˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
5อัลบั้มประจำปีนี้ที่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะให้ตาย (Myspace#67)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ 5อัลบั้มประจำปีนี้ที่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะให้ตาย (Myspace#67) 


Amos Lee : Mission Bell : Folk/Soul (97%)


คอลัมน์ Myspace ครั้งที่67นี้ขออนุญาติย้ายจากบอร์ดหน้า Reader Review มาที่หน้าหลักเนื่องจาก "มันอาจจะไม่ใช่งานรีวิว" เพราะว่าช่วงนี้ฟังเพลงเยอะมากกกกกกกกกก มากจนเลือกเขียนให้ใครก่อนไม่ถูกแถมยังไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งเจาะลึกรายละเอียดเขียนยาวเป็นโยชน์ๆวาๆแบบครั้งก่อนๆ ครั้งนี้จึงขอรวบรัดเขียนแนะนำ5อัลบั้มประจำปีนี้ที่ไม่อยากให้คอดนตรีท่านใดพลาดจริงๆ (ยิ่งเป็นคนอ่านขาประจำของดิฉันพลาดไปจะรู้สึกเสียใจมากๆ) ด้วยความที่งานมันดีจุกอกจริงๆค่ะจะใช่คนอ่านขาประจำดิฉันหรือไม่ไม่รู้ไม่สน กูแจกล่ะนะคะกระทู้นี้ หึหึหึ


อัลบั้มแรกนี่จะเป็นใครไปไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ได้ๆๆๆๆเลยจริงๆนอกจากคุณพี่ "เอมอส ลี" ศิลปินคนโปรดกับอัลบั้มล่าสุดชุด Mission Bell เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบิลบอร์ดที่ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรจะเขียนๆๆๆถึงงานชุดนี้ทีไรนี่แบบว่ามีอันจะต้องเลื่อนต้องย้ายทุกที อัลบั้มนี้นี่ถือเป็นหน้าที่ของดิฉันทีเดียวที่จะต้องป่าวประกาศจิกหัวกระบาลให้คนมาสนใจให้ได้มากที่สุดเพราะกล้าพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในงานดนตรีที่ดีและไพเราะที่สุดของศก2011นี้เลยทีเดียวกับงานดนตรีโฟล์คงามระยับผสานพ็อพที่สวยหม่นระทดระทวยบริสุทธิ์สวยงามและเหงาลึกซึ้งบาดอารมณ์แถบขาดใจเจือด้วยมนตร์เสน่ห์จากความเป็นโซลหอมกรุ่นดิบสดและสรรพสำเนียงการร้องที่มีความเป็นบลูส์สุดเชือดเฉือนตามสไตล์ของพี่ท่านเอง ใครคิดไม่ออกก็ลองนึกถึงเจมส์ มอริสันในภาคที่ลดความหวานแบบพ็อพลงแต่เติมความละมุนละไมแบบวิถีโฟล์คเข้าไปสองระดับพร้อมด้วยน้ำเสียงแบบบลูส์ที่เข้มขึ้นเป็นเท่าตัวแม้ว่าจะไม่โหยหวนทรงพลังเท่าแต่ก็เหงาและเศร้าจนกระชากน้ำตา ไม่มีสัปดาห์ใดตลอดฤดูฝนที่ผ่านไปโดยไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้เลย...บริสุทธิ์และสดใสประหนึ่งท้องฟ้าสีชมพูยามหลังฝนกระหน่ำที่เหลือทิ้งไว้เพียงหยาดน้ำสวยๆตามริมทางและกลิ่นไอฝนที่ปะทุขึ้นมาจากดินยังไงยังงั้น
.





Beverley Knight : Soul Uk : Soul/R&B/Neo-Soul (100%)

เบเวอลี่ย์ ไนท์ - - บ้างก็ว่าหมดยุคของเธอไปแล้ว (เออ ก็จริง!!) บ้างก็ว่าชื่ออัลบั้มนี้สิ้นคิดผิดมหันต์ (ถูกของมึง!!) บ้างก็อี๋ยย์เพิ่งขายได้8,700กว่าอัลบั้มนี่นะ (Y Y) และบ้างก็ครหาว่าในวงการดนตรีฝั่งอังกฤษไม่มีพื้นที่สำหรับสาวเสียงโซลทรงเสน่ห์เปี่ยมความสามารถนางนี้อีกต่อไปเพราะนี่คือช่วงเวลาของ "อะเดล" เลือดใหม่แห่งดนตรีโซล...แต่ถ้าหูคุณไม่ได้หนวกหรือรสนิยมทางดนตรีไม่ได้ย่อยยับจัญอัปจนเกินไป "ไม่ต้องถึงขนาดนั้น!!" เอาแค่ว่ามีความยุติธรรมมากพอในการตัดสินศิลปินสักคนดีกว่า...เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยที่ได้มาฟัง Soul UK อัลบั้มชื่อสิ้นคิดที่สุดแห่งปีก็คงจะไม่ปฏิเสธกันว่า "นี่คืองานที่ดีที่สุดของศิลปินหญิงจากเกาะอังกฤษเท่าที่ทยอยออกมากันในปีนี้ทีเดียว" คอดนตรีเออร์บันต้องการอะไรกันจากอัลบั้มนี่ล่ะ?? ดนตรีนูโซลมาสเตอร์พีซที่จับเอาบริทโซลช่วงยุค70-80มาปรุงแต่งให้ร่วมสมัยเข้ากับบีทอาร์แอนด์บีฮิพฮอพ ฟั้งค์และแจ๊ซซ์และการโชว์อิมโพรไวซ์เสียงโซลเริ่ดๆสุดทรงพลังชนิดที่ คริสทิน่า อากิเลร่าต้องเหลียวหลังหันกลับมามอง Sounthern Freeez ที่แม้ว่าเธอจะอุทิศให้แก่ศิลปินโซลอังกฤษที่เป็นแรงบันดาลใจแต่งงานออกเรโทรติดฟั้งค์กีย์ดิสโก้80แบบนี้เราคิดถึงช่วงเวลารุ่งโรจน์ในสองอัลบั้มแรกของวิทนี่ย์ ฮุสทันตะหงิดๆ Mama Used To Say งานโมทาวน์โซล60จ๋าตามแบบฉบับเอ็ทท่า เจมส์ที่คอโซลรุ่นอาม่าฟังต้องกรี๊ดกร๊าด Always And Forever ก็ขยับมาเป็นคอนเทมโพลารีย์โซลฟูลอาร์แอนด์บีบัลลาดเนียนๆเพราะพริ้งแบบที่บียอนเซ่และสาวอาร์แอนด์บีที่เคยดังอย่างมายาหรืออแชนทิชอบทำกันในงานของตัวเองการอิมโพรไวซืของเบเวอลี่ย์นี่สามารถฆ่าอะเดลและดัฟฟี่ตายได้เลยทีเดียว Cuddly Toy โซล60จ๋าติดกอสเพลแบบที่เจ้าป้ายุทธหัตถีอรีธ่า แฟรงคลิน,แม่มาลัย มารายห์ แครีย์และจอส สโทนชอบทำกัน - - ได้ฟังแล้วอาจจะต้องย้อนกลับมาคิดกันหนักนิดนึงว่าอัลบั้ม "21" ของอะเดลที่แม้จะดังสุดในบรรดาสุภาพสตรีฝากผู้ดีก็ตาม...แต่ดีที่สุดนี่ จริงหรือ???

.



The Subways : Money And Celebrity : Alternative Rock/Post Grunge/Punk Rock/Indie Rock (94%)


งานร็อคเท่ห์ๆสุดดิบ ดุ ห่ามและเปี่ยมไปด้วยพลังเป็นอัลบั้มร็อคที่ทรงเสน่ห์แบบว่าฟังได้ยกอัลบั้ม กระหึ่มตั้งแต่แทร็คแรกที่เป็นพั้งค์เก๋าๆกระชากใจไล่ระดับไปเรื่อยสลับกันชรนิดแพรวพราวหาตัวจับยากตั้งแค่อัลเทอเนทีฟที่แม้ว่าจะไม่ได้ออกมาละเมียดละมุนหวานไสวขนหัวลุกแบบบริทพ็อพแต่ก็ดีในมาตรฐานอินดี้ร็อคอังกฤษหรือจะเรียกให้ถูกกว่านั้นก็พวกวงบริทติดพั้งค์ทั้งหลาย โพสท์กรั๊นจ์หลังยุค Nirvana ก็มีมาไปจนถึงพ็อพพั้งค์ตามสูตรสำเร็จที่ชวนให้นึกถึงวงประเภท Sum41,Blink182,Green DayยันพวกSimple Planที่ทำเพลงหนักขึ้นมาหน่อยนั่นแหละใช่เลย

.





Ladytron : Gravity The Seducer : Electronic/Synth Pop/New Wave (85%)

อีกหนึ่งอัลบั้มที่รอคอยมากที่สุดของปีนี้ แม้ว่าภาพรวมวัดออกมาแล้วอาจจะไม่ใช่อัลบั้มที่ดีที่สุดหรือแม้กระทั่งไม่ได้ดีเริ่ดเท่าที่หวังไว้แต่ก็ต้องขอชมว่า Ladytron ยังสามารถรักษามาตรฐานในการทำงานดนตรีของตัวเองไว้ได้อย่างดีเหนือสิ่งอื่นใดมนตร์เสน่ห์และความลึกลับในดนตรีอิเล็คโทรนิคของพวกเธอยังคงขลังพอที่จะสะกดให้คนฟังเคลิบเคลิ้มไปในดินแดนแห่งสรรพเสียงซินธิไซเซอร์ชนิดไม่รู้เบื่อ เทียบกับชุดก่อนอย่าง Velocifero โอเคไม่ได้ดิบและแรงเท่าแต่ความดีในแง่ของการทำดนตรีออกมาให้เข้าถึงง่ายต่อผู้ฟังขึ้นในขณะเดียวกันก็ยังรักษาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ออกมาพ็อพจัดจ๋าผิดหลักการจนทำใจยอมรับไม่ได้แบบ Goldfrapp ในชุดล่าสุดนับว่าเป็นเรื่องที่น่าชม ในชุดนี้ความเป็นซินธิ์พั้งค์และนิวเวฟถุกลดทอนลองไปพอตัวเช่นเดียวกับบีทดิสโก้ที่ลดความตึ๊บไปโขแทนที่แทนด้วยซินธิ์พ็อพ ยูโร ทริพฮอพ แอมเบี้บยท์ตลอดจนเอ็กซ์เพอริเมนทัลผลลัพธ์ออกมานิ่งขึ้น สุขุมขึ้น ประณีตขึ้น......และแม้จะไม่ดีขึ้นแต่ชวนฟังขึ้นเยอะ


.





The Rapture : In The Grace Of Your Love : Dance Punk/Post-Punk/Indie Rock (90%)

ปิดท้ายด้วยอัลบั้มล่าสุดจาก The Rapture หนึ่งในวงอินดี้ร็อคที่รักและทรงอิทธิพลต่อดิฉันมากที่สุดของโลกนี้....เฮ้อ ของแบบนี้มันก็ต้องว่ากันตามตรงตามเนื้อผ้าอ่ะนะคะว่าฟังรอบแรกออกแนวผิดหวังชนิดเกือบจะยน้ำตาซึมทีเดียว "ไม่เปรี้ยวและไม่ดีเท่าที่เคยผ่านมานะ" จาก Echoes ในชุดแรกที่มาเป็นเด็กพั้งค์จ๋าสุดโต่งและก่อนหน้านี้กับงานระดับมาสเตอร์พีซใน Piece Of People We Love ที่เปรี้ยวฮิพมากด้วยการจับอินดี้ร็อคขยำเข้ากับดนตรีเต้นรำโจ๊ะแบบพั้งค์ ฟั้งค์ ไซคลีเดลิกและดิสโก้มาชุดนี้ออกแนวนิ่งๆไปความเปรี้ยวแบบแด๊นซ์พั้งค์ถูกลดทอนลงด้วยความแปลกใหม่จากซาวนด์ทดลองที่ส่วนตัวไม่คิดว่าจะเข้าท่าเท่าไรนักตบด้วยอิทธิพลของดนตรีสรรเสริญพระเจ้าแบบยิวและสรรพสำเนียงออกแนวตะวันออกที่กระจายตัวอยู่เป็นหย่อมใหญ่ในอัลบั้มตามด้วยการพยายามที่จะขยับเข้าไปเล่นกับดนตรีโซนผิวสีแบบอาร์แอนด์บี โซลยันโอลสคูลฟั้งค์กีย์ดิสโก้โดยขยำเข้ากับดนตรีเต้นยรำผสานโพสท์พั้งค์ตามสไตล์ - - ฟังๆไปมันก็ไปกันได้เนียนดีอยู่ชนิดน่าประหลาดใจ - - ฟังจบสองรอบแล้วเกิดพุทธิปัญญาว่า "เป็นอัลบั้มที่ดี" ที่ทำให้ผิดหวังเพราะว่ามันได้อารมณ์สดเท่ห์เฟี้ยวฟ้าวเปรี้ยวฉกาจฉกรรจ์แบบเก่า...แต่งานคุณภาพแบบนี้ออกมาก็อยากใมห้ฟังกันนะ หึหึหึ


.



ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Myspace WE Love!!!! Very Happy



แถมให้อีกนิดกับศิลปินที่คอดนตรีควรจะจับตามองและสนับสนุนผลงานของพวกเขา (แม้จะโหลดมาฟังแต่ชอบใครก็ตามซื้อนะคะเวลามีเงิน อย่ามา ^ ^) และคนเหล่านี้คือบุคคลที่ในอนาคตอันใกล้ดิฉันจ้องจะเขียนถึงมากที่สุดคนแรกเลยนี่ เจมส์ มอริสัน เพชรแห่งโซลประจำเกาะอังกฤษฟังเพลงของผู้ชายคนนี้ทีไรไม่เคยผิดหวัง ไพเราะและบาดใจสุดๆ...ที่สำคัญเรารักกัน Smile



อีกหนึ่งอัลบั้มที่คาดหวัง รอคอยและจับตามองมากที่สุดถ้าจะถามว่าหลังยุคสองพันนี่วงร็อคที่ดีที่สุดของเกาะอังกฤษคือวงอะไรก็คงต้องยกให้ Coldplay นี่แหละ รวมถึงเป็นตำนานบริทพ็อพที่ยกให้ยิ่งใหญ่ที่สุดตามหลังพวก Radiohead,BlurและManic Street Preachers ชุดที่แล้วพวกเขาก็ทำดนตรีทดลองกลายร่างเป็นเอ็กซ์เพอริเมนทัลรอคให้ตะลึงอึ้งแดกกันไปแล้วน่าสนใจจะตายว่าชุดนี้จะมาอีหรอบใด - - เท่าที่คาดเดาน่าจะฟังง่ายกว่าชุดที่แล้ว หวานกว่าและดูแล้วจะออกเงาๆของ Radiohead ตะคุ่มๆในงาน แต่เชื่อเถอะระดับวงคุณคริส มาร์ทินเพลงดีแน่นอน



นี่ก็เป็นอีกคนที่รอคอยเสมอและส่วนมากเท่าที่ฟังงานเธอมาหลายสิบชุดก็ไม่ค่อยจะผิดหวังเท่าไร ถึงแม้ว่า Hard Candy งานเต็มล่าสุดจะออกแนวกระแสหลักชนิดน่าเกลียดไปบ้างแต่ก็เป็นปรากฏการณืไปทั่วโลกเชียวนะเออ ได้ข่าวว่าล่าสุดอีเจ๊แม่สลัดตาเดวิด เกตต้ากลับไปฟาร์เรลล์แล้วอันนี้ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ภาวนาว่าอย่าให้จริง...อีเจ๊ควบโปรดิวซืเซอร์เก่าทีไรมักจะออกมาไม่เด็ดดวงถึงขีดสุดแน่จริงสอยคนใหม่ๆมาสร้างความประหลาดใจพวกเราอีกทีสิ!!



อาจจะต้องขอบคุณ Bionic ที่ดันเจ๊งกระบ๊งGlitterระยิบระยับไปก่อนหน้านี้ทำให้เราสองต้องมีอันได้กลับมาเจอกันในระยะเวลาอันใกล้กว่าเดิม แม้จะผิดธรรมชาตินังติ๊นาไปนิดแต่ก็ดีใจล่าสุดชีกลับเข้าสตูดิโอเตรียมกู้ชื่อเตร็มที่ไม่รู้ว่าจะเจอกันปลายปีหรือร้อนหน้าปีโลกแตกแต่คอนเส็ปท์แพลมออกมาแล้วว่า Another Stripped แถมด้วยโปรยหัวอย่างงดงามว่า going to be a very heartfelt, deep-rooted and introspective record for me." (อ้าว ไม่Futuristic อีกสักรอบเล่าแม่คู๊ณณณณณ) ซึ่งรับประกันแฟนขาประจำและขาจรว่าเตรียมตัวตั้งรับรากเหง้าสูตรสำเร็จของแม่นางคริสทิน่าได้เลยอะไรที่ทำแล้วแฟนๆแห่แหนประทับใจคนดนตรีหลงใหลได้ปลื้มช่วยกันเวียนซ้ายขึ้นแท่นคลาสสิคมันมีแววว่าจะได้เจอกันในอัลบั้มนี้แน่นอน พร้อมด้วยสารพัดโปรดิวซ์เซอร์ชนิดขนมาทั้งวงการเช่นเดิม อาทิ Alex Da Kid ที่โปรดิวซ์เพลง Castle Walls ยังไม่เข็ดกับคุณนายเซียเจ้าเก่าที่ก่อนหน้านี้ก็ล่องานอีติ๊ซะเข้าเป๋ขื่อเต็กเส็งบางลำพูอ่อนยวบกันไปข้างมาแล้ว (เพลงแบบ You Lost Me หรือ Bound To You นี่ขอร้องนะคะถ้าทำมาก็เก็บไว้ฟังเองเถิด แฟนจ๋าเอียนแล้วโว้ย) ทริคกี้ย์ สจ๊วร์ต (ฮัดช่า มึงยังไม่เข็ด!!!) ดีเจ พรีเมียร์คู่บุญจากอัลบั้ม Back To Basics สก็อท สทอร์ชที่ได้ดีไปด้วยกันหลายเพลงในยุค Stripped ก่อนจะเจออีติ๊แต่งเพลงด่าไล่แห่เรียบร้อยท้ายมี่สุดก็ต้องกลืนน้ำลายมาร่วมงานกันแบบหน้าชื่นอกตรม อิย่ะฮะฮ่า Sandy Vee โปรดิวซ์เพลง Only Girl In The WorldและS&Mดังคับโลกไปแล้ว ไหนจะThe Phantom Boyz ที่ร่วมงานกันในเพลงปิดอัลบั้ม Burlesque บาร์รักเวทีร้อนที่ประสบความสำเร็จล้นหลามจนแข็งทื่อกันไปทั้งทีมนั่นอีก Fraser T. Smithยันวิลเลี่ยม ออร์บิทที่เคยเป็นโปรดิวซ์เซอร์มือทองสมัยร่วมงานกับเจ๊แม่มาดอนน่าใน Ray Of Light (ช้าไปมั้ยคะนี่อีติ๊???ตานี่เอ๊าท์ไปเป็นชาติแล้ว) .................พิจารณาดูแล้วมาหมดตั้งแต่พ็อพ อิเล็คโทรนิค อาร์แอนด์บี โซลและฮิพฮอพ ต๊าย ตาย เข้าข่ายคนเยอะแต่มากันกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักไม่กี่เพลงอีแบบนี้มัน Bionic2 ชัดๆเลยนะคะนี่ เอ้า งานนี้จะออกมาผีหรือคนหรือจะออกมาครึ่งผีครึ่งคนแบบชุดที่แล้วนี่ ดิฉันเอาใจช่วยอยู่นะคะคริสทิน่า หึหึหึ Laughing

ป.ล. ขออย่าให้เป็นงานเซฟๆแกนๆแบบ Charmbracelet หรือ I Look To You ล่ะกูถีบกระเด็นจริงๆนะ

ป.ล.2 ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดติ๊ค่ะ





ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
จริงๆแล้วชอบBIONICนะ ถ้าฟังแยกเพลง
แต่ฟังทั้งอัลบั้มมันเหมือนไม่เข้ากันอ่ะ
แต่ละเพลงก็ดูมีอะไร ดูพิถีพิถัน ไม่เหมือนเพลงที่รีบแต่งรีบออก


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ไม่พลาดแน่นอนค่ะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
5555555555555555555555
พลาดมาหมดแล้ว.....


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
สวัสดีคุณ Nastina : )

ในลิสท์นี้ มีอยู่สองอัลบั้มที่ผมฟังมา เรียกได้ว่าเป็นสองอัลบั้มที่ฟังบ่อยที่สุด
ของต้นปีนี้ และดีใจมากที่คุณ Nastina เอามาพูดถึงด้วย

อัลบั้มแรกก็คือ Soul UK ของ Beverley Knight
ผมไม่ได้ติดตาม Beverley Knight มาตั้งแต่เพลงเก่งของเธอ Shoulda, Woulda, Coulda
ซึ่งนั่นก็เกือบสิบปีมาแล้ว แปลกดีที่ชื่ออัลบั้มและอาร์ทเวิร์คหน้าปกที่แสนจะธรรมดา
ชวนให้ผมลองหามาฟัง เผื่อจะมีสรรพสำเนียงอคูสติกโซลแบบในเพลงเก่งเพลงเก่าของเธอ
ให้ได้หยิบมาฟังบ้าง ที่ไหนได้ concept ที่เป็น tribute album ให้นักร้องโซลฝั่ง UK
เชื่อว่าคอเพลงเก่าของคงประทับใจกันเยอะ ลองฟังเพลงอย่าง Fairplay สิครับ
สนุกครึกครื้นและคงเอกลักษณ์ต้นฉบับนิวแจ๊คสวิงของ Soul II Soul ไว้ได้เป็นอย่างดี
เพลงอย่าง Mama Used to Say เธอสามารถทำเพลงออกมาในแบบฉบับของ
female point of view ได้ไม่เลวเลย Cuddly Toy ที่บรรยากาศอรีธาลอยมาตั้งแต่อินโทร
หรือเพลงปิดอัลบั้มอย่าง One More Try ที่เนื้อเสียงและอารมณ์ของเธอกินกันไม่ลงกับ
ลีลาของจอร์จไมเคิลเลยทีเดียว เป็นอัลบั้มโซลที่ผมประทับใจที่สุดตั้งแต่ยุคของ
Amy Winehouse เลยล่ะครับ

และอีกหนึ่งอัลบั้มที่ผมจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นอัลบั้มที่ผมหยิบมาฟังเพราะอ่าน
บทวิจารณ์ของคุณ Nastina นั่นก็คืออัลบั้ม Mission Bell ของ Amos Lee
ทุนเดิมผมชอบศิลปินแนวโฟล์คป๊อปอย่าง Damien Rice, Jack Johnson, John Mayer,
Lucinda Williams, Shelby Lynne อยู่แล้ว ได้ยินเพลง Flower ลอยมาตอนอ่านกระทู้รีวิวของคุณ
Nastina ที่ตั้งไว้เป็น autoplay แล้วก็ต้องยอมให้อัลบั้มนี้เลย นับว่าเป็นอัลบั้ม
ที่อยู่เป็นเพื่อนข้างโสตประสาทผมยาวนานที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
เพลงอย่าง El Camino ที่ดนตรีนุ่มนวลและเสียงแหบดิบๆ ของตัวคนร้องเข้ากันอย่างน่าประหลาด
เพลงอย่าง Flower เดินโน้ตง่ายๆ คุ้นๆ แต่ฟังทีไรก็ประทับใจไม่ได้ Windows Are Rolled Down
ให้บรรยากาศของจอห์นนี่ย์ แคช ผสมบรู๊ซ สปริงสตีน เอหรือผมอาจจะคิดไปเอง หรือเพลงอย่าง
Learned a Lot ที่ตรงกับชีวิตของผมในช่วงนี้เสียจริง และเพลง Clear Blue Eyes ทีได้
นักร้องโปรดของผมอีกคน สาวลูซินดา วิลเลียม มาร่วมร้องด้วย แต่ผมกลับคิดว่า
เสียงของลูซินดาไม่ได้ harmonize กับ Amos เสียเลย ทั้งที่ต้นเพลง อินโทร ดนตรี
และเสียงร้องของ Amos ออกตัวมาได้ดีแล้วแท้ๆ น่าเสียดายมากๆ ก่อนที่จะจบอัลบั้ม
ด้วย Behind Me Now และ El Camino Reprise ที่คู่ปู่หลานสองคนนี้กลับเข้าขากันมากกว่า
อย่างไรก็ตาม อัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มคู่ใจของผมแล้วล่ะครับ ยกเครดิทให้คุณ Nastina ไปเลย

ส่วนตอนนี้ รออัลบั้มใหม่ของ Coldplay, Red Hot Chili Peppers, Madonna และ India.Arie ครับ :

ขอบคุณสำหรับกระทู้สนุกๆ ที่ได้ให้พูดคุยเรื่องดนตรีกันด้วยครับ
ดีใจทุกครั้งที่เจอกระทู้ที่ชอบดนตรีคล้ายกันครับ : )


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
summer.roberts พิมพ์ว่า:
จริงๆแล้วชอบBIONICนะ ถ้าฟังแยกเพลง
แต่ฟังทั้งอัลบั้มมันเหมือนไม่เข้ากันอ่ะ
แต่ละเพลงก็ดูมีอะไร ดูพิถีพิถัน ไม่เหมือนเพลงที่รีบแต่งรีบออก


จริงๆแล้วBionic เป็นอัลบั้มพ็อพที่เข้าขั้น "ดี" ทีเดียวนะคะยิ่งเทียบกับหลายอัลบั้มจากฝากเมนทสตรีมยุคนี้นี่ดีกว่าเขาหลายช่วงตัว แต่ถ้าถารมว่าพลาดเรื่องอะไรก็เรื่องของการโปรโมตตั้งแต่แรกที่สร้างความคาดหวังเกินจริงพองานออกมาไม่สมราคาคุยคนเขาก็เมินรวมถึงด้วยความที่ใช้โปรดิวซ์เซอร์หลายคนและแต่ละคนต่างกันแบบสุดโต่งมากกกกกกกงานมันก็เลยไปกันคนละทิศละทางชนิดเรียกได้ว่า "เละเทะ" เลยทีเดียว...เรื่องเนื้อหาดูพิถีพิถันจริงแต่การเรียบเรียงทั้งอัลบั้มดิฉันว่าดูลวกๆยื้อๆยุดๆแบบว่าเหมือนกันยังไม่พร้อมจะออกขายแต่เดดไลน์มาแล้วมันก็เลยนเป็นอย่างที่เห็น เฮ้อ อนาถแท้หนอนางติ๊นา

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Magnum Opus พิมพ์ว่า:
สวัสดีคุณ Nastina : )

ในลิสท์นี้ มีอยู่สองอัลบั้มที่ผมฟังมา เรียกได้ว่าเป็นสองอัลบั้มที่ฟังบ่อยที่สุด
ของต้นปีนี้ และดีใจมากที่คุณ Nastina เอามาพูดถึงด้วย

อัลบั้มแรกก็คือ Soul UK ของ Beverley Knight
ผมไม่ได้ติดตาม Beverley Knight มาตั้งแต่เพลงเก่งของเธอ Shoulda, Woulda, Coulda
ซึ่งนั่นก็เกือบสิบปีมาแล้ว แปลกดีที่ชื่ออัลบั้มและอาร์ทเวิร์คหน้าปกที่แสนจะธรรมดา
ชวนให้ผมลองหามาฟัง เผื่อจะมีสรรพสำเนียงอคูสติกโซลแบบในเพลงเก่งเพลงเก่าของเธอ
ให้ได้หยิบมาฟังบ้าง ที่ไหนได้ concept ที่เป็น tribute album ให้นักร้องโซลฝั่ง UK
เชื่อว่าคอเพลงเก่าของคงประทับใจกันเยอะ ลองฟังเพลงอย่าง Fairplay สิครับ
สนุกครึกครื้นและคงเอกลักษณ์ต้นฉบับนิวแจ๊คสวิงของ Soul II Soul ไว้ได้เป็นอย่างดี
เพลงอย่าง Mama Used to Say เธอสามารถทำเพลงออกมาในแบบฉบับของ
female point of view ได้ไม่เลวเลย Cuddly Toy ที่บรรยากาศอรีธาลอยมาตั้งแต่อินโทร
หรือเพลงปิดอัลบั้มอย่าง One More Try ที่เนื้อเสียงและอารมณ์ของเธอกินกันไม่ลงกับ
ลีลาของจอร์จไมเคิลเลยทีเดียว เป็นอัลบั้มโซลที่ผมประทับใจที่สุดตั้งแต่ยุคของ
Amy Winehouse เลยล่ะครับ

และอีกหนึ่งอัลบั้มที่ผมจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นอัลบั้มที่ผมหยิบมาฟังเพราะอ่าน
บทวิจารณ์ของคุณ Nastina นั่นก็คืออัลบั้ม Mission Bell ของ Amos Lee
ทุนเดิมผมชอบศิลปินแนวโฟล์คป๊อปอย่าง Damien Rice, Jack Johnson, John Mayer,
Lucinda Williams, Shelby Lynne อยู่แล้ว ได้ยินเพลง Flower ลอยมาตอนอ่านกระทู้รีวิวของคุณ
Nastina ที่ตั้งไว้เป็น autoplay แล้วก็ต้องยอมให้อัลบั้มนี้เลย นับว่าเป็นอัลบั้ม
ที่อยู่เป็นเพื่อนข้างโสตประสาทผมยาวนานที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
เพลงอย่าง El Camino ที่ดนตรีนุ่มนวลและเสียงแหบดิบๆ ของตัวคนร้องเข้ากันอย่างน่าประหลาด
เพลงอย่าง Flower เดินโน้ตง่ายๆ คุ้นๆ แต่ฟังทีไรก็ประทับใจไม่ได้ Windows Are Rolled Down
ให้บรรยากาศของจอห์นนี่ย์ แคช ผสมบรู๊ซ สปริงสตีน เอหรือผมอาจจะคิดไปเอง หรือเพลงอย่าง
Learned a Lot ที่ตรงกับชีวิตของผมในช่วงนี้เสียจริง และเพลง Clear Blue Eyes ทีได้
นักร้องโปรดของผมอีกคน สาวลูซินดา วิลเลียม มาร่วมร้องด้วย แต่ผมกลับคิดว่า
เสียงของลูซินดาไม่ได้ harmonize กับ Amos เสียเลย ทั้งที่ต้นเพลง อินโทร ดนตรี
และเสียงร้องของ Amos ออกตัวมาได้ดีแล้วแท้ๆ น่าเสียดายมากๆ ก่อนที่จะจบอัลบั้ม
ด้วย Behind Me Now และ El Camino Reprise ที่คู่ปู่หลานสองคนนี้กลับเข้าขากันมากกว่า
อย่างไรก็ตาม อัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มคู่ใจของผมแล้วล่ะครับ ยกเครดิทให้คุณ Nastina ไปเลย

ส่วนตอนนี้ รออัลบั้มใหม่ของ Coldplay, Red Hot Chili Peppers, Madonna และ India.Arie ครับ :

ขอบคุณสำหรับกระทู้สนุกๆ ที่ได้ให้พูดคุยเรื่องดนตรีกันด้วยครับ
ดีใจทุกครั้งที่เจอกระทู้ที่ชอบดนตรีคล้ายกันครับ : )


ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นี้นะคะ ช่วยเติมเต็มอะไรหลายๆอย่างในกระทู้นี้ให้สมบูรณืขึ้นเยอะทีเดียวสำหรับเบเวอลี่ย์ ไนท์ดิฉันภูมิใจผลงานอัลบั้มนี้เธอมากๆเลยค่ะเป็นงานที่ทำขึ้นทริบิ้วทฺแรงบันดาลใจและอุตสาหกรรมดนตรีโดยแท้ชนิดที่ไม่แยแสต่อการตลาดและการโฆษณาใดๆเลยทีเดียว เป็นงานโซลจากฝากอังกฤษของศิลปินหญิงที่ชอบที่สุดชนิดคลั่งไปเลยทีเดียวนับตั้งแต่ The Soul Session ของจอส สโทน ส่วนเอมอส ลีนี่งานของเขาเป็นอะไรที่มันเหนือคำบรรยายไปแล้วไม่รู้จะพูดยังไงดีนอกจากจะบอกว่า "รักอัลบั้มนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆชนิดสุดชีวิตจริงๆ" เป็นอัลบั้มเพลงที่สวยงามที่สุดของปีนี้เลยทีเดียว

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ส่วนงานใหม่ของ Red Hot Chilli Peppers นี่ออกมาสักระยะแล้วนี่คะถ้าจำไม่ผิด ถ้ายังไม่ได้ฟังก็ขออนุญาติหยิบมาฝากนะคะ Enjoy ^ ^

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com