_________________
![]() |
|
ไปที่หน้า ก่อนหน้า 1, 2, 3, 4 |
| กาก้าเล่นเป็น แมรี แม็กดาเลน ใน Judas !!! ***แปลให้แล้วจ้า | |
| ผู้ตั้ง | ข้อความ |
|---|---|
|
Stereosonic FF>>Member ระดับเริ่ด ![]()
เข้าร่วม: 26 Feb 2007 ตอบ: 21914 |
ฉันเห็นด้วยกับการทำเอ็มวีตัวนี้ของนางกล้า่ค่ะ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะเดี๋ยวบางคนจะตีความผิดไป
_________________
|
| Fri Apr 08, 2011 8:31 pm | |
|
พระนางแมรียา FF>>Member ระดับเริ่ด ![]()
เข้าร่วม: 22 Mar 2006 ตอบ: 32590 ที่อยู่: บัลลังก์ |
คุณไก่ติ๋มอย่าอิจฉากาก้าเลยค่ะ
_________________
|
| Fri Apr 08, 2011 9:14 pm | |
|
Stefania FF>>Member Cool ![]()
เข้าร่วม: 02 Mar 2011 ตอบ: 2107 ที่อยู่: อู่ตะเภา |
รอ
|
| Fri Apr 08, 2011 9:16 pm | |
|
ควีนกาก้า FF>>Member มือใหม่หัดโพสต์ ![]()
เข้าร่วม: 28 Feb 2011 ตอบ: 186 |
แมรี ถือกำเนิดขึ้นในช่วง เวลาไล่เลี่ยกับพระเยซู ณ หมู่บ้านแม็กดาลา (เธอจึงได้ชื่อตามนั้น) ใกล้กับทะเลกาลิลี และอยู่ ภายในจังหวัดจูเดียซึ่งขึ้นกับอาณาจักรโรมัน
หลัก ฐานที่มีอยู่ระบุว่า แมรีในวัยเด็กมีชีวิตที่สุขสบายกับครอบครัวที่มีฐานะ เธอไม่ต้องทำงาน หนักเยี่ยงเด็กยิวทั่วไป และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของคำร่ำลือว่าเธอเป็นโสเภณี เมื่อแมรีย่างเข้าวัยสาวและสวย นัก โบราณคดีตีความหมายของคำ “โสเภณี” ในครั้งโน้นว่า อาจมิใช่เป็นหญิงที่ค้าขายร่างกาย แต่เป็นคำที่ใช้บอกถึงสตรีที่ประพฤติตนเป็นคนร้อนรัก หรือมีความสัมพันธ์กับชายอย่างผิดศีลธรรม ทั้งนี้ เพราะฐานะที่ร่ำรวยของแมรีทำให้เธอมีเวลาว่างเหลือเฟือ กอปรกับความสวย เธอจึงมีรักกับหนุ่มๆหลายคน จนถึงกับได้รับสมญาว่า “นางบาป” แต่ไม่มีประโยคใดในไบเบิลที่ระบุว่าแมรีเป็นโสเภณี นอก จากนี้ “แมรี” ยังเป็นชื่อธรรมดาสามัญอย่างยิ่งในครั้งโน้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของสตรีปาเลสไตน์ใช้ชื่อว่า “แมรี” หรือ “ซาโลเม่” และ “แมรี” หลายคนก็มีประวัติด้านชู้สาว จึงทำให้นักโบราณคดีสับสนว่าแมรี โสเภณีนั้นอาจเป็นคนละคนกับแมรี แม็กดาลีน ก็เป็นได้ นอก จากนี้ ไบเบิลยังบอกด้วยว่า แมรีเป็นสาวในหมู่บ้านประมงที่เผชิญกับ เคราะห์กรรมจากการมีปิศาจเจ็ดตนเข้าสิง ซึ่งเป็นสิ่งปกติสำหรับสมัยโบราณ เมื่อผู้ใดเจ็บป่วยก็มักกล่าวหาว่าเกิดจากการกระทำของภูตผีปิศาจ แต่แท้จริงแมรีอาจเป็นโรคลมชัก หรือโรคจิต โรคประสาทที่กำเริบเป็นครั้งคราว และจากการพาตนไปให้จีซัสรักษา ทำให้ทั้งสองได้พบกัน และชีวิตของแมรีก็แปรเปลี่ยนไปนับแต่นั้น นอกจากนี้ การขับภูตผีปิศาจออกจากร่าง ก็ได้ทำให้เธอมีความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ เมื่อหายจากโรคร้าย แมรีก็มีความเลื่อมใสศรัทธาในจีซัส และติดตามไปในฐานะสานุศิษย์ เริ่ม แรกนั้น พวกเขาพำนักอยู่ในกาลิลี จาริกไปตามโบสถ์ยิว ประกาศว่าอาณาจักรแห่งพระเจ้าใกล้มาถึงแล้ว ส่วนจีซัสก็ทำการรักษาผู้เจ็บป่วย และแสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ ให้ปรากฏเห็น จำนวนผู้เข้าร่วมกลุ่มก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดกลุ่มผู้เลื่อมใสก็มากล้นโบสถ์ จีซัสจึงต้องเผยแพร่คำสอนโดยออกไปใช้ลานกลางแจ้ง มีแมรีคอยปรนนิบัติอยู่เคียงข้าง จาก เอกสารโบราณที่พบในอียิปต์ : แมรีกับจีซัสมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก หลายคราที่จีซัสอยู่กับเธอตามลำพัง และสั่งสอนเป็นพิเศษ ซึ่งมีแต่เธอเท่านั้นที่จะหยั่งถึงได้ ความสนิทสนมนี้ก่อความไม่เข้าใจให้สานุศิษย์อื่น แมรี แม็กดาลีน ติดสอยห้อยตามองค์พระเยซูอยู่สามปี ครั้นแล้วพระองค์ก็บอกแมรี แม็กดาลีน และสานุศิษย์ทั้งปวงให้ออกเดินทางจากกาลิลี ไปสู่เยรูซาเลมเพื่อฉลองเทศกาลพาสส์โอเวอร์ ล่วง เข้าสัปดาห์ เทศกาล แมรีกับสานุศิษย์หญิงอื่นๆวุ่นวายอยู่กับการตระเตรียม อาหารสำหรับฉลองวันพาสส์โอเวอร์ แม้ว่าสตรีจะไม่ได้ ร่วมใน “อาหาร มื้อสุดท้าย” แต่พวกเธอก็อยู่ในบริเวณนั้นด้วย และแมรีก็คอยปรนนิบัติจีซัส อย่างใกล้ชิดระหว่างเสวยกระยาหาร จาก นั้น กลุ่มผู้ถือดาบและกระบองก็ได้บุกรุกเข้ามาจับกุมจีซัส พระองค์ทรงยินยอมอย่างสงบ พวกนั้นนำพระองค์ไปมอบให้แก่โรมัน แมรีรู้ดีถึงความโหดร้ายทารุณของโรมัน จีซัสอาจถูกทรมานหรือแม้กระทั่งสังหาร และแล้วเธอก็ได้ล่วงรู้ว่าพระองค์ถูกตรึงกางเขน เธอรีบรุดไปยังกอลโกธาที่ซึ่งจีซัสถูกทรมาน ตลอด ช่วงเวลาเจ็บปวดรวดร้าวอันยาวนาน จนสิ้นพระชนม์นั้น แมรีก็คอยเฝ้าอยู่ ณ ที่นั้น คัมภีร์คริสต์ประวัติกล่าวว่า เธอได้เห็นเขาฝังร่างพระองค์ลงในหลุมหิน แต่วันนั้นเป็นวันแซบบาธอีฟ กฎหมายยิวห้ามการเยี่ยม เยือนศพในวันศักดิ์สิทธิ์นั้น เธอจึงต้องรั้งรอจนถึงเวลาที่ได้อนุญาต เธอไปถึงสุสานเพื่อจะพบว่ามันเปิดอยู่ และร่างของจีซัสได้อันตรธานไปเสียแล้ว แม รีคาดคิดว่ามีผู้มาบุกรุกสุสาน เธอจึงร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก เธอไม่รู้ว่ากำลังจะได้เผชิญกับเหตุการณ์สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์มนุษย์ เพราะเมื่อเธอหันกลับมาก็ได้ เห็นจีซัสยืนอยู่และมีรับสั่งว่า “จงไปยังพี่น้องของเราและบอกพวกเขาว่า เรานั้นสืบทอดมาจากพระบิดาของเราและของเจ้า จากพระเจ้าของเราและของเจ้า” แมรีปฏิบัติตามที่ได้รับบัญชา เธอประกาศแก่เหล่าสานุศิษย์ว่า “ข้าได้เห็นพระองค์” และบอกถึงถ้อยคำที่พระองค์รับสั่ง นั่นเป็นบทบาทสุดท้ายของแมรีที่มีปรากฏในไบเบิล แต่ ในคัมภีร์โบราณจากอียิปต์มีระบุต่อไปว่า แมรีดำเนินการป่าวประกาศคำสอน ของจีซัสอย่างเข้มแข็งต่อไป โดยมิได้ หวาดหวั่นเหล่าโรมัน เธอได้กลายเป็นผู้นำแห่งสานุศิษย์ของจีซัสในการเผยแพร่ คริสต์ศาสนา สำหรับ บั้นปลายแห่งชีวิตของแมรี มีปรากฏใน “ตำนานทอง (The Golden Legend)” ซึ่งเป็นหนังสือรวบรวมประวัติของนักบุญที่เขียนขึ้นในยุคกลางของยุโรป ซึ่งได้กล่าวว่า แมรีได้ทำหน้าที่ของเธอต่อมาในดินแดนมาตุภูมิเป็นเวลา 14 ปี จากนั้น เธอจึงเดินทางไปอยู่ที่ เมืองท่ามาร์ไซลส์ ในมณฑลโปรวองซ์ของฝรั่งเศส และอยู่ที่นั่นจนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ต่อมาคริสต์ ศาสนาก็ได้แต่งตั้งให้แมรี แม็กดาลีน เป็นนักบุญ (Saint) http://www.bangsaenchurch.org/stopnews/DavinciCode/Davinci6.html _________________
|
| Fri Apr 08, 2011 10:22 pm | |
|
ควีนกาก้า FF>>Member มือใหม่หัดโพสต์ ![]()
เข้าร่วม: 28 Feb 2011 ตอบ: 186 |
งานมันยังไม่ออกมาเลยค่ะ จะรู้มั้ยว่า จะมีฉาก ซั่มกันในโบสถ์หรือเอา ไม้กางเขนมาติ้ว
อย่าเพิ่งอะไรมากนะคะ เเละที่สำคัญ ถ้าไปหมิ่นศาสนา นรกก็กินหัวนางเองเเหละค่ะ คนดูคงไม่โดน ควักลูกตา แสนกัป แสนกัลป์ หรอกนะคะ _________________
|
| Fri Apr 08, 2011 10:26 pm | |
|
อิลลูมินาติ FF>>Member Cool ![]()
เข้าร่วม: 30 Sep 2010 ตอบ: 4612 |
อีแมรี่ ชีไม่ได้เป็นโสเภนีนะค่ะ เเต่ เพราะมี การ อีดิดไบเบิล หลายๆ รอบจนชีต้องเป็นกระรี่ไปเลยค่ะ ชีเป็นคนที่หนุนหลังพระเยซูหลายเรื่องเป็นหญิงที่ฉลาดมากๆ เเละน่าจะเป็นเมียผู้สือสายเลือด เยซูด้วยคะ เเล้วตอนหลังก็หนีไป สายเลือดของชีนี้ละคะ คือผู้คนในองกร อิลลูมินาติตั้ง ดาวินชีและอื่นๆ บลาๆ
_________________
|
| Sat Apr 09, 2011 3:32 am | |
|
Darth เวเฟอร์ FF>>Member Cool ![]()
เข้าร่วม: 14 Mar 2006 ตอบ: 1191 ที่อยู่: ภาชนะ |
![]() _________________ คุยหนังภาษาหมา
|
| Tue Apr 12, 2011 8:29 am | |
|
หน้า 4 จาก 4 ไปที่หน้า ก่อนหน้า 1, 2, 3, 4 |
| คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน |
|