ไม่มีเหตุผลที่ Beyonce' จะไม่ออกโซโล่เดี่ยว เพราะลำพังแค่เธอคนเดียว คนอื่นก็ไม่ต้องถามหา อันนี้คือความจริงที่ทั้งสองนางที่ขนาบข้างๆต้องเข้าใจและยอมรับความเป็นไป Beyonce' คือหน้าคือตาของวง ขาดเธอไปมันก็ไม่ใช่ Destiny's Child แล้ว จึงเป็นเหตุผลเดียวที่โซโล่ของทั้ง Michelle Williams และ Kelly Rowland จะไม่ดัง
เปิดอัลบั้มที่อันดับ 1 Billboard 200 ด้วยยอดขาย 317,000 ก๊อปปี้ ในสัปดาห์แรก และเป็นสัปดาห์เดียวกันที่ Crazy In Love ขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard Hot 100 เป็นเครื่องการันตีได้ว่า อัลบั้มนี้ดังแน่นอน 5 รางวัลแกรมมี่ย์จึงได้มาอย่างง่ายๆ ทั้งๆที่ทำเพลงในนามของ Destiny's Child ดีนักดีหนายังไม่ได้ โด่งดังเป็นพลุแตกขนาดนี้ เป็นใครจะอยากกลับไปรวมวง
Scott Storch โปรดิวเซอร์คนเก่งดึงเอาจุดเด่นของ Beyonce' มาใช้ได้อย่างชาญฉลาด นึกถึง Beyonce' ก็ต้องนึกถึง R&B และเป็น R&B ที่มีจริตจะก้าน หยิบเอาแซมเปิ้ลเพลงเก๋าและเก๋มาผสมผสานกับฮิพฮอพอย่างเพลง Naughty Girl เพลงน่ารักๆยามค่ำคืนที่ใช้แซมเปิ้ล Love to Love You Baby ของป้า Donna Summer ชื่อของ Beyonce' จึงดึงดูดให้บรรดาคนดังไม่ปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วย ทั้ง Missy Elliott, Jay-Z (อันนี้ของตาย), Sean Paul, Big Boi จาก Outkast หรือจะรุ่นพ่ออย่าง Luther Vandross ที่สิ้นอายุขัยไปแล้วก็ตาม จึงเป็นเหตุที่ว่า อัลบั้มนี้ตัดเพลงไหนก็ดังไปซะทุกเพลง
Crazy In Love ซิงเกิ้ลแรกที่เปรี้ยวล้ำ Baby Boy อาร์แอนด์บีเอาใจตลาดได้ Sean Paul มาเสริมในส่วนของความเป็นแร้กเก้ Be With You และ Me Myself & I บัลลาดอาร์แอนด์บีที่มีดีพอจะตัดเป็นซิงเกิ้ลได้ทั้งคู่ Signs เด่นด้วยเนื้อหา ขุดเอาตำราปีเกิดมาร่ายเป็นเพลง ป้าโอ่ง Missy Elliott โผล่มาโหวกแหวกทำไม เสียอารมณ์ The Closer I Get To You เพราะจับใจ สมคุณค่ารางวัลแกรมมี่ย์ที่ได้รับ Work It Out เพลงแถมจากซาวด์แทร็ค Austin Power ก็ใส่มาด้วย
1. Crazy In Lovce Featuring Jay-Z
2. Naughty Girl
3. Baby Boy Featuring Sean Paul
4. Hip Hop Star Featuring Big Boi and Sleepy Brown
5. Be With You
6. Me, Myself & I
7. Yes
8. Signs Featuring Missy Elliott
9. Speechless
10. That's How You Like It Featuring Jay-Z
11. The Closer I Get To You Duet With Luther Vandross
12. Dangerously In Love 2
13. Beyonce' (Interlude)
14. Gift From Virgo
15. Work It Out