
ที่จริงก็มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะเขียนรีวิวตัวล่าสุดด้วยซ้ำ แต่ด้วยความขี้เกียจก็ทำให้ผัดวันประกันพรุ่งจนมาถึงตอนนี้ ไอ้กระแสหนังเรื่องนี้ ถูกโหมกระแสอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่แล้วแล้ว คงเป็นเพราะหนังสือคงจะสนุกมาก แฟนๆ เลยซับพอร์ตเต็มที่ อย่างไรก็ตามเราจะมารีวิวตัวหนังกัน ไม่มีใครปฎิเสธได้ว่าหนังเรื่องนี้เสียดสี (ใช้คำว่าสะท้อนจะเหมาะกว่า) สังคมโลกในปัจจุบันได้ดี ความเลื่อมล้ำที่น่ากลัวมีอยู่ทุกหนแห่ง (พยายามจะไม่หาประเด็นการเมืองนะจ๊ะ) และผู้เขียนก็สามารถนำความเป็นจริงเหล่านั้นมาปรุงรส แล้วหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้อย่างชาญฉลาด นับถือๆ


งานภาพของหนังนั้นอยู่ในระดับปานกลางนะ มุมกล้องหรือสีอะไรเทือกนี้ไม่ได้รู้สึกว่าโดดเด่นอะไรมากมาย บางช่วงจะมีการขยับกล้องไปมาชวนเวียนหัวเอาง่ายๆ โลเกชั่นทำได้ดีมากเลยนะ แสดงให้เห็นความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ระหว่างเมืองหลวงกับเขตธรรมดา สะท้อนให้เห็นที่ที่มีอำนาจ กับที่ที่ถูกขโมยอำนาจ ยิ่งชัดเจนเมื่อเรื่องชนชั้น(ขอใช้คำนี้เลยละกัน)ถูกนำเสนอผ่านเสื้อผ้า คนในเมืองจะแต่งตัวเหมือนกับว่า ฉันมีทรัพยากรเยอะ จนไม่รู้ว่าจะทำอะไร เลยเอามาแต่งตัวให้สวยเด้ง แต่พอพูดถึงเขตทั้งสิบสอง อย่าว่าแต่เสื้อผ้าเลย อาหารดีดีก็แทบจะหากินไม่ได้


การดำเนินเรื่องของหนังนั้นค่อนข้างจะไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวาอะไรมากมาย ฉากต่อสู้น่ะมีเยอะ แต่เห็นจะจะน่ะน้อย เพราะฉะนั้นใครที่หวังจะไปดูการต่อสู้อลังๆ ก็เตรียมผิดหวังไว้ได้เลย แต่ถึงจะดำเนินเรื่องช้าๆ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรมากมาย การแสดงของหลายๆ คนถือว่าดีเลย แต่บางคนก็เหมือนมาเป็นตัวประกอบเฉยๆ (งานนี้มีเซอร์ไพรส์ ได้เจออีเด็กนรกจากเรื่อง The orphan ด้วย มาเรื่องนี้ก็ยังนรกเหมือนเดิม เล่นดีด้วย) ซึ่งก็ไม่มีผลอะไรกับหนังหรอก แต่คิดดูดิ ถ้าเอาพวกดาราวัยรุ่นพอมีชื่อ มาเล่นในบทเครื่องบรรณาการทุกตัว (จะตายเร็วตายช้าไม่เกี่ยว) คงมีสีสันน่าดู


มีสิ่งหนึ่งที่คนต้องพูดถึงกันเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ คือOST เพราะทุกเพลงอ่ะ โดยเฉพาะ Safe and Sound ปกติก็เฉยๆ กับหนูหน้าแมว แต่พอฟังเพลงนี้แล้วแบบ อย่างจะร้องไห้เลย (เซ็นน่าทีบ) แถมเรื่องบทอีกหน่อย ชอบตรงที่ว่า การกระทำทุกอย่างในโชว์จะสามารถทำให้คนชอบหรือไม่ชอบได้ ถ้าคนชอบเยอะจะมีสปอนเซอร์มาช่วย ซึ่งเราต้องมาถามว่า ที่พระเอกนางเอกมันจูบกัน ทำว่ารักกัน คือมันรักกันจริงๆ หรือแค่ทำเพื่อเรียกเรตติ้ง ก็ยังบอกไม่ได้ เพราะไม่ได้อ่านหนังสือ (แต่ดูเหมือนแรกๆ จะแกล้งๆ แต่ท้ายๆ อาจจะชอบกันก็ได้) สงสารเลียมเลยอ่ะ แพ้ทางพ่อเตี้ยมหาเสน่ห์


ถีงจะเตี้ยแต่ก็เร้าใจ
โดยรวมๆ แล้วหนังทำได้ดีทีเดียว แต่อาจจะติดที่ว่าตัวหนังตั้งใจจะนำเสนอสาระของหนังมากไปหน่อย เลยทำให้งานต่างๆ ยังหยาบอยู่บ้าง โดยเฉพาะงานภาพ หรือมุมกล้องต่างๆ ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าลงรายละเอียดอีกสักนิดเกี่ยวกับงานภาพ และบทเล็กๆ น้อยๆ ก็คงจะเพอเฟ็คได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดหรอก สำหรับคอการเมืองอย่างฉันมันโดนใจเต็มๆ ที่หนังที่มีเนื้อเรื่องเสนอด้านมืด ด้านที่ผู้คนหมู่มากยังโดนเอาเปรียบจากคนกลุ่มอีกกลุ่ม อย่างไร้ความเป็นธรรมนั้นได้เข้าไปผ่านสายตาคนรุ่นใหม่ (ปกติหนังแนวนี้จะบูมในหมู่ผู้ใหญ่ และเฉพาะกลุ่มด้วยซ้ำ งานนี้ฉันคงต้องขอบคุณนักเขียนเลยล่ะ) ส่วนใครจะจับประเด็นได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง สำหรับฉัน คิดถือว่าไม่ผิดหวังที่ได้ดูเลยล่ะ

Recently Review:

แนะนำให้ดู : A Perfect Getaway อีดอก...หลอกกูมาเชือด (2009)
_________________
