อนไหว แสดง
จุดยืนในสิทธิเสรีภาพที่จะไม่ยอมยืนตรงขณะเพลงสรรเสริญ
พระบารมีอีกครั้ง ด้วยการไปชมภาพยนตร์เป็นหมู่คณะ จำนวน
ประมาณ 50 คน และไม่ยืนอย่างพร้อมเพรียงกัน สำหรับกิจกรรม
นี้ จะกำหนดวัน-เวลา-สถานที่-ภาพยนตร์ อีกทีหนึ่ง
คุณ โชติศักดิ์ อ่อนสูง จะเข้ามาชี้แจงและบอกเล่าเหตุการณ์
ระทึกใจดังกล่าวเร็วๆนี้ ที่นี่
โปรดติดตาม และให้กำลังใจคุณโชติศักดิ์ต่อไป
เลวจริงๆ แต่ก็อยากรู้นะว่าเครือข่าย 19 กันยานี่มันคือเครือข่ายอะไร
ไม่รู้เดี๋ยวนี้คนมันเป็นแบบนี้กันแล้วเหรอ ไม่เข้าใจหรือว่าสิทธิกับสิ่งที่ควรเคารพที่เขาทำกันในสังคมน่ะมันต่างกันยังไง เห้อ
_________________