มาดามจ๊อกกาโล่ พิมพ์ว่า:
Britney - Circus 3 / 5
สูงสุดคืนสู่สามัญ
ฉีดบัตรก่อนเข้าชมละครสัตว์
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ วงการเพลงพ็อพบัมเบิ้ลกัมอุตสาหกรรมดนตรีโลกที่มีดิว่าและวงบอยแบนด์เกริ์ลกรุ๊ปกับหลายนักร้องสารพัดสารพาลล้านชีวิตเวียนว่ายตายเกิดกันไปหลายช่วงโชติอายุคน ในที่นี้เราจะไม่ไปพูดถึงก่อนยุคมิเลเนี่ยมหรือก่อนปี 2000เราจะขอยกข้ามมาตรงช่วงปลายยุค 90 มาจนถึงยุคโลกโลกาพินาศ ยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดน ผู้คนหวาดกลัวการก่อการร้าย ความเห็นแก่ตัวกลายมาเป็นปัจจัยหลักในการเอาชีวิตรอดและเรื่องประชาธิปไตยกับสังคมรอบตัวเหมือนเป็นแค่เครื่องมือที่รัฐใช้บงการควบคุมอำนาจในการตัดสินใจใช้ชีวิตของประชาชน เมื่อโลกมันเข้าสู่จุดเยือกเเข็งใกล้เคียงกับคำทำนายของมอสตราดามุสเข้าไปทุกข้อทุกข้อ หลายๆชีวิตก็เลยต้องหาที่พึ่งพึงทั้งทางกายและทางใจ แต่ถ้าหากคุณเป็นแค่สสารเล็กๆที่รอคอยการค้นพบของใครซักคนบนโลกแน่นอน คุณต้องรู้สึกเหมือนโลกนี้มันมืดมนอนธการเหลือเกิน และแน่นอน ดนตรีคือหนึ่งในหนทางการเยียวยาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในโลก (ยืนยันหลัการนี้จาก Dermark Hemiton นักวิทยาศาสตร์องค์กร Unoff U.S. 2001)
หลายปีก่อนที่โลกจะเบลอมึนทึบเป็นนครสีดำอย่างทุกวันนี้ วงการเพลงมีทั้ง The Beatle , Elvis , Michael Jackson / Red Zappellin , Madonna , James Brown , Aretha Franklinไปจนถึงตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ Stevie Wonder ทุกคนล้วนเล่าเรื่องราวน่ารันทดโหดร้ายของชีวิตและบนผืนแผ่นดินเดียวกันนี้ผ่านดนตรีที่ตัวเองรัก ผ่านยุคสมัยกาวข้ามอุปสรรคเรื่องภาษาและความแตกต่างต่างๆจนกลายเป็นสถิติตำนานเล่าผ่านกันมาเป็นประวัติศาตร์ แต่ก็ยังมีนักร้องอีกหลายคนที่ไม่ได้พูดถึงในที่นี้ที่สร้างสรรค์งานดีๆที่เป็นมรดกทางดนตรีอีกมากมาย ถึงบางคนอาจจะถูกมองเป็นแค่ สวะสังคมที่หากินกับเรื่องสกปรก ก็ตามแต่มีใครบ้างที่ไม่เคยเกลือกกลั้วอยุ๋กับความชั่วสิ่งโสมม ถ้ามีคนแบบนั้นจริงๆหรือใครที่กล้าพูดแบบนั้น ฟันธงได้เลยว่าคุณโกหกแล้วล่ะ เพราะชีวิตนี้มันมีแต่เรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาทั้งนั้น สิ่งดีๆในชีวิตมันจะมีค่าก็ต่อเมื่อคุณได้ลิ้มรสชาติของความล้มเหลวแล้วต่างหาก
หนึ่งเอนเตอร์แทนเนอร์อีกคนที่น่าจะตระหนักได้ถึงทฤษฎีนั้นได้อย่างถึงแก่นในวงการเพลงพ็อพสากลก็น่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งบัลลงค์เพลงพ็อพนี่แหล่ะ จะเป็นใครที่ไหนได้อีกเล่าถ้าหากไม่ใช่ นังหน้าด้าน บริทนี่ย์ กับอัลบั้มล่าสุดของมรสุมลูกใหญ่ของชีวิต Blackout ย้อนกลับมาก่อนหน้าที่เธอจะเพิ่งรู้สึกว่าอะไรๆมันช่างเลวร้ายและโลกไม่ได้เป็นสีชมพูอย่างที่คิดไว้ นักร้องรุ่นเดียวกับเธอที่ถือเป็นคู่แข่งที่สูสีและถูกยกมาเปรียบเทียบตลอดเวลาอย่าง Christina Aguilera ก็ชิงตัดหน้าท้าชนความอัปปรีย์อัปยศอดสูทุกลู่ทางบนโลกนี้ไว้แล้วในอัลบั้ม Stripped เธอครวญครางกรีดร้องให้โลกได้รู้ถึงชีวิตที่บัดซบของเธอผ่านดนตรีที่มืดมนไม่แพ้ชื่ออัลบั้มใหม่ของบริทนี่ย์ ซึ่งอัลบั้มนั้นก็พิสูจน์ให้หลายๆคนเห็นกันเป็นประจักษ์พยานไปแล้วว่า คริสติน่าเป็นของจริงในวงการไปแล้ว แต่ไม่ใช่แค่คริสติน่าเท่านั้น กระทั่งอัลบั้มใหม่ของ Mandy Moore : Wild Hope ก็ยังถูกนักวิจารณ์ชื่นชมกันเกินหน้าเกินตา ซึ่งเท่าที่ได้ฟังไปแล้วก็ขอออกตัวเลยว่า ไม่คิดไม่ฝันเลยที่จะได้ยินเพลงดีๆเนื้อหาหนักๆแบบนี้จากนักร้องเพลงงี่เง่าเรียกหาผู้ชายให้เดินกลับบ้านด้วยจากเธอ หรืออย่างอเมริกัน ไอดอลปีแรก Kelly Clarkson : My December ที่หลายคนไม่เข้าใจว่าเธอต้องการจะสื่ออะไรผ่านเพลงดิบๆฟังเกรี้ยวกราดและป่วยๆแบบนี้ แต่หลายๆคนที่ช่ำชองและเข้าใจก็ชี้ให้เห็นว่าเธอกล้าแล้วที่จะเข้าสู่ด้านมืดของชีวิตและเล่าผ่านบทเพลงกับดนตรีที่ดิบห่าม โอดครวญไปกับสิ่งรอบกายที่วุ่นวายและความรู้สึกไร้ตัวตนเข้าครอบงำ จนกลับมาตั้งคำถามอีกครั้งกับ ศรัทธา และ ความเชื่อ ต่อศาสนาและสามัญสำนึกของมนุษย์ ใช่แล้วถึงหนูหอกหร่อนจะตามคนอื่นช้าไปซักนิดและเธออาจจะโตอย่างเรื่อยเปื่อยเอื่อยเอ่อยฉื่อยแฉะค่อยเป็นค่อยไปมากไปซักหน่อย แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มาจริงไหม ?
เลือกหาที่นั่งให้เหมาะ ตาดู หูฟัง และเปิดใจให้กว้าง
อัลบั้มBlackoutชุดที่แล้ว ของหนูหอก ต้นสังกัดและบรรดาโพรดิวซ์เซอร์รวมไปถึงฝ่ายการผลิตและทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอัลบั้มชุดนี้ต้องทำการบ้านกันหนักหนาสาหัสเป็นเท่าตัว เพราะหนึ่งหนูหอกเธอหายไปจากวงการเพลงนานพอสมควร นานพอที่จะทำให้หลายๆคนจดจำเธอในฐานะศิลปินแทบไม่ได้ บวกกับตลาดเพลงพ็อพที่โดนดนตรีฮิพฮอพครอบคลุมพื้นที่เกือบเกินครึ่ง ทั้งชั่วโมงบินของบรรดาดิว่าที่ถดถอยต่ำเข้าสู่กลียุคทำให้โจทย์เพลงของอัลบั้มชุดนี้ค่อนข้างต้องชัดเจนและเด่นขับเอาตัวตนในด้านที่โตขึ้นแจนจัดและจริงจังของบิรทนื่ย์ออกมาให้จับต้องได้ ง่ายต่อการเข้าถึงตลาดบนตลาดล่างตลาดหุ้นตลาดสด และเเน่นอนมันต้องเป็นของดีพอสมควรไม่ให้ถูกคำครหานักวิจารณ์ด่ากราดไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
หวยตกลงไปอยู่ที่ Danja มือขวาของตา Timbaland ที่ป๋าทิมปลุกปั้นมากับมือดำๆใหญ่ๆตลอดเกือบ10กว่าปีในวงการ ซึ่งหัวหอกเรือใหญ่ของอัลบั้มก็คุมโดยเดนจาเป็นส่วนมากจะมีโฏพรดิวซ์เซอร์ คนอื่นๆมาช่วยในแทร็คนู่นแทร็คนี้แก้เลี่ยนโชว์ของเพิ่มความน่าสนใจในอัลบั้มอยู่นิดหน่อยทั้ง Freecsha , Blooshy & Avant , Keri Hitson (นี่ก็อีกหนึ่งลูกสมุนของทิมบาแลนด์อีคนที่ร้องคอรัส Way I Areนั่นแหล่ะ) รวมไปถึงเพื่อนเก่าแก่เก๋าเกมส์แต่เริ่มจะมือตกอย่าง The Neptunes ที่มาทั้ง Chad Hugo กับ Pharelle Williams ที่มาช่วยมิกซ์กับปรับแต่งภาพรวมๆในอัลบั้มก่อนอัดลงแผ่นซะเป็นส่วนใหญ่มีโผล่มาโพรดิวซ์เต็มๆเพลงเพลงเดียวเท่านั้นก็เพลงช้าปิดอัลบั้มนั้นแหล่ะ
แนวดนตรีอัลบั้มนั้นยังยืนอยู่บนเมนสตรีมพ็อพหลากหลาย ที่มีกลิ่นอายของทั้งแบล็คมิวสิคและแดนซ์ฮอลล์ มีทั้ง อาร์แอนด์บี ฮิพฮอพกลายๆที่เน้นบรรยากาศและการเรียบเรียงแบบหม่นหมองเนิบนาบด้านกระด้างและหยาบๆเดินบีทกระชับรัดกุมเรื่อยๆสลับกับพวกเสียงสังเคราะห์ทั้งหลายแหล่ บวกพวกเสียงอิเล็คโทรนิคและโพรแกรมมิ่งเป็นรายละเอียดครอบทับ เพิ่มลูกเล่นพวกซินธ์ เพอร์เคสชั่น และเครื่องสายกับเสียงประสานคอรัสแบบกอสเพลย่อมๆ(ที่ใช้ในหลายๆเพลง)เอามามิกซ์เนียนๆกลืนเข้ากับดนตรี ไม่กระโชกโฮกฮากหรือฟังดูแล้วฮึกเหิมเหมือนพวกเพลงวอร์ชิพหรือเพลงโซลโมทาวน์อะไรเเนวๆนั้น ส่วนโดยรวมๆแล้วงานในอัลบั้มชุดนี้ไม่ถึงกับขาดปัจเจกในตัวตนของหนูหอกแต่อย่างใดแต่ต้องยอมรับว่าอิทธิพลทางดนตรีของทิมบาแลดน์กับงานของทั้งอัลบั้มล่าสุดของจัสตินและเนลลี่ย์ ฟูร์ทาโด้กลืนทั้งอัลบั้มจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดีที่ทิศทางของทั้งเนื้อหาโทนธีมดนตรีและรายละเอียดปลีกย่อยยังชัดในความเป็นบริทนี่ย์อยู่บ้าง(อย่างพวกเพลงเนื้อหาเเรงๆที่จิกกัดตัวเองหรือเพลงละลายน้ำแข็ง)ก็เลยทำให้ยีนส์ด้อยตรงนี้พออนุโลมกันได้บ้าง
ม่านบนเวทีกำลังจะเปิดออก
หลายๆคนในตอนนั้นรวมถึงตัวเจ๊ยังไม่ค่อยกล้าฟันธงลงไปว่าอัลบั้ม Blackout จะเป็นมาสเตอร์พีชในการทำงานลอดชีวิตศิลปินของเธอ แต่หลังจากสตูดิโออันดับล่าสุด Circus ผ่านหูและแฟนๆบางส่วนตลอดจนนักวิจารณ์ทั่วโลก เจ๊ก็ต้องขอบอกและเห็นด้วยกับอีกหลายๆร้อยความคิดเห็นบนโลกนี้ว่าตอนนี้เมื่อไฟเจิดจ้าและแสงสปอตไลท์ทุกตัวสาดเทเข้ามาที่งานหลังมรสุมคลื่นนั้นของบริทนี่ย์ตอนนี้เธอก้าวถอยหลังกลับไปทำงานเพลงในแบบที่ทำให้ Blackout กลายเป็นอัลบั้มที่ทรงพลังสมบูรณ์และดีที่สุดในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของไปแล้ว ด้วยธีมอัลบั้มเนื้อหา เอกภาพปัจเจกและมิติดนตรีทั้งหมด ส่งผลให้อีกหนึ่งช่วงเวลาอันเลวร้ายขัดเกลางานดนตรีที่เธอรักออกมาเป็นผลงานยอดเยยี่มซึ่งยังยากจะเดาว่าต่อจาก Circus เธอจะหันไปหาแนวทางใหม่ๆได้รึไม่และจะทำได้ดีกว่าครั้งนี้หรือก่อนหน้ากับ Blackout รึเปล่า ยังคงเป้นอนาคตที่ยังต้องคอยจับตาดูกันต่อไปกับตำแหน่งราชินี้เพลงแดนซ์ตัวลูกที่ เสด็จแม่ทรงมอบมงกุฏส่งต่อไปให้อย่างโจษจันเป็นที่ทราบกันแล้วทั่วโลกหลังจูบสะท้านทรวงและการรับเชิญไปในทัวร์ล่าสุดของเสด็จแม่เอง
อัลบั้มลำดับที่ 6 ชุดล่าสุดของบิรทนี่ย์ เป็นการกลับไปทำงานกับโพรดิวซ์เซอร์มากหน้าหลายตา หลากหลายแนวทางและเน้นไปในทางกะขายมากกว่ากะกล่องหรือคำชม หัลงจากทำเอาแฟนๆดีใจไปในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดใน Blackout บริทนี่ย์เลือกเนถอยหลังกลับมาอย่างจงใจใน Circus กับแนวดนตรีเมนสตรีมพ็อพเต็มขั้น ที่เพียบพูนไปด้วย ไสตล์ที่ระเกะระกะกระจัดกระจายขาดเอกภาพและข้อความเมนคอร์สชัดเจนที่ต่องการจะบอกผ่านทุกเพลงในอัลบั้มทั้งหมด มันเหมือนกลับไปยุค In The Zone หรือ Britney ที่เธอต้องการแค่ว่า "เอาล่ะมาเต้น มาสนุกกันเถอะ แต่ชั้นก็มีเพลงบัลลาดเอาไว้แก้ขัดแก้เมื่อยเอาไว้คูลดาวน์นะ" อารมณ์และทิศทางของ Circus จึงออกมาเป็นอัลบั้มเพลงพ็อพชัดเจนที่เสริมทัพด้วยดนตรีเต้นรำตามถนัดมีทั้ง แทรนซ์ เทคโนอิเล็คโทรนิค ฟังก์ ฮิพฮอพ อาร์แอนด์บี ไปยัน บัลลาดหวานหยดย้อยและบัลลาดพ็อพเสียงสังเคราะห์เห่ยๆเชยลากจะเอาบัลลาดฮิพๆ ติดเทคโนสไตล์ฮิตตามชาร์ทก็มีหมด บทจะเป็นเฟรนช์เฮาส์ดรัมแอนด์เบสหรูหรา หรือเพลงแดนซ์ฮอล์ และร็อคอ่อนๆที่ต้องกระหึ่มและดังๆแน่ๆ แต่ออกจะเกร่อและเสร่อๆหน่อยๆก้มีหมด คืออัลบั้มนี้หลังจากลองผิดถูกและเเอบเจ็บตัวไปกับการโตขึ้นและคุณภาพงานของ Blackout เธอขอกว้านตลาดหมดทุกซอกมุม ทั้งตลาดสด ตลาดขายปลีก ตลาดขายส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ลาดเรือโรงเกลือยันตลาดหุ้น ตลาดของมือสองหรือตลาดเพชร ตลาดดูพระ หร่อนเหมาหมดทุกทาร์เก็ต อารมร์คืออยากจะเอาจิ๋มครอบโลกประมาณนั้น
แต่. . . . การที่เลือกที่จะทำเพลงพ็อพที่ต้องโดนและขายได้ Play Save ต่อตลาดแฟนคลับและเรียกศรัทธาของเธอไม่ใช่แค่ทำงานให้ดีแต่ต้องทำงานให้ดังตัวเลือกหนนี้เลยไม่ยากอย่างที่คิด ต้นสังกัดและเธอไม่ต้องทำการบ้านหนักเลย แค่เเฟ้นเอาคนดังคนเก่งและตลาดต้องการมายำขยำและลงแขกในอัลบั้ม ผลที่ได้ก็คือมีชื่อตั้งแต่โพรดิวซ์เซอร์หอคอยยันโพรดิวซ์เซอร์แบกะดินทำเพลงติดซ่อง รถเข็นขายผักสุดๆมีทั้งTeresa LaBarbera ที่ทำให้ทั้ง Rihanna ,Mary J และเจ๊แม่มาแล้วWhites and Larry Rudolph ที่มาแบบผิดคาดมาก แต่เป็นตัวเลือกที่ดีมาก, Bloodshy & Avantที่มาอีกรอบคงถูกใจอะไรกันนั่นแหล่ะ, Benny Blanco ที่ทำให้พวกเทคโนแดนซ์อย่าง The Tin Tins หรือ รีมิกซ์ให้ Janet มือขวาทิมบาแลนด์ Nate "Danja" Hills, Dr. Luke, Fernando Garibayที่ดอดไปทำเพลงให้ลีโอน่ามา ซึ่งไม่รุ้มากะเค้าได้ยังไง, Greg Kurstin, Guy Sigsworth, Jim Beanz, Claude Kelly, ตา Max Martin, Nicole Morierยันตัวพ่อวงการอิเล็คโทรThe Outsyders ที่แอบมาทำเพลงเปรี้ยวจี๊ด แต่แอบเสียของเมื่อแอบมาอยุ่ในอลบั้มแบบนี้ย์ตั้ง 2 เพลงHarvey Mason, Jr., Rob Knox 2 คนหลังเป็นที่รุ้จักดีในวงการเพลงเฮาส์และแดนซ์ที่ยุโรปและเมกา ซึ่งบบ้านเรารุ้จักเพราะทำงานให้เจ๊แม่ และน้าไคลี่ย์มาแล้วกับพวกรีมิกซ์และอัลบั้มเก่าๆชุดขึ้นหิ้งทั้งหลายรวมไปถึง Glen Ballad และ Vanessa Carlton ที่มาช่วยทำเพลงให้แต่ไม่ได้รับเครดิตในปกหลังและปกใน
เมื่อม่านเปิดออกแล้ว
อีกเรื่องในส่วนของ "พฤติกรรมในปัจจุบันของบริทนีย์" ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตามแต่ก็ต้องยอมรับนะคะว่ามีผลกระทบต่อฐานแฟนเพลงของเธอมากแน่ๆแม้ว่าฐานแฟนคลับเธอจะกว้างและแข็งกว่าศิลปินหญิงหลายๆนางก็ตามแต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งทีหมดศรัทธาและความสนใจในตัวเธอซึ่งบางคนถึงขั้นหันหลังให้ไม่เป็นแม้กระทั่งขาจรเลยทีเดียวก็มี (แล้วผู้ฟังคนอื่นๆที่ไม่ใช่แฟนเพลงเธอล่ะจะคิดอย่างไร) อย่างไรก็ตามนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลที่สุดสำหรับเธอเนื่องจากแฟนคลับที่ยังรักและพร้อมที่จะติดตามให้กำลังใจเธอทุกฝีก้าวไม่ว่าเธอจะเหลวเป๋วเละเทะขนาดไหนก็ตามก็ยังมีอยู่อีกเกินค่อนโลกยิ่งไปกว่านั้นอย่างที่รู้ๆกันอยู้ว่าชื่อ บริทนีย์ สเปียรสได้กลายเป็นแบรนด์และไอค่อนติดตลาดโลกไปแล้วไม่ว่าจะย่างก้าวไปไหนจะทำอะไรกมีแต่คนหันมาสนใจหยิบมาเป็นกระแสทั้งนั้นตั้งแต่สะก๊อยไทย ยัน วงการมวยปล้ำเลยนั่นแหละนับประสาอะไรกับเรื่องการออกอัลบั้ม ระดับนี้แล้วไม่มีทางหรอกที่จะไม่มีใครสนใจเลยสักคนจริงมั้ย มาถึงตรงนี้แล้วคงจะพอสรุปได้แน่นอนว่ายังมีผู้ฟังหลายท่านที่จะยังคอยหนุนหลังเธออยู่ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเธอมากกว่าว่าจะสามารถกลับมาสร้างแรงผลักดันตัวเองได้มากเท่าเดิมหรือไม่ สปิริตที่ยังฝังอยู่ในตัวจะสามารถเปลี่ยนออกมาเป็นความตั้งใจที่จะทุ่มเทและโปรโมตงานให้โลกเป็นปรากฏการณ์ที่พัดพาให้โลกทั้งใบหยุดชะงักกับเธอได้เช่นเดิมหรือเปล่า ความสำเร็จ
และนี่คือ 12 เพลงใหม่ในอัลับั้มล่าสุด Circus ของเธอ
Womanizer 3.5 /5 อัพบีทอิเล็คโทรนิคก้าติดดรัมแอนด์เบสตึกตักเดินจังหวะหนักแน่นไปด้วยสรรพเสียงสังเคราะห์และโพรแกรมมิ่งพูนเพลงเข้ากับดัฟพ์มันส์ๆและเสียงร้องสดๆไร้การเเต่งแต้มของเธอที่บีบดัดซะจนเหมือนผ่านโพรแกรมแฟลชเสียงให้เหมือนหุ่นยนต์ ถือเป็นความสามารถในแบบหาตัวจับได้ยากชนิดหนึ่งในล้าน ในแบบที่ข้าพเจ้าต้องคารวะให้กับเธอในจุดนี้ ทั้งเนื้อหาและดนตรีที่โดดเเละลงตัวเด่นเด้งแปลกแยกและออกแนวหาลูกพี่ลุกน้องแบบนี้ไม่เจอเลยในอัลบั้มนี้ของเธอ สมควรแล้วที่จะรีบตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกชิมลาง เพื่อเป็นการหลอกล่อถึงความเปลี่ยนแปลงและแนวทางในเพลงๆนี้ ซึ่งทำเอาแฟนคลับและขาจรที่ปลื้มเพลงนี้มากด้วยความที่ดนตรีมันเปรี้ยวลำซะจนอดทนฟังอัลับ้มเต็มไม่ไหว ซึ่งก็ต้องผิดหวังไปตามๆกันเมื่อได้ฟังทุกเพลงในล็อทใหม่ของเธอ
อย่าง
Circus 3 /5 สตรีทอาร์แอนด์บี ติดกลิ่นฮิพฮอพเออร์บันเจือจางผสมเข้ากับเสียงสังเคราะห์และบีทไสตล์เพลงแดนซ์ฮอลล์ร่วมสมันไสตล์นิยมในแบบเพลงของ เจเน็ทและมีอิทะพลบางส่วนจาก Hard Candy ของเจ๊แม่กับกลิ่นอายความเป็น The Neptunes ของฟาเรลมาเต็มๆทั้งคอรัสประสานดุดัน การเรียบเรียงและเบสกรุยกรายกับเสียงโพรแกรมมิ่งแน่นๆที่ประกรายอยู่เต็มในทุกส่วนของเพลง
Out From Under 1 / 5 บัลลาดพ็อพที่แต่งดนตรีด้วยคอมพิวเตอร์จนลดความสดใหม่ทั้งหมดอีกทั้งยิ่งฉุดเสียงร้องอันบางไร้กำลังของบริทนี่ย์ให้ยิ่งดูไร้ความน่าสนใจ ถ้าไม่ได้เนื้อหาที่แทบขาดใจมาช่วยแก้ตัวให้อารมณ์เพลงของเธอในเพลงนี้ ทั้งดนตรีที่พยายามจะทำให้ทันสมัยกลับกลายเป็นเชยระเบิดทั้งริฟกีตาร์ที่มิกซ์เข้ากับโพรแกรมมิ่งลวกๆ ดีที่มันเป็นเพลงที่เอามาทำใหม่ จึงด่าได้ไม่เต็มปากนัก ทางที่ดีคือเธอไม่สมควรเอาเพลงนี้ใส่เข้ามาในอัลับ้มด้วยเลยแท้ๆ แต่บิรทนี่ย์เป็นหนึ่งในนักร้องเพียงไม่กี่คนที่เอาเพลงใครมาร้องก็จะกลายเป็นเพลงของตัวเองไปเลย โดยเราจะเลิกสนใจและขวนขวายไปหาต้นฉบับมาฟัง นี่เป็นข้อดีและจุดเด่นที่หานักร้องทำได้ยากมากหนึ่งในนั้นก้คือ เสด็จแม่มาดอนน่า บ็อบ ดีแลน และนางมาลัยแครี่ย์ ยังไม่ทันจะง่วงเสร็จเธอปลุกคนฟังจากภวังค์ด้วย
Kill The Light 3.5/5อาร์แอนด์บีเทคโนติดกลิ่นนิวเวฟหน่อยๆอิเล็คโทรนิคหม่นๆนิดๆตามไสตล์ถนัดที่เธอชอบทำอยู่เป็นประจำผลที่ได้ก็คือเพลงเต้นรำที่มีท่อนฮุคแข็งแรง ไม่น่าเบื่อและฟังได้เรื่อยๆ เสียงสังเคราะห์แน่นๆโพรแกรมมิ่งที่จงใจใส่ให้เป็นรายละเอียดสำคัญส่งผลให้เสียงประสานแบบอะเเคพเพลล่าตอน ไบรจ์ส่งเข้า Last Hook คอรัสได้ยอดยเยยี่ม เน้นอารมณ์หม่นหมองแดกดันเนื้อหาเข้าไปกับภาคดนตรีได้เติมมิติเข้าขั้นผสมกันเกือบดีมาก น่าตัดเป็นซิงเก้ลที่สุด
Shattered Glass 4 /5 โกธิคอิเล็คโทรอาร์แอนด์บีดัฟฟเพลงถัดมาที่ภาคดนตรีไม่หนีกันเท่าไหร่ แต่แข็งแรงกว่าในเรื่องจังหวะและบีทที่หนักแน่นดุดันกร่างมีพลังมากกว่าเพลงก่อนหน้า เสียงสังเคราะห์ตอนคอรัสที่มิกซ์ฟุ้งขจรเข้ากับเพอร์เคสชั่นเข้าจังหวะกระชับ บวกกับนำเสียงของเธอที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างไร้ที่ติยอดเยีย่ม หนึ่งในเพลงที่เข้าท่าที่สุดในอลับ้มและเหมือนเป็นเพลงตอนต่อจากอัลบั้ม Blackout ยืดเส้นยืดส่ายส่ายตูดกันต่อกับ
If U Seek Amy 1/5 เพลงไร้สติสิ้นคิดที่หากเปิดกันตามพาร์ตี้ย์สนุกๆไม่คิดอะไรมากก็คงไม่มีใครเป็นอะไรและคิดอะไรกับมันมากนักแต่พอฟังต่อกับเพลงอื่นๆ ความไร้แก่นสานกับการเล่นคำที่เหมือนจะเก๋ จะกวนตีนกลับกลายเป็นความน่ารำคาญของเด็กไม่รุ้จักโตที่เที่ยวพ่นคำหยาบไม่รุ้จักจบสิ้น บีทวนไปวนมาของพ็อพติดร็อคบนเสียงโพรแกรมมิ่งดาดๆในสไตล์ Kety Perry ที่ลอกมาอย่างน่าเกลียด จะเพื่อกะขายกะดังอะไรก้แล้วแต่นี่เป้นเพลงที่ลดภาพความเป้นศิลปินของเธอลงไปชั้นล่างๆรวมกับพวก One hit wonder และพวกทำเพลงตามคนอื่น ยอมรับว่ามันต้องดกังแน่และคนคงชอบมาก แต่โลกนี้ไม่ต้องการ Lily allen หรือ Katy perry มากมาย และบริทนี่ย์ก้ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปทำแบบนั้นเพราะเธอมีศักยภาพมากกว่าจะไปนั่งทำเพลงเอาใจใครให้ดัง ระดับเธอตดยังมีคนสนใจเลย ทำไมต้องทำเพลงไร้รสนิยมแบบนี้มากมายเข้าอัลบั้ม ยอมรับเถอะว่าหากเพลงนี้ตัดโพรโมทมันต้องดังแน่ และอีก 10 ปีป่านมามันจะเป็นเพลงที่แฟนคลับด่ากันเยอะมากที่สุดเเละตัวเธอจะต้องเกลียดเพลงแบบนี้มากที่สุดตลอดกาลในความเอาอะไรกะมันไม่ได้เลย ตัวอย่างเพลงแบบนี้ก้เหมือนเพลง American Pie ของเจ๊แม่ คือดังไง คนชอบไง แต่มันห่วยและเสร่อมากกกก แต่ด้วยความประสาทและความเชยเสร่อของเพลงมันทำให้คนชอบกันจนมองไม่เห็นว่ามันเป้นเพลงที่ทำให้คนร้องดูน่าสมเพชขนาดไหน
Unusual You 5/5 เพลงช่วยชีวิตของหนูหอกฝีมือของผุ้ปลุกปั้น Toxic และ Piece of me - Bloodshy & Avant ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง กับเฟรนซ์เฮาส์ติดกลิ่นแทรนซ์อิเล็คโทรนิคก้าเนิบนาบมีระดับไสตล์เลาจ์มิวสิค เป็นการผสมผสานของดนตรีสดอย่าง เบส เทมโบลีน เพียโนและเสียงสังคราะห์โพรแกรมมิ่งหมดห้องมิกซ์ได้อย่างลงตัว ทุกสรรพเสียงในเพลงนี้ถูกจัดวางและมิกซ์กันอย่างนาลเนียนไม่มีอะไรโดเสร่ออกมาเหมือนเพลงก่อนหน้า เสียงอ่อนแรงไร้พลังของเธอไปกันได้ดีมากกับเนื้อหาเเละอารมณ์เพลง การเดินกลองหนักแน่นกระชับไปกับบีทแบบลอยหลอนติดหลิ่นแอมเบี๊ยนมาอีกหน่อยๆตลอดเพลงทั้งเพลง นี่คือเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้มอย่างไม่ต้องกดเพลย์ไปเพลงอื่นไหนต่อไปแล้ว
Blur 2.5/5 ลีดแบ็คอาร์แอนด์บีสคิพเทโพหม่นๆ ไสตล์ทิมบาแลนด์และจัสติน ที่ทำออกมาได้กลางๆเกือบดีติดที่บีทวนไปวนมาไปหน่อยและธรรมดามากๆเมื่อเทียบกับอีกหลายๆเพลงในอลับ้มที่มีอยู่3 แบบ ดี, เริ่ด และห่วยอุบาวท์ เพลงระดับกลางๆแบบนี้ก็เลยถูกจัดอยู่ในเพลงหมวดที่ถูกลืมของอัลบั้ม
Mmm Papi 3/5 บัลเบิลกัม พ็อพติดกลิ่นฟังก์กะจังเกิ้ลบีทด้วยเสียงเกากีต้าร์ไสตล์เซาธ์เทริ์นคันทรี่ย์แบบหนังคาวบอยเข้ากับบีทโจ๊ะและเสียงปรบมือเข้าจังหวะเเละเสียงร้องดัดจริตปนกึ่งพูดของเธอ ประกอบกับลีลาตอแหลบีบเสียงร้องกรีดและมิกซ์ของเพลงทำให้ลีลาและไลน์เพลงเพลงนี้น่าสนใจ ทำให้คิดถึงโชว์แสดงสดๆของเธอขึ้นมาโต้งๆ อารมณ์เพลงแบบนี้แหล่ะที่เหมาะและสนควรจะเอาไปแสดงสดและเพอร์ฟอร์มแรงๆกับทัวร์ของหล่นอมาก เสียที่มันออกจะโดดๆไปจากเพลงอื่นๆนิดนึงแต่ไม่มาก ก้แหม อัลับ้มชื่อ Circus นี่ย์ยะ มันก้ต้องเป็นอะไรที่วาไรตี้ย์หน่อยย่ะ นี่ก็เป้นอีกเพลงที่เจ๊เห็นว่าดีใช้ได้
Mannequin 4 /5 ไม่ว่าตอนนี้ใครจะเป้นคนทำและมันเคยเป็นเพลงของใครมาก่าอน นี่เป็นเพลงที่เข้าท่าและดีมากไม่ว่ามันจะโดนใครเอาไปร้อง บีทไซโคเดลิคพ็อพ ติดกลิ่นฮิพฮอพอาร์แอนด์บีเทคโนทันสมัยสุดเหวี่ยงและเสียงคอรัสและแซมเพิ่ลที่ใส่เข้ามาก็ลงตัวและส่งให้ตัวเพลงและบริทนี่ย์ดูมีระดับขึ้นมาเห็นๆ เวอร์ชั่นเดโม่ที่รัวกลองและกระหนำเพอร์เคสชั่นซะใจเต้นอารมณ์ไสตล์ รีมิกซ์ของเจเน็ท ถ้าเพลงนี้เอาไปมิกซ์ซะซ่องแตกแบบนั้น คลับบาร์ซ่องโรงแรมหาดาว คฤหาสน์ยันตลาดคลองถมหรือสยามพารากอน จตุจักร สีลม หลังสวน อาร์ซีเอ หรือทองหล่อ สุขุมวิทเยาวราชได้รากแตกกระเทยฮือก็คราวนี้ย์แหล่ะค่ะ
Lace & Leather 3.5/5 ฟังก์อาร์แอนด์บีเนบินาบไสตล์ เจเน็ทและ Prince ริฟกี้ตาร์และเบสในแบบร็อคฟังก์แบบที่ Prince ชอบเอาไปใช้ขำๆในเพลงของป้าเอง ถูกบริทนี่ย์เอามาเล่นอย่างสนุกในเพลง คอรัสและทำนองกับดนตรีถูกเรียบเรียงและใส่รายละเอีดยลงมาได้ลงตัวไม่มากไป น้อยไป เป็นเพลงที่ถ้าเพิ่มลุกเล่นและใส่"ของ"ลงไปมากกว่านี้ย์หน่อยจะเป็นเพลงที่ดีมากกกกกกอีกเพลงของเธอ ติดตรงที่โพรดิวซ์เซอร์คงกลัวเพลงรกจนเกร่อ หรือเห็นว่ามนัเป้นแค่เพลงท้ายๆอัลบั้มก้ไม่รุ้ แต่มันก้น่าจะเป้นเพลงที่ถูกใจคนฟังเพลงเป็นมากกว่าเพลงพ็อพนะ ด้วยไบรจ์และฮุคและดนตรีปิดอัลบั้มด้วย
My Baby 3/5 เพียวบัลลาดเพียโนกีตาร์โพรแกรมิ่งหวานๆและเนื้อหาส่วนๆตัวๆที่นำเสียงและเนื้อเสียงของเธอถูกยกระดับให้ถ่ายทอดออกมาในระดับที่ดีมากในขอบเขตการใช้เสียงแค่นี้เธอถ่ายทอดแลเลือกตีความเพลงออกมาเหมือนความตื้นตันที่มีต่อความรักไร้ขีดจำกัดและเงื่อนไขต่อลูกๆของเธอ ผลที่ได้คือมันกลายเป็นลัลาดที่มากกว่าแค่ไพเราะแต่เป้นบัลลาดที่ลึกซึ้งและน่าจะมีความหมายต่อตัวเธอและแฟนคลับมาก เพราะบางท่อนมันก้มีความหมายกว้างๆเหมือนกำลังจจะบอกอะไรแฟนๆ ขอบคุณและขอบใจที่อยุ่เคียงข้างเธอมาตลอดช่วงเลวร้ายๆ ที่ผ่านมาก้ได้
ปิดม่านรอ Encore
Radar นี่ไม่ขอพูดถึงด้วยความที่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรและจะใส่หรือไม่ใส่เข้ามาก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มให้เนื้องานในอลบั้มน่าสนใจขึ้นแต่อย่างใด แต่เพลงอย่าง
Rock Me In 0/5และ Roc Boy 1/5ต่างหากที่เป็นเพลงที่ช่วย แต่ช่วยกันฉุดและกระทืบภาพรวมของอัลบั้มให้ยิ่งดูราคาถูกและไร้สาระ ไปด้วยเนื้อหาแย่ๆไม่มีอะไรที่ดีกว่าจะมาเเต่งเป็นเพลงแล้วเรอะ กับดนตรีรั่วๆมั่วๆเหมือนกระเทยทำกันเล่นๆด้วยโพรแกรมไดรฟ์ซาวด์หรืออะไรก็แล้วแต่ มันเป็นหายนะของอัลับ้มเลยด้วยซำ ยังดีที่โบนัสแทร็คที่กู้ชีวิตทั้ง 3 คาราวานอย่าง
Quicksand 3/5ที่เป็นบัลลาดพ็อพกีต้าร์โปร่งหวานๆเข้ากับกลองและบีทไสลด์ในแบบที่เสียงสังเคราะห์ก็เข้ามาช่วยเพิ่มคงามไพเราะให้กับตัวเพลงในแบบพอดีๆ ซึ่ง Out Form under ก้ใช้สูตรเดียวกันแต่เสือกออกมาเละเทะและไม่ดีเท่า พอทำใจได้กับความทุเรศของเพลงสองเลพงก่อนหน้า ก่อนจะมาร้องกรี๊ดกับ
Trouble 3.5/5 เทคโนแดนซ์บีทหนึบๆแบบดรัมแอนด์บเบสเดินไลน์ลูพไสตล์ลำๆเหมือนในอัลบั้ม Confession ของเจ๊แม่ (ที่อินโทรเพลงนี้ดันเสือกไปคล้ายกับ Get Together ด้วยนะนั่น)ที่ถึงแม้จะทำออกมาได้ไม่เริ่ดเท่า แต่ก้ถือเป็นแนวทอดลองที่น่สนใจและลงตัวไปกับเนื้อเสียงและเเนวทางต่อๆไปซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกับเธอในอนาคต และที่ถือเป็นเซอร์ไพรส์และดีมากๆอีกเพลงคือ
Pornography 3.5/5 แทรนซ์บีทเนิบนาบฉุยฉายกรุยกรายไปด้วยเสียงสังเคราะห์ไสตล์รัฟเฟิล บีทมิกซ์โพรแกรมมิ่งลอยๆเข้ากับเสียงร้องของบริทนี่ย์ให้ดูยั่วๆ ซึ่งเธอก้ทำหน้าท่ตัวเองด้วยลีลาการร้องยั่วยวนในแบบไม่เป็นรองใคร เป็นอีกเพลงที่หยามกันไม่ได้ และทำให้เจ๊แก้คะแนนอัลบั้มจาก 2.5 เป็น 3 พอดิบพอดี
Amnesia 3 / 5 พ็อพร็อคโจ๊ะๆใส่เสียงสังเคราะห์และโพรแกรมมิ่งไสตล์นิยมที่เหมือนโคลนนิ่งเพลงของอีพริ้งและKaty Perry อีกเพลงแต่เพลงนี้ภาษีดีกว่ามาก ด้วยการลดหลั่นของบีทด้วยการใส่บีทไสตล์เพลงเต้นรำเข้าไปและเนื้อหากับการเรียบเรียงแบบพ็อพบัมเบิ้ลกัมไสตล์ของตายถนัดเชื่อขนมกินได้เลยว่า มันต้องออกมาเป็นเพลงที่เหมือนจะทำเอาใจตลาดท้าชน Gerne ของต้นฉบับแต่ก็เอามาทำประยุกต์ได้ลงตัวเหมาะและบอกความเป็นบริทนี่ย์ได้ดีที่สุดตามอัตตาภาพแล้วล่ะนะ
ปิดม่านแล้ว เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพน่ะค่ะ
ด้วยตัวเพลงกับภาพรวมของทั้งอัลบั้มแล้วมันแน่นและมีศักยภาพมากพอ(แต่แน่นอนมันไม่ดีมากพอและเทียบเท่ากับ Blackout อย่างเด็ดขาด)ที่จะดึงให้เธอกลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ไม่ยากอยู่แล้วอีกทั้งเนื้อหาก็โดนตลาดและแรงพอที่จะถูกใจในหลายๆกลุ่มคนฟัง โดยเฉพาะทิศทางดนตรีที่น่าจะจับตลาดอยู่ ทำการโพรโมทดีๆวิดิโอเข้าท่าๆแรงแบบขอมีสมองฉลาดคิดฉลาดทำนิดนึง การที่เธอจะเดินก้าวอย่างสง่าสงามขึ้นไปบนจุดสูงสุดของอาชีพในวงการนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่เกินไปนัก แต่มันก็อาจจะฟังดูตีโพยตีพายและอ่อนต่อโลกเกินไปซักหน่อยถ้าหากจะบอกว่า เธอจะกลับมาดังได้เหมือนเมื่อก่อนแบบง่ายๆไม่ต้องทำอะไรเลยแค่เพลงกับแผนการตลาดยัดเยียดโพรโมทมันไม่พอแล้วสำหรับธุรกิจดนตรีในทุกๆวันนี้ อุตสาหกรรมวงการดนตรีที่นักร้องทุกคนที่มีชั่วโมงบินสูงๆแทบเดินชนกันตาย มีหน้าใหม่ผุดออกอัลบั้มกันเป็นเด็กเล่นขายของไหนจะพวกหน้าเก่าลายครามที่ออกอัลบั้มใหม่ๆมาชะหรือพวกบิ๊กๆที่โผล่มาแบบไม่ตั้งใจจะชนใครยังไม่นับรุ่นใหม่ไฟแรงที่ขึ้นมาแทนที่พวกรุ่นเก่าไฟมอดอีกนะ ปัจจัยหลายๆอย่างที่มันจะทำให้ศิลปินคนหนึ่งกลับมาประสบความเร็จในระดับตำนานสถิติที่เคยส้รางสมไว้ได้ มันเกินที่ทางสตูดิโอหรือใครๆเพียงไม่มีกี่คนจะไปเดาสุ่มควบคุม มันอาศัยทั้งเวลา ความอดทนความสามารถ การโพรโมท และอีกหลายๆอย่างในการทำการตลาดทุกอย่างสำคัญหมดแม้กระทั่งแค่การมีข่าวทุกอย่างเกี่ยวกับการแสดงออก สื่อการให้สัมภาษณ์มันเป็นอะไรเล็กๆน้อยๆที่สำคัญหมดไม่มีอะไรมากน้อยเกินหน้าเกินตาไปกว่ากัน ทีนี้สำหรับอัลบั้มใหม่ของบิรทนี่หนูหอกหักทุกอย่างพร้อมแล้ว คราวนี้ก็ต้องมารอดูผลลัพธ์กันต่อไปว่าเธอจะทำได้ตามที่หลายๆคนอยากให้เป็นหรือเปล่า หรือเธอจะกลับไปเหลวเหลกไร้สาระอีกรอบ อย่าลืมว่ามีนักร้องหลายวงที่เคยตกอยึ่ในที่นั่งเดียวกันและนักร้องหลายคนที่หมดหนทางที่จะกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีกครั้งพยายามกระเสือกกระสนที่จะกลับมาหายใจอยุ่ในวงการได้อีก บางคนก็ได้แค่ออกอัลบั้มต่อชีวิตแล้วขายรวมฮิตจบอนาคต แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทำได้และกลับมาอยุ่ในจุดที่สมควรจะได้อยุ่ อย่างแม่มาลัยสายสมร ที่แทบจะเป็นปาฏิหาริย์ ทั้งๆที่อัลบั้มมิมี่ห่าอะไรนั่นก็ใช่ว่าเพลงจะดีกว่าอัลบั้มกลิทเตอร์แต่อย่างใด ตอนนี้ไม่ใช่แค่บริทนี่ย์หรอกที่อยากทำได้แบบมาลัย แต่มีอีกเป็นสิบเป็นร้อยในวงการที่อิจฉาแล้วอยากกลับมาแบบ Greatest Comeback แบบอีพะยูนดาวอังคาร ปีหน้าจะมีทั้ง ป๋าไมเคิล ป้าวิท และเอลตันกับ The Eagle รวมไปถึงอีกหลายๆวงหลายๆคนที่ไม่ได้พูดถึง เรามารอดูกันว่าหลังจาก Womanizer ส้รางเซอร์ไพรส์และดึงเธอกลับมาเป็น The One อีกครั้ง เธอจะยืนหยัดและต่อสู้มันไปได้อีกถึงแค่ไหน สู้เค้า อีหอกกก !
แก้ไขล่าสุดโดย nini เมื่อ Fri Nov 09, 2012 1:56 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
_________________