
Mariah Carey เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ หลายๆท่านในที่นี้ต่างรู้จักเธอ ทุกคนต่างที่จะนึกถึง นักร้องที่เสียงพระเจ้าประทาน ที่มีความทะเยอทะยาน ความตลกโปกฮา หรืออะไรต่างๆที่เป็นการกล่าวขวัญถึงการประสบความสำเร็จในด้านต่างๆของเธอ
ในชีวิตของมารายห์ แครี่ ในสายตาหลายๆคนที่มองเธอ อาจจะคิดว่าเธอนั้นไม่สมประกอบ หรือบ้าๆบวมๆ ดีแต่ร้องเพลงแหกคีย์ให้แสบแก้วหูเล่น แต่หารู้ไหมว่าการที่พวกเรามองเธออยู่นั้นมันเหมือนมีม่านบางๆ ที่บังตาเราอยู่ ทำให้เราไม่รู้ถึงเบื้องลึก ที่แท้จริง
มารายห์นั้น เธอเกิดมาในยุคที่มีการเหยียดสีผิว เสียดสีสังคม หลายๆท่านคงเข้าใจถึงความรู้สึกเธอนะครับ ว่ามันจะเป็นการอึดอัดและลำบากใจแค่ไหน ในการที่เราต้องใช้ชีวิตเปรียบเสมือนเป็นตัวประหลาดของคนอื่น มีเพื่อนแค่ไม่กี่คน ถูกล้อเลียนเรื่องเชื้อชาติ ไร้บุคคลที่สนใจและเอาใจใส่ ในความคิดของผมผมคิดว่าเธอคงรู้สึกอ้างว้าง
ว้าเหว่ เหมือนไม่มีใคร
จากการที่เธอต้องย้ายที่อยู่อาศัยเพราะปัญหาเรื่องการแบ่งชั้นวรรณะอยู่บ่อยๆ จนทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวเธอต้องขาดสะบั้นลง ทำใช้ชีวิตของพวกเธอและพี่ๆ ต้องเปรียบเสมือน แพที่ถูกปล่อยความไปตามแรงคลื่นของทะเล ไร้ซึ่งจุดหมายรายได้จุนเจือครอบครัวก็ไม่เพียงพอจนพี่สาวของตัว ต้องตัดสินใจขายตัวเพื่อหาเงินส่งน้องเรียนหนังสือ (จนในปัจจุบันนี้ พี่สาวของเธอติดเชื้อ HIV) และจุนเจือครอบครัว ภายใต้ความกดดันหลายๆด้านทำให้มารายห์ไม่เหมือนคนอื่น
จนเวลาผ่านไปแล้วไปเล่า ใครจะคิดว่าเด็กสาวผู้ถูกเหยียดหยาม ถูกรังเกียจสามารถดันตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุด ผมว่าท่านคงจะเข้าใจความรู้สึกเธอนะครับว่ามันน่าดีใจแค่ไหนกับการที่คนอย่างเธอได้รับโอกาสในการเป็นนักร้อง จนประสบความสำเร็จในอัลบั้มแรก เวลาผ่านไป เธอก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกับ ทอมมี่ มอตโตล่า ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นเวลาประมาณ 2 ปีกว่า เธอก็ได้ตัดสินใจอย่า เพราะความหึงหวงเกินเหตุของสามีเธอ ชีวิตของเธอประสบกับความล้มเหลวทางด้านครอบครัวถึงสองครั้ง ตั้งแต่เกิดมา ก็สาหัส สากัน พอสมควร
หลังจากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตครองโสดมาเรื่อยๆ จนมาถึงการล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ในการทำงาน เมือ่ปี 2000 อัลบั้ม และภาพยนตร์ เรือ่ง Glitter ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้งเกิดวินาศกรรม 11 กันยายน ซ้ำเติมลงไปอีก
ชวิตของเธอพบกับความล้มเหลวครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 3 และเหมือนว่าครั้งนี้จะร้ายแรงจนทำให้เธอคิดฆ่าตัวตาย
มารายห์หายไปจากวงการเพลง 3 ปีและกลับ มากู้ชื่อเสียงตัวเองใหม่ ในปี 2003 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เท่าที่ควร แต่ก็ยังเคราะห์ซำกรรมซัด พ่อของเธอก็ได้เสียชีวิตลงสร้างความเสียใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก จนปี 2005 เธอได้ทำ อัลบั้ม ปลดเปลื้อง The Emacipation OF MiMi ที่มียอดขายถล่มทลาย และเป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของเธอ และเร็วนี้เธอก็จะปล่อย อัลบั้มE=MC2 ออกขายในปี 2008 vudfh;p
จากการล้มเหลว ครั้งแล้วครั้งเล่า ปัญหาครอบครัว การอย่าร้าง การล้มเหลวในการทำงาน คุณพ่อที่เป็นที่พึ่งได้เสียชีวิต ทำให้เธอมีความเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆได้อย่างน่าชื่นชม
แต่ปมในใจที่ติดค้างอยู่มันยากที่ จะลบออกไปง่ายๆ ทำให้มารายห์ต้องแสดงออกว่าตลก อารมณ์ดี เพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยของตัวเอง เพราะฉะนั้นทุกท่านคงเข้าใจเธอและนะครับ ว่าสิ่งที่แสดงออกมา ภายใต้แววตาที่แสนเศร้านั้น เธอต้องการสื่อถึงอะไร….
เพราะฉะนั้นการที่มารายห์ มักพูดอยู่เสมอว่า “ชั้นมีแฟนคลับ ที่ดีที่สุดในโลก” ก็เพราะสิง่ยึดเหนี่ยวจิตใจสุดท้ายในชีวิตของเธอ นั้นก็คือแฟนคลับของเธอเอง เธอจึงตั้งใจทำงานเพื่อเป็นที่ถูกใจแฟนคลับ ถึงแม้ปัจจุบัน เสียงเธออาจจะไม่เอื้ออำนวยมากเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เธอได้ทำออกมานั้น มันได้แสดงออกมาว่า เธอควรที่จะเป็นที่สุดของที่สุด ของบุคลที่น่ายกย่องอย่างแท้จริง
ผมก็เพิ่งรีวิวครั้งแรกนะครับ ยังไงก็ช่วยติชมด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย lamai เมื่อ Thu Apr 10, 2008 12:50 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง
_________________
