
คะแนน 8/10
และแล้วเอ็มวี 4 นาทีพิทักษ์โลก ก็ปรากฏต่อสายตาของทุกคนแล้ว แค่ตัวเพลงนี้ก็อลังการงานสร้างที่ได้ทั้ง 2 T คือทิมเบอร์เลคและทิมบาแลนด์มาร่วม แค่นี้ก็รับประกันแล้วว่าตัวเอ็มวีต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และมันก็ไม่ธรรมดาจิงๆด้วย เป็นเอ็มวีที่น่าจะสร้างกระแสให้ตัวเพลงได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เปิดตัวด้วยแผงไฟนาฬิกาใหญ่ยักษ์ ตรงกับเนื้อหาเพลง ถือเป็นฉากที่ติดตาและน่าติดตามอย่างยิ่ง อีเจ๊ปรากฏตัวเก๋ด้วยการทำหน้าแอ๊บแบ๊วเหมือนกำลังกริ่งกลัวอะไรสักอย่างดำๆ เดี๊ยนอยากจะขอเรียกมันว่า มฤตยูดำ ที่กำลังเคลื่อนตัวเพื่อกวาดกลืนผู้คนให้วายวอด จึงควรจะเป็นหน้าที่ของอีเจ๊ที่จะช่วยกำจัดเหล่ามารร้ายเหล่านั้น แต่เปล่า! อีเจ๊กลับไปทำหน้าที่เซฟตัวเองไว้ก่อน แต่ก็พอเข้าใจถ้าไม่เซฟตัวเองให้รอดชีวิต แล้วจะมาเซฟโลกได้อย่างไร ชิมิค่ะ (แก้ตัวให้อีเจ๊มัน)
จึงเป็นที่มาของการหลบลี้หนีภัย โดยใช้ท่วงท่าประจำตัว ทั้งโพสท่า ทั้งเดินแบบ ทั้งแหกขาแหกจิ๋ม สำหรับการหลบหนี ช่างเก๋อะไรเช่นนี้ โดยได้หญ้าอ่อนอย่างอีหยอย จัสตินมาเป็นพาร์ตเนอร์ แต่พอดูเหมือนอีเจ๊จะรู้ตัวว่าจะต้องเข้าฉากกับหนุ่มหล่อคราวลูก มีหรือที่อีเจ๊จะปล่อยให้ตัวเองต้องมารับบทเป็นแม่ อีตัวแม่นางนี้เลยต้องประโคมมันทั้งโบท๊อค รองพื้น รีทัช โฟโต้ช๊อปสารพัด จนเจ้าหล่อนสวยใสเหมือนเกิดใหม่สมใจอยาก คู่ควรจะได้เป็นนางเอกเอ็มวีอย่างไม่ขัดสายตาใคร งามเสียจนพวกดีว่าส์รุ่นเด็กๆต้องมองค้อนขวับ
หลังจากยืนหลังพิงรถหนีตาย (ขนาดหนีตายก็ยังโพสหน้าสวย) ก็เปิดฉากท่าแรกด้วยการพลิกตัวจากจากรถแล้วเดินโชว์ท๊อปบู๊ตเก๋ๆฝ่ากลางโต๊ะอาหาร เป็นการประเดิมความเก๋แรก ส่วนอีหยอยยืนส่องกระจกเท่ห์ๆ แต่น่าจะโกนหนวดเคราออกบ้างนะค่ะ (หรือถูกอีเจ๊สั่งห้าม เพราะเดี๋ยวจะหน้าเด็กไป) จากนั้นทั้งคู่ก็มาพบกันที่ข้างเตียงที่กำลังมีคู่รักดูดปากกันอยู่ แต่ตรงนี้เก๋ตรงที่มีการทำให้เห็นเอ็นกระดูกแล้วมีลิ้นยื่นเลียแล่บใส่กัน แม้จะชวนขย้อนไปหน่อย แต่ก็ดูแปลกตา คงจะแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของอีมฤตยูดำพวกนั้นนั่นเอง
ตัดออกมาข้างนอก เป็นฉากที่ที่มีรถจอดอยู่เป็นจำนวนมาก มีของประกอบฉากแดงๆอย่างหนุ่มญี่ปุ่นสองนาย มายืนทำอะไรกันก็ไม่รู้ จะเต้นก็เหมือนไม่เต้น มองไม่ออกว่าจะสื่ออะไร มันจึงกลายเป็นฉากที่ไม่น่าจดจำนัก แต่ชอบที่อีหยอยกระโดดหมุนตัวไปมาข้ามหลังคารถ แล้วเอามือดึงอีเจ๊ขึ้นมานั่งบนหลังคารถได้ ดูเท่ห์ดี
ฉากต่อมา ถือว่าเป็นไฮไลท์ได้เลย เป็นฉากในซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยเฉพาะฉากที่ทั้งอีเจ๊และอีหยอยดันตัวขึ้นไปโพสท่าบนแคชเชียร์คิดเงินแล้วกระโดดโลดเต้นไปมาบนสายพานที่เลื่อนไปมา ก็ดูเก๋ดี แต่ดูไปดูมาก็ให้อารมณ์เหมือนกำลังดูแข่งขันเต้นเกมส์ Play Station อยู่เหมือนกัน ที่ชอบเป็นพิเศษคือตอนที่อีเจ๊เอามือมายันสองข้าง ทำหน้าสวยแล้วปล่อยตัวเองให้ไหลตามสายพานไป ดูเก๋ชะมัด
ส่วนฉากที่อีเจ๊ถอดเสื้อหน้ากระจกโดยมีอีหยอยเป็นเงานั้น อีเจ๊ดูเปรี้ยวเกินพิกัดมาก แต่ผิดหวังอีหยอย น่าจะใส่เสื้อกล้ามหรืออะไรที่โชว์ๆบ้าง จะได้เข้ากับชุดสีน้ำตาลแนบเนื้อสุดเซ็กซี่ของอีเจ๊ จากนั้นทั้งคู่ก็ไปเต้นกันหน้านาฬิกา ฉากนี้ค่อนข้างผิดหวัง เพราะทั้งคู่เต้นไม่เข้าขากันเลย เหมือนต่างคนต่างเต้นสไตล์ของตัวเอง อีหยอยตายสนิท ดูเงอะๆเงิ่นๆ เหมือนคนเต้นไม่เป็นทั้งๆที่อีหยอยก็เป็นนักเต้นที่ดี ส่วนท่าเต้นอีเจ๊ก็ใช้ท่าโยคะแหกแข้งแหกจิ๋มเหมือนในเอ็มวี Sorry ไปนิดนึง จริงๆแล้วน่าจะให้ทั้งคู่เต้นประกบคู่กัน ประมาณท่าเต้นแทงโก้ที่อีเจ๊เต้นในฉากเรื่อง Evita จะเก๋ไม่น้อย ต่างคนต่างเต้นแบบนี้เลยดูไม่จืด และที่ผิดหวังที่สุดคือตอนถอดเสื้อให้อีหยอย นี่ถ้าอีหยอยเหลือแค่เสื้อกล้าม แล้วอีเจ๊ก็ถอดต่อจนเหลือแต่ท่อนบนที่เปลือยเปล่า อีหยอยจะฆ่าอีเจ๊ตายทันที (ดูแฟนๆอีเจ๊แต่ละคนซี โฮะๆๆๆ) แต่นี่อะไร น่าผิดหวังค่ะ
สรุป ในภาพรวม เป็นเอ็มวีที่มีคอนเส็ปต์ที่ดี ทำออกมาให้ดูคล้ายๆหนังวิทยาศาสตร์ ภาพของหนังดูมีสไตล์ หลายฉากเป็นที่น่าจดจำ แต่การดำเนินเรื่องยังดูติดๆขัดๆ ไม่ลื่นไหล แต่ก็เข้าใจว่าเพลงค่อนข้างสั้น เวลาแค่ 4 นาที จะให้เล่าเรื่องให้เห็นภาพเหมือนหนังพิทักษ์โลกอย่างเช่น Independence Day ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ตัวนางเอก ยังเป็นคงเป็นจุดเด่นของเอ็มวีตัวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ความเป็นมาดอนน่ายังคงชัดเจน มันยังไม่ใช่เอ็มวีที่สามารถเข้าไปอยู่ในกลุ่มเอ็มวีคลาสสิคอย่าง Vogue , Express Yourself , Frozen หรือ American Life ได้ แต่ก็ถือเป็นเอ็มวีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ American Life (แม้ลึกๆจะแอบชอบ Hung Up มากกว่าก็ตาม)
_________________

http://candyperfumegirl.bloggang.com/