1. Five Seconds (Feat. Odd Nosdam)
2. Mojo (Feat. Rahzel & Dan The Automator)
3. Don't Even Trip (Feat. Amon Tobin)
4. Getaway (Feat. Kool Keith)
5. Your Neighborhood Spaceman (Feat. Jel & Odd Nosam)
6. Kill The dj (Feat. Massive Attack)
7. Caipirinha (Feat. Bebel Gilberto)
8. Celebrity Death Match (Feat. Kid Koala)
9. How u Feelin? (Feat. Doseone)
10. Sucker (Feat. Norah Jones)
11. We're Not Alone Remix (Feat. Dub Trio)
เฮียไมค์ แพตตันจะขยันไปถึงไหนล่ะนี่ งานชุดนี้ก็เป็นโปรเจ็คร่วมล่าสุดของพี่แก รองลงมาจากงานหลักๆในปัจจุบันอย่าง Fantomas ช่วงเวลาที่แกทำโปรเจ็คนี้อยู่ (ปี 2006) แกก็ได้ไปร่วมงานพี่ซอร์นอีกด้วย ซึ่งแกรับหน้าที่ร้องเพลงได้อย่าง "บ้าพลัง" และทุกอัลบั้มของพี่ซอร์นที่มีเฮียไมค์อยู่นี่จะเป็นแบบนี้ทุกชุดไปคือ โหดเหี้ยม อำมหิต และไม่สนใจใครทั้งนั้น และงานดนตรีช่วงหลังๆที่แกทำก็เริ่มจะมีความแตกต่างจากงานเก่าๆอย่างที่เคยทำใน Mr.Bungle (ที่แกหิ้วเทรเวอร์ ดันน์ มือเบสไปเล่นให้พี่ซอร์นด้วยนั่นเอง) และ Faith No More ผู้บุกเบิกเมทัลสุดล้ำขึ้นมา เริ่มจาก Fantomas ที่เป็นงานอวองการ์ดเมทัลที่กระหน่ำกันอย่างสะใจ โดยมีมือกลองอดีต Slayer อย่าง เดฟ ลอมบาร์โด มาช่วยด้วย (จากแธรชมาอวองการ์ด จะเป็นอย่างไรล่ะนี่) และก็ Tomahawk ที่ดูจะเป็นเหมือนงานเดี่ยวของแกที่หลุดไปทางอิเลกโทร และล่าสุดก็คืองานปกเหลืองๆชุดนี้... (อันที่จริงหลังจากนั้น Tomahawk มีออกอัลบั้ม Anonymous มาด้วย)
ค่าย Ipecac Recordings ก่อตั้งโดย Mike Patton ฉะนั้น โปรดักชั่นของแกก้ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ดูตัวอย่างได้จากแพ็คเกจของงานชุดนี้เลยครับ ลักษณะการเปิดกล่องจะใช้ดึงกล่องซีดีออกมาคล้ายๆปอปอัพ ทำให้มีความเด่นสะดุดตา ใครที่รับออกแบบแพ็คเกจหรือว่ามีโรงพิมพ์ก็ลองมาศึกษาโปรดักชั่นได้จากงานชุดนี้ได้ และคนออกแบบก็หัวใสมากครับที่ทำรูกุญแจไว้ทำให้เหมือนแอบดูหญิงสาวกับลังแต่งองค์ทรงเครื่อง ทำให้รู้สึกเหมือนเราเป็น "ถ้ำมอง" ทำให้เกิดความรู้สึกหื่นกระหายขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลาง สำหรับชื่อ Peeping Tom นี้มีที่มาจากหนังที่พี่ไมค์แกชื่นชอบอยู่นั่นเอง เป็นหนังเก่ายุค 60s ที่กำกับโดย ไมเคิล พาวเวลล์ แกก็ใช้เวลาทำโปรเจ็คชุดนี้อยู่นานทีเดียว
งานดนตรีของชุดนี้เป็นงานแนว "จับฉ่าย" ที่มีระเบียบแบบแผนอยู่พอสมควร ซึ่งพี่ไมค์เองแกก็บอกว่าเป็น "เพลงปอป" ในแบบฉบับที่พี่แกทำขึ้นมาเอง แล้วมันก็ไม่ใช่เพลงปอปบับเบิ้ลกัมอย่างบอยแบนด์-เกิร์ลกรุ๊ปบางวง และมันก็ไม่ใช่อินดี้ปอปใสๆอีกด้วย แต่จะให้ผมเรียกอย่างไรดี มันก็น่าจะเป็น "ดนตรีปอปทดลอง" ก็คงจะได้ละกระมัง มันมีส่วนผสมผสานอยู่เต็มไปหมด ทั้งฮิปฮอป ทริปฮอป แอมเบียนท์ จี(แก็งสตา)ฟังค์ หรือแม้กระทั่ง บอสซาโนวา (อันหลังนี่มันมายังไงผมก็ยังงงๆอยู่นะนี่) แล้วก็ยังมีแขกรับเชิญจากทั่วทุกสารทิศ อาทิ Dan the Automator, Rahzel และที่น่าตกใจคือสองสาวแจ๊สสมัยใหม่ที่มาแบบเกิดคาดคิด คือ เบเบล จิลแบร์โต และ นอร่าห์ โจนส์ (สองคนนี้ไม่น่ามาร้องเลยครับนี่...) งานนี้เราจะฟังเสียงร้องของไมค์ได้รู้เรื่องที่สุด นี่เป็นข่าวดีครับ (เพราะงานแต่ละชุดที่แกทำนี่ร้องไม่รู้เรื่องเสียส่วนใหญ่) ส่วนมือกลองได้ข่าวว่ามี โจ โทมิโน จาก Fugees มาร่วมแจมด้วย ทำให้ภาคกลองบางส่วนมีกลิ่นอายของโซลอยู่ ภาคริทึ่มเด่นๆนอกจากนั้นแล้วก็จะมีกีต้าร์ เบส ซินธ์ และ เทิร์นเทเบิล (มีดีเจมาร่วมเก่าแผ่นด้วยแหละ)
สำหรับเพลงเด่นในอัลบั้มนี้คงไม่ต้องเลือกมาก เพราะสองสาวแจ๊สสมัยใหม่ก็เป็นตัวชูโรงได้ไม่ยากเลย เริ่มจาก Caipirinha ที่เบเบลร่วมร้องนั้นก็เริ่มด้วยดนตรีบอสซ่าก่อนเลยครับก่อนที่จะเข้าฮุคแบบบาดใจสไตล์ป๋าไมค์เขาละ สลับกัยไปมา ส่วน Sucker ก็ถึงคิวของสาวนอร่าห์บ้าง ที่งานดนตรีออกแนวจีฟังค์นิดๆ แต่ขอโทษเถอะครับ ดูเหมือนฝ่ายเจ๊นอร่าห์จะถอดคราบนักร้องสาวแจ๊สออกจนหมดแล้วมาร้องเสียงสุดยั่วยวนให้ใจหนุ่มๆละลายไปเป็นแถว อีกหนึ่งเพลงที่ว่าเด่นหน่อยก็น่าจะเป็น Kill the DJ ที่มีแขกรับเชิญเจ้าลัทธิทริปฮอปอย่าง Massive Attack ลัดฟ้ามาจากอังกฤษ ซึ่งแนวดนตรีในเพลงนี้มันก้ออกจะใกล้เคียงของฝ่ายหลังบ้าง แต่พอสักพักมันจะมีกลิ่นอายทดลองคลุ้งกระจายไปทั่ว (ที่จริงมันก็ทั่วทั้งอัลบั้มเลยนะครับ) สำหรับสามเพลงนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น ส่วนเพลงอื่นคุณผู้ฟังคงต้องลองไปค้นหาแล้วละ
งานชุดนี้ของไมค์นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็คที่ "หลุดแนว" ที่สุดของตัวแกเองเลยก็คงได้ เนื่องจากปกติแกทำงานที่เป็นอวองการ์ดมามาก แต่พอมาชุดนี้จะกลายเป็นงานอิเลกโทรนิกปอปสายทดลอง ซึ่งอาจจะทำให้ดูแปลกๆหูไปบ้างสำหรับแฟนเก่าของ Mr.Bungle หรือ Faith No More อีกอย่างก็คือ งานชุดนี้เคยขึ้นไปอยู่ในอันดับสูงสุดในบิลบอร์ดอยู่ที่ 103 ของอัลบัมชาร์ต ซึ่งน่าจะเป็นสถิติที่ดีที่สุดของค่าย Ipecac ที่แกเป็นเจ้าของก็ได้ สำหรับคนที่ชอบเพลงปอปที่ไม่จำเจ งานชุดนี้ก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าจะทดลองฟัง ส่วนแฟนเก่าๆของพี่ไมค์ก็ไม่น่าจะพลาดเช่นกัน แล้วเราจะมาติดตามต่อไปว่าชายหนุ่มนาม ไมค์ แพตตัน จะมีโปรเจ็คอะไรแปลกๆมานำเสนอเหล่าผู้ฟังอีก
