˹���á Forward Magazine

ตอบ

Cloverfield Review
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Cloverfield Review 


CLOVERFIELD
กำกับ Matt Reeves
แสดงนำ Michael Stahl-David, Odette Yustman, Lizzy Caplan, T.J. Miller และ Jessica Lucas
แนว แอ๊คชั่น,ทริลเลอร์,ดราม่า
คะแนน 7 /10
*บทวิจารณ์มีเนื้อหาที่เปิดเผยเรื่องในหนัง (อย่างแรง) ควรชมก่อนอ่าน

ส่วนผสมระหว่าง Godzilla และ Blair Witch Project ให้ผลลัพธ์ที่เกินคาดอย่างมาก ผมเองไม่ได้คาดหวังอะไรจากตัวหนังสักเท่าไหร่ เพราะหนังสัตว์ประหลาดถล่มเมืองนั้น มันก็คงไม่มีอะไรมากกว่าไปกว่าตัวประหลาดสักตัวจะออกอาละวาดให้ได้เกิดโกลาหล แต่ในโคลเวอร์ฟิลด์นั้นกลับมีอะไรให้ดูมากกว่าที่คิด และยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นหนังโรแมนติกนะครับ

โคลเวอร์ฟิล์ดพูดถึงหลักฐานอันเก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ หลังเกิดหายนะวันวิบัติอสูรกายถล่มแมนฮัตตัน นำเสนอผ่านทางวิดิโอที่ถูกบันทึกไว้ในกล้องแฮนดี้แคมตัวหนึ่ง ในกล้องนั้นบันทึกเหตุการณ์สัตว์ประหลาดยักษ์ที่ออกอาละวาดจับคนกินเป็นอาหาร และบอกเล่าเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามหนีตายจากการโจมตีครั้งนี้



ดูไปแล้วหนังก็ไม่ได้มีอะไรผิดแผกแปลกประหลาดไปจากหนังก๊อตซิลล่าถล่มเมืองธรรมดาเรื่องหนึ่งเลย แต่สิ่งที่ใหม่คือการนำเสนอ หนังเลือกที่จะใช้วิธีเสี่ยงมาก ด้วยการเดินเรื่องทั้งหมดผ่านกล้องแฮนดี้แคม ซึ่งหมายความว่าภาพที่ได้จะไม่ชัดเจน และความไวภาพที่สั่นไหวอาจทำให้ใครหลายคนตาลายเวียนหัวเอาได้ แต่เอาเข้าจริงหนังก็มีช่วงเวียนหัวอยู่ไม่เท่าไหร่ ทั้งยังรู้จักเล่นกับการสั่นไหวของกล้องเพื่อสร้างความตื่นเต้นและสับสนไปพร้อมกันด้วย ซึ่งนี่เองเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หนังดูน่าเชื่อถือและดูจริงกว่าหนังสัตว์ประหลาดเรื่องไหนๆ



หนังเปิดเรื่องอย่างเชื่องช้า ด้วยการแนะนำตัวละครพระนางและความสัมพันธ์หวานชื่นก่อนจะกลับกลายเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อแฟนสาวพาหนุ่มใหม่มาเย้ยถึงงานวันเกิด ช่วงแนะนำตัวนี้เองที่อาจทำให้ใครหลายคนเบื่อและมึนไปกับกล้องที่ส่ายไปมา แต่เมื่อหนังเข้าสู่การบุกของสัตว์ประหลาด หนังก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้นและชวนติดตามไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งความอลหม่านที่ชวนตื่นตระหนกกับฉากเจ๋งๆ อย่างหัวเทพีเสรีภาพที่กระเด็นมาในเมือง ทั้งอารมณ์ขันแสบๆ และความตื่นเต้นในฉากอุโมงค์รถไฟใต้ดินที่ทั้งน่ากลัวและน่าขันไปพร้อมกัน ที่น่าแปลกก็คือความไม่ชัดเจนของหนังกลับทำให้มันน่าค้นหาและชวนสังเกตมากขึ้นต่างหาก



หนังตัดสลับภาพที่ถ่ายได้ในขณะเกิดเหตุกับบันทึกการเดทของพระเอกนางเอกที่เกาะโคนี่ย์ หากดูผ่านๆ ก็เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ผมชอบตรงที่แม้หนังจะไม่ตั้งใจสื่อ (ตรงๆ นัก) แต่ประโยคสุดท้ายของหนังก็ทำให้ผมรู้สึกว่าหนังสัตว์ประหลาดถล่มเมืองเรื่องนี้เป็นหนังที่โรแมนติกไม่น้อย นอกเหนือไปจากการที่พระเอกบุกฝ่าสัตว์ประหลาดและลูกสมุนทั้งหลายเพื่อไปช่วยนางเอกแล้ว คำพูดที่ว่า ฉันมีความสุขที่สุด กับบทสุดท้ายของคู่พระนางมันกินใจไม่น้อยเลย ประมาณว่าแม้จะมีภัยอันตรายอุปสรรคขวากหนามเข้ามาในชีวิตคู่ ขอเพียงเราจดจำวันที่มีความสุขไว้ ก็เพียงพอแล้ว



แต่ทว่า นอกจากการตัดสลับของหนังที่พูดถึงวันชื่นคืนสุขของคู่พระคู่นางกำลังถูกลบเลือนไปด้วยเหตุการณ์เลวร้ายที่บันทึกทับเข้ามาซึ่งไม่ต่างอะไรกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่กำลังจะหายไปเพราะมือที่สามแล้ว ในฟุตเทจการเดทของพวกเขายังมีความลับและเงื่อนงำมากมายซ่อนอยู่ด้วย

หนังเกริ่นไว้ในตอนต้นเรื่องว่านี่เป็นหลักฐานที่เก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ และแน่นอนว่ามันมีอะไรให้ค้นหามากกว่าการบันทึกภาพเหตุการณ์สัตว์ประหลาดถล่มเมือง นั่นก็คือภาพการออกเดทของพระเอกนางเอกนั้นได้เก็บภาพสำคัญที่บอกถึงต้นตอกำเนิดของเจ้าสัตว์ประหลาดเอาไว้ด้วย ในตอนต้นเรื่องนั้นกล่าวถึงการที่พระเอกจะได้เป็นรองประธานของบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทที่ว่านั้นปรากฏให้เห็นอยู่ในวิดีโอตอนที่พระเอกนางเอกอยู่บนกระเช้าชิงช้า
บริษัทน้ำมัน Tagruato นั้นได้ทำดาวเทียมลงไปในทะเลเพื่อแผนทางการตลาดในการขุดหาน้ำมัน และในการค้นหาดาวเทียมนั่นเองที่ได้ปลุกให้สัตว์ประหลาดตื่นขึ้น ที่จริงแล้วหนังเรื่องนี้มันมีกระแสเกี่ยวกับหนังมาก่อนในอเมริกา จึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมหนังถึงทำเงินได้มากถล่มทลายในสัปดาห์แรกที่ฉาย ซึ่งกระแสที่ว่านั้นปลุกปั่นกลุ่มผู้ชมกลุ่มหนึ่งจนเป็นแฟนเดนตายของหนังเลยทีเดียว

กระแสปลุกความตื่นตัวนี้แพร่กระจายอยู่ในอินเตอร์เน็ท และไม่เพียงแต่จะสร้างกระแสความอยาดูหนังเท่านั้น แต่ทีสเซอร์และการโปรโมทต่างๆ ล้วนทำเพื่อการมาถึงบทสรุปในหนังที่เราเห็นกันในหนังด้วยครับ จะเรียกว่า Cloverfield นั้นเป็นหนัง cult เรื่องหนึ่งก็ว่าได้ ความใหม่ของหนังไม่ได้อยู่ที่การเป็นหนังสัตว์ประหลาดแบบเรียลลิตี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแผนการโปรโมทหนังทั้งใบปิดและการยั่วน้ำลายผู้ชมด้วยภาพเหตุการณ์”ก่อน”จะมาถึง Cloverfield ซึ่งมันได้ผลอย่างแรง

หนังสร้างกระแสด้วยการสร้างเงื่อนงำต่างๆ เป็นระยะ ทั้งจากบล็อกของตัวหนังเอง และที่อุปโลกน์สร้างขึ้นใหม่อย่าง Slusho.jp เวปที่ว่านี้เป็นเวปเครื่องดื่มที่ไม่มีจริง สร้างขึ้นเพื่อนำมาผูกเรื่องกับ Cloverfield เฉยๆ ! (ว่ากันว่าเครื่องดื่มนี้มีส่วนผสมที่ทำให้มีความสุขและร่างกายสูบฉีดเลือดได้มาก / จึงสื่อไปถึงฉากที่เมลีน่าระเบิดเลือดกระฉูด / ส่วนจะเพราะอะไรนั้น อ่านต่อไป อิอิ) นอกจากนี้ยังมีเวปบริษัทขุดเจาะน้ำมัน Tagruato ที่สร้างขึ้นปลอมๆ เพื่อผูกเรื่องมาถึงในหนังอีกต่างหาก ถึงตรงนี้ใครหลายคนอาจบอกว่า เออ ทำเพื่อ ? แต่นี่ละครับที่หนังได้ชื่อว่าสร้างกระแสการโปรโมทหนังแบบ rival marketing ขึ้น






อย่างที่เจ๋งๆ เลยคือการทำข่าวขึ้นเวป(เป็นไดอารี่)เกี่ยวกับการเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในน่านน้ำญี่ปุ่นจนมาถึงนิวยอร์ก ซึ่งเรียกน้ำย่อยได้เก๋แปลกดีทีเดียว ตั้งแต่เสียงประหลาดในน้ำ, ส่วนผสมอาหารที่นำมาจากใต้ทะเลลึก, การโจมตีเรือเดินสมุทรญี่ปุ่น, การปะทะกันของกองทัพอากาศกับสัตว์ประหลาด, ภาพเลือดนองทะเลลึก และ ภาพเด็ดซากวาฬที่ถูกกัดกินเกยตื้นชายฝั่งของอเมริกา ในวันที่หนังฉายพอดี ทั้งหมดนี้ถือเป็นการทำประชาสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่า “แล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไรถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ในหนัง” ผมนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่า ถ้ารายละเอียดเหล่านี้อยู่ในหนัง หนังคงดูง่ายขึ้นและมีสีสันเร่องราวก็จะชัดเจนมากขึ้น แต่มันจะไม่ต่างอะไรกับหนังสัตว์ประหลาดทั่วไปอย่างที่บอกไว้ตอนต้นนั่นล่ะครับ สิ่งที่ใหม่และสร้างกระแสของหนังเรื่องนี้อยู่ตรงนี้เอง ที่ตลกคือรายละเอียดในหนังเล็กๆ น้อยๆ กับรายละเอียดจากเวปอย่างhttp://cloverfieldclues.blogspot.com/ กลับทำให้การค้นหาร่องรอยในหนังเพิ่มความสนุกอย่างที่ผมเองก็คาดไม่ถึง กระแสและร่องรอยเล็กน้อยเหล่านี้เองที่สร้างแฟนกลุ่มใหญ่ได้ และทำให้หนังกลายเป็นหนัง cult ที่สามารถทำภาคต่อไปได้อีก นี่ก็มีข่าวว่าหนังจะทำภาคต่อเป็นเรื่องราวใน “กล้องอีกตัวหนึ่ง” แล้ว ฮ่าๆ เตรียมตาลายได้อีก

สำหรับใครที่ขี้เกียจตามร่องรอยของหนังตามเวปเหล่านี้ ผมจะเล่าอย่างย่อๆ แล้วกันครับว่า ตามบันทึกนั้นพูดถึงส่วนผสมของเครื่องดื่มที่จะเพิ่มสมรรถภาพและความสดชื่นให้ผู้ดื่มเป็นทวีคูณ ซึ่งไอ้เจ้าส่วนผสมที่ว่านี้อยู่ใต้ทะเลลึก เจ้าสัตว์นี้ตัวใหญ่และมีความต้านทานต่อความร้อนก็เพราะได้รับสารที่ว่านี้ที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำเครื่องดื่ม Slusho นี่เอง (ซึ่งในหนังจะเห็นว่ามีคนในงานปาร์ตี้เลี้ยงส่งพระเอกสวมเสื้อยืดพิมพ์ลายว่า Slusho อยู่ด้วย เครื่องดื่มสมมติที่ว่านี้อยู่ในซีรี่ส์เรื่อง Alias ของ JJ Abrahms) โดยสัตว์ที่อยู่ใต้ทะเลที่ลึกที่สุดนั้นจะพัฒนาตัวเองให้ทนต่อความร้อน เนื่องจากน้ำที่ลึกที่สุดในทะเลนั้นจะอุณหภูมิสูงพอๆ กับน้ำเดือด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าสัตว์ประหลาดในเรื่องถึงทนทานต่อห่ากระสุนนักหนา ( ฮ่าๆ เออนะ ) ทีนี้ไอ้สารจากใต้ทะเลลึกนั้นมันเกี่ยวอะไรกับการที่เมลีน่าเลือดกระฉูดระเบิดออกมาแบบนั้น ก็เนื่องจากสารที่ว่าเป็นส่วนผสมเครื่องดื่มนั้น มีส่วนในการขยายการเจริญเติบโต หากอ่านถ้อยความโปรโมทในเวป http://www.slusho.jp/ จะเห็นว่า พูดถึงส่วนผสมจากก้นทะเลลึกที่ทำให้วาฬมีขนาดใหญ่ผิดปกติ และสโลแกนที่ว่า SLUSHO makes my stomach explode with happy!!" ก็คือที่มาว่าทำไมท้องของเมลีน่าถึงระเบิดโพล๊ะออกมาเช่นนั้น (หาอ่านที่มาของ slusho ได้ในเซ็คชั่น history ทางเวป slusho.jp)

Cloverfield เริ่มทำการโปรโมทแบบ rival marketing นี้เมื่อตอนเปิดตัวในงาน Comic-Con งานนิทรรศการภาพยนตร์ที่จัดเป็นประจำทุกปี โดยมีการแจกเสื้อยืด Slusho และส่งข่าวสารให้กับผู้มาร่วมงานที่ลงทะเบียนผ่านทางอีเมล์ว่ามีการจับสัญญาณโซน่าร์จากใต้ทะเลลึกได้จากเรือขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งก็เป็นที่มาของการประชาสัมพันธ์ Cloverfield นั่นเอง และการค้นหาดาวเทียมใต้ทะเลของบริษัทญี่ปุ่น (ที่พระเอกจะไปเป็นรองประธาน) ก็ได้ทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้ทะเลตื่นขึ้น (ที่เห็นตกลงมาจากท้องฟ้าในกล้องของพระเอกคือดาวเทียมตกลงมา หาใช่สัตว์ประหลาดไม่)

แน่นอนว่า องค์ประกอบเหล่านี้น่าจะปรากฏให้เห็นอยู่ในหนังแต่แรก ใครเลยจะมานั่งตามอ่านและติดตามเรื่องราวรายละเอียดมากมายขนาดนี้ แต่การคิดที่จะทำการประชาสัมพันธ์แบบนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ใหม่และน่าสนใจไม่น้อยที่รู้จักให้สื่ออินเตอร์เน็ทโปรโมทและสร้างเรื่องสร้างราวเพื่อหนังเรื่องหนึ่งได้ถึงขนาดนี้ ใครที่สนใจค้นหาเงื่อนงำของ Cloverfield ก็ติดตามได้จากลิ้งค์เวปที่อยู่ข้างล่างนี้ได้เลยครับ



เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- หนังถ่ายทำแบบ Heads-Up Display เป็นเทคนิคการถ่ายภาพแบบที่เห็นในหนัง ตัวย่อของเทคนิคนี้คือ H.U.D. ซึ่งก็คือที่มาของชื่อตากล้องในเรื่องที่ชื่อ ฮัด นั่นเอง


http://www.slusho.jp/
http://cloverfieldclues.blogspot.com/


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่านแล้ว I see หลายอย่างเลยพี่วิค ..........

ถ้าใครไม่ได้ตามรายละเอียดเยอะขนาดนี่ ก้อคง จะบอกว่า เรื่องนี้เป็นหนังห่วยต้นปีเลยทีเดียว อิอิ แล้วว่าแต่ ดูผิดหรอเนี่ย นึกว่า ตอนหลังสุดเป็นการเฉลยว่า เป็นสัตว์ประหลาดมาจากนอกโลก ถ้าเปนดาวเทียวตกลงมา แสดงว่า สัตว์ประหลาดตัวนี้ ... มีอยู่ในโลกแล้วสิ !!

War of the Worlds มาก ๆๆๆ ++ 5555



_________________
I can make the bad guy good for a weekend.
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุดยอด 
ยืนปรบมือให้ครับ วิจารณ์ได้รู้ลึกรู้จริงมากๆครับ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
มีนพาน้องรหัสไปดูมาน้า เซ็งโคตรๆ โรงที่ไปดู (กาดสวนแก้ว) Enchated ไม่เข้าอ่ะ เซ็งเลย ได้ดู Cloverfield แทน ถ้าจะดูต้องไปดูที่เมเจอร์แทนอ่ะ เซ็งๆๆๆ

มีนดูจนจบเลย มันส์มาก แต่ไม่ได้ดูละเอียดได้ขนาดเท่าน้าหรอก ตอนแรกมีนนึกว่าน้องรหัสจะไม่ชอบซะอีก เห็นนั่งนิ่งๆ เอามือจับหน้า ตั้งแต่กลางเรื่อง พอเรื่องมันน่าตกใจ(สะดุ้ง)ก็นั่งนิ่งซะนี่ พอออกมาจากโรงหนัง ถามดูปรากฏว่า มึนหัวตั้งแต่กลางเรื่อง

เหอๆๆ

ส่วนมีนน่ะเหรอ ออกมาจากโรงหนังเสร็จ ก็เริ่มมึนละ ขนาดลงบันไดเลื่อนยังต้องค่อยๆลงเลย กว่าจะกินข้าวได้ นั่งรอให้อาการดีขึ้นตั้งนาน

ป.ล. จะได้ดู Enchanted ป่ะเนี้ยะ สอบเสร็จก็คงลาโรงไปละ เซ็งโคตรๆ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เพิ่งไปดูมาเมื่อวานคะ
ตอนแรกมีแต่คนบอกว่าหนังห่วยๆ
ดูแล้วปวดหัวจะอ้วก
แต่ด้วยความที่อยากมากกก ก็เลยไปดู
ตอนฉากปาตี้ มึนจริงๆ แต่พอเริ่มโดนถล่ม
ก็ไม่เห็นจะมึนตรงไหนเลย

หนังดีมากๆๆๆๆๆๆ
อยากจะให้คะแนนแบบ 9/10 เลย
ระบบเสียงอลังการ เสมือนอยู่ในเหตุการมากๆ
แบบใจเต้นตลอด
ขนาดหนังจบยังตื่นเต้นอยู่เลย
แทบจะหาจุดน่าเบื่อของหนังไม่เจอเลยจริงๆ
ชอบบบบบ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ไปดูมาและครับตอนแรกก็จะแบบว่า งงๆกับตอนแรกนะเพราะมันจะวกไปวนมาแต่พอจบจากตอนปาร์ตี้ละสิ มันเลยทีนี้ฉากสวยเหมือนจริงชอบนะโดยส่วนตัวชอบเพราะว่าเหมือนเราเป็นคนยืนจับกล้องตัวนั้นมากเลย รวมๆแล้วสนุกครับแต่ไม่ชอบตรงตอนจบนี้สิไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เลย

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อีนังหัวดำๆผมหยิกๆมันเป็นอะไรคร๊ะ ถึงระเบิดโป๊ะขนาดนั้น ติดเชื้อหรืออะไรคร๊ะหนังไม่ยักกะบอก


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ผมชื่นชอบในไอเดียอันก๋ากั๋นของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียวละครับ

คาดว่าใน DVD คงจะต้องใส่ลูกเล่นในของแถมอย่างสนุกสนานแน่นอน

ป.ล. ซื้อแล้วมาบอกผมด้วยนะครับ



_________________
คุยหนังภาษาหมา
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com