ทั้งหมดล้วนเป็นความเห็นส่วนบุคคลนะครับ ต้องขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใด และต้องบอกก่อนนะครับ ว่าบางประโยคอาจมีการเล่าถึงเนื้อเรื่องบางส่วนในตัวหนัง หากใครกลัวเสียอรรถรสในการรับชมวันหลังกรุณาข้ามส่วนดังกล่าวไป ขอบคุณครับ
1.ฉาก Chandler ขอ Monica แต่งงานจาก Series Friends Season 6 ตอน The One with the Proposal 2 (1999)

เหตุการณ์นำเรื่อง: Chandler และ Monica เป็นเพื่อนกันมากว่า 5 ปี โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน จนกระทั้งคืนหนึ่ง ในงานแต่งงาน (ครั้งที่2) ของ Ross พี่ชาย Monica เธอรู้สึกเศร้าที่พี่ชายเธอได้แต่งงาน แต่เธอยังไม่มีแม้แต่แฟน แฟนเก่า เธอชื่อ Richard เป็นคนที่ดีมาก แต่ทั้งคู่ต้องแยกทางเนื่องจากระยะห่างของอายุ จึงไปกันไม่รอด แต่ยังไงลึก ๆ ทั้งคู่ต่างก็ยังมีเยื้อใยให้กันและกัน
กลับมาที่เหตุการณ์ในคืนงานแต่งงาน หลังจากที่ Monica เศร้า เสียใจ (และเมานิดหน่อย) Chandler ได้ปลอบใจ และ ดูแลเธอ จนทำให้เลยเถิด กันมากกว่าเพื่อน หลังจากคืนนั้น ทั้งคู่ได้กลาย คู่รักกัน สิ่งที่ผมชอบในความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนนี้คือ ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คู้ที่ Perfect ของกันและกัน แต่ทั้งคู่ช่วยเติมเต็มอีกฝ่ายได้ลงตัว
เหตุการณ์เข้มข้นเมื่อ : กระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 1 ปี Richard กลับมาบอกว่าที่ผ่านมาเขายังรัก Monica อยู่และรักมาเสมอ ถ้าจะต้องแต่งงานกับใครอีกซักคน เขาจะเลือก Monica นั้นเป็นจุดสำคัญในชีวิตของ Monica ว่าเธอจะเลือกใคร ชายเธอเธอผูกพันในวันวาน หรือ คนรักที่เธอตั้งใจจะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน ขณะที่ Chandler ยังทำเป็นใจเย็น และบอกว่าคบกับ Monica ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดถึงอนาคตอะไร ประโยคนั้นอาจเป็นตัวแปลสำคัญที่ทำให้ Monica กลับใจไปเลือก Richard อีกครั้ง โดยที่เธอเองหารู้ไม่ว่า Chandler ได้เตรียมแหวนแต่งงานไว้เซอร์ไพรซ์ให้เธอแล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะขอแต่งงานกับเธอได้ทันหรือป่าว และถึงทัน คำตอบของ Monica จะเป็นอย่างไร Chandler ตามหา Monica จนทั่วแต่ก็ไม่พบ Joey บอกว่า เธอขนของกลับไปแล้ว ร้องให้ใหญ่เลย บอกว่าจะกลับไปบ้าน พ่อ แม่ Chandler เสียใจสุด ๆ แต่พอเข้าเปิดประตูเข้าห้องไป เขาพบกับคนที่เขายากเจอมากที่สุดในชีวิตนั้นคือ....Monica....... เหตุการณ์ดังกล่าวดำเนินมาถึงจุดที่น่าประทับที่สุดในฉากการขอแต่งงงานที่ผมได้พบเห็นมา ....
Monica: You wanted it to be a surprise.
ก็เธออยากให้มันเซอร์ไพรซ์ไม่ใช่หรอ
Chandler: Oh, my god.
โอมายกอด
Monica: Chandler in all my life I never thought I would be so lucky ..
เชนด์เลอ ในชีวิตนี้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่า ฉันจะโชคดี
as to fall in love with my best ..my best . Theres a reason why girls dont do this!
ที่ได้ตกหลุมรัก คนที่.....คนที่........เป็นที่สุด......ของ......... ไม่น่าล่ะ ผู้ชายถึงต้องเป็นฝ่ายขอ!
Chandler: Ill do it. I thought...Wait I can do this .
ผมทำเอง ผม........เดี๋ยว..ผมทำได้น่า...
I thought that it mattered what I said or where I said it.
ผมมัวแต่ไปกังวลว่า จะขอยังไง หรือจะขอเมื่อไหร่
Then I realized the only thing matters is that you
ตอนนี้ผมรู้แล้ว ว่า สิ่งที่สำคัญกว่า คือ คุณ
you make me happier than I ever thought I could be.
คุณทำให้ผมมีความสุข มากกว่าที่ผมคิดว่าผมจะมีได้
And if you let me I will spend the rest of my life trying to make you feel the same way.
และถ้าคุณจะอณุญาติ ให้ผมใช้เวลาทั้งหมดของชีวิตที่เหลือ ทำให้คุณรู้สึกในแบบเดียวกัน
Monica will you marry me?
โมนิกา คุณจะแต่งงานกับผมไหม ?
Monica: ..yes .. I knew you were likely to take a wife !!
.....ตกลงค่ะ...... ฉันรู้อยู่แล้วว่า อยากเธอได้เมีย !!
ทำไมถึงซึ้ง: ผมชอบความคิดของ Monica ที่เธอเคยบอกไว้ว่า เราอาจไม่ใช่เนื้อคู่กัน หลาย ๆ อย่างอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันวาดฝันเอาไว้ แค่เมื่อฉันเลือกเธอ เราต้องร่วมมือกัน ไปให้รอด ถึงแม้ว่าบางวันต้องเหนื่อยกันมากหน่อย แต่เธอก็คือคนที่ฉันเลือก และฉันว่าฉันโชคดีแล้วที่เลือกเธอ

มีรูปงานแต่งงานของทั้ง 2 มาให้ดูด้วย
2. " Never Let Go" อย่าผิดสัญญา จากเรื่อง Titanic (1997)

เหตุการณ์นำเรื่อง: Rose DeWitt Bukater หญิงสาวลูกผู้ดีมีชาติตระกูลผู้เดินทางไปบนเรื่องที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค เบื่อชีวิตไฮโซ และ สังคมผู้ดี ผู้ชายรวย ๆ ไม่ชอบ ดันมาชอบ กับผู้โดยสารชั้นล่างสุดของการเดินทาง Jack Dawson ที่ทั้งจน ไร้อนาคต บ้านนอกคอกนา เทียบอะไรไม่ได้เลยกับคู่มั่นที่แม่เธอเลือกให้ แต่เธอทำเช่นนั้นเพราะความรัก ความรักที่ทั้งคู่รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ความรักที่งดงามของวัยรุ่นวัยเจริญพันธ์ ความรักที่บริสุทธ์ ไม่จำเป็นต้องคิดถึงอนาคต แค่เพียงมีกันและกันก็พอ ( น้ำเน่าแท้ ๆ ) แต่ความรักที่ว่านี้แหละทำให้ผู้หญิง และคนใจหญิง ค่อนโลก ร้องให้น้ำตาอาบแก้มกันมาแล้ว.....ทั้ง 2 ตกลงใจจะพากันหนีเมื่อเรือเทียบท่า โดยที่ถึงแม้ว่าจะต้องไปกินแกลบด้วยกันก็ยอม....
เหตุการณ์เข้มข้นเมื่อ : เรื่อที่ทั้งคู่เดินทางกลับไปชนกับภูเขาน้ำแข็งจนเป็นเหตุให้เรือ ต้องอัปปางและกว่า 1500 ชีวิตต้องสูสิ้นและความเสียหายที่ประมาณค่ามิได้ เพียงเพราะด้วยความสะเพร่า และความชะล่าใจของกัปตันเรื่อเพียงคนเดียว แต่เหตุการณ์การอับปางของ Titanic ได้แสดงให้เห็นถึง ธาตุแท้ของมนุษย์ว่า ไม่ว่ามันจะผู้โดยสารชั้นไหน ผู้ดีสักแค่ไหน ถึงเวลาจะตาย มันก็เห็นแกตัวเหมือนกันหมด !!! และเป็นเหตุการณ์พิสูจน์ความรักของ Jack และ Rose ในเวลาเดียวกัน
Jack ยอมทำ และช่วยเหลือทุกอย่างเพื่อให้คนรักของเขารอดตาย ถึงแม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม และก่อนที่เขาจะสิ้นใจ เขาได้สั่งลาคนรักซึ่งเป็นประโยคที่ใครหลายคนอาจยังจำได้ถึงทุกวันนี้.........
Rose: I love you, Jack.
ฉันรักเธอ แจ๊ค
Jack: Dont you do that. Dont you say goodbyes .Not yet. Do you understand me?
อย่าทำอย่างนั้นนะ อย่าเอ่ยคำลา ไม่ใช่ตอนนี้ เข้าใจไหม?
Rose: Im so cold.
ฉันหนาวเหลือเกิน
Jack: Listen, Rose Youre gonna get out of here.
ฟังนะ คุณต้องออกไปจากที่นี้
Youre gonna go on, and youre gonna make a lots of babies, and youre ganna watchem grow.
เธอต้องอยู่ต่อ มีลูกลานเต็มบ้าน และเฝ้าดูพวกเขาเติบโต
Youre ganna die an old, an old lady warm in her bed. Not here. Not this night. Not like this. Do you understand me?
เธอจะตายตอนแก่ ในเตียงอันอบอุ่น ไม่ใช่ที่นี้ ไม่ใช่คืนนี้ ไม่ใช่แบบนี้ เข้าใจไหม?
Rose: I cant feel my body.
ตัวฉันไม่รู้สึกอะไรแล้ว
Jack: Winning that ticket was the best thing that ever happened to me. It brought me to you
การที่ได้ตั๋วเรื่อนี้มา มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผมแล้ว มันนำผมมาหาคุณ
and Im thankful for that, Rose. Im thankful.
และมันเป็นบุญคุ้นโดยแท้ โรส เป็นบุณจริง ๆ
You must You must You must do me this honor
คุณต้อง....คุณต้อง.... คุณต้องทำเพื่อให้เกียรติผม
You must promise me that youll survive,that you wont give up
คุณต้องสัญญากับผมว่า จะต้องรอดกลับไป ว่าคุณจะไม่ยอมแพ้
no matter what happens, no matter how hopeless. Promise me now, Rose .and never let go that promise.
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะสิ้นหวังเพียงใด สัญญากับผมเดี๋ยวนี้ โรส และอย่าผิดคำสัญญาเด็ดขาด
Rose: I promise.
ฉันสัญญา
Jack: Never let go.
และอย่าผิดคำสัญญา
Rose: I will never let go, Jack. Ill never let go.
ฉันจะไม่ผิดสัญญาแจ๊ค ฉันจะไม่ผิดสัญญา


ทำไมถึงซึ้ง: ยังต้องให้บอกอีกหรอว่าทำไม? ขอตัวไปเช็ดน้ำตาก่อน.......
3. "I like you very much, just as you are." ชอบคุณ อย่างที่คุณเป็น จากเรื่อง Bridget Jones's Diary (2001)

เหตุการณ์นำเรื่อง: Bridget Jones สาวตุ้ยนุ้ย วัยสามสิบกว่า ๆ ที่ยังโสดสนิทไร้คู่ ทำอะไรก็เปิ่นจนเกินความจำเป็น ใช้ชีวิตสิ้นเปลืองไปกับ เหล้าและบุหรี่ จนต้องกลับมาปรับปรุงตัวเอง เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองขึ้นขานไปจนวันตาย โดยการเขียนลงสมุดบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความจริงล้วน ๆ เกี่ยวกับตัวเธอเองที่มันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เหตุการณเข้มข้นเมื่อ: เธอได้คบกับเจ้าของเธอ Daniel Cleaver ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่ก็ไปไม่รอด แล้วยังมีทนายปากไม่งาม Mark มาคอยรังขวานเธออยู่ตลอด เธอไม่ชอบขี้หน้าเขาเพราะรู้มาว่า เขาคนนี้เคยไปแย่งเมียเก่าเจ้านายของเธอ แต่มุมมองของเธอกับเขาคนนี้ก็เปลี่ยนไป เมื่อเขากลับมาบอกกับเธอว่า.....
Mark: So, it didnt work out with Daniel Cleaver?
เรื่องแดเนียล คลีเวอร์ ตกลงกันไม่ได้ใช่ไหม?
Bridget: No, it didnt.
ไม่ ไม่ได้
Mark: Im delighted to hear it.
ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น
Bridget: Look, are you and Cosmo in this together? You seem to go out of your way to try to make me feel like a complete idiot every time I see you and you really neednt bother. I already feel like an idiot most of the time anyway with or without a firemans pole.
คุณกับคอสโมทำงานร่วมกันไม่ใช่หรอ แต่รู้สึกว่าคุณพยายามจนออกนอกหน้า ที่จะทำให้ฉันรู้สึก เหมือนกับคนโง่ทุกครั้งที่ฉันเจอคุณ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเรื่องไถลลงมาจากเสาที่สถานีดับเพลิง
[Peep] Thatll be my taxi. Good night.
(รถบีบแตร) แท๊กซี่ฉันมาแล้ว ราตรีสัสดิ์
Mark: Look, Im sorry if Ive been
ฟังนะ ผมขอโทษถ้าผมทำ...
Bridget: What?
อะไร?
Mark: I dont think youre an idiot at all. I mean, there are elements of the ridiculous about you. Your mothers pretty interesting.
ผมไม่คิดว่าคุณโง่เลยซักนิด มีบางอย่างเกี่ยวกับคุณที่ดูตลก แม่คุณก็น่าสนใจไม่น้อย
And you really are an appallingly bad public speaker. And you tend to let whatever is in your head come out of your mouth without much consideration of the consequences.
และคุณก็พูดต่อหน้าคนหมู่มากได้แย่มาก และคุณมักจะปล่อยอะไรก็ตามที่อยู่ในหัว หลุดออกมาทางปากโดยไม่นึกถึงผลที่ตามมา
I realize that when I met you at the turkey curry buffet that I was unforgivably rude and wearing a reindeer jumper that my mother had given me the day before.
ผมนึกขึ้นตอนที่ผทพบคุณที่งานเลี้ยง ผมหยาบคายมากและใส่เสื้อลายกวางเรนเดียร์ ซึ่งแม่ผมให้ไว้ก่อนหน้า
But thing is What Im trying to say, Very inarticulately is that in fact, perhaps, despite appearances.
แต่ปัญหาคือ สิ่งที่ผมพยายามจะบอก แต่พูดไม่ค่อยออก ก็คือ...ความจริงแล้วผมอาจทำเป็ฯไม่ชอบคุณ
I like you very much
ผมชอบคุณมาก
Bridget: Apart from the smoking and the drinking and the vulgar mother and the verbal diarrhea.
ไม่นับเรื่องสูบบุหรี่กับดื่มเหล้า และมีแม่ที่หยาบคาย และพูดไม่หยุด
Mark: No, I like you very much, just as you are.
ไม่. ผมชอบคุณมาก อย่างที่คุณเป็น

ทำไมถึงซึ้ง: ความจริงแล้ว บางคนอาจคิดว่าฉากนี้อาจไม่ซึ้งเท่า ฉากอื่น ๆ แต่ลองคิดดู ว่าหากวันหนึ่ง หากมีคนมาบอกกับคุณว่า ชอบคุณ อย่างที่คุณเป็น ถามจริง ๆ เหอะ ว่า มันจะให้คุณซึ้งได้มากเพียงใด ต่อให้ไม่ชอบขี้หน้ามันก็ตาม....
4.รอคุณมาเปิดชิง จากเรื่อง The 40 Year Old Vergin (2005)

เหตุการณ์นำเรื่อง: Andy เป็นหนุ่มหน้าตาดี ใช้ชีวิตสุขุม และมีการสะสมของเล่นเป็นงานอดิเรก ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สุงสิงกับใคร และเรียบร้อยมาก ๆ แค่นี้ว่าแปลกพอแล้ว แต่ยังมียิ่งกว่าคือ เขาอายุ 40 แล้วแต่ยังเวอร์จิ้นอยู่ (ตรงกับชีวิตคนแถวนี้อ่ะป่าว) แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ทั้ง 3 จากที่ทำงานก็ยื่นมือเข้าช่วย Andy อย่างเติมความสามารถ จะว่าไปแล้ว เกินความจำเป็นก็ว่าได้ ถึงกระนั้นผู้หญิงที่ Andy มอบหัวใจให้อย่างแท้จริงนั้นเป็นผู้หญิงที่เขาจีบเองตั้งแต่ขั้นแรกโดยไม่มีการช่วยเหลือของเพื่อน ๆ แม่แต่นิดเดียว ชื่อว่า Trish ความรักของทั้งคู่งอกงาม น่ารักจนน่าอิจฉา แต่เนื่องจาก Trish ก็มีลูกสาวแล้วถึง 3 คน แถมคนโตก็มีลูกสาว 1 ขวบอีก นั้นเท่ากับว่าเธอเป็นคุณยายสุดฮอตไปแล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะมีสามีอีกครั้ง ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะคบกันโดยไม่มี เซ็กซ์จนกว่าจะเดทครบ 20 ครั้ง ตอนนี้แหละทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ความรักที่สวยงามและมีความสุข แท้จริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กซ์เป็นส่วนประกอบก็ได้
เหตุการณ์เข้มข้นเมื่อ: Trish เข้ามาที่บ้าน ของ Andy แล้วพบกับ อุปกรณ์ เซ็กซ์ทั้งหลายแหล ที่ได้มาจากเพื่อน ๆ ของเขา ตั้งแต่ หนังโป๊ เป็นลัง ไปจนถึง มดลูกขนาดจำลอง นั้นทำให้เธอเข้าใจว่า Andy เป็นคนโรคจิตที่หมกมุ่นเรื่องเพศเข้าเส้นเลือด ซึ่งมันตรงกันข้ามกับความจริงอย่างสุดขั้ว เธอหุนหันออกไป จนAndy ต้องขับจักรยานตามเธอออกไป และแล้วรถจักรยานของ Andy คว่ำและเขากระเด็นทะลุป้ายโฆษณา ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ตอนนั้นแหละที่เขาตัดสินใจบอกความจริงทั้งหมดกับ Trish ว่าความจริงแล้วเขายัง.........
Trish: Oh, Andy. Are you okay?
แอนดี้ เป็นไรมากไหม?
Andy: Im okay. No Im not okay. Im a virgin.
ผมโอเค ไม่ผมไม่โอเค ผมยังเวอร์จิ้น
Trish: A what?
อะไรนะ ?
Andy: Im a virgin I always have been.
ผมยังเอ๊าะ ๆ อยู่ บริสุทธิ์มาตลอด
Trish: Andy, is that what all this was about?
โธ่ แอนดี้ เรื่องมันเป็นอย่างนี้เองหรอ
Andy: Im sorry.
ขอโทษด้วย
Trish: Youre just a virgin, thats all?
แค่คุณยังเวอร์จิ้นอยู่ แค่นั้นเองหรอ
Andy: Yeah.
ใช่
Trish: Thats good. Thats a good thing.
นั้นสิดีออก
Andy: I feel stupid.
ผมรู้สึกซื่อบื้อ
Trish:Its okay. I thought you were trying to kill me.
ฉันหลงคิดกลัวว่าคุณจะฆ่าฉันซะอีก
Andy: No. Im not trying to kill you. Thats why I never tried to have sex with you. I was scared, okay? I just .cause I didnt know what I was doing. I just didnt think it would be good.
ไม่ใช่เลย ผมไม่ได้พยายามจะฆ่าคุณ ผมถึงได้ไม่พยายามมีเซ็กซ์กับคุณ พระผมกลัวโอเค้ เพราะผมไม่รู้อะไรเลย ไม่คิดว่าเซ็กซ์ของเราจะดี
Trish: Of course itll be good. We love each other.
แน่นอนมันต้องดี เพราะเรารักกัน
Andy: Really?
จริงหรอ?
Trish: I love you. Yeah.
ฉันรักคุณ ใช่แล้วละ
Andy: You know what? For so long I thought that there was something wrong with me because it had never happened, but I realize now that it was just because I was waiting for you.
ผมคิดเสมอว่าผมคงมีบางอย่างที่ผิดปกติ เพราะมันไม่เคยเกิด แต่ว่าตอนนี้ผมสำนึกได้แล้วว่า เป็นเพราะผมรอคุณอยู่

ทำไมถึงซึ้ง: ก็ลองคิดดูละกันนะ ว่าถ้าคุณหรือแฟนคุณ ได้พูดประโยคนี้ต่อกันก่อนที่จะมีไรกันครั้งแรก มันคงจะซึ้งมิใช่น้อย อิอิ
5. คำสัญญาของ Ennis Del Mar จากเรื่อง Brokeback Mountain ( 2005 )

เหตุการณ์นำเรื่อง : Ennis Del Mar และ Jack Twist สองหนุ่มคาวบอยวัยเจริญพันธ์ รับงานพิเศษเป็นคนดูแลฝูงแกะบนภูเขานาม Brokeback ทั้งสองขยันทำงานกันเป็นอย่างดี และเนื้อเรื่องคงไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าทั้ง 2 ได้ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน!! และได้เสียกันจน Brokeback Mountain ได้ถือเป็นสถานที่แห่งการรำลึกความรักและความสุขของทั้งคู่.....
เหตุการณ์เข้มข้นเมื่อ: ความรักทั้งคู่ถือเป็นความรักที่ไม่ควรอย่างยิ่งในการนำไปป่าวประกาศ หรือเปิดเผยในทุกทาง เนื่องจากชาวบ้านในยุคและสมัยนั้น ไม่เปิดกว้างเหมือนทุกวันนี้ ความรักของทั้งคู่ จึงเป็นความรักที่ต้อง หลบ ๆ ซ่อน ๆ และทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตให้เหมือนชายชาตรีปกติทั่วไป เช่นการใช้ชีวิตและมีภรรยา มีครอบครัว แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรักที่แท้จริงของทั้งคู่ไม่เคยลดลงแม่แต่น้อย กลับเพิ่มพูนขึ้นตามวันเวลา --ยิ่งนานยิ่งรัก ยิ่งห่างยิ่งคิดถึง และเขาทั้ง 2 จึงต้องแอบรักกันด้วยการหลบ ๆ ซ่อน ๆ แอบกินเล็ก กินน้อย ด้วยการนัดเจอ แทนที่จะ ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตามประสาคู่ผัวตัวผู้ ซึ่งเป็นความคิดของ Jack Twist แต่ Ennis Del Mar ก็กลับไม่เห็นด้วย และนำไปสู่การทะเลาะที่เค้นอารมณ์สุด ๆ ฉากหนึ่ง ซึ่งเขาได้หารู้ไหมว่าการสินใจเช่นนี้อาจทำให้เขาเสียใจไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา เมื่อวันที่ Jack ไม่อยู่แล้ว .....
ฉากที่ซึ้งที่สุดนี้มีคำพูดเพียงประโยคเดียวครับ เมื่อตอนสุดท้ายที่ Ennis อยู่อย่างเดียวดายและโดดเดียว เขาเปิดตู้เสื้อผ้าออกมามีเสื้อและรูปภูเขาแห่งรักของพวกเขา (ฉากแรกใน MV Far away ของ Nickel back) และ Ennis พูดว่า......
Ennis Del Mar: Jack, I swear ..
แจ๊ค ฉันสัญญา....
ทำไมถึงซึ้ง: อาจเป็นเพราะความสงสาร ความเห็นใจ ความโศกเศร้าของเนื้อเรื่องที่สงผลกับตัวละครทุกตัว และความที่มันไม่สมหวังนี่แหละ ทำให้ฉากนี้เป็นฉากที่ ซึ้งที่สุดฉากหนึ่ง ทำให้เราคิดได้ว่า ใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะครับ ต่อให้มันเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ แต่ยังดีกว่าต้องอยู่ต่อไปอีกยาวนาน แต่ไม่มีคนคนนั้นที่เราต้องการ......
เพื่อน ๆ คิดว่ามีฉากไหนที่ซึ้งกว่านี้ลงความเห็นกันเรยครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Darth เวเฟอร์ เมื่อ Thu Mar 30, 2006 3:58 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
_________________
คุยหนังภาษาหมา
