
Carrie Underwood - Carnival Ride (3)
คำสารภาพบาป - จริงๆ รีวิวนี้เป็นรีเควสของน้องพารา ที่ขอเป็นของขวัญวันเกิด ตั้งแต่ ช่วงเมษาแล้ว แต่เจ้ก็ผ่อนผันมาเรื่อยๆ จนเลยเถิดมาถึงตอนนี้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ เพราะไฟในการเขียนรีวิวมันมอดลงไปทุกทีแล้ว แต่หลังจากเปิดอ่านกระทู้รีวิวหลายๆ อัน ไฟก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง และเริ่มคิดได้ว่า ถ้าเราไม่สตาร์ทซะที แล้วมันจะติดมั้ย นี่ก็คืออีก 1 ความภูมิใจ และความสุขในการถ่ายทอดของเราเหมือนกัน เอาเป็นว่า มาช้าหน่อยยังดีกว่าไม่มานะคระ
คำสารภาพบาปของอัลบั้ม - แนวคันทรี่ย์ เป็นแนวที่เจ้ชอบนะ แต่ไม่ถนัดเลย เพราะเจ้จะชอบดนตรีในแนวของการเล่นรายละเอียดดนตรีมากกว่าการเน้นการถ่ายทอดในแบบนี้ เพราะฉะนั้น นี่คงเป็นรีวิวที่ไม่ดีนัก เพราะตัวอัลบั้ม ไม่มีรายละเอียดดนตรีให้พูดถึงแน่นอน เพราะมันมีแค่ คันทรี่ย์ ชิงๆ เลย แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วกันคร่ะ
เกริ่นนำ นักร้อง - Carrie Underwood ตอนนี้ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จัก ในมุมของนักฟังเพลงสากลอย่างบอร์ดเรา แต่เอาน่า เผื่อเด็กน้อยที่เพิ่งเริ่มฟัง ก็จะเกริ่นให้ เธอคือผู้ชนะ รายการ การประกวดร้องเพลงที่โด่งดังที่สุดของอเมริกาที่ชื่อ American Idol โดยได้ในปีที่ 4 ผลผลิตของอเมริกัน ไอดอลที่โด่งดังทุกวันนี้ก็มากมายเหลือเกิน ที่ดังมากหน่อย ก็คงเป็น Kelly Clarkson แหล่ะ คนอื่นๆ ยังไม่เห็นแววเท่าไหร่ และก็สาวแครี่ คนนี้อีกคนนี่แหล่ะ
ความสำเร็จครั้งก่อน - Some Hearts คืออัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก ของแครี่ ที่ออกมาหลังจากหลังจากที่เธอชนะการประกวด และโด่งดังเป็นพลุแตกมาก ทั้งยอดขายที่ล่มทลาย ขายได้มากกว่า 6.5 ล้านแผ่นในอเมริกา และ 9 ล้านแผ่นทั่วโลก รวมถึงเพลง Before He Cheats เป็นเพลงที่อยู่ในชาร์ท บิลบอร์ดยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 3 กว่า 64 สัปดาห์ ( 1 ปี 3 เดือนแหน่ะ) (แพ้ How Do I Live ของลีแอน ไลม์ 69 Wks และ You Were Meant For Me"/"Foolish Games ของ Jewel 65 Wks.) ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้เธอเป็นศิลปินหน้าใหม่ของวงการลูกทุ่ง ที่ประสบความสำเร็จ และน่าจับตามองมากคนหนึ่งของวงการเพลง
รูปแบบเพลง นี่เป็นอัลบั้มที่ 2 ของแครี่ย์แล้ว แน่นอนว่า ความเข้มข้นของดนตรีจะต้องหนักขึ้น และมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แน่นอนว่า อัลบั้มนี้ มีแนวเพลงหลักคือ Country ที่สูงจัดมาก จนเบียดแนว Pop ลงไปจนเหลือบางเบาเหลือเกิน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น แซมมานิดหน่อย ทั้ง Rock บางเบา และบราๆ น้อยมากจนมองแทบไม่เห็น
จุดเด่น พัฒนาการ คงเป็นคำที่ตอบทุกคำถามได้ชัดที่สุด และมันคือสิ่งที่นักร้องทุกคนพึงมี ไม่ว่าใครก็ตาม แครี่แสดงออกมาให้เราเห็นได้ชัดที่สุดว่า เธอไม่ใช่เพียงนักร้องกะโหลกกะลา ที่ดีแต่แหกปาก ตะเบ็งโชว์เสียงร้องทรงพลัง เพื่อให้เพลงน่าฟัง หากแต่เธอเพิ่มลูกเล่นการใช้เสียงให้ดูเข้มแข็งขึ้น และมีมิติในการถ่ายทอดมากขึ้น รวมถึงการเลือกเสียงที่เหมาะกับการถ่ายทอดในแต่ละแทรค จนทุกเพลงในอัลบั้มเรียกได้ว่ามีการใช้เสียงสมบูรณ์แบบมาก ตัวอัลบั้มเอง ก็มีความเป็นเอกภาพสูงมาก และจุดยืนบนรากฐานที่เธอตั้งไว้อย่างชัดเจน เหมาะมาก สำหรับคนที่รักในการฟังเพลงแนวนี้ และนี่เป็น 1 อัลบั้ม ที่เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่มีคุณภาพมากจริงๆ
จุดด้อย เนื่องจาก เธอลดบทบาทในส่วนผสมของ Pop ลงไปมากพอสมควร ทำให้แน่นอนว่า เธออาจจะเสียฐานแฟนเพลงส่วนใหญ่ไปค่อนข้างมาก เพราะตัวเธอเองนั้น ก็มาจากเวทีการประกวดเพลง Pop ซึ่งฐานแฟนจะเยอะและกว้างมากกว่า แต่เธอกลับเลือกมุ่งเดินหน้าสู่สิ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่ ซึ่ง มันก็เป็นเหมือนดาบ 2 คมนั่นแหล่ะ แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะงานดี มีคุณภาพ ทุกอย่าง ย่อมที่จะตามมาเอง อีก 1 สิ่ง ที่เชื่อว่าไม่ใช่ปัจจัยจากตัวเธอเอง แต่เป็นปัจจัยที่คนอื่นมองมากกว่านั่นคือ ความเป็น คันทรี่ดิว่าส์ หลายต่อหลายคนเริ่มมองเห็นความเป็นดิว่าส์ในตัวเธอเฉิดฉายออกมา แต่อีกด่าน ที่เหล่าดิว่าส์ให้ต้องสู้รบก็คือ การเปรียบเทียบ และการหนีออกจากเงา ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้ ดิว่าส์ลูกทุ่งนั้น มีมากมายเหลือเกิน ทั้งควีนตัวจริงอย่าง Shania หรือ คู่แข่งคนเก่งอย่างFaith Hill และยังมี ทั้งป้ารีบ้า แมคอินไทร์ รุ่นเล็ก รีแอนไลม์ และ ล่าสุด เกรนเช่อ วิลสัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี่ คือด่านที่เธอต้องฝ่าไปให้ได้ เพราะ วงการลูกทุ่งมันค่อนข้างแคบ ไปถึงแคบมาก ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอเอง ก็มีเสียงร้อง และวิธีการร้องที่คล้ายหลายๆคน ทั้งเฟธ ฮิล หรือ ลีแอนไลม์ก็ตาม เมื่อไหร่ที่เธอค้นหาจุดที่เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ และหนีเงา 2 คนนี้ออกมาได้ นั่นคือวันที่เธอเป็นแถวหน้าของวงการแน่นอน
Track By Track
So Small (3.5) ซิงเกิ้ลแรกเปิดตัวอัลบั้มที่โด่งดังเหลือเกิน เพราะนังสก๊อยดาบ้านเรา ทำงามหน้า ก๊อปเพลงนี้ไปแบบดื้อๆ ให้ประชาชีให้ด่ากันจนมันปาก แต่ดูชีก็ไม่สะทกสะท้าน ยังคงโปรโมทมันต่อโดยให้แฟนคลับสก๊อยของชีทนฟังไป อย่างงี้แหล่ะ เมืองไทย โดนปิดหูปิดตาโดยค่ายเทป ที่สักแต่เอาเพลงสั่วๆ มายัดเยียดให้ผู้ฟังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ฟัง เพียงเพราะมันมีเงินทุนในการทุ่มกับสื่อเยอะ เฮ้อ ... กับเข้าเรื่องเพลงดีกว่า ขึ้นต้นเพลงกับ อินโทรแสนเหงาหงอย แต่ไพเราะบาดจิตทั้งน้ำเสียงและการถ่ายทอด ต่อสิ่งที่ให้กำลังใจจากเนื้อเพลงที่กล่าว แครี่ทำได้ดีหมดจด เสียดาย มาตายตอนท้ายนิดหน่อย สำหรับเนื้อเพลง ที่ให้เชื่อมั่นในความรักโดยโยงเข้ามาอย่าง งงๆ ว่าเกี่ยวอะไรกันหรอ แต่เนื้อเสียงของแครี่นั่น หนักแน่น และมีพลัง รวมถึงเป็นเสียงที่ดี ที่เชื่อมั่นในการถ่ายทอด อ่อ พลาดอีกหน่อยตรงที่ เพลงนี้รายละเอียดดนตรีเบาเกินไปหน่อย ยิ่งช่วงร้องเบาๆ ดนตรีเหมือนถูกกลืนไปเลย ทำให้ช่วงจังหวะเพลงดูแปลกๆ โอเครนะคือ มีหนักเบา แต่มันไม่สมดุลอ่ะคร่ะ
All-American Girl (4.5) ซิงเกิ้ลที่ 2 ที่เพิ่มอรรถรสการเป็นลูกทุ่งได้อย่างจัดจ้าน และสนุกสนาน ตามแบบลูกทุ่งของแท้ รวมถึงเนื้อเพลง ที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกตรงไปตรงมาซื่อ ๆแบบบ้านนอกขนาดแท้ แต่แปลไปแปลมา ยิ่งแปลยิ่งฮา กับเพลงนี้ เนื้อหาตลกดี มีโอกาสลองไปเปิดอ่านนะ แต่ทว่าตัวเพลงนั้น มีเสน่ห์ และดึงดูดมาก เสียงไวโอลินโดดเด่น คลอกับเสียงเข้ม ๆของแครี่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งท่อนโหนเสียง แครี่ทำได้ดีมาก ถือเป็นอีกเพลงที่เพราะมากของอัลบั้มเลย
Last Name (2) ซิงเกิ้ลที่ 3 ของอัลบั้มนี้ ที่เนื้อเพลงก็ทำให้เราขำอีกแล้ว เนื้อเพลงพูดถึงสภาวะของผู้หญิงรั่วๆ ที่บังเอิ้ญไปเจอผุ้ชายเมาๆ แล้วก็ลากเข้ามาคุย ตื่นมาอีกทีก็อุทานว่า ว้าย ฉันทำอะไรไปเนี่ย แล้วคุณเป็นใค อร้ายยย รั่วมากคร่ะ แม่แครี่ ตัวเพลงเองนั้น เหมือนจะให้เพลงนี้เป็นต่อ จากเพลงเก่ง Before he cheat ที่โด่งดังมาก แต่ตัวเพลงกลับด้อยลงไปกว่ามาก เสียงแครี่เอง ก็ไปเล่นเสียงลูกเล่นแบบคนเมามากเกินไป จนไม่น่าฟัง ก็เข้าใจว่าจะสื่อมาตรงๆ แบบนั้น แต่ฟังแล้วมันตลกมากกว่า ดนตรีเองก็ไม่เด่นเท่าที่ควร ทำให้เพลงนี้ไม่โด่งดังเหมือนที่ตั้งใจเท่าไหร่นัก เอาเป็นว่า ไว้ฟังเพลินๆ ขำๆ ก็แล้วกัน
Flat On The Floor (3) ถ้าจะให้พูดถึงเสน่ห์ของเพลงลูกทุ่ง สิ่งนึงที่หลายๆคนคงคิดถึง นั่นคือเสียงกีต้าร์แบบเฉพาะตัว ซึ่งเพลงนี้ก็เอามาไส่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งตอนเป็นอินโทรเปิดเพลง และเปิดอัลบั้ม รวมถึงการเพิ่มรายละเอียดดนตรี ลงไปอย่างหนักแน่น นั่นคือเพลงลูกทุ่งที่หลายๆคนนิยมทำ และเราๆ คุ้นหูมากที่สุด โดยตัวเพลงนั้น มีเสน่ห์ในตัวอยู่แล้ว รวมถึงการร้องและการถ่ายทอด แม้เพลงนี้ เสียงแครี่อาจจะไม่เด่นเท่าไหร่นัก แต่โดยรวมเรากลับมองว่ามันพอดีนะ แต่เพลงนี้การใช้เสียงแครี่พลาดไปนิดหน่อย เพราะท่อนที่ต้องโหนเสียง หรือลักษณะการใช้เสียงบางที มันต้องมีการเอื้อน การไล่คีย์อื่นๆ ในเสียงบ้าง แต่เธอกลับปล่อยเสียงออกมาแบบดื้อๆ ทื่อๆ ทำให้ขาดเสน่ห์เสียงหลายอย่าง เนื้อเพลงไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก
Just A Dream (4) บัลลาดเพลงแรกที่เพิ่งได้ยินจากอัลบั้ม ที่เนื้อหาเศร้า และบาดลึก ชวนสะเทือนใจอย่างมาก พูดถึง สงคราม การจากลาจากการตาย และหวังแค่ว่าให้มันเป็นเพียงฝันไป เพลงนี้ แครี่ก็ยังคงถ่ายทอดได้อย่างสุดยอดเหมือนเดิม ผสานกับดนตรี ที่แม้อาจจะบางไปหน่อยสำหรับเพลงนี้ แต่คิดว่าก็เหมาะกับเพลงที่เน้นอารมณ์มากๆ แบบนี้แหล่ะ อ่อ เพลงนี้เสียอย่างเดียว แครี่หลบเสียงไม่เพราะเลย ไปฝึกมาใหม่นะ แต่นอกนั้น องค์ประกอบโดยรวมอื่นๆ ก็ทำให้เพลงเพราะขึ้นได้ แต่ถ้ามองตามตลาดลูกทุ่งกว้างๆ เพลงนี้ไม่ได้โดดเด่นมากมายเท่าไหร่นัก เพราะคนอื่นๆ ก็ทำได้ ถือเป็นเรื่องมาตรฐานของตลาดลูกทู่งมากกว่า
Get Out Of This Time (2) เพลงนี้จะออกไปทาง พ๊อพร๊อคมากกว่า ความเป็นลูกทุ่งเจือปนมานิดหน่อย เลยทำให้เพลงดูจืดลงไปถนัดตาด้วย เนื้อเพลงเองก็ไม่มีอะไรโดดเด่น การถ่ายทอด็ธรรมดา ถือเป็นเพลงที่ธรรมดามากเพลงนึงในอัลบั้ม ฟังได้เพลินๆ นะ แต่ถ้าจะอะไรมาก ก็ไม่มีหรอก
Crazy Dreams (2.5) อารมณ์เพลงแบบคาวบอยสูบฉีด ตั้งแต่อินโทรขึ้นเพลงมา เด่น เตะตามาก นึงถึงซาวด์เก๋แบบอิเลคโทรนิก้านิดๆ เลยนะ แต่พอเข้าเพลง ดนตรีทุกอย่างกลับบางเบาลงเหลือเกิน แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะยังมีการผสานรูปแบบของเครื่องดนตรีหลายๆ แบบ ผสานมาอย่างลงตัว ลักษณะการร้องของแครี่เพลงนี้ไม่มีอะไรมากมาย ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานนั่นแหล่ะ จะเด่นที่เรื่องของซาวด์มากกว่า แต่รวมๆ เราก้ะยังมองว่าไม่ได้ดีเด่มากนัก
I Know You Wont (1) อีก 1 บัลลาดแสนเศร้า แต่ไม่เศร้ามากเท่าไหร่ แครี่ยังคงมีปัญหาหลัก นั่นคือเสียงหลบของเธอ ทั้งไม่เพราะ และขาดเสน่ห์เหลือเกิน ซึ่งเพลงนี้ต้องใช้มากด้วย ทำให้ความเพราะของเพลงลดไปแล้วระดับ 1 และอีก 1 ปัญหาของเพลงนี้นั่นคือ เนื้อเพลงเองนั่นแหล่ะ แสนจะไม่มีอะไรเลย ทำให้แครี่ ต้องร้องแต่คอรัสเดิมๆ ซึ่งตัวคอรัสเอง ก็ต้องอาศัยการโหนเสียงทั้งคีย์สูง และการลากเสียงยาวๆ คนที่ชอบโชว์พาวก็คงชอบ แต่ถ้ามากรอบเข้า รับรอง บ่นกันแน่ๆ คร่ะ ว่ามันน่ารำคาญ ตัวเพลงก็ไม่มีอะไร และที่สำคัญ ฟังได้ไม่เกินวันละ 2 รอบเท่านั้นคร่ะ
You Wont Find This (2.5) ต่อด้วยอีก 1 บัลลาด ที่ด่ากราดผู้ชายได้สะใจยิ่งนักว่า อย่าได้กลับมาอีกเลย ร่านดีนักก็จงไปตามทางซะเหอะ บัลลาดเพลงนี้ แม้แครี่จะไม่ได้ใช้พลังเสียงมากนัก แต่เราว่าเพลงนี้เธอทำได้ดีกว่า 2 เพลงข้างบนนะ ทั้งองค์ประกอบดนตรีที่เป็นลูกทู่งเข้มข้น รวมถึงการใช้เสียง ทั้งเอื้อน ทั้งโหน และอารมณ์เพลง ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก เสียแต่ว่าเพลงนี้เอง ถ้าเทียบเรื่องความโดดเด่นกับ 2 เพลงข้างบน ยังสู้ได้ยากเหลือเกิน เพราะตัวเพลงเองธรรมดาเกินไปหน่อย ถ้าฟังตอนง่วงๆ หงอยๆ อาจจะเผลอหลับไป
I Told You So (4) เพลงนี้เป็นเพลงคัฟเวอร์เพลงดังตั้งแต่ปี 1988 ของ Randy Travis มา สานต่อบัลลาด 3 เพลงรวด แต่เพลงนี้แหล่ะ ถือว่าเป็นบัลลาดที่ดีที่สุดที่เธอถ่ายทอดมาเลย ทั้งเนื้อหา อารมณ์ และน้ำเสียง ผสานกับกีต้าร์อครูสติดเบาๆ รวมกับองค์ประกอบเสียงเอื้อนของดนตรีอีกนิดหน่อย ทำให้ได้บัลลาด ที่ทั้งนุ่ม ลึก และสัมผัสได้ออกมา รวมถึงอารมณ์เหงา หงอย ถือเป็นบัลลาดที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มแล้ว
More Boy I Met (2) อีกเพลง ที่ชีกัดผู้ชายได้เจ็บถึงทรวงเหลือเกิน ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า The more boys I meet the more I love my dog แต่ตัวเพลงกลับออกมาดาดๆ ดื้อๆ แบบธรรมดาไปหน่อย การร้องเสียงแครี่ก้แปลกๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ชอบเลย เหมือนไม่ใช่เพลงแครี่ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ขึ้นสูงนี่ จะไม่รู้เลยนะ เป็นอีกเพลงที่ฟังได้ผ่านๆ เพลินๆ แต่ไม่เด่น
Twisted (3) พ๊อพร๊อคจังหวะมันส์ๆ อีกเพลง ที่ฟังได้เพลินๆ ตัวเพลงเองก็ถือว่าทำได้มาตรฐานที่ดี แครี่ไม่มีปัญหาเรื่องการร้องเพลงเร็วอยู่แล้ว อีกอย่าง เพลงนี้ เสียงหลบเธอก็ใช้ได้ดีกว่าเพลงอื่นๆ แต่ก็ยังไม่เข้าขั้นอยู่ดี โดยรวมตัวเพลงก็โอเครเลยแหล่ะ มันส์ดี แต่มันดูหลุดออกมาจากภาพรวมอัลบั้มค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ เพราะแทบไม่มีกลิ่นลูกทู่งเลย แต่ก็ดีแหล่ะ เบรกอารมณ์เพลงแบบนั้น มาสนุกบ้าง ก็เข้าท่านะ แม้ว่าจะมาเบรคเอาตอนท้ายอัลบั้มก็เหอะ
Wheel Of The World (3) บัลลาดปิดท้ายอัลบั้ม ทีดูปลงๆ กับชีวิตเหลือเกิน เมื่อดูพล่ามถึงแต่วัฏจักรของโลก ก็เข้าใจนะ ว่ามันคือความจริงของโลกใบนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือหยุดมันได้ แต่เธอปลงไปมั้ยคระ กับเพลงนี้ โอเครนะ ดนตรี ผสานการถ่ายทอดแบบเยือกเย็น แต่ดูสุขุม ทำให้ตัวเพลงมีมนต์ขลัง และน่าค้นหามากขึ้น รวมถึงการร้องแบบเปลี่ยนชาแนลเสียงมากมาย แต่เธอก็ยังคุมมันอยู่ ไม่มีปัญหาในเรื่องการร้อง แต่มีปัญหากับการสื่อของเธอมากกว่า ว่าต้องการจะสื่ออะไร คือถ้าสื่อแบบตรงๆ ก็โอเครนะ แต่ถ้าสื่อแบบกัด นั่นก็อีกเรื่อง เอาเป็นว่า เลือกมองเธอสื่อมาแบบตรงๆ แล้วกัน ไม่อยากคิดมาก
ภาพรวมอัลบั้ม เป็นอัลบั้มที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฟังได้เพราะ ฟังได้เรื่อยๆ เพลินๆ เลยแหล่ะ แต่ก็อย่างว่า นี่เพิ่งเริ่มต้นของการเป็นนักร้องเท่านั้น เธอ และทีมงานด้วย ก็ยังต้องมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกมากมาย ที่สำคัญลำดับแรกเลยนะ ที่เราว่าเธอยังต้องปรับปรุง นั่นคือ คาแรคเตอร์ในแบบแครี่นั่นแหล่ะ ไม่ว่าจะทั้งเพลง เสียงร้อง การถ่ายทอด เธอทำได้ดีแล้ว แต่มันยังไม่ถึงที่สุด และยังไม่พ้นเงาหลัก นั่นคือ เฟธ ฮิล แล้ว รีแอน ไลม์ ถ้าจะถามว่าเรียกเธอว่าดิว่าส์ได้หรือยัง เรายังตอบไม่ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะส่วนตัวยังไม่เห็นถึงจุดที่โดดเด่นของเธอมากนัก แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่า อนาคตอันใกล้นี้ เธอต้องเป็นดาวอีกดวงของวงการเพลงลูกทุ่งอเมริกันที่น่าจับตามองมากๆ เลยแหล่ะ เพราะเรื่องพัฒนาการ เมื่อเทียบกับชุดก่อน เธอกระโดดไปไกลมากเลย
สวยเลือกได้

แก้ไขล่าสุดโดย นาโอ เมื่อ Thu Jun 12, 2008 2:51 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
_________________
Kylie Thailand Fansite
