ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
คืนนี้รัฐบาลมาร์คกำลังจะสลายการชุมนุมครั้งสุดท้ายที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเคลียร์สถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะ
ปกติ คนที่ทำเนียบรัฐบาลมีเกือบหมื่นคน อย่าให้เขาปิดประตูตีแมวได้เหมือนคราวเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ค่ะ
เหตุการณ์ครั้งนั้นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกมาต่อต้านการกลับมาของเผด็จการ แต่ก็มิวายถูก
รัฐบาลสลายการชุมนุมด้วยการปิดทางเข้าออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หมดทุกด้าน แล้วกระทำการกับ
นักศึกษาเยี่ยงสัตว์ สั่งให้ผู้หญิงถอดเสื้อ ผู้ชายคลานกับพื้น เตะถีบ รวมถึงเผานั่งยางนักศึกษาและกล่าว
หาว่าเป็นกบฎ เหตุการณ์ทั้งหมดมีภาพวีดีโอฟ้องออกมาประจานทั่วโลกในภายหลัง ว่าเป็นการสังหารหมู่
ประชาชนโดยทหารที่กินภาษีประชาชนเอง เรื่องนี้ลูกแม่โดมที่ไปงานรับน้องรู้หมดทุกคนเพราะขึ้นฉาย
สไลด์ใหญ่กลางเวที
14 ตุลาก็เช่นกัน ยอดผู้เสียชีวิต 70 กว่าคนแต่รัฐบาลให้ข่าวว่า เสียชีวิตเพียงคนเดียว
สื่อสามารถถูกครอบงำและบิดเบือนได้เสมอ ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ควรใช้วิจารณญาณ ซึ่ง
ไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อ หรือ ให้เชื่อ แต่หมายความว่า ให้เป็นกลางและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
คืนนี้ก็เป็นอีกคืน 14 เมษา 2552 อาจจะเป็นคืนที่ชาวเสื้อแดงที่ไปชุมนุมวันนี้ต้องจดจำกับการสูญเสีย
ครั้งใหญ่หากไม่ยอมสลายการชุมนุม ต่อให้กระทำการอย่างไรหากไม่มีภาพวีดีโอมาฟ้อง ความจริงก็ยัง
ถูกบิดเบือนได้เสมอ
หากถอยตอนนี้อุดมการณ์ยังอยู่ ประชาชนก็ยังอยู่ แต่หากไม่ถอยจะเสียทั้งอุดมการณ์และประชาชนใน
ทีเดียว สถานการณ์เป็นรองแล้วค่ะ ถอยดีกว่านะคะ คำแนะนำที่ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายใด จงอย่าดีใจที่เห็นไทยเสียเลือดเนื้อเพราะไทยด้วยกันเอง
_________________
แม้กาลเวลาที่ยาวนาน ก็มิอาจพรากความรักระหว่างคน 2 คน มณีจันทร์ยังคงรอเวลาให้ทวารแห่งทวิภพ เปิดทางให้เธออีกครั้ง
