
Katy Perry - Teenage Dream (3.5/5)
เรียกได้ว่าสร้างกระแสได้ดีมากสำหรับอัลบั้มแรกตั้งแต่ฉันจูบหญิงสาว ร้อนๆหนาวๆ และอื่นๆจนเมีคนเรียกใช้จับจองไปฟีทคนนู้นทีคนนี้ที แต่นางสาว เคธี่ เพอร์รี่ย์นางนี้ก็ซุ่มทำอับั้มของตัวเองไปด้วยโดยประกาศประกาศิตชาว California ว่าจะมีเพลงตัวแทนฝั่งเวสตืโคสบ้าง หลังจาก Empire State of Mind ดังกึก้อง แล้วเจ้าหล่อนก็ทะลึ่งทำได้จริงๆตามพุดซะด้วย เลยกลายเป็นที่จับตามองในความแรงเป็นกระแสโด่งพุ่งมาในขณะนี้ Katy Perry อัลบั้มใหม่ล่าสุดด Teenage Dream
จุดเด่น-จุดด้อย เป็นอัลบั้มที่สามารถเปิดฟังตั้งแต่ต้นจนจบแล้วรู้สึกว่าเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่ต้นจนจบ (ติดตรง Hummingbird Heartbeart น่าจะเอาไว้ตอนช่วงต้นๆอัลบั้ม เพราะไหนๆก็แบ่งพาร์ทอัลบั้มซะเกือบชัดเจน) รวมถึงเห็นการพัฒนาศักยภาพการทำเพลงที่กล้าหยิบขอเก่าตั้งแต่ฟังกี้เมโทรดิสโก้ฮิพฮอพมาผสานกับอิเลคโทรนิคสมัยนิยมได้ออกมาใช่ได้เลยทีเดียว หากแต่ยังไม่สุดฝีมือ ดูยังกั๊กยังไม่เต็มสักเท่าไหร่นัก และบางเพลงก็คล้ายกันจนเกินไปจนนึกว่าเป็นภาคช้าภาคเร็วของกันและกันเลยทีเดียว อีกทั้งการทดลองจับงานของเก่าผสมของใหม่ครั้งนี้เหมือนว่าไอ้นู้นก็อยากใส่ไอ้นี่ก็อยากเอา เป็นผลให้บางเพลงดูรกๆหนักๆมากเกินจนฟังแล้วมึนหัวกันเลยทีเดียว
เริ่มที่ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม California Gurls ft. Snoop Dogg (3.5/5) เป็นการเลือกตัดซิงเกิ้ลและการโปรโมตห่าเหวอะไรได้ฉลาดมาก ตัวเพลงเป็นป๊อปร็อคอิเลคโทรนิคตามสมัยนิยมพ่วงแสมชอาร์แอนด์บีและบีทแบบฟังกี้ ผลออกมาเป็นเพลงน่ารักๆเข้าฤดูกาลซัมเมอร์อย่างน่าเหลือเชื่อ มาที่ Teenage Dream (3.5/5) เปรียบเสทือนเป็นภาคช้าของซิงเกิ้ลแรก เพียงแต่ตัดเอาความเป็นอิเลคโทรนิคให้บางลงมากๆและไม่มีบีทฟังกี้แต่เดินเพลงด้วยความเป็นบลูส์นิดๆก่อนที่จะระเบิดป๊อปร็อคเต็มๆในท่อนฮุค
Last Friday Night (T.G.I.F) (3/5) ป็อปร็อคเมโทรมากเธอจ๋า แล้วเธอค่อยเอาอิเลคโทรนิคกับบีทตึ๊บๆมาลง ชอบตอนที่เอาลูกเล่นบอซซ่ามาเล่น เพลงน่ารักดี ในขณะที่ว่าที่ซิงเกิ้ลที่สามและสี่ (ตกลงมันจะตัดไหนก่อนไหนหลังไม่รู้) Firework (4/5) ขอชมความกล้าที่หยิบลูกเล่นของพวกบริทป๊อปมาเล่นในป๊อปร็อคอิเลคโทรนิคดาดๆให้มีความน่าสนใจมากขึ้นเยอะก่อนที่ท่อนฮุ๊คหล่อนจะระเบิดบีทเฮ้าส์แบบแฟชั่นจ๋ามาประโคมผสมโรงเข้าไปอีก แหวกจากที่เคยๆทำมาดี ส่วน Peacock (3/5) เพลงฮาประจำปีกับป๊อปร็อคปอมๆเชียร์ที่ไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าตัดรับรองว่าดังชัวร์ๆแบบไม่ต้องสงสัย เพราะเพลงนี้มีองค์ประกอบทุกอย่างเหมาะแก่การตัดเป็นซิงเกิ้ล ติดหู เนื้อหาฮา จังหวะสนุก โดเดนลอยนำหน้าเพลงอื่นๆมาอย่างเห็นได้ชัด (แต่เรื่องความเจ๋งสู้เพลงอื่นไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่) แต่ก็นะ ฮาสมกับที่รอคอยจริงๆ อ้อ ทำไมหล่อนไม่ร้องฟอลเซตโต้ท่อนนั้นเหมือนในไลฟ์ มันดูดีกว่านะ
หลังจากเนิบๆชิลๆมาในช่วงต้นอัลบั้ม มาถึงตอนนี้นางแขเร่งจังหวะใส่ความดิบลงไปมากขึ้นเรียกได้ว่าฉายแววพัฒนาให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (แม้จะออกมาแบบไม่สุด ดูขัดๆก็ตาม) เริ่มตั้งแต่ Circle The Drain (3/5) ป๊อปร็อคอัลเทอร์เนทีฟที่ฟังแต่ดนตรีผ่านๆจะนึกว่าพวก The Veronicas ไม่ก็ Paramore มาเอง ก็โอ จริงๆเพลงแนวหนักไปร็อคก็เข้ากับเจ้าหล่อนดีนะ แต่ครั้งนี้กลับดุแปลกๆแฮะ ไม่สุดยังไม่รู้ ต่อด้วย The One That Got Away (2.5/5) เพลงที่เหมือนเพลงเหลือจากอัลบั้มที่แล้วมาใส่บีทอิเลคโทรนิคตึ๊บๆ ไม่เห็นแววพัฒนาแต่อย่างใด สู้ E.T. (Futuristic Love) (3.5/5) ที่หยิบเอาป้อปร็อบดิบๆผสานการร้องกึ่งแรพและฮิพฮอพอ่อนๆเข้ามา ฟังแล้วนึกถึง Girl Can Rock ของ Hilary Duff เวอร์ชั่นเสียงแข็งแรงกว่าและทำออกมาได้ดีกว่ามาก
แล้วมาผ่อนจังหวะลงกับ Who Am I Living For ? (3.5/5) เปิดตัวมาได้น่าติดตามรวมไปถึงช่วงต้นเปิดเพลง อิเลคโทรป๊อปร็อคอัลเทอร์เนทีฟที่ทำออกมาดิบๆ แต่ก้ไม่ได้แปลกอะไร เพราะมีคนทำมาก่อนแล้วแค่ช่วงนี้ไม่มีคนทำเท่านั้นเอง Pearl (3.5/5) ป๊อปร็อคอัลเทอร์เนทีฟ กับอิเลคโทรนิคลอยๆทั่วเพลง ฟังแล้วดูหลอนๆฟุ้งๆดี ควีนนาโอมาฟังท่าจะชอบ แล้วมาเร่งจังหวะขึ้นอีกนิด Hummingbird Heartbeat (2.5/5) ป๊อปร็อคอิเลคโทรนิคธรรมดาๆทั่วไป ไม่มีอะไรมาก และปิดท้ายด้วยบัลลาร์ดช้าๆซึ้งๆหนึ่งเดียวในอัลบั้ม Not Like The Movies (4/5) ที่เรียกได้ว่าฉายศักยภาพการทำเพลงช้าซึ้งๆของเธอ ไม่ใช่แค่เพลงตลกโปกฮาเท่านั้นที่เธอทำได้ พร้อมเนื้อหาที่ดูเหมือนจะน้ำเน่าแฟรี่ย์เทลแบบอีหนูหน้าแมว หากแต่เอามาเทียบบนพื้นฐานความเป็นจริงของชีวิตได้อย่างเนียนจริงๆ
สรุป เป็นอัลบั้มเพลงปีอปร็อคที่ดี ตัวนักร้องฉายศักยภาพการพัฒนาขึ้นจากเดิมจนเรียกได้ว่า "เฮ้น ถ้าจะทำก็ทำได้นี่หว่า" อะไรประมารนั้นเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่สมกับการรอคอบพอสมควรนะครับผม!!!