หนุ่มหล่อคนนี้หน้าตาออกไปทางสแกนดิเนเวียพอสมควร แต่ตัวจริงนั้นเขามาจากหมู่เกาะแฟโรส์ ชื่อจริงว่า Teitur Lassen (ชื่ออ่านว่าอย่างไรใครรู้ช่วยมาแจ้งด้วยครับ) พ่อหนุ่มคนนี้เคยอยู่วงปอปร็อคท้องถิ่นมาก่อน แต่ภายหลังเขาก็ผันตัวมาเป็นสิลปินเดี่ยวเสียเลยโดยที่เริ่มแต่งเพลงเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่นั้น เขาไปมีเครดิตให้กับเพลงประกอบภาพยนตร์สองเรื่อง คือ My Super ex-Girlfriend และ Aquamarine ส่วนผลงานของตัวเองก็มีแล้วสี่ชุด (รวมอัลบั้มที่เป็นภาษาแฟโรสที่ออกเมื่อปีที่แล้วด้วย) ส่วนชุดล่าสุด The Singer ก็เพิ่งจะออกมาเมื่อต้นปีนี่เองกับค่าย Arlo & Betty
1. The Singer
2. Your Great Book
3. Girl I Don't Know
4. We Still Drink the Same Water
5. Catherine the Waitress
6. Legendary Afterparty
7. Guilt by Association
8. Start Wasting My Time
9. Letter from Alex
10. Don't Let Me Fall in Love with You
11. You Should Have Seen Us
งานเพลงของพ่อหนุ่มคนนี้ดูจะมีอารมณ์ที่ใกล้เคียงกับ Aqualung ในชุดแรกๆ แต่จะความแตกต่างตรงที่เป็นปอปมากกว่า มันเป็นงานที่ดูอารมณ์ดีในบางจังหวะ และก็หม่นหมองในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนเรื่องการเขียนเนื้อเพลง เขาก็สามารถสื่ออารมณ์ได้ดีมาก อย่างเพลงไตเติ้ลแทร็คเปิดอัลบั้ม ประโยคแรกๆของเพลงที่ว่า I always had the voice and now I am a singer. The audience grows silent when I open my mouth. ที่ทำให้รู้สึกราวกับว่าตัวเรานั้นกำลังร้องเพลงให้คนอื่นฟังอยู่จริงๆ หรืออย่าง Your Great Book ที่ให้อารมณ์เหมือนกับถูกหักหลัง ซึ่งเขาก็ใช้คำเสียดสีได้อย่างคมคาย เขามีวิธีการเปรียบเปรยเรื่องราวในเพลงได้อย่างฉลาด แต่เพลงอื่นๆเขาก้เขียนได้ดีเหมือนกับการเขียนเรื่องสั้นหนึ่งเรื่อง ที่มีทั้งอารมณ์ที่เป็น Nostalgia และความหม่นหมองอยู่ในงานชุดเดียวกัน
ส่วนภาคดนตรี ถึงแม้จะเป็นปอปร็อค แต่ว่ามีการผสมผสานกลิ่นอายเก่าๆเข้าไปบ้าง และเครื่องดนตรีที่ใช้นั้นก็มีหลากหลาย ทั้ง บรรดาเครื่องเป่า วิโอลา มาริมบา คีย์บอร์ดเซคชั่น ส่วนกีต้าร์ เบส กลองก็จะทำหน้าที่ในส่วนของริทึ่มเซคชั่น แต่เราอาจจะได้ยินเสียงกีต้าร์น้อยหน่อย เพราะงานชุดนี้จะเน้นอารมณ์ไปที่เครื่องเป่ามากกว่า และอีกส่วนที่มีบทบาทอยู่พอสมควรก็คือ กลุ่มเสียงร้องประสานที่คอยร้องพื้นพร้อมกับสร้างสีสันให้กับภาคดนตรีร็อคที่เรียบง่าย รวมทั้งส่งเสริมให้เสียงร้องของ Teitur ให้โดดเด่นขึ้นไปอีกด้วย ส่วนเสียงร้องของเจ้าตัวเองก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ภาคดนตรีเลยละ เขารู้วิธีการใช้จังหวะเพื่อให้เข้ากับภาคดนตรีโดยธรรมชาติ ทำให้อารมณ์ของแต่ละเพลงนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ภาคดนตรีในอัลบั้มนี้บางเพลงอาจจะทำให้นึกถึงพ่อหนุ่ม Sufjan Stevens ในชุด Illinois ได้นะขอรับ
เพลงตัวอย่างที่ผมจะเลือกมาในอัลบั้มนี้ก็มีไตเติ้ลแทร็ค ที่เน้นไวบราโฟนตามด้วยเสียงร้อนประสานไปตลอดเพลง ทำให้เสียงร้องนำมีความโดดเด่นขึ้นมา ยิ่งเขาถ่ายทอดอารมณ์ได้มากเท่าไหร่ เพลงนี้จะทำให้อินได้ไม่ยากเลยละ ผมชอบประโยคสุดท้ายที่ว่า They just want me to understand and I sing to be loved. ที่เขาทิ้งท้ายได้อย่างน่าขนลูกทีเดียว เพลงต่อมา Letter from Alex ที่เน้นเครื่องลมทองเหลืองกับการร้องยูนิซันเป็นหลัก ในเพลงนี้ เครื่องเป่าทำหน้าที่ได้อย่างน่ารักน่าชัง แล้วมาท่อนหลังๆก็จะมีกีต้าร์โปร่งเกาคลอมาด้วย และ Guilt by Association เด่นที่วิธีการร้องเหมือนเล่านิทาน ซึ่งจะทำให้โทนของเพลงออกมากึ่งๆอุปรากรเลยทีเดียว และเครื่องดนตรีก็ไม่ได้ใช้มากมายด้วย แค่เบส (อัพไรท์เบส) วิโอลา และกลองอีกนิดหน่อย เท่านั้นเอง...
งานชุดนี้โดยรวมแล้วจะให้อารมณ์ที่ค่อนข้างจะไปทางหม่นหมองเล็กน้อย แต่ว่าถ้ามองอีกมุมเราก็จะได้ศึกษาภาคดนตรีไปด้วย เนื่องจากเครื่องดนตรีที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดนตรีสด และด้วยความที่มีเครื่องดนตรีสดอยู่มากนี้เองก็อาจทำให้อารมณ์เพลงสดใสขึ้นอยู่พอควร เราจะเข้าถึงเพลงเหล่านี้ได้ไม่ยากเลย เรามาสนุกไปกับงานหม่นๆปนน่ารักของ Teitur กันเถอะ
