Mariah Carey – E=MC2 : 4 / 5



ก่อนจะเข้าคลาสแคลคลูลัส

หากจะเอ่ยถึงศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงยุค 90 อันดับต้นๆที่ทุกคนจะต้องนึกถึงก่อนใครๆก็คงหนีไม่พ้น นางมารร้าย มาลัยสายสมร มารายห์ แคร์รี่ย์ เป็นแน่แท้ ด้วยวีรกรรมห่าเหวท่วมท้น สถิติ รางวัลประสาทแดกที่ไม่มีใครหน้าไหนมากล้าท้าชิง เพลงอันดับหนึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์กินขาดเรียบทั้ง ป๋าไมค์ ไมเคิล แจ็คสัน ลุงเอลวิส เจ๊แม่มาดอนน่า และคาดว่าถ้าหล่อนยังไม่สติแตกและดับอนาถอนาคตดิว่าประกายแสดของหล่อนด้วยการสิ้นคิด (ที่น่าจะคิดดีแล้ว) แก้ผ้าโชว์เต้าควงสว่างถลกจี สตริงประชันกับบรรดาดาวยั่ว playboy ไปซะก่อนหล่อนก็คงจะท้าชนอันดับหนึ่งมากที่สุดตลอดกาลอย่างวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกดนตรีแห่งสหัศวรรษ ตำนานในทุกๆหน้าของวงการศิลปะ The Beatles ผู้ซึ่งทำลายกำแพงเรื่องพรมแดนพื้นที่ของวัฒนธรรมโพสต์ โมเดริ์นและพ็อพ คัลเจอร์ ได้อยู่ แต่ถ้าถามว่านางมาลัยจะสามารถทำอะไรยิ่งใหญ่ๆขนาดนั้นได้รึเปล่า อันนี้คงต้องดูกันอีกยาว หวังว่าหล่อนคงไม่เมาคาบ็อกซี่ย์กับเวย์ โพรตีนตายหยังเขียดไปซะก่อนที่จะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้พอเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าแค่ยอดขายและเพลงอันดับหนึ่งมากที่สุดแค่นั้นอะน่ะค่ะ

ไอสไตลน์แรงบันดาลใจใหม่ของนางมารร้าย

- ความความหฤหรรษ์อันมิต้องสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรของผู้หญิงหน้าตาไม่ค่อยสวยแต่มั่นใจในความงามความสวยของตัวเองมากเหลือเกิน ซึ่งสังเกตได้จากทุกกิริยาการแสดงออกในทุกท่วงท่าภาษากาย บ่งบอกว่าเธอได้รับการฝึกฝนและเรียนรุ้ติวเข้มมาเป็นมืออาชีพทางด้านนี้เป็นอย่างดี ความอภิมหาตอแหลดัดจริตเก่งกาจสุดยอดเป็นที่โจษจันไปทั่วปฐพี ทุกอิริยาบถของหล่อนไม่มีการเขินอายจากเบื้องลึกของสันดานดิบ หรือเหนียมเขียมในความประดิษฐ์ประดอยสมหญิงอันล้นทะลักกระฉูดปรู๊ดปร๊าด ประหนึ่งเธอภาคภูมิใจในสมบัติที่แม่ไม่ได้ให้มาอย่างเต็มอก (และทะลุกระฉอกออกมาจะทิ่มหน้าอีคนเขียนอยู่ตลอดชั่วโมงครึ่งที่นั่งเขียนรีวิวชิ้นนี้) คาดว่าเธอคงจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งปริญญาตรีคณะดัดจริตวิทยาไสยศาสาตร์ เอกมารยาสาไถย ภาคสหประชาชาติสากล นานาชาติสยองขวัญ และไปต่อโทคณะเดียวกันเอกเดียวกันและภาควิชาสาขาเดียวกันต่อที่ซ่องพัฒน์พงศ์ ณ ไทยแลนด์ (แน่นอนเกียรตินิยมอีกเช่นเคย) และคงไปคั่วบรรดาออหรี่ลัทธิคณิกาทั่วทั้งมหรสพทุกภาคทุกหลืบในประเทศสยามที่ขึ้นชื่อเรื่องค้าประเวณีทางเพศมากเป็นอันดับต้นๆในโลกมาแล้วอย่างช่ำชอง ทั้งกะหรี่ดารา กะหรี่ไฮโซ กะหรี่แบกะดิน กะหรี่ดิลิเวอร์รี่ย์ หรือกะหรี่ตุ๊ดเกย์ทอมดี้ แม่เหมามาลงแขกแชร์ความรุ้ในทุกๆศาสตร์ของการยั่วยวนสารพัดโอเวอร์รีแอ็คติ้งและร้อยเล่มเกวียนที่เจ้าหล่อนกรีดกรายอย่างเต็มแม็กซ์ไม่มีเม้ม ไม่มีอิดออด ทั้งๆที่อายุอานามเธอล่อเข้าไปจะเฉียดเลขหลัก 40 อยู่รอมร่อ

บวกกับเสียงร้องอันทรงพลังริดสีดวงระเบิดทวารทั้ง 5 อันเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ลำดับที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของ(ปร)โลก(หน้า) กับเสียงหวีดปลาโลมาอันแสนพิศวง ที่ก่อให้เกิดอารมณ์อันหลากหลายทั้ง ตื่นเต้น ขนลุก ซาบซึ้ง ตื้นตัน ฮึกเหิม ไปจนถึงปวดขี้ ปวดหัว น่ารำคาญ ตลกขบขัน ฮาน้ำมูกน้ำหมากกระจายน้ำตาเล็ด ขี้เยี่ยวกระปริบประปรอย หวาดผวา ช็อก ครอบคลุมไปถึงสภาพรูปร่างของสิ่งมีชีวิตชนิดสายพันธุ์ใหม่ที่ยากเกินที่จะพรรณนาออกมาเป็นตัวอักษรพยัญชนะไทย44ตัวได้(ต่อให้เป็นภาษากัมจั๊กก้าก็ไม่มีอานุภาพพอที่จะทำให้หลายๆคนเห็นภาพตามได้

วิธีเดียวก็คืออ่านบทความให้จบแล้วรีบรี่ไปหาดีวีดีที่ว่านี้มานั่งดูจนบรรลุนิพพานเท่านั้น)ให้เห็นภาพพจน์ชัดเจน และไม่สามารถนำโวหารใดๆในคัมภีร์พ่อขุนรามหรือโรเบริ์ต มุนช์มาใช้บ่งจำเพาะความงดงามหมดจดสวยฉิบหายน่ารักคิขุสุดฝีเย็บจีสป็อทของอีศิลปินผู้มีสถิติห่าเหวแปลกประหลาดประสาทแดกมากมายโดยบางลิสต์รางวัลและสถานะที่หล่อนได้รับ อีเจ้าตัวก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าตัวหล่อนได้ตำแหน่งมาได้ยังไง

. . . . . ใช่แล้วที่นั่งพล่ามสาธยายมาเกือบสิบสิบบรรทัดเป็นพงศาวดารชาดกโลกใหม่กับความพิศดารดาวดิ้นวายวอดที่พูดถึงทั้งหลายที่ไม่น่าจะมารวมอยู่ในตัวมนุษย์ปุถุชนธรรมดาได้ในร่างเดียวคนเดียวกันได้ แต่มันมีรวมอยู่ไปทุกสิ่งอย่างแล้วในตัวอวบๆบวมๆยักษ์ๆตันๆพะอืดพะอมอวบอั๋นบึ๊บบั๊บ กระอักไปทุกสัดส่วน เปล่งแปล่งในระยะสุดท้ายของนางมาลัย สายสมรผู้นี้นั้นเอง

หลังจากที่หล่อนยืนยงคงกระพันเวียนว่ายตายเกิดบนกองน้ำคร่ำมาร่วมเกือบทศวรรษตลอดชีวิตการเป็นนักร้อง จะเกิดก็เกิดมาแล้ว ดับก็ดับมาแล้ว ดังก็ดังมาแล้ว แต่งงานกับเจ้าของค่ายเพลงอย่างโซนี่ย์ (อีแก่ทอมมี่ย์ มอตโตล่า) หรือจะฆ่าตัวตายเรียกร้องความสนใจ เป็นข่าวห่าเหวเหี้ยสัตว์มากมาย เปิดนมหลุดมีคลิปเสียงฉาวเซ็กซ์โฟนกับนายนักร้องแร๊ปเปอร์ปากไพร่นายนั้นก็เคยมีมาแล้ว ไหนจะนมต้มและหน้าตาที่ผ่านพ้นโลกมามากมายอย่างโชกโชนจนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาเหมือนดาวหางที่จะพุ่งชนโลกในทุกๆ 57 ปี

จากที่เมื่อก่อนเคยสดใสน่ารักสวยเช้งเป็นคุณนายมอตโตล่า จนปัจจุบันหย่าผัวโสดมาเหยียบ 10ปีก็ไม่รู้ไปทำศัลยกรรมที่หมอโลกไหนคนไหน ถึงทำออกมาจากสวยๆกลายเป็นไม่สวย1(ยังดีที่ไม่ถึงขั้นเงือกเพราะหล่อนยังมีมุมดูได้ สวยและไม่สวยปนๆไปแต่ล่ะมุม เริ่ด) ไปได้ จากคนกลายไปเป็นสัตว์ สัตว์กลายไปเป็นลิง เป็นวิวัฒนาการที่สูงสุดกลับคืนสู่สามัญตามชื่ออัลบั้มล่าสุดของอีนักร้องรุ่นน้องคู่กัดหมาติดสัตว์ตะบี้ตะบันแหกปากฟัดโลกคิดซักนิดสิน่า กากีจริงๆเลยล่ะ นางนั้น นักวิทยาศาสตร์ชีวะภาพคงต้องทำการค้นพบและเข้าแล็ปเช็คและค้นหาทำวิจัยดีเอ็นเอบีนส์เอ็กซ์วายเเซดโดยละเอียดใหม่แล้ว เธอยังสามารถสุดๆในการที่ทำลายทฤษฏีทั้งมวลของนักวิทยาศาสตร์หลายศตวรรษ ว่าด้วยลิงกลายพันธุ์มาเป็นมนุษย์เพื่อความอยุ่รอดลงได้อย่างราบคาบพินาศเป็นหน้าแฟนคลับอีมาลัยบางตัวลงอย่างไม่เหลือซากขี้ตีน ด้วยการที่เธอสามารถย้อนกลับไปสู่กรรมพันธุ์เดิมได้ด้วยการวิวัฒนาการย้อนกลับไปเป็นลิงเหมือนเดิมแต่ยังสามารถคงความสามารถมนุษย์ทุกอย่างเอาไว้ได้หมด

ทั้งการพูดการจาการเดินเหินการยั่วที่ได้กล่าวถึงสรรพคุณบรรลือโลกไว้ข้างต้น การคิดอ่าน การร่วมเพศเสพสม ไปจนถึงทุกดีเทลสเกลมากมายก่ายกอง ที่มนุษย์สามารถจะบรรลุและทำได้ อีมาลัยในร่างลิงกับอายุอานามที่ปาเข้าไป 35 – 36 (หรือ 37แล้วว่ะค่ะ) อีมาลัยเธอ Can Do Everything Ring every Bellsได้หมดทุกแอคทีวีตี้ย์ สุดยอดมากๆข้าพเจ้าที่นั่งเขียนจิกกัดเธอย่างสนุกสนานขอคารวะ งามๆหนึ่งจอก (จอกติดลิ่มที่เอาไว้สอยมะม่วงน่ะค่ะ)

หลังจากอัลบั้มกลียุค2 –3อัลบั้มที่ผ่านๆมา สวรรค์ก็ชี้ทางสว่างให้คุณเธอเฮือกสุดท้าย หล่อนก็แถกดากสากๆไปลากไส้ลากพุงบรรดาโพรดิวซ์เซอร์มือโปรมือจอมขมังเวทย์และผองเพื่อนหลากหลายชีวิตมาช่วยฉุดนางเสือสมิง ขึ้นจากขุมนรกปิดตายแดน27กับการกลับมาอย่าง Greatest Comeback จากอัลบั้มชื่อยาวเป็นนมแตงแตะเท้าอีมาลัยที่เหมือนการได้ขึ้นมายืนอยู่บนจุดสุดยอด จุดกระสันต์สูงสุดอีกครั้งอย่างที่บรรดาเหล่าลูกแกะและแฟนๆรวมทั้งอีมาลัยเองก็คงปลื้มปิติยินดีปรีดาจนแทบจะหุบยิ้มบนหน้าบานๆไม่ลงว่า “The Emancipation Of Mimi” – การปลดปล่อยสู่จุดสุดยอดของแม่หมีขั้วโลก นับเป็นปรากฏการณ์หน้าใหญ่ๆของวงการเพลงในปีช่วงปีมิลเลเนี่ยมปี 2000 เป็นต้นมา ก็เพราะไม่รู้ว่าด้วยเวทมนตร์ดำแขนงไหนในโลกไฟนอลแฟนตาซี่ภาคที่เท่าไหร่ ศาสตร์มืดของเขมรตำราไหนหรือ คาถาชินบัญชรบทไหนรอบไหน หรือจะด้วยบทสวดเจ้าแม่บูเช็กเทียนย่อหน้าที่เท่าไหร่ของเซ่นไหว้เจ้าแม่กาลีผล หัวหมูขาหมีนมวัวสดๆนมควาย ลำน้ำข้าว ปลัดขิกกี่กระสอบของบรรดาแฟนคลับ หรือจะเป็นด้วยนมแตงไซส์เวริ์ลคัพช่วยดันอันดับชาร์ททั่วโลก จะด้วยหน้าบานกระโท่โล่ ด้วยแข้งนักมวยปล้ำหญิง หรือขนาดไซส์ตัวเท่ามนุษย์โครมันยองยางมิชลินของนางมาลัยเองก็เถอะ ที่ช่วยกันถีบกระโดดดันไถลผลักไสไล่ส่งทั้งยอดขายแอร์เพลย์และอันดับเพลงให้ออกมาจนสามารถ ลบคำครหาและหุบปากพวกขี้ค่าขี้จิ๋มที่คอยจ้องขุดหลุมฝังศพนางมารร้ายสายสมรอยู่ทั่วทั้งวงการให้ตายคาตลาดสดตลาดหุ้นหรือตลาดมืดก็ตามแต่

แต่ถึงยังไงก็ตามเธอก็กลับมาได้และกลายเป็น Talk Of The World ท็อปปิคระดับต้นๆของช่วงปี
และในปี 2008นี้ เธอก็ขอย้อนรอยความสำเร็จต่อยอดกับอัลบั้มที่แล้วด้วยสูตรระเบิดปรมณู ของไอน์ สไตน์ที่หล่อนบอกว่าเป็นสมการส่วนตัวที่ขอแบ่งปันร่วมกับแฟนๆในการก้าวไปอีกขั้นและการเปิดแนวทางใหม่ๆให้กับดนตรีของตัวหล่อนเองกับอัลบั้มชื่อเป็นกระเทยวิศวะแต่งหญิงไม่ได้ E=mc2 ที่ตอนนี้ตาม my space,Msn Chat , facebook และ hi5 มีกระเทยจำนวนมหาศาลที่กำลังอินจัดกับนางมาลัยด้วยการยกกำลังกันเกือบยกเซิฟเว่อร์ รวมถึงกระเทยปูชนียบุคคลในบอร์ดเรานางสาวนาโอกับอัลบั้มแห่งปีของหล่อนเช่นกันที่ท้าชนดิว่าในทุกๆขุมนรกอเวจีกับ N=ao2 ต๊ายยย เชียนไปนั่งขนลุกไปน่ะค่ะเนี่ยย !

ไคลเเม๊กซ์คลาสน่าตื่นเต้นเร้าอารมณ์

เนื่องจากความกระเสือกกระสนพยายามที่จะสืบทอดสานต่อความสำเร็จในการที่หล่อนได้เป็นดิว่า อาร์แอนด์บี ฮิพฮอพสุดเซ็กซ์ซี่ย์ ฉายา Lady Mafia แห่งเดฟแจมแห่งวงการได้สมใจอยาก หนนี้นางมารร้ายเลยขอยืดอกและพกมาดเฉี่ยวๆเปรี้ยวๆลุคแฟชั่นนิสต้าร์ตัวจริงยังอายกับสไตล์เมทัลลิคและความหรูหราของคอสตูมในแบบที่เรียกว่าโป๊แบบมีระดับและยั่วแบบมีสติสตังค์ เรียกได้ว่ายั่วแบบพิถีพิถันบวกเข้ากับหุ่นที่ไปทำการรีดเอาไขมันส่วนเกินออกเพื่อมาทำการยั่วและล้างปากบรรดาขาเมาธ์ที่ชอบเที่ยวด่าว่าหล่อนมันเซ็กซ์เสื่อมกับแนวดนตรีเออร์บัน มิวสิคที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิมมากๆ สัดส่วนของเพลงบัลลาดในอัลบั้มนี้จะมีอยู่ 2 แนวทาง 2 รูปแบบคือเป็น ฟูลโซลบัลลาด กับอาร์แอนด์บีบัลลาด สัดส่วนของเพลงพ็อพติดหูจะลดน้อยลงแต่ก็ยังถือเป็นเพลงที่คอพ็อพก็ยังฟังได้ เมโลดี้ย์เพราะ ทำนองหวานๆ ท่อนฮุคแรง และร้องตามง่าย และท่อนอเหมือนกับที่ดนตรีในอัลบั้มนี้จะชัดเจนมากขึ้นในรสอาร์แอนด์บี สโลวแจม ฮิพฮอพและอัพเทมโพ อัพบีทจะมีอยู่บ้างประปรายแก้เลี่ยน และมีบัลลาดพะยี่ห้อนางมาลัยเพลงปิดอัลบั้มเพลงเดียวเท่านั้น จากที่หล่อนเคยกล้าๆกลัวๆ เหยียบเรือสองแคมมาอยู่หลายอัลบั้ม มาอัลบั้มนี้เป็นการลองของและวัดใจกับแฟนเดนตายกันไปเลยว่า การเปลี่ยนแปลงหนใหญ่หนนี้

ส่วนเรื่องการร้องอัลบั้มนี้เน้นเสียงเนื้อๆน้อยมากจะเป็นการร้องเชสโทนและฮาฟโทนซะเป็นส่วนใหญ่ เป็นการโชว์ของแบบพอดีๆ ไม่โชว์ออฟจนน่าเกลียด(แต่บางคนก็แอบจิกว่า เพราะร้องแหกปากเหมือนสมัยสาวๆไม่ไหวแล้วน่ะสิ ถึงต้องมาครางๆแหกปากหงิงๆอยู่แบบนี้)แต่ก็ยังมีหวีดมีเฮดโทนเสียงสูงปรี๊ด การหวีดและลูกเล่นอิมโพรไวซ์มหัศจรรย์ พันธ์ลึกเกินความสามารถคนทั่วๆไปจะร้องได้อยู่เหมือนเดิมนั่นแหล่ะ เพียงแต่มันไม่ได้ชวนเวียนหัวเหมือนสมัยGlitter หรือล้นจนเละเหมือนในอัลบั้ม Mimi ส่วน จะดีจะร้าย จะตายดีหรือตายห่า อีกไม่นานเราก็คงจะได้รู้กัน

พีเรียทชวนง่วงชวนโดดไปทำอย่างอื่นกันดีกว่า

อัลบั้มนี้มีจุดน่าด่าอยู่ใหญ่ๆเป้งๆอยู่ 2 topic ด้วยกันคือหนึ่งเรื่องโครงส้รางดนตรี โดยเฉพาะในกลุ่มเพลงช้า บัลลาดบาดใจทั้งหลายที่ควบคุมดูแลการผลิตโดยผัวเจเน็ทนางสาว JD เจอร์เมน ดูพรีกับนางมาลัยเองนั่นเอง โดยรวมโพรดัคชั่นของเจ ดี จะเน้นที่บีทและพรีลู๊ด ลูกเล่นของคอรัสกับเมโลดี้ย์เพราะๆของเครื่องดนตรียืนจังหวะอย่างพวกเพียโน ซินธ์ หรือเบสกับกีต้าร์ ไม่ก็เทมโบลีนน์ ซึ่งนานๆทีฟังก็เพราะและหวานน่าฟังติดใจอยู่ แต่พอมันมากและล้นและออกแนวเลอะเทอะในบางเพลง (ซึ่งอีเจ ดี เหมาโพรดิวซ์คู่ขากับอีมาลัยรวมหมดเกือบ 9 เพลง !) ก็เลยช่วยไม่ได้ที่จะทำให้มันซ้ำซากและมีทบีทวนไปวนมาอยู่บ้าง ชนิดที่ฟังเพลงนี้อยู่อาจพาลไปนึกถึงอีเพลงที่คล้ายๆกัน ซึ่งอีเพลงนั้นเสือกเพราะกว่า อะไรแบบนี้เป็นต้น ทำให้ตัวอัลบั้มรวมๆค่อนข้างออกมาเรียบๆนิ่งๆ แต่ที่เด็ดกลับเป็นเพลงจังหวะคึกคักทุกเพลงในอัลบั้ม น่าตกใจน่ะค่ะ อภิมหาดิว่าเสียงทองแห่งยุคผู้ซึ่งทำเพลงบัลลาดออกมาได้หวานหยดย้อยเพราะลืมตาย สมบัติล้ำค่าเหล่านั้นของหล่อนที่หลายๆคนต่างปักใจหลงรักมนต์เสน่ห์เหล่านั้น ณ บัดตอนนี้กลับไม่หลงเหลืออีกต่อไป ส่วนอีกความกาลกิณีของอัลบั้มนี้ก็คืออี เจ ดี อีกเหมือนกัน ไม่รุ้จะพกมันมาทำไม กับทุกเพลง พ่อไม่รุ้เหนือรุ้ใต้ แหกปากโหวกเหวกอะไรไม่ดูกาละเทศะ อาลวาดแหกปากตลอดทุกแทร็คที่มีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน ประเภท “This is - - ” หรือ “M. C .” , “Soso Def” และเหี้ยห่าอีกสารพัดสัตว์ที่พ่อพล่ามอยู่ตอน อินโทรท่อนไบรจ์ ไม่ก็ เฟดเอาท์ ยิ่งเพลงLast Kissที่พ่อเหมาแอบแร๊พอยุ่ตลอดเพลง อารมณ์ชวนเคลิ้มๆอยุ่ พอเสียงบี้ๆขึ้นจมูกของผัวอีเจเน็ทโผล่ขึ้นมาเท่านั้นล่ะ จู๋หดจิ๋มฝ่อเลย เสร่อ


เจาะลงไปเป็นหน่วยกิจไปแล้วสอบเก็บคะแนนกันไปเลย

1.Migrate เปิดอัลบั้มด้วยอินโทรเสียงหวีดของนางมารายห์ที่ดัดจริตมากๆและเสียงร้องของนังมาลัยเพลงนี้ก็ถูกคอมพ์แต่งให้ออกมาฟังด้านๆแบบแขกรับเชิญ ที เพนที่มาช่วยแร๊พกึ่งร้องด้วย ตัวเพลงเป็นฮิพฮอพ อัพเทมโพ ติดกลิ่นอารบิคอ่อนๆนิดๆ กับดรัมลู๊พสะนั่นระทึก กับโพรแกรมมิ่งมากมายระยิบระยับจนเกือบรกสไตล์ที เพนและนางเดนจาสาวกลูกศิษย์ป้าทิมบาแลนด์เป็นเพลงที่มีโครงส้รางเป็นเออร์บันและดำปี๋มากที่สุดในอัลบั้มแล้วด้วยคอรัสและการเรียบเรียง

2.Touch my body ซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มที่ตอนแรกๆไม่ถูกใจใครหลายๆคนเท่าไหร่นักรวมถึงตัวผู้เขียนด้วย แต่ยิ่งฟังมากรอบก็ยิ่งก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีขึ้นมากๆ กับอาร์แอนด์บี มิดเทมโพ ทำนองจังหวะเนิบนาบ คอรัสเสียงประสานน่ารักๆ เข้ากับเสียงเพียโนและเพอร์เคสชั่นหวานๆ ลูพเพลงนี้มีลูกเล่นที่ซินธ์ลอยๆที่ให้อารมณ์ของช่วง Summer และเซ็กซ์ซี่ย์อย่างพอดิบพอดี เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่น่ารักที่สุดตลอดกาลของมาลัยไปแล้ว ต้องขอบคุณ the dream และ ทริคกี้ สจ๊วตที่รังสรรค์งานดีๆสุดปาณีตที่เหมาะเจาะและลงตัวที่สุดแล้วกับนางมาลัยมากๆเพลงนี้ ส่วนใครที่ว่าเพลงมันธรรมดา เกินไป ก็ขอบอกเลยว่าเอาจริงๆเพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่ธรรมดาเลยซักนิดเดียว คิดดูแล้วกันตอนฟังอัลบั้มนี้เต็มๆครั้งเเรก แล้วฟังเพลงนี้รวมไปด้วย รุ้สึกปิ๊งเพลงนี้ขึ้นมาทันที มันโดดเด่นออกมาจากคนอื่นจนน่าตกใจและในขณะเดียวกันมันก็กลมกลืนและเป็นเอกภาพอันหนึ่งอันเดียวกันกับเพลงอื่นๆ ช่วยเสริมทัพให้อัลบั้มนี้มีภาพรวมที่สมบูรณ์และน่าฟังมากขึ้นอีกโขเลย

3.Cruise control – อาร์แอนด์บี สกา เร๊กเก้ งานร่วมกับ Damien Marley ลูกของคุณพ่อเจ้าพ่อแห่งดนตจรีเร๊กเก้ที่ทำออกมาได้น่าฟังกว่าที่คิด เป็นเพลงจังหวะกลางๆที่แอบโยกๆได้ด้วยทำนองและลูกเล่นของดนตรี แต่ที่จัดจ้านมากก็คงเป็นการแหล่แจมของน้า เดเมี่ยนเองนั่นแหล่ะ ชุบชีวิตเพลงนี้ขึ้นมาในบัดดล แถมยังแอบเก๋ด้วยการที่นางมาลัยเองก็แอบแหล่ภาษาจมไมก้า นิดๆ ตอนเวริ์สสองด้วย ตอแหลสุดๆ

4.I stay in love – บัลลาด อาร์แอนด์บี เมโลดี้ย์ สุดไพเราะ กะขายและกะดังแน่นอน เริ่มต้นด้วยอินโทรเพียโนอ้อยอิ่งและเพราะเอาตายและตามมาด้วยซินธ์และเสียงสังเคราะห์หวานๆตามมาอีกบานพะเรอก่อนที่จะเร่งจังหวะดนตรีไปพร้อมกับเฟดเอาท์ที่นางมาลัยจิกเสียงทะยานสูงไต่ขึ้นไปอีกหลายอ็อคเทฟ แหกปากสุดใจขาดดิ้น คงสาแก่ใจบรรดาคอเพลงอีกอ นางชะนี และกระเทย ผนวกกับอีเก้ง อีแอบหลายๆนางที่ใฝ่ฝันอยากจะไปประกวดรายการร้องเพลงส้นตีนๆ หึ มีเพลงยากๆให้ได้ฝึกร้องแหกปากกันอีกแล้วว

5.Side effect - ต๊ายยยยฟังเพลงนี้รวบแรกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง ด้วยความที่นึกไม่ถึงว่านางมาลัยจะกล้าทำเพลงแบบนี้กับเข้าด้วย ด้วยอาร์แอนด์บี มิดเทมโพ บีทอิเล็คโทรนิคจ๋าที่เน้น แคลชซินธ์และโพรแรกมมิ่งมโหฬารสไตล์ ทิมบาแลนด์มาเอง แต่ที่เด็ดกว่าความกล้าของนางมาลัยก็คือเนื้อหาค่ะ เธอเล่นจิกกัดสับโขลกและถลกไส้กระซวกเจี้ยว สามีเก่าสุดแรงแค้นฝังหุ่น นายทอมมี่ย์ มอตโตล่า อดีตประทานโซนี่ย์ ได้ชนิดเลือดสาดม้ามแตกตลอด 4 นาทีกว่าๆเสียงแร๊พของ Young Jeezey ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความดุดันของเพลงนี้ขึ้นไปอีกขั้น ใครเคยมีประสบการณ์เคยโดนผัวเก่าข่ม หรือโดนมัดมือชก คงยิ้มร่าและสะใจกับในหลายๆท่อนเป็นยิ่งนัก เป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นมากที่สุดในอัลบั้ม

6.I’m that chick – เปรี้ยวววว ! ไม่นึกไม่ฝันเลยว่านางมาลัยจะมีเพลงแบบนี้กับเขาด้วย ถ้าจะมีเพลงไหนที่น่ารักพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Touch my body ก็คงเป็น I’m that chick เพลงนี้เองนี่แหล่ะ ตัวเพลงเป็นอาร์แอนด์บี สโลวแจมเบาๆ ติดกลิ่นดิสโก้ปลายๆยุค 70นิดๆ และเน้นเครื่องดนตรีสดทั้งหมด เสียงคีย็บอร์ดและเครื่องสายในเพลงนี้หวานมากๆ ยิ่งท่อนฮุคที่หล่อนร้องทำเสียงเล็กเสียงน้อยกระซิบกระซาบกับคอรัสว่า “dada laa la oh weee heeee I’m that chick u like ” โอ๊ยยย ชวนสะบัดบ็อบเร่งฮอร์โมนให้ออกไปเฉิดฉายจิกผู้ชายสุดๆ


7.Love story บัลลาดโสลวแจม อาร์แอนด์บีดาวน์เทมโพเนิบๆนาบๆ เพลงรักเนื้อหาสมานฉันท์ชาญฉลาดพิสูจน์ได้ถึงลูกเล่นในการใช้คำและการเขียนประพันธ์เพลงของนางมาลัยได้เลยว่าไม่ใช่ขี้ๆ พรมไปด้วยเพียโน คีย์บอร์ด เทมโบลีนน์ และซินธ์กับโพรแกรมมิ่งหวานๆ เข้ากับเสียงประสานและลูกเล่นของคอรัสและเสียงนางมาลัยเองที่ช่วยกันขับความหวานของตัวเพลงออกมาจนออกนอกหน้าเพลงอื่นๆ โดยเฉพาะเฟดเอาท์ที่หล่อนโหนสูงแถมท้ายพอเป็นไม้กันผี เป็นหนึ่งในเพลงที่ถือว่าทำให้แฟนเพลงพันธุ์หืดขึ้นคอที่ชอบฟังมาลัยร้องเพลงชวนฝันๆพอที่จะหายใจได้ทั่วท้องขึ้นมาบ้าง เวอร์ชั่นอคูสติคเพลงนี้เพราะมากๆ ถ้าตัดเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลจริงๆมีสิทธิ์ดังเหมือนคราว Don’t forget about usนั่นเลย

8.I’ll be lovin’ you long time – นีโอ โซลท่วงทำนองสวิงสวายสุดเข้มข้นที่เพียบพร้อมไปด้วยสรรพเสียงดนตรีทั้งสดใหม่และแซมเพิ่ลเรเฟอร์เรนซ์สุดคลาสสิคแบบเข้าที่เข้าทาง เป็นเซอร์ไพรส์ประจำอัลบั้ม ทั้งแบร็คกราวนด์มิวสิคที่เอามาใช้อย่างที่ว่าไปที่ช่วยเพิ่มความไพเราะหรูราของตัวเพลงนั่นแล้ว ยังเสริมทัพด้วยการใช้เสียงซินธ์ที่เอามาประยุกต์แต่งด้วยแซมเพิ่ลอีกครั้ง พร้อมๆกับดนตรีสดๆและเสียงประสานไสตล์ดนตรีแจ๊สแบบพอดีๆไม่แหกปากเอ็ดตะโรโวยวายเป็นช้างพันแป้นแบบที่หล่อนชอบร้องและเอามาใช้หากินอยู่บ่อยๆ เนื้อหาก็น่ารัก ดนตรีก็เก๋ เสียงร้องก็กำลังท้วมๆเต็มๆเข้าท่า เป็นเพลงที่ลงตัวที่สุด และดีที่สุดเพลงหนึ่งในอลับ้ม

9.Last kiss – บัลลาดเต็มตัวเพลงที่ 3 ของอัลบั้มที่เป็นเหมือนโคลนของ We belong together แบบค่อนข้างน่าเกลียด โครงส้รางและรูปแบบโดยรวมถอดออกมาเหมือนกันแทบทุกกระเบียดนิ้วทั้งโน้ตเพียโนหวานๆเมโลดี้ย์เพราะ ๆเทคนิคการร้องระรัวลิ้น การเลื่อนคีย์ในท่อนเฟดเอาท์ และลูพกับโพรแกรมมิ่งเคลือบคลอเพิ่มลูกเล่นและระดับให้กับตัวเพลง ยอมรับว่าไอ้ เพราะมันก็เพราะอยู่และมันก็ยังคงขายได้อยู่ แต่มันก็ง่ายและจำเจไปหน่อย นี่ดีที่หล่อนเอามาหลบๆไว้ท้ายๆอัลบั้มก็ยังด่าได้ไม่เต็มปาก รอดูรี รีรีส กับอัลบั้มหน้าดีกว่า ถ้ามี้เพลงแบบนี้ออกมาอีกมากว่า1- 2 เพลงแม่ด่าเละให้ชนิดลงหลุมตายไม่ถูกแน่ๆ

10.Thanx 4 nothings – เพลงนี้อินโทรมาก็เก๋เรย เพราะนางมาลัยกลบเสียงแร๊พอีเจดีที่แร๊พว่า “this is so so def” ซะหมด แถมยังเก๋ต่อด้วยการร้องระรัวลิ้นและเนื้อหาที่พอกพูนและเยอะมากไม่รู้หลิ่อนร้องหมดได้ยังไงกับเวลาแค่ 3 นาทีน้อยๆ ดนตรีก็โอเคเป็น บัลลาดอาร์แอนด์บีมิดเทมโพ เข้ากับโพรแกรมมิ่งดิบๆและริฟกีต้าร์สไตล์ สตรีทฮิพฮอพแบบที่อาลิญ่าห์ ชอบทำ ถึงมันจะทำให้นึกถึงเพลงอย่าง One and Only หรือ Crybaby อยู่บ้างก็เถอะ แต่ก็ยอมรับว่าเก๋และพอฟังได้อยู่

11.O.O.C. กรี๊ดดดดดดดดดด เริ่ดมากๆ เป็นเพลงเต้นรำและอัพบีทของนางมาลัยยุคหลังๆที่ดีมาก ต้องขอบคุณ SwizzBeat ที่ไม่ลดตัวไปทำเพลงฮิพฮอพนมเด้งเเร่ดๆที่เกลื่อนซ่องทั่วไปหมดแบบที่กำลังฮิตๆกันทั่วฟ้าเมืองไทยในคลับต่ำๆทั่วๆไปในช่วงขาลงของฮิพฮอพในตอนนี้ แต่พ่อเลือกที่จะทำอาร์แอนด์บีโซลจังหวะกระฉึกกระฉักโยกๆติดฟังก์นิดๆเท่ห์ๆ แต่ก็แอบน่ารักด้วยเสียงประสานและคอรัส แซมเพิ่ลที่เอามาใช้ก็เพราะและโดดเด่นมากๆ ยิ่งเนื้อหายิ่งแล้วใหญ่ เป็นการหยาบคายที่มีศักดิ์ศรีและฉลาด สวยเลือกได้แบบที่ตั้งใจออกมาไม่ให้ดูโลว์คลาสแบบดีไม่มีที่ติ ขอปรบมือให้ค่ะ

12.For the record – มิดเทมโพบัลลาดอาร์แอนด์บี เมโลดี้ย์สุดหนึบไพเราะติดหูสุดๆ กับโพรแกรมมิ่งแพรวพราวเข้ากับเครื่องสายและซินธ์บางเบาพอๆกับที่ได้ยินมาจาก So Lonely แต่เพลงนี้มีรายละเอียดดนตรีที่แน่นกว่า ชัดเจนกว่าและเข้าท่ากว่าเพลงจาก Darkchild เพลงนั้นแต่ก็ยังไม่ได้ดีเด่อะไรเกินหน้าเกินตาเพลงอื่นๆมากซักเท่าไหร่ ก็ถือเป็นเพลงกลางๆที่ฟังเพลินๆเรื่อยๆดี มาสะกิดเตะติดใจก็ตรงเนื้อร้องที่แอบเก๋หยิบเอาชื่อเพลงตัวเองมาใช้ร้องด้วยในท่อน ไบรจ์ มีทั้ง My all , underneath the star , we belong together , don’t forget about us, Honey ต๊ายยย หล่อนค่ะ เพลงที่หล่อนโพล่งออกมาแต่ล่ะเพลงนั่นเริ่ดกว่าเพลงที่หล่อนกำลังร้องอยุ่ทั้งหมดเลยล่ะค่ะ !

13.Bye Bye – อนึ่งตอนรอบปฐมทัศน์ของงานแถลงข่าวแบบไพรเวทพาตี้ย์ตอนที่ LA Reid ลองเอาเดโม่ออกมาให้บรรดาคนวงในและสื่อมวลชนกูรูแห่งวงการออกมาฟังเพลงนี้เป็นเพลงที่โจษจันและถูกสรรเสริญยกยอปออั้นมากเป็นพิเศษถึงขั้นที่ขนาดว่าสามารถสร้างและเป็นปรากฏการณ์หน้าใหม่ของนางมาลัยในวงการเพลงกันเลยทีเดียว ทว่าเมื่อตัวเพลงเวอร์ชั่นเต็มๆหลุดออกมาให้ฟังกัน กลับมีเสียงตอบรับเป็นหอกข้างแคร่ไม่เป็นเอกฉันท์ บ้างก็ชอบบ้างก็เกลียด บ้างก็รับไม่ได้ บ้างก็อินนน จัด ฟังทีไรนํ้าตาไหลพรากๆ และก็มีอีกหลายคนที่งงๆ และไม่รุ้ว่าจะควรรุ้สึกยังไงกับเพลงๆนี้ด้วย ด้วยความที่มันเป็นเพียงอาร์แอนด์บี ลีดเเบ็คธรรมดาๆที่มีโพรแปกรมมิ่งและซินธ์กับเพียโนเมโลดี้ย์ เศร้าๆเคล้าคลอไปกับลูพเนิบนาบที่แสนธรรมดา มันไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเพลงโหลๆของนักร้องมากมายมหาศาลที่เกิดดับและตายไปในที่สุดในอุตสาหกรรมดนตรี แต่ด้วยเนื้อหาและการสื่ออารมณ์เพลงของมารายห์อันไร้ที่ติ หมดจดและเก็บทุกตัวโน้ต ดึงอารมณ์คนฟังไปให้ถึงที่สุดนั้นต่างหากที่ทำให้เพลงนี้มีค่า มากกว่าแค่เพลงให้กำลังใจหลอกๆที่มีมากมายเหลือเกิน เพลงนี้มันลึกซึ้งและกินใจกว่าเพลงระดับพวกนั้นเยอะ ถ้าเพลงนี้เกิดดังและทำให้ใครหลายๆคนต้องหลั่งนํ้าตา ก็จงพึงวสังวรณ์เอาไว้ว่ามันมาจากความสามารถและพรสวรรค์ของมารายห์เองล้วนๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของการโหมโพรโมทหรือการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง จะมีนักร้องซักกี่คนบนโลก ที่สามารถพาเพลงธรรมดา ใส่นํ้าตาถอดใจร้องลงไปในเพลงพาคนฟังเดินทางไปในทุกซอกมุมของประสบการณ์ที่ด้วยเนื้อหาและการใช้เสียงมันยิ่งทำให้เพลงนี้โดดเด่นขึ้นมาทันที จนเร่งอารมณ์คนฟังในเฟดเอาท์ที่เป็นการใช้เทคนิค เมโลดรามาติคอิมโพรไวซ์ที่ไม่ใช่แค่แหกปากโชว์ลูกคอแปดอ็อคเเทฟแบบพวกรายการประกวดร้องเพลงไร้สาระสุดโสโครกพวกนั้น มารายห์ทำให้ทุกคนต้องเงี่ยหูฟังเพลงธรรมดาและกระแทกความรุ้สึก ตลอดจนส่งผลให้เกิดการแสดงออกทางอารมณ์ที่หลากหลายมีมิติและเป็นสากล นี่ถ้าเอาเพลงนี้ไปให้พวกไม่รุ้ประสาร้องมันก็คงเป็นได้เเค่เพลงเสแส้รง ของนักร้องเกรดบีที่ดีแต่โชว์พาวไป เสร่อๆเท่านั้น

14.I wish you well - เพลงปิดอัลบั้มที่เป็นบัลลาด บลูส์ โซล เต็มขั้น มารายห์ร้องสดๆ ดวลกับคอรัสแบ็คอัพและเดี่ยวเพียโนเพียวๆ ล้วนๆ มันมีส่วนผสมของดนตรีกอสเพลตามสไตล์ถนัดให้อารมณ์เพลงเก่าๆของมารายห์และเป็นเคืร่องบ่งชี้ว่าเธอไม่ได้ลืมกำพืดตัวเองแต่อย่างใด เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งและกว้างเกินกว่าที่กรอบความคิดใดๆจะมาตัดสินลงไปได้เลยว่าเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรกันแน่ มันเป็นเพลงที่มีพลังและเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ไล่ไปตั้งแต่การโดนสังคมและผู้คนทำร้ายเหยียบยํ่าทำลาย เล่าถึงเรื่องความเชื่อศรัทธาในการมีชีวิตและพระผู้เป็นเจ้า เลยเถิดไปถึงการให้อภัยและความเมตตาในการอยู่ร่วมกันของคนทุกคนบนโลก อัตตา อนิจจัง ทุกขัง เพลงนี้ครอบคลุมขอบเขตทางหลักศาสนาไปตั้งแต่คริสเตียน ยัน พุทธบัญญัติ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้ยินอะไรที่เคร่งเครียดและจริงจังกับงานของมารายห์ โดนเฉพาะในช่วงเวลาที่ชีวิตของเธอกลังมีแต่เรื่องราวดีๆเต็มไปหมด แต่ใคร จะไปรู้ความจริงได้ บางครั้งบางคราว ไม่ว่าจังหวะเวลาใดของชีวิต เราทุกคนก็ต้องเคยรุ้สึกสับสนและทำตัวไม่ถูก นอกจากเฝ้าภาวนาให้ผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายนั่นออกไปให้ได้ในเร็วที่สุด ด้วยตัวของเราเอง เข้มเเข็งและจงยืนหยัดขึ้นเพื่อตัวเอง และอย่าลืมที่จะนึกถึงคนอื่นๆบ้าง เป็นการจบอัลบั้มอย่างสะเทือนอารมณ์ ถัดจากเพลง bye bye แบบไม่ครณาอารมณ์คนฟัง ถือเป็นเพลงที่สะเทือนใจที่สุดของมารายห์นับตั้งแต่ THe Wind และ Outside เป็นต้นมา

และแล้วเกรดที่ออกคือ

สิริรวมแล้วนี่ก็เป็นอัลบั้มที่ดีอัลบั้มหนึ่งของมารายห์ในยุคหลังๆเลยทีเดียว ไม่มีเพลงไหนที่ฟังแล้วต้องทำหน้าเบ้ ร้องอี๋แล้วกดข้ามไม่มีเพลงที่เล่นลูกคอหยั่งกับรถไฟเหาะตีลังกา ไม่มีเพลงเนื้อหาเหนือไม่ไปใต้ไม่มา หรือพวกเพลงระดับแกนๆ สั่วๆเละเทะๆ เหมือนเพลงเหลือๆเพลงแถมๆจากพวกเพลงซิงเกิ้ลหรือพวก B-sides อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่เพลงทุกเพลงหลวมรวมเป็นเนื้อเดียวันจนเป็นเอกภาพที่เเข็งเเรง ชัดเจน ไม่ลุ่มๆดอนๆ จะเอาอะไรก็ไม่เอาซักกะอย่างเหมือนตอนที่เธอกล้าๆกลัวๆ ทำเพลงเอาใจเเฟนเพลงซะจนน่าเบื่อ ถึงจะมีข้อด้อยในเรื่องโครงส้รางและรูปแบบที่เดิมๆอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่การลอกที่น่าเกลียดจนต้องชี้ด่าด่าเสียสาดเทซะจนไม่ต้องคิดอะไรกันเลย ถ้าใครคิดว่าเพลงในอัลบั้ม Charmbercelet เหมือนออเดริ์ฟ เรียกนำย่อย ด้วยความที่เพลงหลากหลายแต่ไม่อิ่มท้อง อดทนใจรออาหารจากหลักไม่ไหวแล้ว The Emancipation of mimi ที่เป็นอาหารจานหลักรสชาติจัดจ้านและออกแนวเละเทะไปบ้างจนอืดท้องและอิ่มจนอ้วกก็คงเป็น appetite ที่น่าลิ้มลอง อัลบั้ม e=mc2 ก็เปรียบเหมือนของหวานรสชาติแปลใหม่ ที่เป็น ฟิวชั่นฟู๊ด น่าตาน่ากินและรสชาติหอมหวานแปลกลิ้นสุดบรรเจิดที่ทั้งสนุกและอร่อยแบบเต็มปากเต็มคำ ถึงจะไม่หลากหลายมากมายแต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่เข้มแข็งดี

และนี่ก็เป็นหนึ่งในอัลบั้มช่วงนี้ ที่น่าฟังมากๆ ไม่แพ้ Hard Candy ของเสด็จแม่ มาดอนน่า

ปล.รีวิวHard Candy ของเจ๊แม่ได้อ่านราวๆอาทิตย์หน้าน่ะค่ะ ตามอ่านรีวิวเลือดพุ่งของเจ๊กันด้วยล่ะ จุ๊บๆ



แก้ไขล่าสุดโดย มาดามจ๊อกกาโล่ เมื่อ Thu May 01, 2008 10:03 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
_________________

มีต่อป่ะ จะอ่านอีก


_________________
Girls Aloud Thailand
บล็อกของผม+ความรู้ภาษาอังกฤษ

อ่านไป ฮาไป นะเจ๊ ......

ชอบอัลบั้มนี้ มาลาย ลุคเด็กดี แถวหุ่นเพอร์เฟ็กต์แคร์มาก


_________________
I can make the bad guy good for a weekend.

ขอบคุณมาดามมากๆนะครับ ที่เขียนรัวิวดีๆให้ได้อ่านกันอีก

ป.ล. ยอมรับว่าอัลบั้นี้เพราะทุกเพลง แต่ที่เป็นห่วงก็คือเรื่องเส้นเสียงเธอขณะนี้หละ
ใจผมอยากจะให้เธอผ่านะครับ


_________________

เอาเซร่ห์

อัลบัมนี่หวีดน้อย

แต่ยังไม่วายแรดติ่งแตด

ให้สรวลซ่องคุณตัวเป็นยิ่งนัก

เริ่มตั้งแต่แทร็กแรก

หวีดโหยหวนฮ้าาาาฮ้าาาาห์ฮียยย์หีย์

เบ๊าส์ๆๆๆๆ

ถือว่าเป็นแท็กเปิดอัลบีมที่สรวลติ่งยิ่งยัก

เริดมากๆๆ

ต่อที่แอมแตดฉีัก

เพลงนี้จะให้เป็นชื่ออัลบัมตอนแรก

หรือเป็นนัยว่าฉันก็คือนังกระหรี่ตนนั้น

เปิดมาครั้งแรก

ก็รู้เลยว่าครัยแต่ให้เริ่ดมากๆๆ

เนื้อหาก็แบบว่าแอร็ยยย

ชั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จะเปนไอติมให้คุณดูด

(หร่อนจะไปดูดเค้ามากกว่า)

เอ้าโทรแทร็กด้วยเสียง อะ อะฮ่ะของอีเจ๊เค้า

แรงแรส

ติ่งสั่นมากๆๆ

และเพลงที่เป็นไพ่ตายก็คงไม่พ้น บั้บบาย

เพลงที่ดีอีก1เพลง

นังหมูสื่ออารมณืออกมาได้ดีมากๆ

สำหรับคนที่สูญเสียคนรักหรือสำคัญไป

ฟังแร้วมันเข้ามาสรวญจรรโลงใจในสมอองมากๆ

ถืว่าอัลบัมนี้

ป้าหมูแกทำออกมาได้ดี

โดยส่วยตัวคิดว่าชอบอัลบัมที่แล้วมกกว่า

(ปล ท่าโพสอัลบัมที่แล้วกับอัลบัมนี้คล้่ายๆๆกันเวอร์)

แต่ด้วยความจริตจิตป่วงของหร่อนเลยต้องของแรงกว่าปกที่แร้ว

ชีเลยแกผ้าโชวหุ่นถือขนมิ้งปิดนมยาวพาดจิ๋ม

รุนแรงๆๆ



That's Hot


_________________

ปวดตาาา

แต่อ่านแล้วฮามากกก

สุดยอดๆๆๆ

คารวะสองจอก หุหุ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
บาย บาย มันจะไปรอดรึเปล่าคะเจ๊
หลายคนบอกว่าที่มันจะไม่ดัง
ก็เพราะว่าเพลงมันเฉพาะกลุ่มเกินไปรึเปล่า
แบบคนที่จะอินต้องเคยมีการสูญเสียอะไรอย่างงั้น

ส่วนไอ วิช ยู เวล
อันนี้ห่วงว่า จะร้องจริงไม่ได้
เท่านั้นเอง เนื้อหาก็เข้าใจยากชิบหายเลยคะ
ประมาณต้องสอบโทเฟลให้ได้ 550 คะแนนก่อน
ถึงจะรู้เรื่องเพลงนี้ ไม่รู้ชีไปขุดคำศัพท์จากที่ไหนมานะคะ

That Chick แอบอยากบอกว่าเป็นเพลงที่ชอบสุดๆ
อาจจะมากที่สุดใจอลับั้มเลยก้ได้คะ
ด้วยอะไรหลายๆอย่าง

พวกเพลงเร็วในอัลบั้มนี้แอบเก๋นะคะ
แต่ถ้าไม่นับ that chick ก็ชอบอี Migrate เนี่ยแหละคะ
คือตอน t-pain แรพ มันดูไม่น่าเบื่อยังไงไม่รุ้
ส่วนตัวเป็นคนชอบกดข้ามเวลามีคนมาแรพนะคะ
แค่พอเพลงนี้ก็ฟังไหลไปได้คะ แปลก

เพลงช้าก็จะเป็นพวก last kiss / Love story / thanx 4 nothin'
แต่แอบคิดเหมือนมาดามนะคะ
เพลงมันทำไมคล้ายกันหมดเลย ไม่มีโดดเด้งๆ เลย
ยิ่งบายๆนี่แอบเสียจะกับดนตรีมากๆ
คือตอนที่เพลง Irreplaceable ของบีดำิิกมาแล้วดังมากๆ
ต่อมาเพลงหลายๆเพลง อย่าง tattoo ก็ดนตรีเหมือนกัน(รึเปล่า หรือหนูคิดไปเอง)
ก็แอบด่าในใจแระเม้ากับเพื่อนว่า ดนตรีแบบนี้เกร่อเนาะ
พอเอาเข้าจริง ตัวแม่ตัวเอง บาย บาย
เป๊ะเลย แค่ช้ากว่า T_T

ขอบคุณมาดามรอบที่สามล้านคะ สำหรับรีวิวตลอดทั้งปี


_________________

ชอบ I'm that chick สุดๆ เก๋


_________________


Tweet me

สำหรับผม That Chick น่าจะยกให้เจเน็ทร้องมากกว่านะ

Bye Bye กับ I Stay In Love เพราะสุดๆ แต่ก็อย่างว่า มันอยู่ในพื้นฐานของ We Belong Together
ส่วน Last Kiss นี่นึกถึง Breakdown ขึ้นมาเลย


_________________