
ณ . นี้กันไม่สงสัยเลยว่าบีได้กลายเป็นสุดยอดนักร้องอีกคนของวงการไปแล้ว ตลอด 11 ปีที่บีแล่นโลดอยู่บนเส้นทางนี้ บีมีผลงานที่ขายไปได้มากกว่า 100 ล้านแผ่น ทั้งในฐานะนักร้องนำของกลุ่มศิลปินหญิงที่มียอดขายมากที่สุดตลอดการและทั้งในฐานะศิลปินเดียวที่มียอดขายได้แบบ multi-platinum ถึงสองอัลบั้ม และก็อย่าลืมสุดยอดรางวัลสำหรับคนทำเพลงอย่างแกรมมี่ที่บีได้มาแล้วถึง 10 ตัว
และถึงแม้ว่าจะให้กล่าวถึงผลงานการแสดงของเธอที่ยังไปได้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำว่าสุดยอดนักร้องก็ยังเป็นคำที่ใช้ได้กับบีอยู่ดี และตอนนี้บีก็กำลังอยู่ในระหว่างการพยายามส่งตัวเองให้ถึงจุดที่สูงกว่าการเป็นสุดยอดนักร้อง นั้นคือการทำตัวเองให้กลายเป็นตำนานระดับไอค่อนของวงการ
เพลงทั้งหมด 11 เพลงในอัลบั้มถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนแยกกันอยู่ซีดีคนละแผ่น โดยแผ่นแรก I Am บีได้ทำเพลงออกมาในแนวเพลงช้าด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องรักใครของผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องรักที่ไม่สมหวังและเรื่องของความปราถนาในรักของรูปแบบต่างๆ เนื้อหาภาคดนตรีเป็นพิอาโนหรือไม่ก็อคุตติกกี้ต้าเป็นหลักซึ่งบีเปรียบงานของตัวเองเหมือนเพลงยุกแรกๆ ของป้า Barbara Streisand และแผ่นที่สอง Sasha Fierce ที่เพลงเปลี่ยนจังหวะให้เร็วขึ้นซึ่งแนวเพลงก็มีตั้งแต่ฮิปฮอปไปจนยูโรป๊อปจวนแจจะเก๋เลยทีเดียว ซึ่งซาวด์ดนตรีต่างๆ ในอัลบั้มไม่เหมาะกับผู้ใดเลยยกเว้นแฟนๆ ของบี
แม้ว่าเพลงจะดีเว่อและเสียงของบีก็เลิศล้านอลังการมากมายแต่เพลงๆ ในแผ่นแรงของอัลบั้มล้วนแล้วแต่เป็นเพลงที่ชวนให้อยากจะเลิกฟังเสียก่อนที่จะได้ฟังจบแผ่น เพราะแทบทุกเพลงไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลย เพลงที่แข็งสุดคือ Hola เพลงที่เนื้อหาบอกเล่าถึงการแสวงหาคู่แท้ที่มีความหมาย ตรงท่อนที่ร้องซ้ำๆ กันว่า I can see your halo ที่บีถ่ายทอดออกมาได้หวนหาก็ทำให้เพลงนี้ดีพอที่จะเป็นซิงเกิลต่อไปของอัลบั้ม ส่วนเพลงที่ชี้ถึงบทบาททางเพศอย่าง If I were A Boy และ Disappear ก็เป็นแทรกที่โดดเด่นเช่นกัน ซาวด์ดนตรีฟังดูเหมือนงานของบีบวกกับ Coldplay และ U2 และในขณะที่ Ave Maria ก็เป็นเพลงที่โรแมนติกและพิเศษด้วยวีธีการร้องที่บีแสงดให้เห็นแล้วว่าบีไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแต่วิธีการร้องแบบรัวคำเร็วร่วด (licks and runs ) ที่ยากมากๆ แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ของบีและเนื้อเพลงก็หวายมากๆ เหมาะจะเป็นเพลงสำหรับวันแต่งงานหรือเพลงของคู่แต่งงาน
ส่วนอีกแผ่นที่เป็นเพลงเร็วก็ฟังดูไปไม่ถึงเพราะว่าเพลงที่บีกั๊กเอาไว้ไปใส่แต่เฉาะแผ่นดีลุกซ์นั้นเลิศๆ ทั้งนั้น ทำให้เพลงที่มีอยู่ในแผ่นสแตนดาร์ทไปไม่ถึงจริงๆ และแม้ว่าซาวด์แบบยูโรป๊อปจะถูกมองว่าไม่เก๋แล้วมากๆ ในยุกนี้ แต่ถ้านักร้องระดับบีหยิบเอามาทำมันจะต้องเกิดได้อีกแน่ๆ แต่น่าเสียดายที่แม้แต่บีก็ทำให้มันกลับมาเกิดไม่ได้ Radio นั้นอาจจะฟังดูเลิศตรงเสียงร้องโหวยหวนของบีช่วงท่องฮุกและไล่จนจบเพลงแต่มันก็เลอะเทอะ และพยายามมากไป Sweet Dreams ที่หลุดมาก่อนหน้านี้ในฐานะเดโม่ ตอนนั้นใช่ชื่อว่า Beautiful Nightmare ที่ใช้โปรดิวเซ่อคนเดียวกันกับ มิชเชล วินเลี่ยมส์ ซึ่งผลที่ออกมาคือเพลงเน่าหนอนไปตามๆ กันทั้งสองนาง สวนเพลงที่มีกลิ่นอายฮิปฮอปประจำอัลบั้บอย่าง Diva ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เพราะซาวด์มันฟังอย่างกับเพลงน่าปวดหูของ Lil Wayne อย่าง A Milli ที่บีพยายามจะส่งเสริมสถานภาพหญิงด้วยการร้องบอกว่า A diva is a female version of a hustler, แต่มันฟังดูวางท่าเกินตัวและมากมายไปหน่อย ส่วนที่ดีของอัลบั้มนี้อยู่ตรง Single Ladies (Put A Ring On It) ซึ่งก็ง่อยมากๆ เมื่อเที่ยบกันงานเก่าๆ ที่ผานมาของบี และอีกเพลงที่ดีไม่แพ้กันคือ Video Phone เพลงเซกซี่ๆ ที่เก๋ตรงวิธีการร้องเอื้อนทำนองแบบคาริเบียนของช่วงแรงของเพลง แต่มันก็เป็นแทรกสุดท้ายของอั้ลบั้มและก็สายเกินไปแล้วที่จะมาพยุงหน้าตาของอัลบั้มไว้ทัน
บีอาจจะประสพความสำเร็จด้านการใช้ทักษะการร้อง บั้มนี้คือบั้มที่บีฟังดูดีที่สุดอีกบั้มหนึ่ง เสียงของบีแน่น แข็ง และไปได้ตลอดรอดอัลบั้ม แต่ว่าการที่จะส่งตนขึ้นแท่นเป็นตำนานระดับไอค่อนอย่างที่บีต้องการอาจจะต้องใช้เพลงอีกอัลบั้มเพื่อส่งตัวเองไปให้ถึงจุดนั้น
สรุป
เหมาะกับแฟนเพลงของบีและผู้ที่ไม่มีอะไรจะฟัง ซึ่งก็น่าจะไม่มีผู้คนแบบหลังเหลืออยู่
เพลงที่น่าสนใจ If I Were a Boy, Ave Maria, Single Ladies (Put a Ring on It), Video Phone
เพลงที่น่าช้ำใจ บอกได้ว่าแทบจะทุกเพลง
สิ่งที่น่าสนใจ บีก้าวออกจากเงาของอาร์แอนด์บีและฮิปฮอปไปสู้กระแสป๊อปมากขึ้น กล้าที่จะจับซาวด์แบบยูโรมาทำ ถึงจะไปไม่รอดแต่บีก็ยังกล้าที่จะทำอะไรมากกว่าย่ำย้ำอยู่กับสิ่งเดิมๆ อีกทั้งคุณภาพเสียงบีไม่มีถดถอยกลับฟังดูดีขึ้นกว่าที่แล้วๆ มา แฟนๆ ของบีจะไม่ละทิ้งบีแมว่าบีจะเริ่มเปลี่ยนแนว แต่นั่นเพราะบีเปลี่ยนไปทีละนิดไม่ได้พรวดพราดแบบอาวริวจนทำให้แฟนๆ รับไม่ได้ไปตามๆ กัน
ยังไงอัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มหวังรางวัลและยอดขายได้แน่นอน
7/10
I love Neon Limelight
แก้ไขล่าสุดโดย Back in Black เมื่อ Mon Nov 24, 2008 6:28 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง