เดี๊ยนละสะใจจริง ออกมาปะทะกันเลยสิค่ะ แบบนี้ละ ชอบตรงที่ชีไม่สะทกเลย เดินหน้าวิพากวิจารณ์ต่อไป และดูฝ่ายอนุรักนิยแห่กันออกมาร้องเรียนกันใหญ่เลย 555 มีึการสวดหมดหลังจบการร้องเรียนด้วย ดูสิค่ะสังคมเรา ห้ามวิพากวิจารณ์เลย แม้แต่ศาสนาก็ห้าม ฉันว่าไม่สมสวรนะค่ะ พระพุทธเจ้าเคยบอกว่าเราอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สามารถตั้งคำถามได้ ถ้าไม่สามารถตั้งคำถามได้ ก็ไม่เท่ากับต้องหลับหูหลับตาเชื่อหรอค่ะ ประเทศฝรั่งเศษเองนี้ยกเลิกพิธีเกี่ยวกับศาสนาไปหมดเเล้ว เพราะความเชื่อของประชาชนหลากหลายมาก เพื่อลดความเหลือมล้ำทางสังคม เขาเลยยกเลิกไปเลย ประชาชนส่วนใหญ่เลยไปพึ่งพิงศิลปะ กล้าวิพากวิจารณ์ทุกสิ่ง เพราะเขามีเสรีภาพที่จะได้ โดยที่ไม่ได้ไปละเมิดใคร เท่าที่เดี๊ยนดูรายการชีก็ไม่ได้ใส่ร้ายใครอ้าค่ะ แค่พูดให้คิด ทำไมหรอ กลัวเยาวชนจะฉลาดคิดได้หรอค่ะ ถ้าพิธีกรรมนั้นดีจริงจะกลัวอะไรกรั่กๆ หรือกลัวว่าจะไม่มีใครเอาด้วยในอนาคต


_________________

(เม้นตามหัวข้อนะ)ทั้งคู่ก็อยู่ในหลักประชาธิปไตย มีสิทธิวิจารณ์และปกป้องตัวเอง

(ตามความเห็นตัวเอง) ก็วิจารณ์ไปสิตราบใดที่อยู่บนเหตุผล ศาสนาก็เหมือนกฏที่ทำให้สูงขึ้นจนแตะต้องไม่ได้กลายเป็นของสูง ซึ่งความจริงก็เป็นแค่ข้อบังคับของสังคมสมัยนั้นที่ถูกผูกโยงกับความเชื่อเหนือธรรมชาติซึ่งทำให้คนกลัวจนไม่กล้าหือ หรือตั้งคำถาม ยิ่งเวลาล่วงเลยความขลังของศาสนาก็ยิ่งทวีคูณ(ไม่ได้บอกว่ากฏหรือตำสอนต่างๆไม่ดีนะ แค่อธิบายแบบพื้นฐานเฉยๆ ตามความคิดของตัวเองซึ่งอาจจะผิดก็ได้)

อีกแง่นึงสำหรับผู้ที่ปฎิบัติจริงๆ ก็จะเชื่อและผูกพันธ์กับศาสนานั้นๆ มาก เพราะคำสอนทำให้คนนั้นๆ สงบ(ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าศาสนาเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล บังคับกันไม่ได้)

ดีนะนี่มันสมัยใหม่ ถ้าอีเจ้แขกเกิดเร็วกว่านี้สักร้อยปี นางคงโดนเผาตายไปแล้วล่ะ ขนาดสมัยนี้ยังโดยด่าเสียๆ หายๆ อย่างคำว่า "อีปากอัปรีย์" จากคนที่มีศาสนาเลย

เพลีย// เปลือยร่างกายบูชาซุส และระบำขอความงามจากอะโฟรไดต์


_________________

พูดมากก็กลัวจะกลายเป็นมารศาสนาไปอีกคน


_________________

ลงเว็บดราม่าแล้ว และฉันก็โดนเหมารวมไปว่า "เป็นผัวอีคำผกา" เพราะฉันคิดเหมือนมัน

http://networkedblogs.com/vaaBZ


_________________

งงแมะทำไม่พระเดือดร้อนเรื่องนี้จัง เเล้วทำไมไม่ไปจัดการเรื่องพระตุ๊ดเณรตุ๊ด ด้วยละค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าศาสนา ผ่านมา 2000 กว่าปีเอง ไม่ใช้ทุกสิ่งแน่นอน เพราะมนุษย์เกิดมากี่ล้านปีเเล้วค่ะ อาจจะมี คำสอนที่ล้ำและเก๋กว่านี้ก็ได้ไม่มีใครู้ ศาสนาเองก็ถูกสร้างพิธีกรรมต่างๆมาจากมนุษย์ แล้วทำไมจะตั้งคำถาม หรือล้มเลิกไม่ได้

ธรรม คือธรรมชาติ ดิฉันคิดว่าเป็นปรัชญา ขอแยกออกจากตัวศาสนา และคิดว่าอาจจะมี ปรัชญาอื่นๆ ที่ดีหรือเทียบเคียงศาสนาพุทธก็เป็นได้ ไม่ใช้เชื่อตามไปทุกอย่าง

เดี๊ยนว่าอะไรที่ศักสิทธ์เกินไปน่ากลัวนะค่ะ เราสามารถล่าแม่มดหรือคนคิดต่างได้เลย เดี๊ยนไม่อยากให้ศาสนาศักสิทธ์ แต่อยากเห็นเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญาอ้าค่ะ สามารถนำมาใช้ในชีวิตไม่ต้องไปเชิดชูอะไรมาก ประเทศไทยเริ่มเข้าใกล้โมเดิ้นโพสขึ้นทุกที่แล้ว อยู่ที่ใครจะปรับตัว แสวงหาการใช้ชีวิต อัตลักษณ์ของตนเอง ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองมีความเป็นปัจเจก ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ต้องให้คนอื่นมาบงการความคิด สามารถตั้งคำถามกับทุกสิ่งได้


_________________

ชาวพุทธก็ควรจะมีวิจารณญาณนะ ไม่ใช่สักแต่จะไหว้ๆๆพระอย่างเดียว


_________________

Keep Rocking! FOB!

กูล่ะเซ็งค่ะ


_________________

อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


พระดิ้นๆ

55555555555555555555555555555555

มีสิทธิไปฟ้องเค้าน่ะ เป็นเจ้าของศาสนาเหรอ?
เขียนพระไตรปิฎกเองรึไง? เคยได้ยินคำว่าสังคายนาพระไตรปิฎกไม๊?

วันๆแดกแต่เงินรัฐเงินคนในสังคม ที่นั่งศึกษาพระธรรมอยู่ทุกวันทำได้แค่นี้?


อีกอย่าง ไอ้พวกประเภทที่ชอบว่าคนอื่นน่ะไม่ศึกษาพระธรรมให้ถ่องแท้แล้วค่อยมาวิจารณ์
อธิบายหน่อย ว่ามันยังไง
หลักธรรมในศาสนาพุทธที่มันเคลียร์จริงๆมีแค่กาลามสูตรแค่นั้นแหละ

นอกนั้นมีแต่มั่วซั่วเนื้อหาขัดแย้งกันเองตีกันไปตีกันมาเละเทะ เรียกได้ว่าอ่านทำความเข้าใจบทนึง เออกูผ่องแผ้ว อ่านไปอีกบทนึง อ่าว กุบาป? มั่วแดกชิบหาย เต็มไปด้วยอคติและไร้ซึ่งการขัดเกลาในเชิงตัวบทหลักอย่างสิ้นเชิง เติมมันไปเรื่อย


เพลียเหลือเกิน
ปล.เคยอ่านวิทยานิพนธ์ของ มจร. รู้สึกว่าพระที่นั่น(บางคน)น่าสนใจและมีแก่นสารกว่าพระกากๆพวกนี้ตั้งเยอะ และผลงานพวกนั้นควรได้รับการเผยแพร่ในสังคมมากกว่าพระธรรมงมงายในสังคมนี้ซัก 48.75 ล้านเท่า


_________________
.

แม่ชีบอกให้แก้กรรมไง