หอหลวมฝากบทกลอน เอามาจากเว็บคุณครูสมศรี
และจะมีอยู่ท่อนนึง ที่คุณครูสมศรีมักพูดเสมอ ลองอ่านกันดูขะ ใครเคยอ่านแล้วก็ขอโทดด้วยข่ะ
( ท่อนที่เน้นคือท่อนที่คุณครูมักชอบพูดเวลาสอนข่ะ )
งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น
ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง
วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย
อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้
หญิงแก่ๆ นั่งหงอยและคอยหาย
โอ้วันนั้นเป็นวันอันตราย
แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์
วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่
เจ็บท้องแท้เท่าไหร่ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้องกว่าจะคลอดรอดเป็นคน
เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น
กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก็หลงระเริงใจ
ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา
ไฉนจึงเรียกกันว่าวันเกิด
วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา
ให้มารดาเราเป็นสุขจึงถูกแท้
เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ
ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
ระลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด
อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว
อันพระคุณใครๆ ในพิภพ
ยังรู้จบแจ้งคำมาพร่ำขาน
แม่และพ่อคุณต่อบุตรสุดประมาณ
ขอกราบกรานระลึกถึงซึ้งพระคุณ
เจ้าข้าเอ๋ยใครหนอใครให้กำเนิด
จึงก่อเกิดเติบใหญ่ด้วยไออุ่น
ทั้งกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมาด้วยการุณย์
ช่วยค้ำจุนจนรอดพ้นเป็นคนมา
ถึงลำบากร่างกายใจห่วงลูก
จิตพันผูกดวงใจให้ห่วงหา
หัวอกใครจะอุ่นเท่าอีกเล่านา
คอยปลอบเช็ดน้ำตาคราระทม
เป็นแดนใจใสสะอาดปราศกิเลส
เป็นสรรเพชรของบุตรพิสุทธิ์สม
ความรักเปี่ยมด้วยเมตตาน่านิยม
ประดุจลมโชยเย็นให้เย็นดี
หอบสังขารทำงานเลี้ยงลูกน้อย
เกรงจะด้อยใจทรามต่ำศักดิ์ศรี
จึงส่งให้ได้ศึกษาวิชาดี
ให้ได้ดีกว่าแม่พ่อที่รอคอย
เหมือนนกกาหาเหยื่อมาเผื่อลูก
เปรอความสุขหาทรัพย์ไว้ให้ใช้สอย
ยามไกลพรากจากอุราตั้งตาคอย
ใจละห้อยนอนสะอื้นขื่นขมทรวง
กว่าลูกๆ จะสำนึกพระคุณท่าน
ช่างเนิ่นนานบ้างชีวาลาลับล่วง
บ้างก็ป่วยจนแทบสิ้นแดดวง
ลูกจึงห่วงเอาใจใส่ในกายา
บางท่านนานเหลือเกิน ช่างเนิ่นนานเหลือเกิน กว่าจะสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ บุตรธิดาบางคนถึงกับพ่อแม่สิ้นชีวิตไปแล้วบ้างจึงรู้ซึ้งถึงคุณตามหลัง บุตรธิดาบางท่านพ่อแม่ป่วยนอนซมจนจะสิ้นใจแล้วจึงเป็นห่วงก็มี ตอนร่างกายท่านแข็งแรงอยู่ดียังไม่ค่อยรู้สึกสำนึกในบุญคุณเลย บุตรธิดาบางท่านพ่อแม่สิ้นชีวิตไปแล้วยังไม่รู้คุณเลยก็มี ต่อเมื่อตนเองมีบุตรธิดา เพราะเรารักลูกมาก ห่วงลูกมาก จึงสำนึกระลึกถึงพระคุณของพ่อแม่ว่า เราคงเป็นที่รักที่เมตตาของพ่อแม่เหมือนกับเรารักลูกเราตอนนี้
อย่าให้รอใกล้ตายจึงกรายใกล้
เป็นศพไปจึงรู้บุญคุณท่านหนา
ยามท่านอยู่ควรรู้ชัดสร้างศรัทธา
ตอบแทนคุณมารดาบิดาเอย
บางครั้งมีเงินมีทองเลี้ยงเพื่อนฝูง เลี้ยงข้าวน้ำ เลี้ยงเหล้า เลี้ยงยา ปลาปิ้ง สนุกสนาน แต่ไม่มีเงินทองส่งเลี้ยงแม่เลี้ยงพ่อ บางครั้งมีเงินทอง ส่งให้ภรรยาสามีซึ่งเจอกันทีหลัง หวังดีต่อกันทีหลัง แต่ผู้มีบุญคุณยิ่งใหญ่ ที่หวังดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ลงทุนตั้งแต่ตอนต้นถือกำเนิดเกิดในครรภ์ หวังดี ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าลูก บุญคุณนั้นยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ สุดจะเทียบเทียม ได้ในโลกหล้า ท่านได้ให้กำเนิดเกิดเรามา เลี้ยงดูรักษาไม่ให้อนาทร แต่เงินทองที่จะส่งให้ท่านไม่มี เวลาจะไปเยี่ยมท่านไม่ค่อยมี
ความรักของแม่ที่มีต่อลูก การเลี้ยงลูกคือ "สัญชาตญาณ" ของผู้เป็นแม่ แต่ลูกหลานที่กตัญญูกตเวทีต่อบุญคุณพ่อแม่นั้น เรียกว่า "คุณธรรมของลูก" ไม่ใช่สัญชาตญาณ แต่เป็นคุณธรรมอันสูงประเสริฐจึงกตัญญูรู้คุณกตเวทีตอบแทนบุญคุณ แม่ที่รักลูกจึงหาง่ายเหมือน 'พลอย' แต่ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่นั้นหายากเหมือน 'เพชร' ใครมีพ่อแม่อยู่ในขณะนี้ ก็ชื่อว่ามีพระอรหันต์เอาไว้ให้ทำบุญ ถ้ารู้ตัว ถ้าไม่รู้ตัวก็เอาพ่อแม่นี่แหละเป็นเหตุให้ทำบาปหนักกว่าเก่า อวิชชาพาให้มืดมิดคิดไม่แจ้งประจักษ์ในความจริง หันหลังให้พระ หันหลังให้ธรรมะ หันหน้าไปหาเรื่องสนุก หาอบายมุขสนุกสนาน เมื่อไม่รู้เส้นทางอันประเสริฐคอยเดินตามทางที่ถูก ชีวิตก็มืดมนเจ็บช้ำน้ำใจทุกข์ทนในเบื้องหน้า
เราจะดูแลตอบแทนบุญคุณของท่านเวลาไหน ? ตอนท่านมีชีวิตอยู่ หรือให้ท่านสิ้นใจไปก่อน ร่างกายนี้ที่ท่านเฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงให้มาแล้วอย่างดี รักษาสมบัติคือร่างกายนี้ไว้ให้ดีบ้างไหม ? หรือปล่อยตนปล่อยใจไปเที่ยวเตร่เฮฮาตามความสนุกจนเป็นโรคเป็นภัยรักษาไม่หาย ติดยาม้า ยาบ้า ฝิ่น กัญชา เฮโรอีน เพื่อนขออะไรไม่ปฏิเสธ รับสนองเจตนาเพื่อนทั้งสิ้น แต่พ่อแม่ขอ ขอให้ลูกเป็นคนดี ขอให้ลูกอย่าติดยา ขอให้ลูกตั้งใจเรียน ขอให้ลูกทำความดีเป็นที่ชื่นใจ เป็นที่เชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล ลูกให้แม่ให้พ่อได้บ้างไหม ? คนที่รักเราที่สุด อะไรจะเป็นรางวัลให้ชีวิตของผู้เป็นพ่อแม่ได้ชื่นใจบ้าง
๑๒ สิงหามหาราชินี เป็นวันแม่แห่งชาติ วันแม่แห่งโลก เป็นโอกาสอันดี เป็นโอกาสอันประเสริฐ ที่เราจักได้มาน้อมดวงจิตบูชาระลึกถึง "พระมหากรุณาธิคุณ" ของแม่แห่งชาติของปวงชนชาวไทย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมมหาราชินีนาถ และ "พระคุณอันหาประมาณมิได้" ของแม่ที่ให้ชีวิตเราในปัจจุบัน และแม่ที่ให้ชีวิตเราในอดีตวัฏฏะสงสารอันยาวไกล
การได้น้อมจิตใจมาระลึกถึงพระคุณอันหาประมาณมิได้ของพ่อแม่ บุญของท่านทั้งสองจะมาถึงเรา แต่ถ้านึกถึงคนที่ไม่มีศีลไม่มีธรรม ชีวิตก็จะย่ำแย่เสื่อมทรามเพราะจิตไปเกาะสิ่งที่ไม่ดีคนที่ไม่ดี ชีวิตจะราศีดีหรือ ว่าจะราศีอับเฉา จะมัวหมองหรือผ่องใส อยู่ที่ใจเราดวงเดียวเป็นผู้พาไป จิตเตนะ นียะติ โลโก โลกอันจิตย่อมนำไป เราจึงควรฝึกจิตใจให้ นำไปในทางดี ความดีจะได้รักษา เมื่อนำทางจิตฝึกจิตไม่ดี จิตชั่วจิตร้ายมันจะพาเราลงต่ำ การนำชีวิตมาปฏิบัติดีนั้นคือตอบแทนบุญคุณของท่านแล้ว เป็นการมอบรางวัลให้ท่านได้ชื่นใจสบายใจ ท่านมีชีวิตอยู่ก็เป็นบุญใหญ่หลวง ท่านสิ้นชีวิตไปแล้วถ้าทำความดีมาก็ต้องเพ่งอุทิศแผ่บุญกุศลไปให้ท่าน
เพื่อนเพราะกินเหล้าด้วยกันนั้นมีมาก
เพื่อนแต่ปากสักว่าเพื่อนก็เกลื่อนหลาย
ส่วนเพื่อนใดเมื่อมีกิจเกิดมากมาย
ช่วยจนตายนั่นแหละเพื่อนอย่าเชือนเอย
ใครเป็นเพื่อนแท้ในบ้านเรา มีกิจธุระคอยช่วยตลอด ก็คือแม่พ่อนี่เอง เป็นเพื่อนสนิทเป็นเพื่อนแท้ตั้งแต่วันเกิดจนบัดนี้ ขณะนี้มีตายายหลายชีวิตหลายคู่ ไร้ญาติขาดมิตรไร้ลูกหลานคอยดูแลให้กำลังใจ หูตาก็ฝ้าฟางแรงก็น้อยลง ตอนมีแรงมากก็เอาแรงนี้ทำการงานหาเงินทอง หาข้าวน้ำโภชนาหารเลี้ยงดูลูก แต่กรรมเมื่อปางไหนในวัฏฏะสงสารอันยาว ไกลน่าพิลึกสะพึงกลัว ให้ลูกหญิงลูกชายของตัวหลบหน้าหายตากันไป หมด แยกย้ายกันมีครอบครัว
แล้วลูกที่ไม่ได้เหลียวแลดูแลพ่อแม่อย่างนั้นชีวิตจะเจริญได้หรือ ? เกิดในวัฏฏะสงสารอนาคตจะมีพ่อแม่ผู้หวังดีอีกหรือ ? จะมี ความสุขแท้จริงได้หรือ ? ถ้าไม่รู้คุณของผู้ให้ชีวิตผู้ให้ต้นทุน ขอให้ลูก ทุกคนพิจารณาตามความเป็นจริง
เนื่องด้วยทุกชีวิตเกิดมาในโลกต้องอาศัยแม่ผู้ให้กำเนิด ทั้งสิ้น บุคคลบางคนทำบุญมามาก บุคคลบางคนทำบุญมาน้อย เมื่อเกิดมาในโลกจึงมีไม่เหมือนกัน ได้ไม่เหมือนกัน เป็นไม่เหมือนกัน บางท่านหรือบางชีวิตเกิดมามีพ่อแม่ทั้งสองคอยโอบอุ้มคุ้มครองดูแลรักษา ให้ความอบอุ่นทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงแต่เด็กเล็กจนเติบโตมา มิให้ลูกต้องอนาทรเดือดร้อนใจ เพราะทรัพย์สมบัติชื่อเสียง อำนวยความสะดวกให้ ไม่ว่าลูกจะเอื้อนเอ่ยอยากได้สิ่งใด พ่อแม่ก็ตามใจ ทุกอย่าง บางท่านมีลูกคิดในทางดีกตัญญูกตเวทีไม่เหินห่าง
แต่บางท่านพ่อแม่ตามใจมาก ลูกกลับไม่รู้คุณ นำความทุกข์ระทมมาให้แก่ผู้มีพระคุณก็มีไม่น้อย บางชีวิตบางท่านเกิดมามีพ่อแต่ไม่มีแม่ บางท่านมีแม่แต่ไม่มีพ่อ ไม่เห็นหน้าพ่อตั้งแต่เกิดมา บางท่านไม่เห็นพ่อ แม่ พอรู้ภาษาก็รู้ว่าตนเองอยู่กับตาอยู่กับยาย บางคนไม่เห็นพ่อแม่ ไม่เห็นตาไม่เห็นยาย แต่ได้นางพยาบาลเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง และอื่นๆ อีกมากมาย
เพราะว่ากรรมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีต ถึงแม้เราจะมีพ่อแม่ให้ความอบอุ่นหรือไม่มีก็ตาม เราล้วนแล้วแต่เกิดมาจากพ่อ แม่ทั้งสอง ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญา ศึกษาธรรมมาดีแล้ว จักไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ถ้าหากตนเกิดมาหาพ่อแม่ดูแลไม่ได้ จะไม่ระลึกนึก ถึงจุดนั้น จะรู้แจ้งเข้าใจว่าทุกชีวิตเป็นไปตามกรรมที่สั่งสมมาแล้ว ในอดีต หรือถ้ารู้ว่าตนเองเกิดมาอาภัพ ไร้ญาติขาดมิตร ไร้ผู้ดูแลรักษาให้ความอบอุ่น เราก็จะประพฤติธรรมปฏิบัติธรรม สั่งสมคุณงามความดีในชาตินี้ปัจจุบันนี้ให้มาก อนาคตก็จะดีตาม ปัจจุบันเหตุ อนาคตผล อาศัยเหตุปัจจุบันส่งผลไปสู่อนาคต ย่อมได้ความสำเร็จเมื่อมีบุญหนุนหลัง
ฉะนั้น บางท่านบางคนจึงไม่ควรน้อยใจ และบางท่านบางคนเกิดมา มีพ่อแม่ดูแลรักษาให้ความอบอุ่นทุกอย่าง แต่ประมาทมัวเมาก็มาก เลินเล่อไม่รู้คุณพ่อแม่ผู้มีคุณ ไม่รู้ว่าตนเองมีบุญมากจึงเกิดมาในฐานะที่ดี ที่ประเสริฐที่สุขที่สบาย เมื่อประมาทมัวเมาก็ทำบาปทำกรรมให้พ่อแม่ต้อง น้ำตาตก ทำให้พ่อแม่ต้องลำบากใจ อนาคตต่อไปก็เสื่อมลง ย่อมไปเกิดใน สถานที่ไม่ดีอีก
บางครั้งความทุกข์เป็นเหตุให้เราสั่งสมความดีให้พ้นทุกข์ บางครั้งความสุขเป็นเหตุให้เราประมาทมัวเมานำตนเองไปสู่ความทุกข์ก็มี แต่ผู้ไม่ ประมาทแม้นยามเจอสิ่งที่ดีมีความสุข ก็สามารถทำความดีเพิ่มขึ้นต่อไป ได้ ฉะนั้นเนื่องในฐานะที่เราทั้งหลายเกิดมาต้องอาศัยพ่อแม่ทั้งสอง ท่านจะดูแลเราดีหรือดูแลเราไม่ดีก็ตามเถิด ชื่อว่าเราเกิดมาจากท่าน ก็ ขอให้เราน้อมดวงจิต คิดดี พูดดี ทำดี เพ่งแผ่บุญกุศลไปให้ท่าน ท่านจะดีเลิศท่านก็เป็นผู้ให้กำเนิดเรามา ท่านจะเสียหายท่านจะไม่ดีไร้คุณธรรมอย่างไร ท่านก็ให้กำเนิดเรามา ก็ชื่อว่าเราอาศัยท่านแล้ว ติดหนี้บุญคุณของท่านแล้ว
ดังนั้นท่านผู้เกิดมาไม่มีความอบอุ่นกับพ่อกับแม่ ไม่มีพ่อแม่ดูแลรักษาขอยกเอาไว้ก่อน จะขอกล่าวถึงจิตวิญญาณของพ่อของแม่ที่สมบูรณ์ คือจิตของพ่อของแม่ที่มีความรักความห่วงหาอาลัย รักลูกดั่งแก้วตาดวงใจจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ความรู้สึกของพ่อแม่จะรักลูกมาก จนถึงขนาดว่าลูกจะ ทำชั่วช้าเลวทรามปานใด พ่อแม่ให้อภัยได้หมด เพราะเหตุนี้พระพุทธ องค์จึงทรงตรัสว่า "หาสิ่งใดจะเปรียบเทียบให้หนักเท่าบุญคุณของ พ่อแม่นี้ยากเหลือเกิน เขาพระสุเมรุราช แผ่นดิน แผ่นฟ้า มหาสมุทร เอาพระปัญญาเป็นตาชั่ง คุณของแม่ยังหนักอึ้งสิ่งทั้งปวงยังเบา แต่พอเอาพระธรรมคำสั่งสอนอันประเสริฐวิเศษไปเทียบไปชั่งกับบุญคุณของแม่จึงเสมอกัน" แสดงว่าบุคคลจะตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ได้คือต้องอาศัยพระธรรมเท่านั้น
การพรรณนาระลึกถึงพระคุณของแม่ของพ่อจึงหาที่สิ้นสุดไม่ได้ นักปราชญ์บัณฑิต ผู้รู้ผู้มีปัญญา จึงได้สาธยาย จึงได้สรรเสริญ จึงได้พรรณนาบุญคุณของผู้มีพระคุณทั้งสองนี้มากมายในโลก เนื่องด้วยลูกทุก คนเกิดมาอาศัยพ่อแม่ และได้ความรักความห่วงใยจากพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่กว่าใครอื่นทั้งหมด เพราะท่านเป็น "บูรพาจารย์" เป็นอาจารย์สั่งสอนคนแรกของลูก ไม่มีอาจารย์องค์อื่นใดคนอื่นใดจะมาสอนก่อน..... เป็น "บูรพเทพ" เป็นเทพยดาเป็นเทวดาองค์แรกที่ดูแลรักษาลูกก่อนเทวดาองค์อื่นๆ..... เป็น "พระพรหม" เป็นผู้มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาต่อลูก..... และเป็น "พระอรหันต์" ของลูก คือมีใจประเสริฐใจสูงส่งต่อลูกของท่าน
แม่เป็นครูผู้สอนแต่ตอนต้น
แม่ทุกคนอุดมพรหมวิหาร
แม่เมตตากรุณามุทิตาการ
แม่มีญาณอุเบกขาเป็นอารมณ์
แม่เหมือนพระอรหันต์อันสูงสุด
แม่หวังบุตรธิดาอย่าขื่นขม
แม่กับลูกผูกมิตรจิตชื่นชม
แม่จึงสมภาษิตมิตรในเรือน
เพราะเหตุที่พระผู้มีประภาคเจ้าทรงทราบดวงจิตของผู้เป็น พ่อเป็นแม่อย่างนี้แหละ จึงทรงตรัสว่า "ผู้ใดได้กตัญญูกตเวทีแล้ว รู้คุณตอบแทนพระคุณท่าน ชื่อว่าเดินตามเส้นทางพระโพธิสัตว์ เดิน ตามเส้นทางพระอริยะเจ้าอันประเสริฐ พระอินทร์ก็ชื่นชม พระพรหมก็สรรเสริญ ชื่อว่าเป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไป เป็นผู้ที่ไม่มีวันจะเสื่อมทรามไปจากความดี มีชีวิตอยู่ในชาตินี้ก็รุ่งเรืองมีคุณค่า แม้นละจากชาตินี้ไปสู่โลกหน้าย่อมบันเทิงในสวรรค์อยู่ในสุคติ คือในภพภูมิที่ดีที่เจริญ"
ใครบูชาใครอุปัฏฐากพ่อแม่จัดเป็นมงคลอันอุดม อันใครๆ ผู้เป็นลูกจะล่วงเกินนั้นมิได้ เหมือนบูชาอุปัฏฐากพระอาจารย์ พระเทพ พระพรหม และพระอรหันต์ แม่คนเดียวนี้เป็นทั้งสี่องค์ คือ พระอาจารย์ พระเทพ พระพรหม และพระอรหันต์ ผู้ใดอุปัฏฐาก เลี้ยงดูบูชาท่านทั้งสอง ย่อมมีสิริมีมงคลโอบอุ้มคุ้มครองตั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้า ส่วนผู้ใดทำให้ท่านทั้งสองต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ย่อมมีบาปกรรมตั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้าดุจเดียวกัน
บางสิ่งบางอย่างเราหมดอะไร เราก็หาของใหม่มาแก้ หาของใหม่มาแทนได้ แต่พอหมดพ่อหมดแม่จะหาใครมาแทนได้ ถึงแม้นบางท่านจะหา บุคคลอื่นมาแทนได้ แต่ก็ไม่เหมือนพ่อไม่เหมือนแม่ทั้งสองที่มีดวงจิตสูงและประเสริฐยิ่ง ถึงแม้บางท่านจะมีผู้มีพระคุณซึ่งแม้นไม่ใช่พ่อแม่บังเกิด เกล้า แต่ให้ความรักความห่วงใย ให้ความอบอุ่นเหมือนพ่อเหมือนแม่ นักปราชญ์บัณฑิตกล่าวว่า ผู้นั้นแหละคือผู้มีพระคุณในอดีตที่จุนเจือกันมา จึงมีจิตที่ห่วงหาอาลัย โอบอุ้มคุ้มครองเลี้ยงดูรักษากันอย่างดี
อันกรรมดีเกิดจากกายที่ทำดี เกิดจากวาจาที่พูดดี เกิดจากจิตที่คิด ดี ส่วนบาปก็เกิดจากจิต จากวาจา จากกายด้วยเช่นกัน ความเจริญรุ่งเรืองร่มเย็นเกิดขึ้นก็เพราะความดี ผู้ใดมารำลึกถึงผู้มีพระคุณ แล้ว เป็นผู้กระทำบำเพ็ญในสิ่งที่ควรทำ ช่วยเหลือการงานของท่าน ทำหน้าที่แทนท่าน พูดจากับท่านไพเราะ คิดเคารพบูชาเทิดทูนทั้งต่อหน้าและลับ หลัง มีกายอ่อนโยนไม่กระด้างไม่หยาบคาย บุคคลนั้นจะไปทิศทางใด เทพทั้งปวงย่อมรักษา มนุษย์ทั้งปวงย่อมเมตตา มารพาลภัยศัตรูย่อมครอบงำไม่ได้
ฉะนั้น บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องเสียสละ ธรรมะจะเป็นเครื่องชำระใจ ทุกข์หนักก็จะเบาบางจางคลาย ขอให้เราทั้งหลายผู้มีบุญเกิดมาเป็นคนในโลกนี้ในชาตินี้ จงทำให้ดีที่สุด พูดให้ดีที่สุด คิดให้ดีที่สุด ให้พ่อให้แม่ได้ชื่นใจที่สุดว่า ฉันลำบากเลี้ยงดูเขามา เขาก็ได้ทำความดี ทำหน้าที่ที่ดี
ยามลูกลงจากบันไดบ้านไปโรงเรียน ดวงตาทั้งคู่ของใครมองตาม ด้วยความห่วงหาอาลัยเป็นที่สุด เมื่อทราบว่ากลับมาโดยความปลอดภัย ก็ดีอกดีใจเหลือล้นพ้นประมาณ และในขณะที่ลูกใช้เงินใช้ทองอย่างสบายอกสบายใจ หรือใช้สุรุ่ยสุร่ายตามอำเภอใจ เรารู้บ้างไหมว่า ใครเอ่ย ! กำลังนอนก่ายหน้าผาก คิดว่าเราจะทำงานอะไรนะให้ได้เงินมากๆ เพื่อจะส่งให้ลูกได้เรียน ได้กินได้ใช้ ให้เสมอหน้าเสมอตา เทียมหน้าเทียมตาไม่ให้น้อยหน้าคนอื่นเขา
รู้บ้างไหมในความสบายของลูกที่ได้ใส่เสื้อผ้าชุดสวยๆ งามๆ แต่แอบแฝงด้วยความลำบากอย่างยิ่งของพ่อแม่ทั้งสอง เหงื่อทุก หยดที่หลุดจากร่างเพื่อเป็นเงินเป็นทองเป็นสตางค์ให้แก่ลูก เราหมดสมุด หมดดินสอ หมดหนังสือไปกี่เล่ม เราหมดเสื้อผ้าอาภรณ์ไปกี่ชุด เราหมดข้าวสารไปกี่กระสอบ เราหมดเงินทองไปกี่ร้อยพันหมื่นแสนหรือบางท่านถึงล้าน รู้ไหมว่าเราหมดไปเท่าไหร่แล้ว จากท่านทั้งสองเป็นผู้ให้
ฉะนั้น ลูกหญิงลูกชายทั้งหลายถึงเวลาแล้วหรือยัง ? ที่จะคิดตอบ แทนบุญคุณของท่าน หรือจะให้ท่านล่วงลับดับขันธ์สิ้นใจตายซะก่อนจึง รู้คุณ พอท่านสิ้นใจแล้ว เขาหามไว้ในโลงแล้ว เอาข้าวเอาน้ำสองสามถ้วย มาวางไว้ใกล้โลง แล้วก็เคาะโลง พ่อแม่ลุกมาทานข้าวเถิด เราจะเอาอย่าง นั้นหรือ ? เราจะต้องนำข้าวนำน้ำให้พ่อแม่ก่อนที่ท่านจากไป ตอนที่ท่านรู้เรื่องได้เห็นลูกทำดี เห็นลูกมีน้ำใจดี เห็นลูกอุปัฏฐากดี เห็นลูกแสดงความกตัญญูดี ท่านคงจะมีความปลาบปลื้มปีติดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นคือเสี้ยวหนึ่งหรือไม่ถึงเสี้ยวแห่งความเป็นผู้มีน้ำใจที่แม่พ่อมีต่อเรา บุญใดที่ลูกได้ทำ บุญใดที่ลูกได้กล่าว ได้คิด ได้สั่งสมอบรมมาในอดีตร้อยชาติพันชาติ หมื่นชาติแสนชาติ อสงไขยกัปกัลป์ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี บุญบารมีที่ได้บำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา ความดีทั้งปวง ลูกขอบูชาพระคุณพ่อแม่ทั้งสอง ผู้ให้กำเนิดเกิดชีวิตของลูกได้ลืมตามองโลก และได้ทำหน้าที่ได้ทำ ประโยชน์ส่วนรวมถึงบัดนี้ ขอบุญนี้จงโอบอุ้มคุ้มครองท่านทั้งสอง ให้มีความสุขพ้นจากทุกข์ และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของสรรพสัตว์ทั้ง ปวงในวัฏฏะสงสารอีกยาวนาน จนกว่าเข้าสู่มรรคผลนิพพานเป็นที่สุดแห่งทุกข์ กาย วาจา จิตที่ลูกล่วงเกินด้วยเจตนาและไม่เจตนา ทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ขอผู้มีพระคุณทั้งสองจงอโหสิกรรมแก่ลูกนั้น ด้วยเทอญ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านแล้วซึ้งมากๆ เลยข่ะ
แม่ คำสั้นๆ คำที่ใช้เรียกผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนที่พร้อมจะให้เราได้ทุกอย่าง
คนที่พร้อมจะยกโทษให้เรา ให้อภัยเราได้เสมอ ในยามที่เราทำผิดพลาด
ก็ได้ 2 มือของผู้หญิงคนนี้ คอยที่จะปกป้องเรา คอยที่จะปลอบเรา คอยที่จะโอ๋เราเสมอ
แต่ทำไมวันนี้ เรากลับใช้ 2 มือของเรา ทำร้ายท่านกันละข้ะ รักแม่กันให้มากๆ
กอดแม่กันให้มากๆ หอมแก้มแม่กันให้มากๆ ก่อนที่จะไม่มีท่านให้เรารัก ให้เรากอด
ให้เราหอมแก้มนะข้ะ หอหลวมกอดแม่ทุกวัน หอมแก้มแม่ทุกวัน
เพราะหอหลวมยังอยู่กับแม่ข่ะ พี่ๆ คนไหนในบอร์ด ที่อยู่หอ
หรือไม่ได้อยู่กับแม่ ก็ถือโอกาสกลับไปเยี่ยมท่านในวันแม่นี้นะข้ะ
รักแม่กันเถอะข่ะ ความรักของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บริสุทธิ์ พร้อมให้เราได้เสมอ
ทำทุกอย่างเพื่อเราได้เสมอ ความรักจากท่าน เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วละข่ะ
ต่อให้คุณมีแฟน ที่ว่ารักกันนักกันหนา ยังไม่ทำให้แบบที่แม่ทำให้คุณเลยข่ะ
หอหลวมขอบอกว่า....
หอหลวมรักม่าม๊าที่สุดในโลกเลย ^^
_________________
CLICK