สิ่งที่ดีๆ ก็เก็บไว้เพราะเด็กไทยมีไรที่ดีหลายอย่างอยู่แล้ว
แต่ทำไมเราไม่หันกลับมามองเห็นปัญหาสำคัญที่จะทำให้เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้าของเมืองไทยดีให้ได้กว่านี้ขึ้นตั้งเยอะล่ะครับ ?
ลองมาดูนะครับ......
1.) ทำไมเด็กไทยจะต้องมีรสนิยมที่เกินตัว ?
ตัวอย่าง :เสื้อผ้า ตัวละ 150 กางเกงยีน ตัวละ 199 ใส่ไม่ได้ (เพราะอาย) ...... จะต้องใส่ตัวละแพงๆกว่านี้.... เพื่อที่จะบ่งบอกถึงยี่ห้อ ยิ่งไปกว่านั้นบางคนใส่ตัวเป็นหมื่นๆ แถมเครื่องใช้ เครื่องประดับอย่างอื่นจะต้องแพงเท่าไหร่ได้ยิ่งดี จะต้องเป็นยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้เพียงเพราะอุปโลกน์ไปคิดว่ามันเท่ห์ มันดูดี ซึ่งอันนี้ตัวกระผมก็ไม่ได้จะว่านะครับเพียงแต่ บ้านบางคนฐานะก็ไม่ได้ดีมากถึงกับว่าจะซื้อแบบนี้ได้ บางคนต้องยอมกระทั่งให้ทางบ้านเป็นหนี้เป็นสินเพียงเพราะจะใช้ของที่มีตราสัญลักษณ์ของความหรูหรา
เพราะอะไร? :บ้างก็เห็นเพื่อนเขาใส่กัน ใส่มาอวดกัน แต่ตัวเองยังซื้อไม่ได้ ก็เลยไม่อยากน้อยหน้า กลัวไม่เท่ห์ (เหตุผลพวกนี้คุณคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?) มีสาระ หรือ ไร้สาระ? โตๆกันแล้วคงจะคิดได้นะครับ
วิธีช่วยปรับทัศนคติ : ก็ลองคิดว่าของใช้มีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เพื่อไว้อวดตัว เช่น เสื้อผ้ามีไว้ใส่, รถยนต์มีไว้ขับ, โทรศัพท์มีไว้โทร, นาฬิกามีไว้ดูเวลา..... ใครอยากใช้ของแพงก็ปล่อยเขาไปถ้าฐานะเขาดี เราลองหันมาใส่ใจสิ่งกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กว่านี้ก็มีเยอะแยะนะครับ เช่น แทนที่จะนำเงินที่เสียไปของเหล่านี้ถ้าเรามาจัดโครงการที่สร้างสรรค์เช่น ปันฝันให้น้อง, เสนอโครงการไปทัศนศึกษา หรืออะไรก็ได้นะครับที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ลองคิดดูว่าประเทศไทยนั้นจะดียิ่งขึ้นเพียงใด ?
2.) เด็กไทยอาจสนใจในเรื่องที่ไม่เป็นแก่นสารสาระนัก
ตัวอย่าง :สนใจว่าดาราคนนั้นคนนี้กำลังตกเป็นข่าวกับคนนั้นคนนี้บ้างล่ะ? สนใจว่าฉันจะต้องเล่นเกมส์ให้ได้ระดับนั้นระดับนี้เพื่อเป็นหน้าเป็นตากับเพื่อนฝูงบ้างล่ะ สนใจว่าฉันจะต้องตกแต่ง Hi5 หรือเว็บไซด์ส่วนตัวให้ดีที่สุดบ้างล่ะ บางคนมีแฟนก็ไปเครียดเรื่องแฟนจนชีวิตนี้ไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว ฯลฯ
เพราะอะไร ?: เพื่อให้ตัวเองดูไม่ตกยุค เพื่อให้ตัวเองดูดี เพื่อให้ตัวเองดูเก่ง เพื่อเห็นว่าเป็นเรื่องโก้ เพื่อยึดติด จริงไหมครับ J ?
วิธีช่วยปรับทัศนคติ : คิดซะว่าดาราก็คือบุคคลซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงเพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง สนใจได้นะครับแต่ไม่น่าจะต้องถึงกับคลั่งไคล้ไม่ทำอะไรเอาแต่ติดตามจนเสียเวลากับเรื่องอื่นๆ, ส่วนเรื่องเกมส์ก็คิดซะว่าเกมส์คือสิ่งที่แค่ทำให้เราเกิดความบันเทิง ต่อให้เราเล่นได้ถึงระดับสูงสุดแล้วเราได้อะไร? นอกจากความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว, ส่วนเรื่อง Hi5 ก็มีได้แค่ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆได้แค่ความบันเทิง ผ่อนคลายครับ ไม่จำเป็นก็อย่าถึงกับหมกมุ่นจนเสียเวลาที่เราน่าจะทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง, ส่วนเรื่องการมีแฟน อันนี้ก็จะไม่ตัดสินนะครับว่าถูกหรือผิดเพราะแต่ละคนย่อมมีเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ถ้าการมีแฟนแล้วมัวแต่ยึดติดจนไม่เป็นอันทำอย่างอื่นก็ทำไมไม่คิดล่ะครับว่าชีวิตนี้เรายังต้องทำอะไรอีกตั้งหลายอย่างถ้าลองนึกให้ดีว่าบางคนถ้าแบ่งเวลากับการยึดติดเรื่องแฟนๆๆ อย่างเดียวเราสามารถทำอะไรได้อีกเยอะแยะเลย (เสียดายเวลาไหม?) บางคนพอเลิกกับแฟนถึงกับเสียใจจนไม่ต้องเป็นอันกินอันนอน แล้วทำไมไม่คิดล่ะครับว่าถ้าเขาไม่รักเราเราเสียใจไป แล้วได้อะไรที่ดีๆกลับมาบ้าง แล้วถ้าเราตัดใจเพื่อยอมรับกับสภาพภายหน้าของงชีวิต ชีวิตเราจะดีกว่านี้จริงไหมครับ ?
3.) เด็กไทยนิยมต่างชาติมากเกินความพอดี
ตัวอย่าง :ก็อย่างที่เห็นทุกวันนี้เลยครับว่าเด็กไทยเห่อต่างชาติ เช่น อเมริกา อังกฤษ เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ จนมีตั้งหลายคนยอมไปทำผม แต่งตัว เหมือนเขาทุกอย่าง พยายามดัดจริตพูดสำเนียงผิดเพี้ยนจากภาษาไทยไปเป็นภาษาของเขาบางคนถึงกับทำเป็นนึกศัพท์ภาษาไทยไม่ออกพูดเป็นภาษาของเขา (แต่กรณีนี้ต้องยกเว้นเด็กไทยที่ไปโตเมืองนอกนะครับ อันนี้อาจจะเพราะความเคยชินจริงๆ แต่ที่ผมพูดนี้หมายถึงเด็กไทยที่พยายามสนใจต่างชาติเกินความพอดีครับ)
เพราะอะไร?: พยายามจะทำให้ตัวเองดูมีรสนิยมมากยิ่งขึ้น คิดว่าทำแล้วจะทำให้ตัวเองดูเท่ห์ ดูนานาชาติทันสมัยหรืออะไรก็แล้วแต่เถอะครับ
วิธีช่วยปรับทัศนคติ : ทำไมไม่คิดว่าทุกประเทศในโลกนี้ก็ต้องมีดี มีหลายอย่างที่ประเทศไทยมีดีที่ประเทศอื่นไม่สามารถมีได้เหมือนเรา เช่น วัฒนธรรมที่ดีๆ ขนบธรรมเนียมที่ดี อีกอย่างรสนิยมประเทศไทยไม่ทราบว่าคุณเห็นว่าไม่ดีหรือครับ ? คำตอบก็คือเปล่าเลยไม่มีอะไรที่เราด้อยไปกว่าใครเลยนะครับ แต่ถ้าจะสนใจชั่วครั้งชั่วคราวก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ควรต้องสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่า ข้าคือคนไทย ไม่เคยลืมชาติพันธ์..... แล้วลองคิดดูนะครับว่าถ้าเรามัวไปให้ความสนใจกับวัฒนธรรมหรือรสนิยมกับชาติอื่นมากจนเกินไป แล้วไม่คิดว่าวัฒนธรรมไทยจะต้องกร่อยไปหรือครับ? ถึงเวลาที่เราควรต้องคิดดีๆแล้วนะครับ
4.) เด็กไทยกำลังเข้าใจผิดบางอย่าง
ตัวอย่าง : เด็กไทยมักจะรู้สึกหมั่นไส้กับเพื่อนที่ขยันมากกว่าเพื่อนคนอื่นทั่วๆไป เด็กไทยมักจะหมั่นไส้คนที่กล้าแสดงออกสูง เช่น กล้าตอบคำถามอาจารย์บ่อยๆ ช่างคิดช่างสงสัย ทำตัวโดดเด่นกว่าคนทั่วไป เด็กไทยมักจะไม่ชอบคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่กลับเห็นว่าเรื่องการลอกข้อสอบ ลอกการบ้านเป็นเรื่องดี เห็นว่าการคุยในห้องเรียนเป็นเรื่องสนุก แต่ถ้าถึงเวลาสอบคนที่ทำข้อสอบได้ดีไม่ให้เพื่อนลอก หรือใครที่ไม่ยอมให้เพื่อนลอกการบ้านกลับมองว่าพวกเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว
เพราะอะไร? : บอกตรงๆว่าเพราะเด็กไทยโดยภาพรวมแล้วขี้เกียจเล็กน้อยนะครับ แล้วก็เรื่องไม่ชอบให้คนอื่นเด่นมากๆ ดีมากๆ เพราะว่าตัวที่หมั่นไส้เขาเป็นคนอย่างไรครับ (ขี้อิจฉาหรือเปล่า ?) ส่วนเรื่องลอกข้อสอบใครไม่ให้ลอกจะเห็นว่าพวกเขาเห็นแก่ตัวอันนี้ก็ไม่ทราบว่าไปได้รับทัศนคติมาจากไหนกัน
วิธีปรับทัศนคติ : คิดเสียว่าคนกล้าแสดงออกที่ตัวอย่างที่ดีของงคนกล้าคิดกล้าทำ เช่นเดียวกับคนที่ทำตัวโดดเด่นแล้วทำไมไม่กลับไปมองที่ตัวเองว่าหมั่นไส้หรืออิจฉาพวกเขาเพราะอะไร?, ส่วนเรื่องงคุยในห้องก็คิดเสียว่าเป็นมารยาทสากลที่ไม่ควรไม่รบกวนสมาธิผู้อื่นที่เขากำลังใจตั้งใจฟัง, ส่วนเรื่องลอกข้อสอบนั้น หากจะบอกว่าที่เพื่อนไม่ให้เราลอกข้อสอบหรือการบ้านเขาจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวหรือ ? แล้วในขณะที่คุณไม่เตรียมตัวมาที่เท่าพวกเขาแล้วเวลาสอบอยากลอกเขาใครกันแน่ที่เห็นแก่ตัวและเอาปรียบครับ
เอาล่ะครับ ?
คิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ?
ที่เด็กไทยจะดีขึ้นและหากเด็กไทยทำได้ดีเท่าไหร่ผลดีก็จะเป็นแก่ประเทศชาติและพวกเราชาวไทยมากยิ่งขึ้น
อย่าลืมนะครับว่าไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราคือคนไทย
รักประเทศไทย..... พยายามทำเพื่อประเทศให้ได้นะครับ !!
http://dek-d.com/board/view.php?id=1183914
_________________

