
1. KD’s Motion
2. Funk in Deep Freeze
3. Melanie
4. Melody for C
5. Lotus Blossom
6. Eastern Incident
7. Peckin’ Time
8. Blues, Blues, Blues
9. Blue Minor I
10. This I Dig for You
11. Venita’s Dance
12. News for Lulu
13. Ole
14. Sonny’s Crib
15. Hank’s Other Time
16. Blue minor II
17. Windmill
18. Melanie (Live) (*)
19. News for Lulu (Live)
20. Funk in Deep Freeze (Live)
21. Windmill (Live)
อัลบั้มนี้ถือเป็นนี้เป็นนำเพลงเก่าเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ได้อย่างน่าสนใจอีกหนึ่งชุด สำหรับเพลงที่เอามานั้นจะเป็นเพลงที่ประพันธ์ไว้โดย เคนนี่ ดอร์แฮม และผองเพื่อน (ลุงเคนนี่คนนี้เป็นผู้ที่ได้ประพันธ์เพลง Blue Bossa ขึ้นมา) ในยุคสมัยของการริเริ่มของดนตรีบีบอพและฮาร์ดบอพ ช่วงแรกๆ บรรดาเพลงเหล่านี้จะบรรเลงกันแบบเต็มวง คือ มีริทึ่มเซคชั่นกันครบเครื่อง แต่เมื่อลดจำนวนเครื่องดนตรีลงมาจนเหลือแค่สามชิ้นล่ะจะเป็นอย่างไร ชิ้นแรกคือ อัลโต้แซกโซโฟนของพี่ซอร์นเอง ชิ้นต่อมาคือ กีต้าร์ของลุงบิล ฟริเซล และสุดท้ายเป็นทรอมโบน โดย จอร์จ หลุยส์ ซึ่งรายหลังนี้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อมากนัก แต่ถ้าคนฟังแจ๊สเก่าๆก็ไม่แน่เช่นกัน
เรื่องการบรรเลงนั้นแต่ละคนก็ไม่ได้ทิ้งสไตล์ของตัวเองไปเสียเท่าไหร่ โดยเฉพาะพี่ซอร์นนี้ดูจะมีความโดดเด่นกว่าเขาเพื่อนเลยเสียด้วยซ้ำ หลังจากที่ผมซื้อแผ่นมาเปิดฟังครั้งแรกในวอล์คแมน เสียงแซกโซโฟนเพราะๆแบบนี้ดูเผินๆนึกว่าจะไม่ใช่พี่ซอร์นเลย นึกว่าจะเป็นคุณน้าเดวิด แซนบอร์นมาเล่นก็เป็นได้ (น้าแซนบอร์นเคยเล่นร่วมกับพี่ซอร์นมาแล้วครั้งหนึ่ง ใครอยากเห็นลองไปดูได้ใน youtube เลยครับ) ถ้าฟังไปเรื่อยๆแล้วจะรู้เอง เพราะเจ้าของเสียงจากนอกโลกแบบนี้มีอยู่คนเดียวเลย ซึ่งก็คือพี่ซอร์นนั่นเอง ส่วนทรอมโบนของลุงจอร์จนั้นมีบทบาทที่โดดเด่นใช่ย่อยทีเดียว โดยหลักแล้วแกจะบรรเลงในส่วนของเมโลดิกริทึ่มมากกว่า แต่ก็จะมีการสอดแทรกอะไรแปลกๆขึ้นมาให้น่าตื่นเต้นอยู่เรื่อยๆในทุกเพลง โดยเฉพาะการขึ้นเสียงสูงของทรอมโบนนั้นถือว่าเป็นเสียงที่น่ากลัวมาก ส่วนกีต้าร์ของลุงบิลนี้จะโดดเด่นในบางช่วงอีกเช่นกัน แต่การใช้เสียงและการเดินริฟแต่ละลูกของแกก็ทำให้ได้อารมณ์ของดนตรีแจ๊สย้อนยุคได้อย่างดี การบรรเลงสามชิ้นโดยที่ไม่มีริทึ่มเซคชั่นเลยแบบนี้เป็นความท้าทายรูปแบบหนึ่งของเหล่านักดนตรีทั้งสาม และพวกเขากยังได้ประลองฝีมือการอิมโพรไวส์กันอย่างดุเดือดอีกด้วย
เรื่องแนวดนตรีในอัลบั้มนี้ก็จะมีตั้งแต่ฮาร์ดบอพ แสตนดาร์ด ไปจนถึงดนตรีอิมโพรไวส์ (หรืออาจจะมีฟรีแจ๊สด้วย) ซึ่งก็เป็นสไตล์ของนักดนตรีกลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่งานชุดนี้ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก เพราะพวกเขาต้องการเน้นความเป็นทำนองที่ชัดเจนกว่าอัลบั้มอื่นๆที่เคยทำมา ทำให้ดนตรีออกมานั้นมีความไพเราะ แต่ก็เพราะพี่ซอร์นนั่นแหละ ตอนที่แกอิมโพรไวส์นั้นแก้ก็ใส่สไตล์ของแกไปด้วย ยิ่งตอนเล่น ‘แข่ง’ กับทรอมโบนของลุงจอร์ดโดยมีกีต้าร์ของลุงบิลเป็นพื้นนี้ จะเป็นอะไรที่น่าสยดสยองมาก แต่ก็มีไม่ได้นานนัก เพราะงานชุดนี้พวกเขาเน้นเมโลดี้ที่มีระเบียบและพิถีพิถันมากที่สุด (นานๆเราจะได้ยินพี่ซอร์นเล่นอะไรแบบนั้นบ้าง เพราะอัลบั้มอื่นๆพี่แกก็เล่นได้อย่างโหดเหี้ยมไม่ปรานีใครเลย) ในความคิดของผม งานชุดนี้น่าจะเป็นงานกึ่งทริบิวท์ให้กับนักประพันธ์เพลงทั้งห้าคนนี้เลยก็ได้ (ดั่งเช่นที่น้ารูเดสเคยทำให้กับเพลงโปรเกรสสีฟชั้นครูทั้งหลายในชุดล่าสุด) ถ้าใครอยากรู้ว่าดนตรีแจ๊สสมัยก่อนเป็นอย่างไรก็มาลองฟังชุดนี้ได้เลย ก่อนที่จะฟังงานเก่าๆของทั้งห้าคนที่กล่าวมา รวมถึงศิลปินในสมัยแรกๆของแจ๊สอีกด้วย ส่วนถ้าใครชอบแบบรายคนนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
อัลบั้มนี้ถือเป็นการรวมตัวที่ค่อนข้างหลวม แต่ถึงแม้เครื่องดนตรีจะน้อยชิ้นแต่ก็มีความลงตัวสูง และความสามารถของแต่ละคนนี้ก็คงจะไม่ต้องพูดถึงกัน และในเมื่อทางต้นสังกัดซึ่งก็คือ HatHut ยังใจดีนำเอาออกมา Reissue เช่นนี้ ทำให้แฟนๆหลายคนที่ไม่เคยได้ฟังงานชุดนี้ได้ฟังงานที่มีคุณภาพเสียงดีขึ้นและชัดเจนขึ้น ซึ่งมันก็เป็นไปตามเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นนั่นเอง ก่อนที่ผมจะสั่งซื้ออัลบั้มชุดนี้มา ลุงโอ๋ (ลุงสิเหร่นั่นแล) ได้แนะนำมาพร้อมกับบอกว่างานชุดนี้เป็นงานที่ฟังง่ายที่สุดในบรรดาร้อยกว่าอัลบั้มของพี่ซอร์นที่ทำออกมา ซึ่งพอได้มาฟังแล้วก็คิดว่ามันน่าจะเป็นจริงอยู่ เพราะทำนองในแต่ละเพลงนั้นไพเราะเสนาะหู จะมาสะดุดก็ตรงการอิมโพรไวส์สุดหลอนของแต่ละคนนี่แหละ ซึ่งก็เป็นสิ่งเติมแต่งเล็กน้อยเท่านั้น สรุปก็คือ ถ้าใครอยากรู้จักพี่ซอร์น ก็น่าจะเริ่มต้นจากอัลบั้มนี้ได้เลย แล้วเราจะมาติดตามกันต่อไปในปีหน้ากับ More News for Lulu