ครบสองปีไปรึยัง สำหรับสตูดิโออัลบัมชุดที่สี่ ของสาวแคนนาเดียน แอวีล ลาวีญ ที่พกพาความเจ็บช้ำระกำใจที่มีต่อผัวของเธอมากลั่นกรองสนองจังหวะจนกลายเป็นเพลง 13 เพลงลงในอัลบัมนี้ วันนี้ฤกษ์ดี นั่นคือ แม่นางได้ปล่อยซิงเกิ้ลสำหรับอัลบัมใหม่ 'Here's to never growing up' จึงเอารีวิวที่ไม่เคยลงมาโพสเสียเลย อัลบัมนี้โชคดี ตรงที่รีวิวหลังจากซึมซับทุกอย่างมานานแล้ว เอาล่ะ มาดูกันเลยค่ะ
ภาพรวม อัลบัมนี้เป็นดนตรีในภาพที่ นุ่มนวล และลดความแรง ลงจากอัลบัมที่แล้วมากๆ รวมถึงเดินทำนอง จังหวะ การวางแทรค ที่เป็นการ "เซฟ" ตัวเองไว้มากพอสมควร สำหรับใครที่ยังติดใจเพลงแก่นๆ ผีบ้าผีบอชนิดมาเต็มไม่มีกั้กในอัลบัมที่แล้ว เตรียมตัวผิดหวังไว้ได้เลย แต่สำหรับแฟนเพลงที่ไม่เห็นด้วยกับป๊อปร๊อกลุคสาวพังค์ก็เตรียมชนแก้ว เพราะวีญละลายความแรง เถื่อน ก้าวร้าวออกไปเยอะ เหมือนกับว่า ประสบการณ์ ความเจ็บปวดได้สอนเธอ ให้เธอขัดเกลาตัวเองเสียใหม่ เพลงส่วนใหญ่จึงเป็น โฟล์ค ป๊อปร๊อก ออคูสติก จังหวะกลางเยอะมาก แต่ก็ยังไม่ใช่เพลงร๊อกทรงพลังแบบอัลบัมสองอยู่ดี
จุดเด่น เพลงอัลบัมนี้จะมาในรูป ฟังง่าย สบายหู ฉนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องเพลงที่มีเสียงโหวกเหวก หรือ ดนตรีไม่สมประกอบ เพราะแม่คุณได้เลือกที่จะเพลย์เซฟไว้แล้ว โฟล์ค อะคูสติก ผสม ร๊อก อัลเทอร์เนทิฟมาซักหน่อย กันแฟนๆลืม ว่าจริงๆแล้วเธอยังทำเพลงรอกอยู่(เหรอ)นะจ้ะ ความหมายในเพลงก็จะซอฟลงมากสมกับชื่ออัลบัมแหละ ผัวขา วีญลาก่อน
จุดดิ่ง วีญเอ๋ย เธอตอยโจทย์ ลัลลาบาย ดีเหลือเกิน ฟังได้ไม่ถึงอัลบัมหนังตาก็จะปิดแล้วลูก อารมณ์เพลงธรรมดามาก ไม่จี้ดจ้าด หรือมีอะไรที่โดเด่นเลย ทุกเพลงเท่ากันไปหมด ถ้าไม่ใช่คอเพลงโฟล์คออคูสติกจริงเป็นต้องทำตาปรือก่อนกดปิด ดีลีทโฟลเด้อร์ กู้ดบาย ลัลลาบาย ไปเป็นแน่แท้ เชื่องช้าน่าเบื่อ แต่ถ้าพูดกันด้านภาคดนตรีหรือความเพราะ เธอก็ไม่ได้บกพร่องอะไรไป
01 Black Star (3/5)
อินโทรเปิดอัลบัมด้วยเสียงกดดนตรี กุ้งกิ้งเศร้าๆ ต่อด้วยความโหยหวนและอารมณ์ประหนึ่งธุรกิจล้มละลายของแม่นางลาวีญ ครวญครางไปจนกระทั่งจบเพลงที่มีความยาวไม่ถึงหนึ่งนาที แต่มันก็ละเอียดและสื่อถึงธีมอัลบัมนี้ดีนะ
02 What The Hell (3/5)
เริ่มต้นกันด้วยโพรแกร่มมิ่งดนตรี แต้ดๆประหนึ่งไฮสคูลสาวสมัยก่อน ตังเพลงเป็นเพลงป๊อป ผสมคอรัส เยเหย่ เยเหย้ แบบอัลบัมที่แล้ว สนุกสนานกันที่ท่อนฮุคที่ใส่เสียงกีร์ต้าอะไรเข้ามาให้เพลงแน่นมากขึ้นแล้วก็ปิดท้ายด้วยพอร์ชคอรัส เป็นอะไรที่ฟังเพลินนะคะ แต่มันโคตรธรรมดาเลย หายหัวไปตั้งสองปี เอาแค่นี้จริงอ่ะ
03 Push (3.5/5)
โฟล์คอะคูสติก สตริง-ป๊อปร๊อกในภาคดนตรีที่อ่อนสบายหู โดยเริ่มซิมเปิลจากร๊อกจังหวะบีทบ๊อก เสริมคอรัสโพรแกรมมิ่งดนตรีในท่อนฮุคให้เพลงนุ่มนวลมากขึ้นเยี่ยวยาเสียงแจ๋นๆของแม่คุณ ผิดท้ายด้วยคอรัสเสียงผู้ชายและเสียงกีร์ต้าอัลเทอร์เนทิฟแบบจางๆแว่วมา เพราะจะตาย ใยบางคนถึงทำหน้าหยีใส่เพลงนี้ได้นะ
04 Wish You Were Here (3.5/5)
โฟล์คอะคูสติก บัลลาร์ดในจังหวะกลาง ความหมายดีๆอย่าง แม้ฉันจะเข้มแข็งได้ ก็อยากมีเธออยู่ตรงนี้จัง สื่อถึงความเจ็บปวด(?) ของแม่วีญที่มีต่อคนรักและต้องการจะนำเสนอลงในอัลบัมนี้ได้ดีมากๆ บริดจ์เป็นเสียงพูดผสมกับเสียงสังเคราะห์โหยหวนลอยๆ ที่ออกจะมากเกินไปนิด แต่ฮิตโน๊ตเพลงนี้เก็บได้ละเอียดและน่าฟังกวว่าบัลลาร์ดที่ผ่านมา
05 Smile (4/5)
เพลงโปรดเลยจ้า ป๊อปร๊อก ที่มีดนตรีเข้มข้นและจังหวะสนุกสนานที่สุดในอัลบัมนี้ ให้อารมณ์ประมาณแรกรัก สาวสะพรั่งของวีญ เดินสายด้วยป๊อปร๊อกดิบๆ ก่อนสาดดนตรีเต็มที่พร้อมกับแผดลากยาวของแม่นางตบท้ายด้วยพอร์ชคอรัสติดหูและเสียงกีร์ต้า ลงตัวกว่านี้ไม่มีแล้วค่ะ เกือบลืมชมว่าพรีคอรัส ที่คล้ายๆเสียงพุดโต้ตอบกัน แก่นเซี้ยวมากๆ
06 Stop Standing Here (3/5)
ป๊อปออคูสติกจังหวะง่ายๆไร้แก่นสาร และเสียงร้องใสๆของแม่นางสานกับเสียงปรบมือแปะๆและกีร์ต้าโปร่งเพราะๆ ท่อนฮุคสดใสสาวไฮสคูลแบบแจมอาร์แอนด์บีเล็กน้อย ออกจะน่าเบื่อไปนิด แต่ก็เป็นเพลงพักหูที่ดีเพลงนึง
07 I Love You (3.5/5)
หนึ่งในอีกเพลงโปรด โฟล์คป๊อป อะคูสติก จังหวะหนักแน่นขึ้นมาในระดับหนึ่ง ความหมายน่ารักน่าหยิกเสียเต็มประดา "เธอช่างงดงามเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฉันรักเธอหรอกนะ แต่เพราะเป็นเธอนั่นแหละ ฉันถึงได้รักเธอ" มีท่อนติดหูอย่าง ลาลา ลาลาลา ดนตรีจะเริ่มมากขึ้นตามลำดับในท้ายเพลง กำลังชอบใครอยู่รึเปล่า ถ้าใช่ ก็เอาเพลงนี้ไปฟังเลย
08 Everybody Hurts (3.75/5)
มีใครคิดถึงแอวริล วาวีญ สมัย Under my skin อยู่รึเปล่า เพลงนี้จะทำให้คุณนึกถึงหล่อนในสมัยนั้นแน่ๆ โฟล์คอัลเทอร์เนทิฟ สื่ออารมณ์เศร้าหมอง ระเบิดเทมโฟที่ท่อนฮุคที่โฟล์คร๊อก ที่ผสานศาสตร์ดนตรีเก่าๆของเธอเข้ามา แล้วหารด้วยความนุ่มนวลและหม่นเพื่อเข้ากับธีมในอัลบัมนี้ ขอกระซิบซักนิดว่าบริดจ์เพลงนี้เพราะมาก แต่ฟังไปนานๆเบื่อค่ะ
09 Not Enough (3/5)
แซมเพิ้ลด้วยเสียงเกากีร์ต้า และตัวเพลงจริงที่เป็นออคูสติกบัลลาร์ด ขึ้นท่อนฮุคกันด้วยลำดับเสียงร้องที่เค้นอารมณ์ขึ้น และเพิ่มดนตรีเป็นป๊อปร๊อก เคล้ากับคอรัสลอยละล่อง ต่อท้ายด้วยอัลเทอร์เนทิฟจางๆ ทำให้คิดถึง Runaway ในภาคที่ไม่มีความดุดันเกรี้ยวกราด แต่ก็ not enough to get 5 ตามชื่อเพลงด้วยเช่นกัน
10 4 Real (2.5/5)
เริ่มต้นเพลงแบบแอมป์เบียนต์เสียงสดๆของนางและดนตรีลอยๆ เชื่อมกับโฟล์คป๊อป ออคูสบัลลาร์ด ค่อยๆเพิ่มจังหวะแบบป๊อปและเสียงร้องสไตล์โซล แบบว่า มันน่าเบื่อม๊ากมาก อารมณืเท่ากันทั้งเพลงแบบไม่ต้องหวังอะไรพีค ใครทนได้ทนค่ะ แต่ศรีทนไม่ได้
11 Darling (3/5)
ป๊อปสตริงอะคูสติกอีกเพลงจะเป็นไรไป เสียงเกากี์ต้ากับเสียงสดๆของแม่คุณ ขึ้นท่อนฮุคด้วยจังหวะกี์ร์ต้าที่มากขึ้นเท่านั้น ใจจริงคุณเธอคงกะทำมาแบบสื่ออารมร์สุดขีด แต่มันไม่เวิอร์คค่ะ แม้นว่าช่วงหลังจะเสริมดนตรีป๊อปโซล-คลาสสิก โดยเฉพาะเสียงไวโอลินเข้ามา ก็ช่วยได้ กระจึ๋งนึง
12 Remmeber When (4/5)
บัลลาร์ดที่ชอบที่สุดในอัลบัมนี้ ด้วยเสียงกดเพียโนนุ่มๆในช่วงแรกตามมากับเสียงเศร้าๆของตัวนักร้อง เพิ่มจังหวะขึ้นแบบป๊อปบัลลาร์ดและเพียโนที่ชัดบาดหูขึ้น ช่วงสองจะเริ่มแทรกคามเป็นโฟล์คเข้ามามากยิ่งขึ้น ต่อที่ป๊อปร๊อกบัลลาร์ดสไตล์ถนัดในช่วงสุดท้ายของเพลง เหมือนเพลงกล่อมเด้กเรย
13 Goodbye (4/5)
บัลลาร์ด แบบดนตรีคลาสสิกย้อนยุค ด้วยเสียงสีเชลโล่หม่นๆ คลอมากับเสียงเปียโนและความโหยหวนของนางเอง โดยค่อยๆเพิ่มดนตรีมากขึ้นเรื่อยๆในฮุคสอง และจังหวะชัดเจนขึ้นปิดฮุคสุดท้ายด้วยคอรัสที่จะเรียกว่าประสานเสียงก็ไม่เชิง แต่รายละเอียดดนตรีทำมากลมกล่อมที่สุดในอัลบัม เพลงนี้ตกม้าตายตอนจบ เพราะเพลงจบไปแล้วยังจะเอาดนตรีต่อเข้ามาแบบไม่เนียนอีก เอิ่ม อะไรกันค๊า
14 Alice (Extended ver.) (4/5)
เวอร์ชั่นที่ยาวขึ้น ของเพลงประกอบอลิซในแดนมหัสจรรย์ เพลงนี้เป็นอะไรที่มีมนตรืเสนห์มากๆ ถ้าไม่ใช้การร้องแบบนี้ เสียงออร์แกนหนักๆจะจังหวะแบบมาร์ชออเคสต้า จบทุกความรู้สึกที่แผดหลายชั้นในท่อนฮุค ให้คนปวดหูไปตามๆกัน แถมท่อนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ยังโน๊ตเพี้ยนด้วย แม้จะชอบเสียงโพรแกรมมิ่งและคอรัสโอเปร่าก็ตาม
อ้างอิงจาก:
อ่ะ เอาเป็นว่าแฟนๆของวีนไม่ต้องผิดหวังนะคะ อัลบัมนี้เพราะด้านดนตรีแล้วเธอทำมาใช้ได้ไม่ขี้เหร่เลยสักนิด เอาไว้ฟังพักหูกับ 3 อัลบัมที่ผ่านมาแบบไม่ขัดอารมณ์ได้สบายบรื๋อ ส่วนคนที่อยากได้เพลงแดนซืล่ะก็คงต้องเลือกเป็นแทรคๆไปแต่พวกที่หลงไหลในโฟล์ค อะคูสติก อย่ารอช้าค่ะ
Here's To Never Growing Up (3.5/5)
ขอรีวิวตั้งแต่เป็นซิงเกิ้ลเลยละกัน สำหรับซิงเกิ้ลเปิดตัวอัลบัมชุดที่ 5 ของแม่นางแอวริล ลาวีน โดยเธอใช่ชื่อว่า ฉันจะไม่โตขึ้นหรอกนะยะ โอ๊ย แม่คุณ อีก 2 ปีจะ 30 แล้วนะจ้ะ ยังจะมาเป็นสาวปอมๆอีกเร๊อ เอ้าๆอย่าเพิ่งตัดสินก่อนฟังมาดูกันก่อน
หลังจากฟังปุ๊ป ความรู้สึกแรกคือ นี่มันคือส่วนผสมของ Oath (Cher Lloyd) + We Are Never Ever Getting Togrther (Taylor Swift) ต๊าย ไหงวีญเล่นง่ายแบบนี้ล่ะจ้ะ ตัวงานเพลงนี้จะเป็นป๊อปร๊อก-สตริงกึ่งคอนเทมโพรารี ผ่านจังหวะที่หนักขึ้นแบบอาร์แอนด์บีผสมกับพาวเวอร์ป๊อปเชื่อมกับคอรัสเสียงผู้ชาย และมาร์ชร๊อกในบางท่อน เอาเป็นว่ามาเต็มทั้งกะสนุก กะหนักแน่นเลยว่างั้นเถอะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า เพลงนี้เป็นเหมือนส่วนผสมของอัลบัมที่ผ่านมาทั้งหมดของวีญ ทั้งเพลงร๊อกแบบ Let's Go อัลเทอร์เนทิฟเข้มข้น Under My skin ป๊อปพังคืปอมๆเชียร์ The Best Damn Thing และ อะคูสติกโฟล์ค Goodbye Lullabye สมกับชื่อเพลงและคอนเซปจริงๆ
การเรียงเพลงจะเป็นแบบนี้ มาร์ชป๊อปร๊อก - โฟล์คป๊อป - ป๊อปร๊อกอารืแอนด์บี - คอรัส(กึ่งกอสเปล)
ถามความรู้สึกส่วนตัว คือไม่คิดว่ามันจะออกมาเชื่องช้าแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรเพราะส่วนตัวเป็นคนชอบเพลงป๊อปแนวนี้อยู่แล้ว บางทีอัลบัมนี้ วีญอาจจะเดินสายไปทางป๊อปเต็มตัวเหมือนเทเลอร์ที่ขอทิ้งคันทรีย์ ไปเอาดีกับป๊อป-ร๊อก แล้วก้ได้ ยังไงก็ช่างก็จะรอฟังอัลบัมเต็มของเธอ ฉนั้นขอสรุปคะแนนให้ไป 3.5/5 ค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Pussy เมื่อ Tue Apr 09, 2013 2:49 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง