Main :: อ่าน - ....ทำนายยอดขาย E=MC2 และ Hard Candy

ขอทำนายอัลบั้มของมารายห์ก่อน เพราะออกในช่วงเวลาเดียวกัน คือ เดือนเมษายน ทำให้วิเคราะห์ได้ง่ายกว่า

มาดูข้อมูลเบื้องต้น คืออัลบั้มก่อนหน้า การปลดเปลื้องของมีมี่ ตามเว็บวารสารแม่หมี ซึ่งเป็นเว็บที่เชื่อถือได้มากสุด ได้ให้ข้อมูลว่าอัลบั้มทำยอดขายทั่วโลกไปแล้ว 9 ล้าน โดยอ้างอิงจาก Billboard เมื่อวันที่ 22 May 2006 ซึ่งขณะนั้น มียอด soundscan ใน US ที่ประมาณ 5.59 ล้าน แต่ปัจจุบัน soundscan อยู่ที่ 5.86 ล้าน เพิ่มขึ้น 1.7 แสน ในเวลา 2 ปี รวมยอดจากทั่วโลก สรุปแล้ว TEOM น่าจะมียอดอยู่ที่ 9.3 ล้าน (10 ล้านที่แฟนมารายห์บางกลุ่มมักยกอ้างอิงไม่ถึงแน่ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าอยู่ที่ 9-9.5 ล้าน รวมทั้งเว็บวารสารมารายห์ด้วย)

US

TEOM ได้ไปแล้ว 6 platinum ยอด soundscan ปัจจุบัน อยู่ที่ 5.86 ล้าน สามารถ re-entry ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อตอน e=mc2 ปล่อยออกมา

TEOM เปิดตัวสัปดาห์แรกที่ 404,000 และตัวอัลบั้มติดอันดับ top 5 นานถึง 22 สัปดาห์ติดต่อกัน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ สามารถทำยอดขายเกินหลักแสนได้ถึง 13 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยมียอด 3.73 ล้าน ก่อนที่จะทำการ re-release ออกมาอีกครั้งเมื่อเดือนตุลาคม สัปดาห์เดียวกับ COADF หลังจากนั้นก็ติด top 10 พร้อมยอดขายหลักแสนไปอีกหลายสัปดาห์ เพราะเป็นช่วงปลายปี กำลังซื้อเยอะ ต่ออายุอัลบั้มใน Hot200 Album และเพิ่มยอดขายได้อีกเป็นล้าน อย่างที่เห็นๆ กัน

E=mc2 ได้รับบารมีจากอัลบั้มมีมี่มากพอตัว จึงสามารถ debut ด้วยยอด 462,971 ซึ่งเป็นยอดเปิดตัวอัลบั้มที่สูงที่สุดของมารายห์ แต่ถ้าเทียบยอด week-by-week แล้ว E=mc2 ดิ่งลงเร็วมาก มียอดเกินหลักแสนเพียง 2 สัปดาห์ และยอดสัปดาห์ที่ 5 คือ 59,000 copies นั้นใกล้เคียงยอดอัลบั้มมีมี่ในสัปดาห์ที่ 24 เลยทีเดียว (60,835)

5 สัปดาห์แรก TEOM ได้ไป 1.2 ล้าน (404000+226000+196000+197000+173000)
แต่ E=mc2 ทำได้ 0.887 ล้าน (462971+182000+95405+87070+59000) และมีแนวโน้มทิ่งห่างจากมีมี่มากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเปรียบเทียบและกระแสของอัลบั้มนี้แล้ว ขอทำนายว่า e=mc2 จะมียอดขายอยู่ที่ระหว่าง 2,250,000-2,500,000 ล้าน ถ้า re-release ขึ้นมาอาจจะได้เพิ่ม แต่คิดว่าโอกาสผ่าน 3 ล้าน ยากมาก เพราะไม่น่ามีเพลงฮิตอย่าง we belong together ได้อีกแล้ว

-------------------------------------------------------------------

UK

TEOM ได้ 2 platinum ใน UK คือ 600,000 แต่ยอดที่ค้นได้ตอนนี้คือ 621,000 copies

อยากให้ดู chart runs ของอัลบั้มนี้กันหน่อย debut ที่อันดับ 7

7-16-23-33-39-35-30-21-22-18-21-9-10-8-7-8-11-14-21-25-29-25-23-27-25-33-27-16-25-27-38-47-34-45-59-58-61-54-43-43-51-58-71

และมาดู E=mc2 chart runs บ้าง

03-05-12-23-46

ถ้าดูจากยอด dubut จะเห็นว่า e=mc2 สูงกว่า (ที่จริงยอดขายตลอดทั้งสัปดาห์เป็นอันดับ 2 มาตลอด มาโดน Spirit ปาดหน้าเค้ก แย่งอันดับ 2 เอาเมื่อโค้งสุดท้าย)

แต่สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับ TEOM คือ กลับมีแรงฮึดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้า top 10 และไป peak ที่อันดับ 7 ได้ อีกครั้ง สาเหตุก็เพราะเพลง we belong together นั่นแล ที่เพลงนี้ก็เกือบจะได้อันดับ 1 เพลงที่ 3 ของเกาะอังกฤษอยู่แล้ว แต่พลาดไปนิดเดียว (5 สัปดาห์ที่ติด top 10 อีกครั้ง รวมยอดน่าจะถึงแสนด้วยซ้ำ)

E=mc2 เปิดตัวสูงกว่าก็จริง แต่ร่วงเร็วกว่า มีมี่ week#5 ก็ต่ำกว่า มีมี่ แล้ว และซิงเกิ้ลที่ 2 อย่าง bye bye หรือซิงเกิ้ลที่ 3 love story ก็ไม่น่าสร้างปาฎิหาริย์ให้กับยอดขายอัลบั้มได้อย่างที่ we belong together ได้เคยสร้างเอาไว้ (ยกเว้น migrate, Im that chick อาจกระตุ้นยอดขายได้บ้าง)

ดังนั้น ขอทำนายว่า e=mc2 จะมียอดขายอยู่ที่ 300,000-350,000 (ยอด ณ ปัจจุบัน คือ 73,000 อ้างอิงจากวารสารแม่หมี)

------------------------------------------------------------------------

Japan

ไม่พูดอะไรมาก เอาตัวเลขรายสัปดาห์มาเปรียบให้ดูกันเลย

Oricon International Album chart 2005/4/11.
1[2]"The Emancipation Of Mimi"-Mariah Carey(49,456)[49,456]

Oricon International Album chart 2005/4/18.
1[3]"The Emancipation Of Mimi"-Mariah Carey(32,969)[82,425]

Oricon International Album chart 2005/4/25.
1[4]"The Emancipation Of Mimi"-Mariah Carey(29,718)[112,143]

Oricon International Album chart 2005/5/2.
1[6]"The Emancipation Of Mimi"-Mariah Carey(23,744)[135,887]

Oricon International Album chart 2005/5/9.
4[12]"The Emancipation Of Mimi"-Mariah Carey(17,670)[153,557]

VS

Oricon International Album chart TOP20-2008/4/28
01 [07] (NE) E=MC2-Mariah Carey (36,631) [36,631]

Oricon International Album chart TOP20-2008/5/5-
01 [09] (07) E=MC2-Mariah Carey (21,295) [57,926] # 7 , 2 wks

Oricon International Album chart TOP20-2008/5/12-
03 [11] (09) E=MC2-Mariah Carey (17,755) [75,681] # 7 , 3 wks

Oricon International Album chart TOP20-2008/5/19-
03 [11] (11) E=MC2-Mariah Carey (11,017) [86,698]

Oricon International Album chart TOP20-2008/5/26-
04 [16] (11) E=MC2-Mariah Carey (7,876) [94,574] # 7 , 5 wks

TEOM มียอดขาย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 302,000 copies ยอด debut และยอดขายรายสัปดาห์ก็สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าดู 5 สัปดาห์แรก มีมี่ขายได้ 153,557 และ e=mc2 ขายได้ 94,574 และอัลบั้ม มีมี่ ยอด 5 สัปดาห์แรก คิดเป็น 50% ของทั้งหมด
ดังนั้น ถ้า e=mc2 มีแนวโน้มใกล้เคียงกับมีมี่ ยอด 5 สัปดาห์คือ 94,574 จะเป็น 50% ของทั้งหมด

ดังนั้น ขอทำนายว่า e=mc2 จะมียอดขายในญี่ปุ่นอยู่ที่ระหว่าง 180,000-200,000coipes

เอาแค่ 3 ประเทศหลักๆ ที่เป็นตลาดสำคัญๆ ของมารายห์ และมีข้อมูลให้เปรียบเทียบ ซึ่งขณะนี้นั้น ตลาด US เป็นตลาดที่สำคัญที่สุดของมารายห์ คิดเป็น 60-70 % ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งสถานการณ์อัลบั้มมารายห์น่าเป็นห่วง เพราะตอนนี้ตลาดซีดี US drop ลงไปมากๆๆๆ นอกจากปัจจัยในเรื่องการโหลดฟรีที่เป็นเหมือนๆ กันทั่วโลกแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่เกิดกับ US คือวิกฤติด้านเศรษฐกิจ เกิดซัพพลามส่วนเกิน นิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก่อนหน้าของคนมะกันจนเกิดเป็นหนี้สินทำให้ตอนนี้ไม่มีกำลังซื้อมากเหมือนแต่ก่อน นักร้องที่มีแหล่งหากินอยู่ที่ US เลยรับผลกระทบไปเต็มๆ

สรุป ทำนายยอดขาย E=mc2 ทั่วโลก ดังนี้

65% จาก US : 250,000
35% จาก Rest of the world = 1,500,000 (UK:300,000 , Japan:200,000)
Total 4,000,000 copies
Estimated 4,000,000-4,500,000 copies

Hard Candy รออีกหน่อย เตรียมไว้แล้วละ ช้าสุดวันจันทร์ ขอตัวไปขี้เกียจก่อน

อิอิอิ คิกคักๆๆๆ

แก้ไขล่าสุดโดย รักเธอจริงๆ มาดอนน่า เมื่อ Sat May 24, 2008 10:22 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

ทิวทิวา พิมพ์ว่า:
อยากทราบว่าราคาซีดี มีผลต่อยอดขายมั้ยค่ะ

ถ้าเป็นที่อังกฤษนี่เจ๊ว่าไม่น่ามีผลมากอ่ะค่ะเนื่องจากองค์ประกบหลายๆด้านทั้งคุณภาพชีวิตและรสนิยมการเสพย์ดนตรีเป็นศิลปะเข้าเส้นเลือดอยู่แล้ว แต่พอมาดูข้อมูลของพี่รักเธออย่างละเอียดอีกทีในเรื่องของซัพพลายส่วนเกินและกำลังในการซื้อที่ลดลงไปของอเมริกานี่ก็เชื่อว่าส่งผลกระทบพอสมควรเลยทีเดียวอย่างที่พี่เขาได้บอกไปน่ะค่ะ แต่ไม่น่าเชื่อเนอะว่าภาพสยๆของอเมริกาจะประสบสภาวะเศรษฐกิจเป็นพิษถึงขั้นกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงสำหรับเจ๊คิดว่านี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างวิกฤตนะคะเราเพราะอเมริกาประสบสภาวะนี้มาในระยะที่ค่อนข้างยาวอยู่ แต่ถ้าเป็นที่บ้านเราน่มีผลมากๆแน่นอนขนาดซีดีก็อปราคา100แถวข้าวสารเพื่อนเจ๊บางคนยังต่อเลยคิดเอาแล้วกัน

_________________