เครดิตจากเว็บ eazyworld.6.forumer.com
เขียนโดย pekko
Billboard Hot 100 Chart ในปัจจุบันจะวัดคะแนนหลักๆจาก 4 ส่วนใหญ่ๆได้แก่
1. Airplay (คะแนนส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 50%)
คะแนน Airplay คือคะแนนที่วัดจากการเปิดออกอากาศตามสถานีวิทยุประมาณ 1,000 สถานีทั่วประเทศอเมริกา โดยทั้ง 1,000 สถานีนี้จะครอบคลุมทุกแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็น Mainstream Top40 (สถานีที่เปิดเพลงคละกัน เน้นเพลงที่กำลังดัง), R&B/Hip-hop, Pop, Country, Rock, Adult Contemporary, Gospel, Latin และ Christian โดยแนวที่มีสถานีที่มีมากที่สุดคือ Mainstream Top40, Pop และ R&B/Hip-hop (นี่คือสาเหตุที่ทำให้เพลง R&B/Hip-hop ครองอันดับใน chart ได้มากที่สุด เพราะเพลง R&B สามารถเปิดได้ทั้งใน R&B/Hip-hop เอง หรืออาจจะเปิดใน Pop หรือ Top 40 ก็ได้)
การคิดคะแนน Airplay จะคิดเป็นค่าที่เรียกว่า Audience Impressions โดยค่านี้จะคำนวณจากจำนวนครั้งที่แต่ละสถานีเปิดเพลงนี้ (Spin) คูณกับจำนวนผู้ฟังโดยเฉลี่ยของสถานีนั้นๆ โดยการนับคะแนน Airplay นี้จะเริ่มนับวันพุธถึงวันอังคาร จากนั้นจะนำเพลงที่มีค่า Audience Impressions มากที่สุด 100 อันดับแรกมาเรียงลำดับเป็น Chart ที่เรียกว่า Hot 100 Airplay นอกจาก Hot 100 Airplay แล้ว ยังมีการจัดอันดับยอด Airplay ของสถานีแต่ละประเภทแยกต่างหากอีกด้วย เกิดเป็น chart ย่อยอีกหลาย chart เช่น Mainstream Top 40, Pop 100 Airplay และ Hot R&B/Hip-Hop Airplay
โดยปกติแล้ว เพลงที่ได้อันดับ 1 ใน Hot 100 Airplay จะมีค่า Audience Impressions ประมาณ 100 ล้านขึ้นไป (สถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมาคือ 223 ล้าน ของเพลง We Belong Together ของ Mariah Carey)
2. Digital Sales (คะแนนส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 45%)
คือยอดขายแบบ Digital Download จากร้านค้าออนไลน์อย่าง iTunes, Napster, Musicmatch, Rhapsody เป็นต้น โดยจะเริ่มนับยอดขายตั้งแต่วันจันทร์จนถึงคืนวันอาทิตย์ หลังจากนั้นจะนำเพลงที่มียอดขายสูงสุด 100 อันดับแรกมาเรียงลำดับ เกิดเป็น chart ที่เรียกว่า Hot Digital Songs
ความจริงแล้ว Billboard จะมี chart ยอดขาย Digital อยู่ 2 chart คือ Hot Digital Songs กับ Hot Digital Tracks ซึ่ง 2 chart นี้จะมีความแตกต่างกันในแง่การนับคะแนนกรณีที่บางเพลงมีหลายเวอร์ชัน หลาย Remix โดยการนับคะแนนของ Hot Digital Songs จะนับยอดขายทุกเวอร์ชันรวมกันถือเป็นเพลงเดียวกัน แต่ของ Hot Digital Tracks จะนับแต่ละเวอร์ชันแยกจากกัน ดังนั้นจึงอาจจะมีเพลงบางเพลงอยู่ในอันดับหลายอันดับได้ อย่างไรก้ตาม ยอดขาย Digital ที่นำไปคิดคะแนน Hot 100 นั้น จะคิดแบบ Hot Digital Songs คือนับรวมทุกเวอร์ชันเข้าด้วยกัน
โดยปกติแล้ว เพลงที่ได้อันดับ 1 ใน Hot Digital Songs จะมียอดขายประมาณ 150,000 ขึ้นไป โดยสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมาคือ 636,000 หน่วย ของเพลง Right Round ของ Flo-rida
3. Physical Sales (คะแนนส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 0-1%)
คะแนนส่วนนี้คือยอดขายแผ่น Physical ที่ขายตามร้าน CD ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นยอดขายหลักของ single แต่ปัจจุบันหลังจากที่มีการขายแบบ Digital เข้ามา ก็ทำให้ยอดขาย Physical ลดลงจนแทบจะไม่มีนัยสำคัญอะไรแล้ว
ยอดขาย Physical ก็จะเริ่มนับตั้งแต่วันจันทร์ถึงคืนวันอาทิตย์ เช่นเดียวกับยอดขาย Digital และยอดขาย Physical นี้ก็จะนำไปจัดเป็น chart ที่เีรียกว่า Hot 100 Singles Sales
โดยปกติแล้ว เพลงที่ได้อันดับ 1 ใน Hot 100 Singles Sales ปัจจุบันนี้ จะมียอดขายแค่ประมาณ 2,000-3,000 เท่านั้น ส่วนสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมาคือ 1,500,000 แ่ผ่น ของเพลง Candle In The Wind 1997 ของ Elton John (สมัยนั้นยังไม่มีการ download ยอด physical ถึงได้เยอะต่างปัจจุบันราวฟ้ากับเหว)
4. Streaming Media (คะแนนส่วนนี้คิดเป็นประมาณ 4-5%)
คะแนนส่วนนี้ เป็นคะแนนที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2007 นี้เอง เป็นคะแนนที่วัดจากจำนวนครั้งของการฟังเพลง online ผ่านเวปที่ให้บริการ Streaming Media เช่น AOL Music หรือ Yahoo! Music เป็นต้น คะแนนส่วนนี้เป็นคะแนนส่วนที่ประหลาดที่สุด และทำนายได้ยากที่สุด เพลงวิ่งขึ้นลงกันเป็นว่าเล่นแบบไม่มีเหตุผล บางเพลงสัปดาห์นี้อยู่อันดับ 1 สัปดาห์หน้ากระเด็นหลุด Top 10 ก็มี และแต่ละเวปเองก็มี Top 10 ที่ไม่เหมือนกันเลย
ความจริงจะว่าไปแล้ว Streaming Media มันก็เหมือนกับคะแนน Airplay เหมือนกันนะ แต่เป็น Airplay บนเวป ไม่ใช่ Airplay บนสถานีวิทยุ
