หลังจากนั่งฟังเพลงพวกเธอทั้งวันซ้ำไปซำมา (และดองค้างไว้นานมาก เฮ่อๆ) วันนี้เป็นโอกาสดีแล้ว ขอเชิญพบกับ ...
Girls Aloud - Out Of Control 80%
สตูดิโออัลบั้มที่ 5 ของ 5 สาว เกิร์ลกรุ๊ปแห่งยุค (เฉพาะที่ UK เท่านั้นแหละ ฮุฮุ)การกลับมาครั้งนี้เรียกได้ว่าพัฒนามากขึ้นๆ จากเด็กสาวที่ร้องเพลงแดนซืบ้าบอไปวัน แต่ด้วยพัฒนาการที่แสดงออกมาให้เห็นก็พิสูจน์แล้วว่า พวกเธอมีดีจริงๆ ในอัลบั้มนี้พื้นฐานของเพลงยังคงเป็นยูโรป๊อปแดนซ์ตามเคยครับ เพียงแต่มีภาคดนตรีอื่นๆมช่วยเสริมให้ดูแข็งแกร่งและยกระดับงานตัวเองขึ้นได้มากครับ โดยภาพรวมของอัลบั้มสามารถแบ่งออกเป็นสองพาร์ทได้ชัดเจนคือ พาร์ตที่ย้อนไปยังยุค 60-70 ในรูปแบบของยูโรป๊อป ผสาน โซล ร๊อคแอนด์โรล โฟล์คร๊อค และพาร์ตยุค 80 ที่เป็นอิเลคโทรยูโรป๊อป ผสานกลิ่นดิสโก้ โจีะครึมๆ ซึ่งทั้งสองพาร์ททำออกมาได้ดีพอตัวครับ
ข้อดีของอัลบั้มนี้ อัลบั้มนี้เปรียบเสมือนพัฒนาการของสาวที่มากขึ้น จากอัลบั้มที่แล้วที่พัฒนาก้าวกระโดดมา อัลบั้มนี้ก็ยังคงพัฒนาก้าวกระโดดมาอีกขึ้น เรื่องน้ำเสียงนี้คงไม่มีใครเถียงว่า พวกเธอรู้จักใช้เสียงมาประสานกันได้เหมาะสมจริงๆ ส่วนในภาคดนตรีก็ทำออกมาได้ละเมียดละไมเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียวครับ การนำเสนอก็ดีมีมิติมากขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย
ข้อเสีย อัลบั้มนี้หยิบของเก่ามาเล่าใหม่เยอะพอสมควรครับ คือจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะรไรหอก เพราะก็ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มันรู้สึกตะหงิดๆใจอ่ะครับ ว่าไปถึงภาคดนตรีต่างๆที่เอามาเหยาะเอามาแทรกลงไปดูกระจำกระจายมากๆครับ กวาดแทบจะหมดโลกเลยทีเดียว มันจะพาลทำให้งงว่า "ตกลงพวกหล่อนจะเอาไงกันแน่วะ" ได้ครับผม อีกสิ่งที่ทำให้อัลบั้มน่าเบื่อคือความที่เพลงบางเพลงเยิ่นเย้อดูไม่กระชับ มันน่าเบื่อครับที่ต้องมานั่งฟังเพลงๆเดียวทีล่อไปหกเจ็ดนาที หรือฟังท่อนฮุควนไปวนมา
ป.ล.วันนี้นั่งฟังทั้งวันเพื่อเก็บดนตรีเบาๆที่พวกเธอใส่ลงไป แอบเละนะ ฮุฮุ
Singles
The Promise ยูโรป๊อปโซล เหยาะกลิ่นดิสโก้แดนซ์ลงนิดๆพอกล้อมแกล้ม ภาคดนตรีเครื่องเป่าทองหลวงชาวยเสริมให้เพลงมีมิติมากขึ้น บวกกับ เสียงกลองและเพอร์คัชชั่นที่อยู่ในระดับที่สมดุลกันพอดี ในภาคการร้องของทั้ง 5 คนก็ถือว่าเลิศครับ โดยเฉพาะนิโคล่าที่ปรกติจะรับหน้าที่ในท่อนเสียงสูงแหลมและคลอรัส มารับหน้าที่ในการส่งต่อท่อนแทน ซึ่งนิโคล่าใช้ช่องเสียงบางๆมาช่วยรับท่อนทำให้เพลงดูไม่หนักมากเกิน และ คิมเบอร์รี่ที่มารับหน้าที่ในการพักท่อนก็ทำได้ดีมากๆ ดูน่าดึงดูดดีครับ
The Loving Kind อิเลคโทร ยูโรป๊อปแดนซ์ เหยาะกลิ่นเฮ้าส์ลงนิดๆ ภาคการนำเสนอจะคล้ายๆกับ Call The Shot ในอัลบั้มที่แล้วมากๆ ทั้งการดำเนินของเพลงเอย อินโทรเอย ภาคการร้องเอย เรียกได้ว่าเป็นภาคต่อได้เลย เพียงแต่ว่าเนื้อหาจะดูซอฟต์ลงมานิดนึง ทำให้ภาคการร้องต้องใช้เสียงที่หวานมากขึ้น ซึ่งทำได้ดีทั้งหมดครับ เป็นเพลงที่เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณืที่สุดในอัลบั้ม และยังคงสถิติท๊อปเทนได้ แม้จะเป็นซิงเกิ้ลที่อันดับต่ำที่สุดของพวกเธอก็ตาม แต่ข้อเสียอย่างนึงคือเพลงดูไม่ค่อยกระชับ อาจจะเพราะว่าท่อนฮุคที่วนมามากรอบกับดนตรีสบายๆด้วยละมั้ง
เพลงอื่นๆ
Rolling Back The River In Time เรโทร ยูโรป๊อป เหยาะ ดิสโก้แดนซ์และเรกเก้นิดๆ เช่นเคย แต่ความพิเศษคือการดำเนินของเพลงที่เป็นร๊อคแอนด์โรล และการใส่กีต้าร์แบบคอร์ดคันทรี่ย์ แม้ว่าจะดูมั่วๆไปหน่อยจากการจับส่วนผสมหลายอย่างมารวมกัน แต่ก็ออกมาลงตัวและสมูธดีครับ ในขณะที่ภาคการร้องไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่มามุกนี้ก็คือร้องคลอๆไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ลงตัวเอง
Love Is The Key อินโทรเก๋มาก แอบหยิบซาวหอนๆมาใส่ก่อนที่จะหักไปยัง ยูโรป๊อปโซล ผสานกับร๊อคแอนด์โรลเบาๆ เลิศมาก เสียงกลองที่เป็นตัวดำเนินหลักก็น่ารักดี ภาคการร้องจริงๆแล้วแอบแรดมากกว่านี้ก็ได้นะ มันดูไม่สุดอ่ะ มันแค่วิ๊งๆกลิทเตอร์ ยังไม่ใช่ออร่าอ่ะ โดยรวมก็ออกมาโอเค แต่ไม่ถึงกับดีมากนัก อ้อภาคการนำเสนอคล้าย Sweet About Me ของยัย Gabriella Cilmi ไปหน่อยนะ แต่เพลงแนวนี้น่าจะลองตัดเป็นซิงเกิ้ลแล้วโปรโมตหน่อยน่าจะเข้าทาง เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีแนวนี้โผล่มาเท่าไหร่
Turn To Stone กลับมาสู่ความเป็นอิเลคโทร ยูโรป๊อปแดนซ์ที่ใส่ซาวน์ติ๊ดๆกับอวกาศอีกครั้ง ผสมกับกลิ่นดิสโก้ตามเคยครับ ส่วนตัวเฉยๆกับเพลงนี้ แถมดูๆไปคล้ายๆกับเอาเพลงเหลือๆในอัลบั้มที่แล้วมายำรวมกันด้วยซ้ำ ดูไม่น่าสนใจอ่ะครับ ไอ้ซาวน์ติ๊ดๆก็ไม่ค่อยได้ช่วยให้เด่นอะไรขึ้นสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าโอเคด้วยการร้องครับ เสียงกระซิบกระซาบ เสียงลอยๆ มันดูเข้ากับซาวน์อวกาศดี แต่ภาคคลอรัสนิโคลล่าที่แหลมเสียดแหวกชาวบ้านขึ้นมาชัดเจนมาก เลิศ
Untochable อิโทรขึ้นมาแบบค่อยดังๆ ลอยๆเป็นซาวน์อวกาศ พร้อมกับนิโคลล่าที่เป็นคนเปิดเพลงที่พาลให้นึกถึงเสียงติดต่อจากต่างดาวเข้าบรรยากาศมาก ก่อนที่จะตัดไปยังนาดีนด้วยการใส่แสงวิ้วๆเข้าไป แต่เพลงนี้เข้าทางเสียงนิโคล่ามากๆ จาดพาร์ทการร้องซึงดูเข้ากับดนตรีเบาดี แต่ถ้าร้องทั้งเพลงก็ไม่ไหวนะ เสียงนาดีนจะตามมาช่วยเป็นระยะโดยๆ เพื่อให้เพลงดูเบามากเกินไป รวมถึงท่อนฮุคที่นิโคล่าก็คอยคลอรัสไม่ให้เสียงดูแน่นเกินไปด้วย เช่นเดียวกันกับเชอรีลและนาดีนที่มาทำหน้าที่คล้ายๆกับนาดีน ส่วนคิมเบอร์ลี่ย์ที่ค่อยๆแทรเสียงมาเติมเต็มส่วนที่ดูเบาก็ทำได้มากครับ เลิศอยู่นะ ส่วนขอเสียก็คือเพลงไม่กระชับเหมือนเดิม เยิ่นเย้อมากเกินไป ท่อนฮุควนไปตั้งกี่รอบละ เพลงเดียวล่อไปซะเกือบเจ็นาที
Fix Me Up กล้าๆนะ ฮึฮึ ยูโรป๊อปร๊อค แอบผสานกับความเป็นเบบี้ฮิพฮอพ เหยาะดิสโก้บางๆ ผลลัพธ์ออกมาเป็นเพลงเปรี้ยวแบบเบาๆสบายๆ ประมาณแอบแรดว่างั้น ภาคดนตรีที่ใช้เครื่องสายประเภทดีดบวกกับกลองมาเป็นตัวหลักและค่อยๆผสานกับดนตรีอื่นๆที่ค่อยใส่มาเหมือนเป็นลูกเล่น ทำให้เพลงนี้นอกจากจะเปรี้ยวชิลๆแล้ว ยังแอบเล่นตัว เขียมอาย น่ารักๆพอเป็นพิธีด้วย น่ารักดีอ่ะ เป็นเพลงที่ฟังผ่านจะคนละเรื่องกับการนำเสนอเลยนะเนี่ย ฮุฮุ ส่วนภาคการร้องที่แอบๆป่วงกันบบ้างพอเป็นพิธีไม่ว่ากัน เหมือนเป็นลูกเล่นอย่างหนึ่ง ใส่กำลังดีไม่มากไปครับ
Love Is Pain อิเลคโทรยูรอป๊อปแดนซ์ เหยาะดิสโก้ผสานเฮ้าส์อีกครั้ง การดำเนินดนตรีโครงสร้างคล้ายๆกับ Sexy No No No แต่มาในภาคที่ปรับดนตรีให้เบาลงมากๆครับ ภาคการร้องก็งั้นๆแหละ ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ โฮีะโอกระซิบกระซาบมากเกิน มันดูไม่พอดีกับเพลงเท่าไหร่ น่าจะมีการใช้แชนแนลเสียงเต็มบางๆบ้าง คืออารมณืตอนฟังเพลงนี้เหมือนคนมาบ่นอะไรให้ฟังมากกว่า แถมดนตรีก็กลบนักร้องหมดเลย ทั้งเสียงบีท ทั้งอิเลคโทรนิค ไม่ผ่านอย่างแรง
Miss You Bow Wow มาแปลกอีกแล้ว อิเลคโทร ยูโรป๊อปแดนซ์ กลิ่นดิสโก้ เหยาะร๊อคแอนด์โรลเบาๆ แล้วตบท้ายด้วยสรรพสำเนียงในการร้องแบบ Semi-Speak&Rap หรือกึ่งพูดกึ่งแรพ เป็นการทดลองผลงานที่ออกมาใช้ได้เลยทีเดียว แต่เสียงพวกเธอมันไม่เหมาะกับการร้องแบบนี้อ่ะ คือมันต้องใช้แชนแนลเสียงที่ใหญ่กว่านี้ นี่เล่นใช้เสียงบางๆกันซะทุกคน แต่ว่าภาคการนำเสนอเรื่องความสนุกอะไรนี่ผ่าน ฟังแล้วไม่อยากให้จบอ่ะ พวกเธอเลยใจดีให้มาอีกเพลงนึง Revolution In The Head แต่เพลงนี้ภาคดนตรีความเป็นร๊อคแอนด์โรลจะหนักขึ้นมาอีกนิดนึง ลดเทคนิคการร้องแบบกึ่งพูดกึ้งแร็พลง บวกกับการใส่เสียงปรบตือเป็บแสมชอาร์แอนด์บี และยังแอบๆแทรกแนวละตินมานิดๆอีก อีกทั้งการเลือกใช้ช่องเสียงที่ดีขึ้นดูแน่นมากขึ้นกว่าเพลลงเมื่อกี้ ถือว่าต่อเนื่องความสนุกประมาณว่าเพลงเมื่อกี้เป็นแค่น้ำจิ้ม เพลงนี้เอามาจิ้มน้ำจิ้มว่างั้น แต่แอบตลกตอนจบที่ทำคล้ายๆเสียงหวอรถอ่ะ ฮุฮุ
Live In Country เออ พวกหล่อนจะกวดเอามาหมดเลยแฮะ อินโทรแบบสตรีทฮิพฮอพ ออกแนวเอ็กทรีมไปเลยสุดท้ายพวกหล่อนก็หักเข้าอิเลคโทรยูโรป๊อปแดนซ์ เหยาะกลิ่นร๊อคลง ภาคการนำเสนอคล้ายๆกับเพลง Biology ในอัลบั้ม Chemistry มากๆ เพียงแต่เอามาแต่งเติมด้วยเสียงบิทสังเคราะห์ กิ๊งๆก๊อง ใส่เสียงกลองแบบเอ็กทรีมลงมาเสริม เร่งจังหวะดนตรีให้เร็วขึ้นอีกนิด ก็ดีกว่า Biology นะ แต่ส่วนตัวคิดว่ามันแปลกหูมากเกินไป และทิศทางในการหยิบดนตรีนู้นนี้มาใส่ ดูรกและมั่วมากเกินครับ
We Wanna Party อิเลคโทร ยูโรป๊อปร๊อค ที่จะดูค่อนข้างสดกว่าเพลงอื่นๆด้วยความที่ไม่ได้สังเคราะห์อิเลคโทรนิคลงไปมากนัก เพลงนี้ไม่มีอะไรมาก เปรียบเสมือนไทเทิ้ลแทร็คที่จะบอกว่า "พวกเราแค่อยากจะปาร์ตี้ ไม่มีการควบคุมอะไร เรามาดิ้นกันเถอะ" (มิน่าละไอ้ดนตรีที่เอามาเสริมๆเหยาะเลยผสมปนเปไปซะหมดเลย เฮ่อๆ)
สรุป ภาพรวมอัลบั้มออกมาดีครับ เปรียบเสมือนน้ำมะนาวปั่น คือมีความเปรี้ยวหวานและความเย็นที่สดชื่น แต่ก็มีสามารถเอาผลไม้ชนิดอื่นๆมากมายมาปั่นรวมลงไปได้ด้วย ประมาณนี้ อัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มที่บริโภคยากขึ้นจากอัลบั้มเก่าๆ หากแต่ก็ไม่ยากเกินที่จะบริโภคครับ เพราะตัวเพลงมาในแนวที่ฟังกันได้ง่ายๆอยู่แล้ว เพียงแต่จะรำคายผลไม้ชนิดอื่นที่จะมาปั่นรวมด้วยรึเปล่านั่นก็อีกเรื่องครับ
__________________________________________________________________
1. "The Promise" Miranda Cooper, Brian Higgins, Jason Resch, Kieran Jones, Carla Marie Williams 4:03
2. "The Loving Kind" Cooper, Higgins, Tim Powell, Neil Tennant, Chris Lowe 3:54
3. "Rolling Back the Rivers in Time" Cooper, Higgins, Williams, Powell 4:29
4. "Love Is the Key" Girls Aloud, Cooper, Higgins, Powell 4:17
5. "Turn to Stone" Cooper, Higgins, Powell, Matt Gray, Stuart McIennan, Sascha Collison 4:25
6. "Untouchable" Cooper, Higgins, Powell, Gray 6:42
7. "Fix Me Up" Cooper, Higgins, Resch, Jones, Williams, Powell 4:26
8. "Love Is Pain" Cooper, Higgins, Williams 3:32
9. "Miss You Bow Wow" Girls Aloud, Cooper, Higgins, Powell, Lisa Cowling, Owen Parker, Toby Scott, Myra Boyle 4:11
10. "Revolution in the Head" Girls Aloud, Cooper, Higgins, Williams, Powell, Parker 4:31
11. "Live in the Country" Girls Aloud, Cooper, Higgins, Powell, Gray, Niara Scarlett 4:27
12. "We Wanna Party" Cooper, Higgins, Cowling, Nick Coler, Powell, Lene Nystrøm 3:54
รีวิวต่อไป Hilary Duff - Hilary Duff ครับผม!!!
_________________
April fighting! + angel Sojin�