

เคยไหม? ฟังเพลงมาก็นาน ชื่อแนวเพลงก็รู้ แต่ไม่รู้ว่าแต่ละแนวมันเป็นอย่างไร เวลาอ่านรีวิวก็งงก่งก๊ง เขาอ้างถึงแนวนู้นแนวนี้ งงวุ้ย !!
สถานการณ์จำลอง

หอกศรี : หรี่ๆ เพลงนี้เพราะจังเลยโน๊ะ ใครร้องหรอ ?
หรี่ลดา : Britney จ๊ะ ..เอิ่มม แต่มันเพราะหรา ชั้นว่าไม่นะ (เบ้ปาก มองบน)
หอกศรี : เพราะเวอร์ล่ะเธอว์ นี่ขนาดร้องสดนะเนี้ย แล้วชื่อเพลงไรอ่าส์ ?
หรี่ลดา : Gimme More ย่ะ ..เต้นเป๊ะเชียวล่ะ
หอกศรี : แล้วมันเป็นแนวเพลงอะไรหรอ ?
หรี่ลดา : Pop ไงย่ะ พ็อฟตลาดๆน่ะ รู้จักแมะ
หอกศรี : เออ ... (- - '' )
หอกศรี : แล้วเพลงนี้ล่ะหรี่ ชื่อเพลงไร และใครร้องอ่าส์ ?!!
หรี่ลดา : ชื่อเพลง Amarantine, Enya เป็นคนร้อง
หอกศรี : แล้วมันเป็นแนวเพลงไรหรอ ที่รู้ๆคือไม่ใช่ Pop อ่ะ
หรี่ลดา : ...เอิ่มมม Jazz มั้ง
หอกศรี : ใช่หราาา
หรี่ลดา : ...เอิ่มมม Gospel รึเปล่า
หอกศรี : นี่ชั้นถามหร่อนนะหรี่ ไม่ใช่ให้หร่อนมาย้อนถามชั้น (ยักไหล่ ดูสตาร์บั๊ก)
หรี่ลดา : ...เอิ่มมม ...โอ๊ยไม่รู้อ่ะ ฟังๆไปเถอะถามมากจริงอีอ้วนนี่
หอกศรี : อ้าวอีนี่ ว่าชั้นนี่ไม่ดูตัวเองเลย อีถังแก๊ส
หรี่ลดา : แอร๊ยยย ถึงชั้นจะถังแก๊สแต่หน้าชั้นสวย จบป่ะ!!! อีพยูน
แม่หมี : ห่ะ !! ใครเรียกกู
.
.
.

ช่างกล้า : ตบเข้าประเด็น !! พวกเธอว์นี่ ไม่ได้รู้เรืองรู้ราวอะไรกันเลยนะ มามา ตัวแม่แนวเพลงและสไตล์อย่างชั้นจะบอกให้ฟัง
แนวเพลง
แนวเพลง เป็นการจำแนกเพลงที่มีลักษณะพื้นฐานต่าง ๆ ร่วมกัน โดยอาจไม่ได้คำนึงถึงเกี่ยวกับด้านดนตรีอย่างเดียว (เช่น ที่มาของเพลง และ เนื้อหาของเพลง เป็นต้น) อาจพูดได้ว่า แนวเพลงนั้นพิจารณาจาก เทคนิค รูปแบบ บริบท ที่มา และเนื้อหาของเพลง เป็นต้น
ประเภทของแนวเพลง
อาจแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้ดังนี้
- Classic / คลาสสิก
- Gospel / กอสเปล
- Jazz / แจ็ซ
- Latin / ลาติน
- Blues / บลูส์
- Rhythm and Blues (R&B) / รึทึมแอนด์บลูส์
- Punk / พังก์
- Rock / ร็อก
- Gothic Rock / โกธิกร็อก
- Heavy Metal / เมทัล
- Pop / ป็อป
- Country / คันทรี
- Electronic / อิเล็กทรอนิกส์
- Electronic Dance , House , Trance , UK Garage , Techno , Drum and Bass / อิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ , เฮาส์ แทรนซ์ , ยูเคการาจ , เทคโน , ดรัมแอนด์เบส
- Electronica / อิเล็กทรอนิกา
- เมโลดิก
- Ska , Reggae , Dub / สกา , เร้กเก้ , ดั๊บ
- Hip Hop , Rap , Big beat , Trip-Hop / ฮิปฮอป , แร็ป , บิ๊กบีต , ทริปฮอป
- World music / เวิลด์มิวสิก
- Chillout , Downtempo , Ambient / ชิลล์เอาท์ , ดาวน์เท็มโป , แอมเบียนต์




Classic / คลาสสิก : เป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงดนตรีของประเทศชาติตะวันตก ในการแสดงจะใช้วง Symphony Orchestra ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรี 4 ประเภท ดังนี้
1.เครื่องสาย ( String ) ได้แก่ ไวโอลิน วิโอลา เชลโล ดับเบิ้ลเบส ฮาร์พ กีตาร์คลาสสิก เปียโน
2.เครื่องเป่าลมไม้ ( Woodwind ) ได้แก่ ฟลูท ปิคโคโล โอโบ อิงลิชฮอร์น บาสซูน คอนทราบาสซูน คลาริเนต เบสคลาริเนต
3.เครื่องเป่าทองเหลือง ( Brass ) ได้แก่ เฟรนช์ฮอร์น ทรอมโบน ทรัมเป็ต คอร์เนต ทูบา
4.เครื่องกระทบ ( Percussion ) ได้แก่ กลองทิมปานี ฉาบ กลองใหญ่ ไทรแองเกิล ไวบราโฟน


Gospel / กอสเปล : คือแนวเพลงที่เน้นเสียงร้องเป็นหลัก กอสเปลจะมีลักษณะการร้องประสานเสียง การร้องเฉลิมฉลอง และใส่ความเชื่อทางศาสนาในเนื้อร้อง โดยกอสเปลได้ซึมเข้าไปดนตรีหลายๆประเภทอย่าง ดู-ว็อป ,คันทรี-กอสเปล,contemporary gospel, urban contemporary gospel,Modern Gospel music
กอสเปลเชื่อว่ามีที่มาจากโบสถ์ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ตอนต้นศตวรรษที่ 20 นักร้องชื่อดังแนวกอสเปล Sister Rosetta Tharpe มีเพลงขึ้นในชาร์ทในปี 1938 ทุกวันนี้กอสเปลได้แตกแยกย่อยเป็นหลายๆแนว ปลายยุค 70 Contemporary Christian Music คือเพลงซอฟท์ร็อกประเภทนึงได้เข้าสู่ดนตรีกระแสหลัก จนมาถึงยุค 80 และ 90 เพลง Contemporary Christian Music ก็ยังอยู่ได้รับความนิยมเพียงแต่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : เสียงร้อง, เปียโน, Hammond organ, กีตาร์ไฟฟ้า, กลอง, และ กีตาร์เบส
ตัวอย่างศิลปิน : >> Click <<
หรือบางทีศิลปินแนวเพลงอื่นอาจจะมีการร้องแบบ Gospel ได้ ดังแช่น เพลงป็อปที่มีการร้องประสานเสียงแบบกอสเปล

- "Tender" โดย เบลอ
- "Under the Bridge" โดย เรด ฮ็อท ชิลี เป็ปเปอร์ส
- "All These Things That I've Done" โดย เดอะ คิลเล่อร์ส
- "Cry Me A River" โดย จัสติน ทิมเบอร์เลค
- "I Want to Know What Love Is" โดย ฟอเรนจ์เนอร์
- "Will You Be There" โดย ไมเคิล แจ็คสัน
- "Purple Rain" โดย พรินส์
- "Like a Prayer" โดย มาดอนน่า
- "Somebody to Love" โดย ควีน
- "River of Dreams" โดย บิลลี โจเอล
- "Make Me Wanna Pray" โดย คริสติน่า อากีเลร่า
- "Fly Like A Bird" โดย มารายห์ แครี่


Jazz / แจ็ซ : เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนดำในสหรัฐอเมริกา (African Americans) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีลักษณะพิเศษคือโน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะสวิง การโต้และตอบทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิคชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
ดนตรีแจ๊สมีต้นกำเนิดราวทศวรรษ 1920 โดยวงดนดรีวงแรกที่นำสำเนียงแจ๊สมาสู่ผู้ฟังหมู่มากคือ ดิ ออริจินัล ดิกซีแลนด์ แจ๊ส แบนด์ (The Original Dixieland Jazz Band: ODJB) ด้วยจังหวะเต้นรำที่แปลกใหม่ ทำให้โอดีเจบีเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมาก พร้อมกับให้กำเนิดคำว่า "แจ๊ส" ตามชื่อวงดนตรี โอดีเจบีสามารถขายแผ่นได้ถึงล้านแผ่น
รากลึกของแจ๊สนั้นมีมาจากเพลงบลูส์ (Blues)คนผิวดำที่เล่นเพลงบลูส์เหล่านี้เรียนรู้ดนตรีจากการฟังเป็นพื้นฐาน จึงเล่นดนตรีแบบถูกบ้างผิดบ้าง เพราะจำมาไม่ครบถ้วน มีการขยายความด้วยความพึงพอใจของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งกลายเป็นที่มาของคีตปฏิภาณ (Improvisation) คือ การแต่งทำนองเพลงขึ้นมาใหม่ สดๆ โดยไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า หรือการโซโล่แบบด้นสด ในภายหลังดนตรีแร็กไทม์ (Ragtime) ก็เชื่อว่ามีต้นกำเนิดคล้ายๆ กันคือ เกิดจากดนตรียุโรปผสมกับจังหวะขัดของแอฟริกัน บลูส์และแร็กไทม์นี่เองที่เป็นรากของดนตรีแจ๊สในเวลาต่อมา


Blues / บลูส์ : ซึ่งเป็นดนตรีที่คงรูปแบบเดิม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นรูปแบบของดนตรีประเภทหนึ่ง เกิดจากสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนดำที่หลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกาเพื่อการเป็นทาส สภาพชีวิตที่คับแค้นของพวกเขาได้ถูกนำเสนอผ่านบทเพลงด้วยการร้อง หรือสวดอ้อนวอนในทางศาสนาที่ เป็นท่วงทำนองที่น่าเศร้า อันเป็นเอกลักษณ์ของการร้องและท่วงทำนองที่เกิดจากเครื่องดนตรีที่ไม่มีคุณภาพจากความแร้นแค้น และความรู้ในด้านทฤษฎีดนตรีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทำให้มีเสียงหรือคอร์ดความเพี้ยนซึ่งต่อมาก็ได้สร้างความแปลกหู จนเป็นลักษณะและเอกลักษณ์เฉพาะ
ลักษณะสำคัญของเพลงบลูส์คือ การใช้เสียงร้อง หรือเสียงของเครื่องดนตรีที่เพี้ยนจากเสียงในบันไดเสียง ซึ่งเรียกกันว่า เบนท์ หรือ บลูโน้ต และการสไลด์เสียง ปกติเพลงบลูส์เป็นเพลงในอัตราจังหวะ 4/4 ใน 1 วรรคจะมี 12 ห้องเพลง การร้องแต่ละวรรคจะมีการอิมโพรไวเซชั่นไปจากทำนองเดิม เช่นเดียวกับการบรรเลงโดยเครื่องดนตรี
ลักษณะเฉพาะของเพลงบลูส์ถูกวางด้วยด้วยรากฐานจากความเจ็บปวดแร้นแค้น ทุกข์ทรมาน ของชีวิต เนื้อเพลง และสำเนียงของบลูส์จึงแฝงความเจ็บปวดคล้ายการสะอึกสะอื้นเวลาร้องให้ จึงใช้แสดงอารมณ์เศร้าได้ดี นอกจากนั้น เรื่องของจังหวะ (rhythm) ของบลูส์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นแบบแผนนำไปสู่ดนตรีรูปแบบอื่นมากมาย เช่น ฟังค์,โซลฟังค์,ริทึ่ม แอนด์ บลูส์, ร็อก แอนด์ โรล เป็นต้น
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้: กีตาร์ - เปียโน - ฮาร์โมนิกา - กีตาร์เบส - กลอง - แซกโซโฟน - เสียงร้อง - ทรัมเป็ต - ทรอมโบน


Rhythm and Blues / ริทึมแอนด์บลูส์ : หรือรู้จักกันในชื่อ R&B, R'n'B, RnB) เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยม โดยผสมผสานระหว่างเพลงแนว แจ๊ส กอสเปล และบลูส์ โดยเริ่มแรกจะเล่นโดยศิลปินแอฟริกัน-อเมริกัน
คำว่า ริทึมแอนด์บลูส์ ถูกใช้ครั้งแรกในนิตยสารบิลบอร์ดโดย เจอรี่ เว็กซ์เลอร์ (Jerry Wexler) ในปี ค.ศ. 1947 แทนที่คำว่า Race Music ที่เคยถูกใช้มาก่อน
ในปี ค.ศ. 1948 บริษัท RCA Victor ได้เข้ามาทำการตลาดดนตรีคนผิวดำโดย ภายใต้ชื่อ Blues and Rhythm คำนี้ถูกกลับคำ โดยเว็กซ์เลอร์ ค่าย Atlantic Records ซึ่งเป็นผู้นำเพลงแนวอาร์แอนด์บีในยุคแรกๆ
ในปีช่วงยุค 1970 ริทึมแอนด์บลูส์ ได้ครอบคลุมนิยามกับแนว โซล (Soul)และ ฟังก์ (Funk) ในปัจจุบันนิยมเรียกอาร์แอนด์บี มากกว่าคำว่า ริทึมแอนด์บลูส์
ในช่วงกลางยุค 1970 คนผิวสีทำเพลงในแนวดิสโก้ ถือเป็นปรากฏการณ์ในสังคม เพลงแนวดิสโก้ได้รับความนิยมอย่างมาก พอช่วงยุค 80 เพลงดิสโก้ก็หายไป กลายเป็นเพลงช้าๆ ฟังสบายๆ ที่เรียกว่า quiet storm จนกระทั่งในปัจจุบันอาร์แอนด์บีได้เพิ่มแนวฮิปฮอป และ แร็ปอีก ซึ่งได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - ฮาร์โมนิกา - ทรัมเปต - แซ็กโซโฟน - กลอง - เปียโน - ออร์แกน - คีย์บอร์ด


Punk / พังก์ : เป็นดนตรีร็อกประเภทหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 พังก์ร็อกได้พัฒนาระหว่างปี 1974 และ 1977 ในสหรัฐอเมริกา,สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย
ลักษณะดนตรีแบบ พังก์ร็อกมีลักษณะท่วงทำนองที่รุนแรง หยาบกระด้าง ด้วยความขาดทักษะของการเล่นดนตรี ส่วนการร้องก็จะเป็น "ตะโกน"หรือ "บ่น" และแฝงนัยยะของ "การต่อต้าน " และการยกย่อง "ความเป็นเลิศ" เครื่องดนตรีจะประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 หรือ 2 ตัว ,เบสไฟฟ้าและชุดกลอง มักมีการเล่นแบบ 2 คอร์ด เพลงพังก์มักมีความยาวระหว่าง 2 ถึง 2 นาทีครึ่ง มีบางเพลงมีความยาวน้อยกว่า 1 นาทีก็มี เพลงพังก์ในช่วงแรกรับอิทธิพลจากร็อกแอนด์โรลคือมีท่อนประสานเสียง
พังก์ร็อกกลายเป็นกระแสนิยมหลักในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 70 แต่ความโด่งดังในที่อื่นมีในจำกัด จนกระทั่งทศวรรษที่ 80 พังก์ร็อกได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเล็กๆ ทั่วทุกมุมโลก ส่วนมากจะถูกปฏิเสธจากดนตรีกระแสหลัก ในช่วงปลายยุคทศวรรษที่ 70 ดนตรีพังก์ร็อกได้แตกแยกแขนง ไปหลากหลายทิศทาง เช่นเพลงแนว นิวเวฟ ,โพสต์-พังก์ โดยหลายวงได้ทำการทดลองแนวดนตรีไปในทิศทางอื่น เช่นแนวฮาร์ดคอร์พังก์ และ Oi! และ อะนาร์โค-พังก์ เป็นต้น และพังก์ร็อกยุคใหม่ได้พัฒนาไปอีกขึ้น โดยเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟได้รับความนิยมเหมือนตอนที่ได้พังก์ร็อกรับความนิยมในช่วงแรก
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : เสียงร้อง - กีตาร์ - เบส - กลอง - อาจมีการใช้เครื่องดนตรีอื่นบ้าง


Rock / ร็อก: เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในกระแสหลักในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 มีต้นกำเนิดจากดนตรีร็อกแอนด์โรล ริทึมแอนด์บลูส์ ดนตรีคันทรีในคริสต์ทศวรรษ 1940 และ 1950 รวมถึงเพลงแนวโฟล์ก แจ๊ซและดนตรีคลาสสิก
ดนตรีเพลงร็อกมันวงไปด้วยเสียงกีตาร์แบบแบ็กบีตจากส่วนจังหวะของกีตาร์เบสไฟฟ้า กลองและคีย์บอร์ด อย่างออร์แกน เปียโน หรือตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ก็มีการใช้เครื่องสังเคราะห์เสียง ร่วมไปกับกีตาร์และคีย์บอร์ด ยังมีการใช้แซกโซโฟน และฮาร์โมนิกาในแบบบลูส์ก็มีใช้บ้างในท่อนโซโล่ ในรูปแบบร็อกบริสุทธิ์แล้ว ใช้ 3 คอร์ด จังหวะแบ็กบีตที่แข็งแรงและหนักแน่น รวมถึงมีเมโลดี้ติดหู
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 เพลงร็อกพัฒนาจนแตกแยกย่อยเป็นหลายแนวเพลง และเมื่อรวมกับเพลงโฟล์กแล้วจึงเป็น โฟล์กร็อก รวมกับบลูส์เป็น บลูส์-ร็อก รวมกับแจ๊ซเป็น แจ๊ซ-ร็อก ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ร็อกยังเกี่ยวข้องกับเพลงโซล ฟังก์และละติน เช่นเดียวกันในยุคนี้ร็อกยังได้เกิดแนวเพลงย่อยอีกหลายแนวเช่น ซอฟต์ร็อก เฮฟวีเมทัล ฮาร์ดร็อก โพรเกรสซีฟร็อกและพังก์ร็อก ส่วนแนวเพลงย่อยร็อกที่เกิดขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1980 เช่น นิวเวฟ ฮาร์ดคอร์พังก์และอัลเทอร์เนทีฟร็อก ในยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 แนวเพลงย่อยที่เกิดเช่น กรันจ์ บริตป็อป อินดี้ร็อกและนูเมทัล
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ไฟฟ้า - กีตาร์เบส - กลองชุด - เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด


Gothic Rock / โกธิกร็อก : หรือบางครั้งเรียก ก็อธร็อก (goth rock) หรือ ก็อธ (goth) เป็นแนวเพลงย่อยของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ เริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงปลายยุคทศวรรษ 1970 วงประเภทโกธิกร็อกเติบโตขึ้นจากการพัฒนาของดนตรีพังก์ร็อกอังกฤษ และการเกิดขึ้นของโพสต์-พังก์ และด้วยแนวเพลงแล้วได้แยกออกมาจากกระแสของพังก์ร็อกมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 อันเนื่องมาจากความแตกต่างอย่างชัดเจนของรูปแบบ โกธิกร็อกยังต่อต้านพังก์ มีความมืดหม่น มักใช้คีย์บอร์ดอย่างหนักด้วยเนื้อเพลงที่ใคร่ครวญ หดหู่ วงโกธิกร็อกที่เป็นที่รู้จัก
ดนตรีโกธิกร็อกยังทำให้เกิดวัฒนธรรมย่อยต่าง ๆ เช่น แฟชั่น และสิ่งพิมพ์หลายสื่อเติบโตและได้รับความนิยมในยุคทศวรรษ 1980 จากนั้นความนิยมในดนตรีกรันจ์ในสหรัฐอเมริกามีมากจนทำให้กระแสของโกธิกร็อกค่อย ๆ จางหายไปจากดนตรีกระแสหลัก แต่ก็ยังคงอยู่ในเพลงใต้ดินอย่างกว้างขวาง
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - กลองชุด - เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด


Heavy Metal / เมทัล : เป็นแนวเพลงร็อกประเภทหนึ่งที่พัฒนาในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ด้วยรากฐานของดนตรี บลูส์-ร็อก และ ไซเคเดลิกร็อก โดยมีหลายวงได้พัฒนาเฮฟวีเมลทัล ให้มีความหนา, หนัก, ดนตรีที่เน้นกีตาร์และกลอง และลักษณะเฉพาะตัวที่มีการโซโล่กีตาร์ที่รวดเร็ว
เพลงแนวเฮฟวีเมทัลได้รับความนิยมจากแฟนทั่วโลก ที่แฟนเหล่านั้นจะเรียกตัวเองว่า เมทัลเฮดส์ หรือ เฮดแบงเกอร์ และถึงแม้ว่าวงเมทัลในช่วงต้น ๆ อย่าง เล็ด เซ็พเพลิน, แบล็ค แซบบาธ และ ดีพ เพอร์เพิล จะได้รับความสนใจจากกลุ่มคนฟังหลัก แต่ก็มีบ้างที่พวกเขาจะถูกด่าทอ
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ไฟฟ้า - กีตาร์เบส - กลอง - เสียงร้อง - คีย์บอร์ด (บางโอกาส)


Pop / ป็อป : เป็นแนวเพลงที่มีลักษณะโมโลดี้ง่าย ๆ โครงสร้างเพลงไม่สลับซับซ้อน โดยอาจจะรวมเพลงหลาย ๆ แนวอย่าง ร็อก ฮิปฮอป เร้กเก้ แดนซ์, อาร์แอนด์บี, ฟังก์ หรือแม้แต่โฟล์ก
เพลงป็อปจะถูกแต่งขึ้นเพื่อหวังกลุ่มคนฟังกลุ่มใหญ่โดยได้แรงผลักดันจากค่ายเพลงใหญ่ เริ่มจากในดนตรีประเภท Ragtime จากนั้น Ragtime เริ่มมาทางสวิง จากนั้นก็เป็นดนตรีแจ๊สที่สามารถเต้นรำได้ ดนตรีป็อปสามารถรวมได้ถึงบลูส์ที่มีต้นกำเนิดจากคนผิวดำในอเมริกา และดนตรีคันทรีที่เริ่มปรับจนกลายเป็นแนว Rockabilly (เพลงร็อกแอนด์โรลล์ยุคแรก)
- ในยุค 50 เพลงร็อกแอนด์โรลล์ได้รับความนิยม มีศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างเอลวิส เพรสลีย์ ต่อมาในยุค 60 เป็นยุคของทีนไอดอลอย่างวง เดอะ บีทเทิลส์, เดอะ บีชบอยส์, คลิฟ ริชาร์ด, โรลลิ่ง สโตนส์, แซนดี ชอว์ เป็นต้น
- ในยุค 70 เป็นยุคของดนตรีดิสโก้ มีศิลปินอย่าง แอบบ้า, บีจีส์ และยังมีดนตรีประเภทคันทรีที่ได้รับความนิยมอย่าง ดิ อีเกิลส์ หรือดนตรีป็อปที่ได้รับอิทธิพลจากร็อกอย่าง เดอะ คาร์เพ็นเทอร์ส, ร็อด สจ๊วต, คาร์ลี ไซมอน, แฌร์ เป็นต้น
- ในยุค 80 มีศิลปินป็อปที่ได้รับความนิยมอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน, มาดอนน่า, ทิฟฟานี, เจเน็ท แจ็คสัน, ฟิล คอลลินส์, แวม! ลักษณะดนตรีจะมีการใส่ดนตรีสังเคราะห์เข้าไป เพลงในยุคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเต้นรำและยังมีอิทธิพลถึงทางด้านแฟชั่นศักดิ์ชัย ด้วย
- ในยุค 90 เริ่มได้อิทธิพลจากเพลงแนวอาร์แอนด์บี เช่น มารายห์ แครี, เดสทินี ไชลด์, บอยซ์ ทู เม็น, เอ็น โวค, ทีแอลซี ในยุคนี้ยังมีวงบอยแบนด์ที่ได้รับความนิยมอย่าง นิว คิดส์ ออน เดอะ บล็อก, เทค แดท, แบ็คสตรีท บอยส์
- ในยุค 2000 มีศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่าง บียอนเซ่, บริทย์นี สเปียร์, คริสติน่า อากีเลร่า, แบล็ค อายด์ พีส์, จัสติน ทิมเบอร์เลค ส่วนเทรนป็อปอื่นเช่นแนว ป็อป-พังค์ อย่างวง ซิมเปิ้ล แพลน, เอฟริล ลาวีน รวมถึงการเกิดรายการสุดฮิต อเมริกัน ไอดอลที่สร้างศิลปินอย่าง เคลลี่ คลาร์กสัน และ เคลย์ ไอเคน แนวเพลงป็อปและอาร์แอนด์บีเริ่มรวมกัน มีลักษณะเพลงป็อปที่เพิ่มความเป็นอาร์แอนด์บีมากขึ้นอย่าง เนลลี เฟอร์ตาโด, ริฮานนา, จัสติน ทิมเบอร์เลค เป็นต้น
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - กลอง - ดรัมแมชชีน - เครื่องสังเคราะห์เสียง


Country / คันทรี : เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมเกิดในแถบสหรัฐอเมริกาทางตอนใต้และทางภูเขาแอพพาลาเชียน มีต้นกำเนิดจากดนตรีโฟล์ก, ดนตรีเคลติก, ดนตรีกอสเปล และดนตรีโอลด์-ไทม์ และพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 1920 คำว่า "คันทรี" เริ่มใช้กันในยุคทศวรรษ 1940 เมื่อก่อนหน้าที่ดนตรีฮิลบิลลีเสื่อมลงไป จนคำนี้มีการใช้อย่างกว้างขวางในยุค 1970 ขณะที่คำว่า "คันทรี" และ "เวสต์เทิร์น" ได้มีการใช้น้อยลงในช่วงนั้น ยกเว้นในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกายังคงใช้คำนี้กันอย่างปกติอยู่
แนวเพลงคันทรียังได้มีศิลปินที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล อย่าง เอลวิส เพรสลีย์ซึ่งต่อมาได้รวมแนวเพลง ร็อกแอนด์โรล เข้ามา และศิลปินร่วมสมัยอย่างการ์ธ บรูกส์ ที่มียอดขายอัลบั้ม 128 ล้านชุด ถือเป็นศิลปินเดี่ยวที่มียอดขายอัลบั้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
ขณะที่ยอดขายอัลบั้มของเพลงส่วนใหญ่อยู่ในขาลง ในปี 2006 เพลงคันทรีมียอดขายใน 6 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 17.7 เปอร์เซนต์ ด้วย 36 ล้านชุด มากกว่านั้นกลุ่มผู้ฟังในยังมีกลุ่มคนฟังมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี มียอดถึง 77.3 ล้านคนทุกอาทิตย์ จากสถิติการจัดอันดับทางวิทยุของ Arbitron Inc
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - ไวโอลิน - กีตาร์เหล็ก - โดโบล - ฮาร์โมนิกา - กีตาร์เบส - ฟิดเดิล - กลอง - แมนโดลิน - บันโจ


Electronic / อิเล็กทรอนิกส์ : เป็นดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในการผลิตขึ้นมา โดยทั่วไปแล้วความโดดเด่นของดนตรีสามารถเกิดขึ้นโดยใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีเครื่องไฟฟ้า ตัวอย่างเช่นเสียงที่เกิดจาก Telharmonium, Hammond organ และกีตาร์ไฟฟ้า ส่วนดนตริอีเล็กทรอนิกส์แท้ ๆ สามารถใช้เครื่อง Theremin, เครื่องสังเคราะห์เสียง และคอมพิวเตอร์
ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนประกอบในดนตรีอาร์ตตะวันตก ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1960 และได้รับความนิยมในเวลาต่อมา ในปัจจุบันดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หลากหลายแนวเพลง ตั้งแต่ดนตรีอาร์ตทดลอง หรือดนตรีป็อป อย่างเช่น เพลงแดนซ์


Electronic Dance / ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ : ในที่นี้หมายถึงดนตรีเต้นรำประเภทอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับการสืบทอดมาจากดนตรีประเภทดิสโก้ในยุค 70
ดนตรีประเภทนี้มีต้นกำเนิดมาจากไนต์คลับในยุค 80 มีการใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อย่าง เครื่องสังเคราะห์เสียง ดรัมแมชชีน และ sequencer เพลงแดนซ์ส่วนใหญ่ถูกแต่งขึ้นมาโดยคอมพิวเตอร์ และเครื่องสังเคราะห์เสียง ไม่ค่อยนิยมใช้เครื่องดนตรีจริง โดยจะอยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือเสียงอิเล็กทรอนิกส์ บีต 4/4 ช่วงระหว่าง 120 บีตต่อนาที ไปจนถึง 200 บีตต่อนาที เพลงประเภทเทคโน แทรนซ์ และเฮาส์ ได้รับความนิยมมาก

House / เฮาส์ เป็นแนวเพลงหนึ่งของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ เกิดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 โดยมีต้นกำเนิดมาจากเมืองชิคาโก มลรัฐอิลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แรกเริ่มเดิมทีเป็นที่นิยมในดิสโก้เทคสำหรับชาวแอฟริกัน-อเมริกัน, ละตินอเมริกันและสังคมเกย์ในสมัยกลางทศวรรษที่ 1980 ที่เมืองชิคาโก ต่อมาจึงกระจายความนิยมไปยังนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซี, ดีทรอยต์และไมอามี จนกระทั่งถึงยุโรปก่อนจะมีบทบาทสำคัญแก่แนวเพลงป็อปและเพลงแดนซ์ทั่วโลก
แนวดนตรีเฮาส์ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากองค์ประกอบของดนตรีโซลและฟังก์ในช่วงกลางยุค 1970 เฮาส์มีลักษณะโดดเด่นในการนำเอาการเคาะเพอคัสชั่น (percussion) แบบดิสโก้มาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ดรัมเบสในทุก ๆ บีต (beat) แล้วพัฒนาเป็นแนวดนตรีแนวใหม่โดยผสมไลน์เบสของเครื่องสังเคราะห์เสียงอิเล็กทรอนิก, กลองอิเล็กทรอนิก, เอฟเฟกต์อิเล็กทรอนิก ,แซมเปิลฟังก์และป็อป รวมไปถึงการใช้เสียงก้องและเสียงร้องดีเลย์
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : แซมเพลอร์ - ดรัมแมชชีน - เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด - ซีเควนเซอร์

Trance / ดนตรีแทรนซ์ : เป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ที่พัฒนาในทศวรรษ 1990 มีจังหวะอยู่ราว 128 และ 160 บีพีเอ็ม เมโลดี้ใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงที่รวมรูปแบบต่าง ๆ ของดนตรีอีเลกโทรนิก อย่างเช่น ดนตรีแอมเบียนต์ เทคโน และดนตรีเฮาส์ ยังมีการอธิบายว่าแทรนซ์ มีเมโลดี้คลาสสิกบนจังหวะจังเกิล
คำว่า แทรนซ์ (อังกฤษ: Trance) ไม่แน่ชัดเรื่องที่มา แต่มีบางกระแสบอกว่ามาจากชื่ออัลบั้มของ Klaus Schulze ที่ชื่อ Trancefer (1981) และ En=Trance (1987) หรือศิลปินแทรนซ์ยุคแรกอย่าง Dance 2 Trance หรือซิงเกิลแทรนซ์ยุคแรกอย่าง ปาปัวนิวกินี ในปี 1991 ของวง เดอะฟิวเจอร์ซาวด์ออฟลอนดอน ดนตรีแทรนซ์ยุคแรกในปลายยุค 80's อย่างวงเดอะเคแอลเอฟ ที่ออกซิงเกิล คือ "What Time Is Love?" (1989) "3 a.m. Eternal" (1989) และ "Last Train to Trancentral" (1990) เพลงแนวแทรนซ์มักเล่นในไนต์คลับ สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน ในเมือง และแทรนซ์ยังถูกจัดเป็นหนึ่งในดนตรีคลับ
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : คีย์บอร์ด - เครื่องสังเคราะห์เสียง - ซีเควนเซอร์ - ดรัมแมชชีน - ซามเพลอ

UK Garage / ยูเคการาจ : หรือเรียกว่า UKG หรือบางครั้งเรียกว่า การาจ เฉยๆ คือแนวเพลงอีเลกโทรนิกแด๊นส์ทันสมัย ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาดนตรีเฮาส์ในสหราชอาณาจักรในช่วงกลางทศวรรษ 1990 คำว่าการาจนี้ ในสหรัฐอเมริกาจะมีความหมายไม่เหมือนในสหราชอาณาจักร
การพัฒนาของดนตรีเฮาส์ในสหราชอาณาจักรในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เริ่มจากคลับที่ชื่อ Paradise Garage ที่พัฒนาแนวเพลงใหม่ที่เรียกว่า สปีดการาจ ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 คำว่า ยูเคการาจ ก็มีความหมายถึงในซีนนี้ แนวเพลงของการาจมักจะรวมเพลงอย่าง ฮิปฮอป แร็ป และอาร์แอนด์บี ภายใต้ชื่อ เออร์เบิร์นมิวสิก
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด - ซีเควนเซอร์ - ดรัมแมชชีน - ซามเพลอ

Techno / เทคโน : เป็นแนวดนตรีที่เริ่มต้นมาจากแนว ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (Electronic dance music - EDM) ในช่วงกลางยุค 80' ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในเนื้อเพลงจะใช้เสียงสังเคราะห์เป็นหลัก และ ได้รับอิทธิพล จากวง อิเล็กโทร Cybotron
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : คีย์บอร์ด - เครื่องสังเคราะห์เสียง - ซีเควนเซอร์ - ดรัมแมชชีน - ซามเพลอ

Drum and bass / ดรัมแอนด์เบส : มักย่อว่า d&b, DnB, dnb, d'n'b, drum n bass, drum & bass เป็นแนวเพลงแด๊นซ์ประเภทหนึ่ง ที่รู้จักกันว่า จังเกิล ที่เกิดขึ้นปลายทศวรรษ 1980 มีลักษณะจังหวะเบรกบีทที่รวดเร็ว (ความเร็วอยู่ระหว่าง 160180 bpm) กับไลน์เบสย่อยที่หนักหน่วง ดรัมแอนด์เบสแตกย่อยมาจากยูเคเรฟ ในช่วงต้น ๆ ยุค 90 และต้นช่วงต้น ๆ มีการเปลี่ยนแปลงสไตล์ สิ่งประกอบหลายๆ อย่าง จากแนวดนตรีหลากหลายแนว
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : เครื่องสังเคราะห์เสียง - ดรัมแมชีน - Sequencer - คีย์บอร์ด - แซมเพลอ - คอมพิวเตอร์ส่วนตัว

Electronica / อิเล็กทรอนิกา: เป็นแนวเพลงที่รวมแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นเพลงสำหรับเต้นรำ เพลงสำหรับเป็นพื้นหลังประกอบกิจกรรม แต่ไม่เหมือนดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ มันไม่ได้เฉพาะการเต้นรำเท่านั้น ที่มาของคำเริ่มใช้ครั้งแรกในช่วงคริสตทศวรรษที่ 1990 เกี่ยวข้องกับ โพสต์-เรฟ อิเล็กทรอนิกแดนซ์ แนวเพลงอย่างเช่น เทคโน, ดรัมแอนด์เบส, ดาวน์เท็มโป, และดนตรีแอมเบียนต์ ก็มีความหมายถึงอิเล็กทรอนิกา จนกระทั่งในอเมริกาในก้าวเข้าสู่กระแสหลักในยุคของอัลเทอร์เนทีฟ จนปลายยุคทศวรรษที่ 1990
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - กลอง - เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด - ซีเควนเซอร์ - ดรัมแมชชีน - ซามเพลอ

Ska , Reggae , Dub / สกา , เร้กเก้ , ดั๊บ

Ska / สกา : เป็นแนวเพลงที่เกิดในประเทศจาไมก้า ช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ซึ่งต่อมามีการพัฒนาเป็น rocksteady และ เร้กเก้
เพลงสกา เป็นการรวมองค์ประกอบเพลงแถบคาริบเบียนอย่าง เม็นโต และ คาลิปโซ เข้ากับ แจ๊ซทางฝั่งอเมริกา กับอาร์แอนด์บี มีลักษณะพิเศษตรงไลน์เบส สำเนียงกีตาร์ และจังหวะเปียโนที่ดูแตกต่างไป สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือมีการใช้เครื่องเป่า (อย่างแจ๊ซ) เช่น แซกโซโฟน, ทรัมเป็ต, ทรอมโบน เป็นต้น
และทศวรรษที่ 60 สกาถูกหมายถึงแนวดนตรีของ Rudeboy ในสหราชอาณาจักร สกาได้รับความนิยมในกลุ่ม ม็อดและพวกสกินเฮด มีวงอย่าง Symarip, Laurel Aitken, Desmond Dekker, และ The Pioneers เป็นต้น
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์, กีตาร์เบส, ทรัมเป็ต, ทรอมโบน, แซกโซโฟน, เปียโน, กลอง, ออร์แกน

Reggae / เร้กเก้ เป็นแนวดนตรีแอฟริกัน-แคริบเบียน ซึ่งพัฒนาขึ้นบนหมู่เกาะจาไมก้า และมีความชิดใกล้เชื่อมต่อกับลัทธิรัสตาฟาเรียน (Rastafarianism) รากดั้งเดิมของเร้กเก้สามารถค้นหาได้จากดนตรีเทรดิชั่นหรือประเพณีนิยมของแอฟริกัน-แคริบเบียนที่มีพอๆ กับดนตรีริธึ่มแอนด์บลูส์ของอเมริกัน
เร็กเก้ เป็นดนตรีที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะที่เดียวในโลกของประเทศจาไมก้า ซึ่งอิทธิพลทางดนตรีมาจากนิวออร์ลีน ริธึ่มแอนด์บลูส์ มาจากการฟังวิทยุทรานซิสเตอร์ที่รับคลื่นสั้นจากสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับจาไมก้าตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ พลเมืองตกเป็นทาสของคนผิวขาว ก็มีการพัฒนาดนตรีเมนโตนำมาผสมกับอาร์แอนด์บีทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา พัฒนาเปลี่ยนแปลงจังหวะเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นดนตรีสกา (Ska) โดยเปลี่ยนแปลงจังหวะให้เพิ่มขึ้น กีตาร์เล่นจังหวะยก และมีการเล่นลัดจังหวะ ถือว่าเป็นการแปลความหมายของดนตรีอาร์แอนด์บีอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นที่นิยมกันอย่างมากในช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 60 และได้มีการพัฒนาขึ้นอีกขั้น บีทของดนตรีจึงถูกดึงให้ช้าลงใช้เปียโนและเบสที่มีอิทธิพลดนตรีร็อกเข้ามาจึงเรียกว่า ร็อกสเตดี้ (Rocksteady)
จนมาถึงปี 1968 ก็ได้มีการพัฒนาจนถึงขีดสุด ดนตรีเร็กเก้จึงถือกำเนิดขึ้น ภายใต้แนวความคิดของลัทธิรัสตาฟาเรียน ทรงผมฟั่นเชือกหรือเดรด ล็อก และอุดมคติทางการเมืองและสังคม ในการพาชาวแอฟริกัน-แคริบเบียน กลับสู่แผ่นดินในทวีปแอฟริกา
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์เบส - กลอง - กีตาร์ - ออร์แกน - เครื่องดนตรีสากลกลุ่มเครื่องสาย - เมโลดิก้า

Dub / ดั๊บ : เป็นแนวเพลงแดนซ์ ซึ่งพัฒนาขึ้นบนหมู่เกาะจาไมก้า ได้รับการสืบทอดมาจากดนตรีเร้กเก้ ในปลายยุค 60s
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - กลองชุด เครื่องสังเคราะห์เสียง - เมโลเดียน - เครื่องลมทองเหลือง - ออร์แกน

Hip Hop , Rap , Big beat , Trip-Hop / ฮิปฮอป , แร็ป , บิ๊กบีต , ทริปฮอป

Hip Hop / ฮิปฮอป : มีความหมายถึงในด้านดนตรีแนวฮิปฮอป ที่เป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นอเมริกาและทั่วโลก จนถูกยกระดับให้เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งมีรากฐานการพัฒนามาจากชาวแอฟริกัน-อเมริกัน และ ชาวละติน โดยในช่วงยุค 70' หลังจากที่ดนตรีดิสโก้ที่พัฒนามาจาก แนวเพลงฟังค์ ในแบบของโมทาวน์ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้มีการเปิดแผ่นเพลงในคลับต่าง ๆ และด้วยการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี เกิดการสร้าง loop, beat ใหม่ ๆ ขึ้นมา ดนตรีฮิปฮอป จึงถือกำเนิดขึ้น
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้: เทิร์นเทเบิล, การแร็ป, ดรัมแมชชีน, แซมเปลอ, เครื่องสังเคราะห์เสียง, บีทบ็อกซ์

Rap / แร็ป : คือการพูดในลักษณะคำกลอนลงจังหวะเพลง โดยส่วนใหญ่จะใช้จังหวะเร็ว เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบของวัฒนธรรมฮิปฮอป
แร็ปเป็นการร้องแบบที่เป็นจังหวะ การร้องคล้ายเสียงพูด และเนื้อหาของเพลงที่มีความหมายและมีความคล้องจองกัน รวมทั้งเน้นที่การกำกับจังหวะ โดยใช้จังหวะกลองอิเล็กทรอนิกส์ และเทคนิคการ Sampling งานเพลงอื่นๆ
การแร็ปได้พัฒนาทั้งภายในและนอก ของดนตรีแนวฮิปฮอป Kool Herc ชาวจาไมก้าในนิวยอร์กได้เริ่มการพูดลงบนเพลงประเภทแด๊นซ์ฮอล ในทศวรรษที่ 70 จนในทศวรรษที่ 80 ความสำเร็จของวงรัน-ดีเอ็มซี ได้เปิดกว้างให้วงการเพลงแร็ป พอถึงปลายยุคทศวรรษที่ 90 ฮิปฮอปได้ก้าวเข้าสู่กระแสหลัก ในยุค 2000 ฮิปฮอปใต้ดินเริ่มจะมีการใช้จังหวะที่สลับซับซ้อนมากขึ้น ท้วงทำนองในการพูด เนื้อคำกลอนที่ซับซ้อน และการเล่นคำอย่างสร้างสรรค์ เนื้อเพลงแร็ปมักถ่ายทอดชีวิตบนถนนที่เป็นที่มาของฮิบฮอป ผนวกกับอ้างอิงถึงวัฒนธรรมกระแสนิยม และคำสแลงฮิปฮอปต่าง ๆ

Big beat / บิ๊กบีต : หรือ เคมิคอลเบรก เป็นคำที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1990 โดยสื่อมวลชนอังกฤษที่อธิบายถึงแนวดนตรีของศิลปินอย่าง เดอะเคมิคอลบราเทอร์ส แฟตบอยสลิม เดอะคริสตอลเมธอด โพรเพลเลอร์เฮดส์ และเดอะโพรดิจี ที่เป็นแบบฉบับในการผลักดัน โดยใช้จังหวะเบรกบีตหนัก ๆ เข้ากับการวนไปมาจากเครื่องสังเคราห์และรูปแบบทั่วไปของรูปแบบดนตรีแนวอีเลกโทรนิกอย่างเช่น เทคโนและแอซิดเฮาส์
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : กีตาร์ - กีตาร์เบส - กลอง - เครื่องสังเคราะห์เสียง - คีย์บอร์ด - ซีเควนเซอร์ - ดรัมแมชชีน - ซามเพลอ- ดิจิตอล เอฟเฟ็ค

Trip-Hop / ทริปฮอป ( บริติช ฮิปฮอป ในบางครั้งเรียก Bristol Sound : เป็นแนวเพลงย่อยของฮิปฮอป ได้รับอิทธิพลจาก ดนตรีเฮาส์, อีเลกโทรนิกา, และ ดาวน์เท็มโป เป็นแนวเพลงหนึ่งของอีเลกโทรนิก, ทริปฮอปเกิดขึ้นช่วงทศวรรษที่ 90 และ มีศิลปินทริปฮอปยุคแรกอย่าง Massive Attack Coldcut Tricky DJ Shadow และ Portishead ได้พัฒนาดนตรีทริปฮอปมาตลอด และ ศิลปินจากสหรัฐอเมริกา DJ Shadow, Cut Chemist, วงอืนๆ Bjork, Thievery Corporation, Gorillaz, Howie B. Bowery Electric, Jem, Spook
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : คีย์บอร์ด - ซีเควนเซอร์ - เปียโนโรดส์ - เทิร์นเทเบิ้ล - เครื่องสายสตริง - เครื่องลมทองเหลือง


World Music / เวิลด์มิวสิก : มีความหมายถึงเพลงท้องถิ่นหรือเพลงโฟล์กในวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์และเล่นโดยนักดนตรีท้องถิ่น
ในทางตะวันตก คำว่า "เวิลด์มิวสิก" จะหมายถึงดนตรีที่ไม่ใช่ดนตรีจากอเมริกาเหนือและดนตรีป็อปอังกฤษ หรือเป็นดนตรีโฟล์กท้องถิ่น หรือดนตรีที่รวมเพลงท้องถิ่นหลายอย่าง ตัวอย่างของแนวเพลงเช่น ดนตรีเร้กเก้ในจาเมกาหรือลาตินป็อป เป็นต้น ที่เติบโตจนแยกเป็นแนวเพลงเฉพาะ เพลงจีนหรือเพลงท้องถิ่นแอฟริกัน ก็ถูกจำแนกว่าเป็นเวิลด์มิวสิกเช่นกัน
- เพลงพื้นเมือง หมายถึง เพลงที่ถูกแต่งขึ้นโดยส่วนมากจะร้องต่อๆกันมา โดยไม่ทราบคนแต่งที่แท้จริง และ ใช้ร้องรำทำเพลงเพื่อความสนุกสนาน ส่วนมาก รายละเอียดของเพลงท้องถิ่นนี้ มักจะเกิดขึ้นจาก ประเพณี กิจวัตรประจำวัน อาชีพ เป็นต้น

Chillout , Downtempo , Ambient / ชิลล์เอาท์ , ดาวน์เท็มโป , แอมเบียนต์

Chillout / ชิลล์เอาท์ : เป็นแนวดนตรีดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักรช่วงต้นถึงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990 เพลงจะถูกแต่งขึ้นจาก ซอฟต์แวร์ และ เครื่องสังเคราะห์เสียง เป็นหลัก เป็นแนวเพลงที่มีจังหวะ ช้าๆ ฟังสบาย ผ่อนคลาย คลายเครียด คลายอารมณ์ ในบางครั้งก็สำหรับเป็นพื้นหลังประกอบกิจกรรม
ชิลล์เอาท์ ยังเป็นแนวเพลงที่เชื่อมโยงกับดนตรีแอมเบียนต์ ทริป-ฮอป นูแจ๊ซ แอมเบียนต์เฮาส์ แอมเบียนแทรนซ์ นิวเอจและแนวเพลงย่อยอื่นของ ดาวน์เท็มโป และในบางครั้งแนวเพลงอีซีลิสเทนนิง อย่างดนตรีเลาจ์ ก็ถือเป็นแนวเพลงชิลล์เอาท์ด้วยเช่นกัน
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : ซอฟต์แวร์ และ หลากหลาย

Downtempo / ดาวน์เทมโป : หรือ ดาวน์บีต ( Downbeat) เป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกในลักษณะผ่อนคลาย ที่ดูมีแนวเพลงคล้ายกับแอมเบียนต์ แต่มักจะใส่จังหวะหรือกรู๊ฟ ซึ่งต่างจากดนตรีแอมเบียนต์ที่เป็นรูปแบบที่ไม่มีจังหวะ จังหวะในบางครั้งใช้การวนไปมา ให้ความรู้สึกอยากนอน ในบางครั้งจังหวะจะมีความซับซ้อนกว่าโดยเพิ่มส่วนประกอบฉากหลัง แต่ก็ยังคงไม่ทำให้ตึงเครียดไม่มากไปกว่าดนตรีอีเลกโทรนิกอื่นอย่างแทรนซ์ ส่วนชื่อชิลล์เอาต์ ที่บอกถึงเพลงแนวนี้เป็นเพลงเจาะจงลงไปของแนวเพลงนี้ ดาวน์เทมโปมีความหมายครอบคลุมและหลากหลายกว่า
แนวเพลงอื่นที่เกี่ยวอย่างทริปฮอป ที่ดาวน์เทมโปรมักจะมีจังหวะที่ช้ากว่าทริปฮอป และเนื่องจากให้ผ่อนคลายและมีความรู้สึกถึงความโรแมนติก ในดนตรีดาวน์เทมโป ร่วมไปกับการใช้เสียงร้องและเนื้อเพลงที่น้อย ๆ อาจไม่ค่อยมี เพลงแนวนี้ได้รับความนิยมเป็นเพลงฉากหลังของห้อง "ชิลล์เอาต์" ของปาร์ตี้เพลงแดนซ์หรือร้านคาเฟ่แนวอัลเทอร์เนทีฟ
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้ : เครื่องดนตรีสังเคราะห์เสียง, เครื่องดนตรีอีเลกโทรนิก, คอมพิวเตอร์ส่วนตัว, แซมเพลอร์

Ambient music / ดนตรีแอมเบียนต์ : เป็นแนวเพลงที่เน้นเรื่องของเสียงมากกว่าตัวโน้ต เน้นบรรยากาศ สภาพสิ่งแวดล้อม ในธรรมชาติ
แอมเบียนต์เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นการนำสไตล์เพลงหลาย ๆ อย่างมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวแจ๊ซ, อิเล็กทรอนิกส์, นิวเอจ, ร็อค แอนด์ โรล, เพลงคลาสสิก, เร็กเก้, เวิลด์มิวสิก หรือแม้กระทั่งเสียงทั่ว ๆ ไป (Noise) ไบรอัน อีโน่ (สมาชิกวง Roxy Music และโปรดิวเซอร์ของ U2 กับ เดวิด โบวี่) ให้คำนิยามดนตรีแอมเบียนต์ โดยเขียนนิยามดนตรีในอัลบั้มของเขาอัลบั้มชื่อ Ambient 1: Music for Airports ในปี 1978
ดนตรีแอมเบียนต์ เป็นดนตรีที่ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ มันเหมือนเสียงบรรยากาศในสกอร์ประกอบหนังที่ไม่มีใครสังเกต เหมือนเสียงเพลงเบาๆ ในลิฟต์ที่ไม่มีใครใส่ใจ หรือเสียงซาวด์เอ็ฟเฟกต์ตามคลื่นวิทยุ ได้ซ่อนตัวเป็นเหมือนชั้นบรรยากาศ
เครื่องดนตรีที่ใช้สำหรับเพลงแนวนี้: เครื่องดนตรีอีเลกโทรนิก, เครื่องดนตรีอีเลกโทรอคูสติก, และเครื่องดนตรีอื่น หรือเสียงประกอบ รวมถึงเครื่องดนตรีโฟล์กท้องถิ่นที่ทำในรูปแบบดนตรีอีเลกโทรนิก

รายชื่อศิลปินในแต่ล่ะแนวเพลง : ดูได้ที่นี่ >> Lists of musicians <<

หอกศรี : อีโดกกกก ทำไมหร่อนถึงรู้ดีนักล่ะ ช่างกล้า ?? (ทำหน้าสงสัย เอียงคอดูดสตาร์บั๊ก)
หรี่ลดา : นั่นสิ ..เอ ว่าแต่ชั้นเคยเจอหร่อนที่ไหนรึเปล่ายะ ชั้นเห็นหร่อนแล้วชั้นรู้สึกคุ้นๆๆ เหมือนเคยเห็นเคยฟังเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
ช่างกล้า : อะไรยะ จะมาจับผืดอะไรช้านนน ฉันเป็นตัวแม่นะ แม่ทุกสถาบัน ฉันมันออริจินอลลล หร่อนอย่ามา ...ชั้นน่ะ Born This Way
หอกศรี VS หรี่ลดา : หราาาาาา (ประสานเสียง)
.
.
.
แม่หมี : อีห่าพวกนี้ สนใจกูบ้างสิอีเหี้_ (หวีดลากยาววว ระดับ #G7 พร้อมจูงน้องหมา 5 ตัว)

รวบรวมข้อมูลและเนื้อหาจาก : Wikipedia
แก้ไขล่าสุดโดย ~ ทุ่งหญ้า วันฟ้าใส ~ เมื่อ Sun Sep 25, 2011 7:18 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
_________________
