˹���á Forward Magazine

ตอบ

NuRii3_Review : Analyzing RED's Success [Taylor Swift]
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ NuRii3_Review : Analyzing RED's Success [Taylor Swift] 

แม้จะช้าไปหนึ่งวัน แต่รีวิวนี้ก็อยากจะเขียนเพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบอายุ23ปี และตอกย้ำความเป็น America's Sweetheart ของเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงคันทรี่ย์พ็อพ ด้วยยอดขายอัลบั้มล่าสุด Red ที่ทะลุเกิน3ล้านก็อปปี้ส์ แค่ในเฉพาะอเมริกา อัลบั้มนี้ก็ทำยอดขายได้ 3× Platinum หรือ3ล้านก็อปปี้ส์แล้วนั้นเอง พร้อมกับสร้างสถิติมากมายที่มาพร้อมกับอัลบั้มนี้ และล่าสุด Forbes จัดอันดับให้เธอเป็นศิลปินหญิงที่ทำรายได้มากที่สุดในปี 2012 รั้งอันดับ2 รองจากบริตนี่ย์ โดยทำรายได้ไปทั้งหมด 57 ล้านเหรียญ (อันดับที่3ของ Women Hollywood Celebrities และคว้าอันดับหนึ่งของศิลปินอายุต่ำกว่า30ปี ที่มีรายได้สูงสุด) อะไรที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้ ลองมาวิเคราะห์กันเลยค่ะ


We Are Never Ever Getting Back Together ลีดซิงเกิ้ลที่ประสบความสำเร็จมากมายล้นหลาม ล่าสุดในอเมริกาเพลงนี้ขายไปได้มากกว่า 2× Platinum แล้ว ถ้าจะพูดถึงความสำเร็จในอัลบั้ม Red ต้องบอกว่าเพลงนี้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้อัลบั้มประสบความสำเร็จและได้ผลตอบรับเกินคาด ก่อนอื่นต้องเท้าความไปถึงจุดเริ่มต้นของการตัดเพลงนี้โปรโมต เมื่อวันที่13 สิงหาคมเป็นต้นมา แน่นอนว่าที่เพลงนี้ได้รับความนิยม ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้ Max Martin และ Shellback ที่ทำให้เป็นงานที่การันตีว่ามันต้องพ็อพและดังแน่นอน แต่มันกลับเป็นงานพ็อพที่ฉีกและแตกต่างจากทุกๆซิงเกิ้ลของสวิฟท์และผิดแปลกไปจากธีมเดิมๆของงานคันทรีย์ หรือกระทั้งคันทรี่ย์พ็อพ เพราะเพลงนี้ใส่ความเป็นเมนสตรีมพ็อพที่มีอิทธิพลเหนืองาน(ซาก)คันทรี่ย์พ็อพของสวิฟท์ไปหมด ทำให้เข้าถึงคนส่วนมากได้ง่ายกว่า ถึงแม้จะบอกว่าหลังๆมานี้ชาร์ต Billboard Hot 100 ก็มักจะเต็มไปด้วยงานโฟล์ค อคูสติก และคันทรี่ย์อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายถึงว่าถูกยอมรับจากวงกว้างที่เน้นงานเมนสตรีมพ็อพแท้ๆ ซึ่งนางรู้ตรงจุดอ่อนตรงนี้อยู่แล้ว นางเลยรีเควสงานพ็อพร็อคที่พ็อพจัดๆและต้องติดหูขนาดที่ว่าฟังครั้งเดียวก็ต้องร้องตามได้สบายๆ ส่วนเรื่องจะคันทรี่ย์ไม่คันทรี่ย์นั้น นางได้ใช้ตัวนางนั้นแหล่ะ ที่ยังบ่งบอกว่าเพลงนี้ยังคงเหลือรากสำเนียงเพลงคันทรี่ย์พ็อพ และเพื่อไม่ให้น่าเกียจเกินไป นางเลยหยอดพวกลูกเล่นคันทรี่ย์นิดๆหน่อยๆเพื่อบอกพวกชอบจับผิดเธอให้รู้ว่างานของฉันยังพอหลงเหลือความเป็นคันทรี่ย์อยู่นะย่ะ ซึ่งต้องบอกว่าสวิฟท์ฉลาดมากที่ทำแบบนี้ การลือกเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลแรก มองเผินๆดูเหมือนเป็นการวัดตลาดใหม่ไปเลย โดยหวังขยายฐานแฟนคลับใหม่ๆและก้าวเข้าตลาดเพลงพ็อพอย่างสมบูรณ์แบบ แต่มันอาจจะทำให้เสียกลุ่มลูกค้าเก่าๆ(ที่ปริมาณน้อยกว่าพวกชนกลุ่มน้อยเสียอีก)ที่ชอบงานคันทรี่ย์และยังศรัทธาจิตวิญญาณงานคันทรี่ย์ของเธออยู่ แน่นอนว่าความเสี่ยงครั้งนี้ มันน้อยกว่าฉีกไปทำเพลงคันทรี่ย์จัดๆเข้มข้นเอาใจนักวิจารณ์(ส่วนแกรมมี่ไม่ต้องแคร์แล้วละ ได้จนเบื่อแล้ว) เพราะยังไงความนิยมของเธอตอนนี้ก็กว้านตลาดพ็อพได้อยู่แล้ว สมมุติมองในแง่ร้ายที่สุด คือต่อให้เพลงนี้ไม่ส่ง มันก็ยังเสมอตัวกับกลุ่มลูกค้าเพลงหลัก ส่วนฐานลูกค้ากลุ่มคันทรี่ย์ถ้าจะต้องเสียฐานนี้ไปจริงๆ นางก็คงไม่มายด์อยู่แล้ว (เพราะถ้าเสียจริงๆก็คงเสียไปตั้งตอน Fearless จนหมดแล้ว) แล้วมันก็เป็นอย่างที่นางคิดไว้แต่แรก เพราะเพลงนี้มันดังจริง ติดหูจริง จนส่งตัวมันให้กลายเป็นเพลงเมนสตรีมที่ไม่น้อยหน้าเพลงใดๆในปีนี้ สังเกตได้จากสถิติบนไอจูนและบิลบอร์ดมากมาย ที่นางได้ทำลายศิลปินคนอื่นๆและสร้างมันใหม่ขึ้นมาจากเพลงนี้ ตอกย้ำและประกาศศักดาความเป็นไอดอลที่ดังที่สุดในอเมริกาอย่างภาคภูมิ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วละมั้งที่จะทำให้เราๆยอมรับถึงความฮอตของเธอ



แทรกด้วย Breaking News ก่อนเข้าสู่ซิงเกิ้ลต่อไป สำหรับเพลงนี้จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ Ronan ซิงเกิ้ลการกุศลเพื่อรวมทุนช่วยกันต่อต้านมะเร็ง ซึ่งเพลงนี้แม้ว่ามันจะเป็นแค่เพลงการกุศล แต่ยอดโหลดกลับไม่ธรรมดาเลย และยังเดบิ้วเข้า Billboard Hot 100 ด้วยอันดับที่16อีกต่างหาก ไม่ธรรมดาจริงๆนะเรื่องยอดขายยอดโหลดสำหรับเธอคนนี้ นางเก็บทุกเม็ด ที่สำคัญมันยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ คนสวยใจบุญอีกต่างหาก ทำให้หลายคนที่ช่างใจว่าจะชอบเธอดีหรือไม่? พอเจอเพลงนี้เข้าไปคงทำให้รู้สึกดีๆกับเธอมากทีเดียว



ถัดมาที่ซิงเกิ้ลที่2 Begin Again และสตูดิโออัลบั้มที่4 Red สำหรับซิงเกิ้ลแม้ว่ามันไม่ประสบความสำเร็จจากคนทั่วไป (ส่วนแฟนคลับไม่ต้องพูดถึงแล้วมั้ง ปล่อยซิงเกิ้ลไหนแม่งก็ขยันโหลดกันจัง) ด้วยยอดแอร์เพลย์ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่อย่างน้อยมันก็แสดงถึงการไม่ลืมนรากเหง้าตัวตที่ทำตัวเองเกิดขึ้นมา ซิงเกิ้ลนี้คงได้ใจพวกแฟนคลับเก่าแก่และบรรดาคอคันทรี่ย์ไปพอสมบูรณ์ สำหรับส่วนตัวที่ตามนางมายาวนาน ก็ชอบงานโฟล์คคันทรี่ย์อ่อนๆ เกากีต้าร์โปร่งสบายๆของนางมากกว่างานยุคหลังๆ และเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ชอบนางในสไตล์สบายๆเป็นสาวบ้านนอกคอกนามากกว่า



ส่วนอัลบั้มส่วนตัวก็แอบหวังไว้แต่แรกเหมือนกันว่าอาจจะล้านแตกอีกรอบ เพราะขนาด Mine ที่แทบไม่ได้ช่วยส่งอะไรต่อตัวอัลบั้มเลย Speak Now ก็ยังเดบิ้วได้เป็นล้าน แต่ไม่กล้าฟันธงเพราะกลัวหน้าแตก แต่พอเห็นบรรดาโปรโมตชั่นซิงเกิ้ลที่เธอปล่อยมาวีคต่อวีค พากันทยอยถล่มชาร์ตเป็นว่าเล่น ก็มั่นใจพอตัวว่ามันต้องถึงแน่ๆ เลวร้ายสุดก็เฉียดๆละว่ะ แต่ก็ไม่ได้คาดการว่าจะเปิดยอดเดบิ้วได้เยอะขนาดจ่อเป็นอันดับ2 บนสถิติ Fastest-Selling Albums ของนักร้องหญิงอเมริกัน เป็นรองแค่ Oops!... I Did It Again ของเจ้าหญิงเพลงพ็อพ Britney Spears เท่านั้น และยังเป็นศิลปินหญิงอเมริกันคนแรกที่มียอดขายเกินหนึ่งล้านก็ปปี้ส์ในสัปดาห์แรกถึง2อัลบั้ม โดยทำยอดขายรวมทั่วโลกในอาทิตย์แรกได้มากกว่า 1.459ล้านก็อปปี้ส์ อะะไรที่ทำให้นางประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ล่ะ? เพราะนางเข้าถึงง่าย ส่วนหนึ่งเพราะนางอาจเป็นพวกสาวบ้านนอกมาก่อนจะกลายเป็นนางซินเหมือนทุกวันนี้ ทำให้นางเข้าใจคนทุกกลุ่มและเป็นความฝันที่จับต้องได้ของใครหลายๆคน ความสามารถนางไม่ดูเป็นพรสวรรค์เกินไป คือมันยังฝึกกันได้ ทำให้ปลอบใจว่าถึงจะไม่มีพรสวรรค์ ถ้าพยายามเพียรฝึกซักวันวันต้องสำเร็จแบบเทเลอร์ สวิฟท์ได้ อีกทั้งเป็นคนขาว (อเมริกันชนชั้นหนึ่ง) ทำตัวสะอาด เป็นแบบอย่างอเมริกันชน ซึ่งต่างกับอีก้า อีห่านที่นับวันภาพลักษณ์ยิ่งสกปรกโสโครกเลยความเป็นแฟชั่นนิสต้า แม้จะมีข่าวเสียหายเกี่ยวกับความกากีของนาง แต่เหล่าประชากรประเทศฟรีเซ็กซ์คนไม่มานั่งซีอยู่แล้ว อาจเป็นไอดอลให้สก๊อยล่าแต้มได้อีกด้วย ณ จุดนี้แหล่ะที่ทำให้นางครองใจเหล่าอเมริกันชนทั้งหลาย แต่สำหรับสวิฟท์แอนตี้แฟนแล้ว เหตุผลที่ยกมาข้างต้นมันไม่จริงและให้เครดิตนางเกินไป แท้จริงแล้วสวิฟท์ดังเพราะการนอนกับโปรดิวเซอร์ยันแฟนคลับ(จนจิ๋มแหก)เลยทำยอดขายดีได้ขนาดนี้(555 พูดเล่นนะคะ แต่ก็เชื่อว่ามีอีติ่งบางตัวคิดแบบนี้จริงๆ) ที่นางดังได้ก็เพราะปั้นกระแสตัวเองโดยอาศัยความบ้าเห้อของแฟนคลับช่วยกันปั้นยอดซื้อ ความคิดแบบนี้อาจช่วยชโลมใจพวกแอนตี้ให้มีชีวิตสู้กันต่อไป แต่ไอ้เรื่องแบบนี้มันก็มีทุกยุคทุกสมัยนั้นแหล่ะ ศิลปินคนหนึ่งจะดังได้นี้ มันต้องอาศัยหลายปัจจัยนะค่ะ มันมีทั้งนักร้องที่แค่อยู่เฉยๆ แต่ใช้บารมีที่สะสมมาทำให้อัลบั้มตัวเองดัง หรือทำเพลงเอารีวิว5ดาวจากทุกสำนักรีวิว คว้าแกรมมี่มันทุกรางวัลแล้วอัลบั้มจะดังตามมาทีหลัง แต่แค่นั้นยังไม่พอเหล่าบรรดาแอนตี้ที่รับไม่ได้กับความสำเร็จเกินหน้าเกินศิลปินตัวเอง ยังทำเป็นแถอีกว่า เดี๋ยวนี้ขายอัลบั้มไม่ขลังแบบมื่อก่อนไง ที่เวลาขายเป็นล้านๆทีต้องไปต่อคิวยาวๆ (ต๊ายยย พูดยังกะจะมีอัลบั้มขายเป็นล้านๆให้ต่อคิวยาวๆได้เยอะแยะอัลบั้มนะค่ะ) สมัยนี้แค่นอนอยู่บ้านโหลดก็ได้ บลาๆๆ โฮ่ๆๆๆ แหม.. ดูคำพูดก็พอรู้อคติด้านลบแล้วละค่ะ ก็เพราะมันสมัยนี้แล้วนั้นแหล่ะค่ะ สมัยที่มี 3G 4G ใช้ เทคโนโลยี mp3 m4a ผิดลิขสิทธิ์ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทำไมคนต้องมาโหลดมาซื้อของแท้กันอยู่ด้วย และที่สำคัญในยุคที่นักร้องไม่ใช่ที่พึ่งทางใจที่ทรงอิทธิพลเท่าสมัยก่อนแล้ว ไปพึ่งลัทธิไซแอนโทโลจีไม่ง่ายกว่าเหรอ? อะน่ะ สรุปสั้นๆเลยที่อัลบั้มนางดังได้ขนาดนี้ ขายได้เยอะขนาดนี้ ก็เพราะคนรักเธอนั้นแหล่ะ และกระแสของเธอเป็นของจริง อย่างน้อยซื้อแผ่นเอาไปอวดเพื่อนคนก็รู้จักละหว่า ดีกว่าซื้อ Lotus ไปแล้วเพื่อนถามว่า นั้นหร่อนซื้ออัลบั้มของใครมา ศิลปินอินดี้เหรอ?





หลังจากซิงเกิ้ลทดลองเปิดตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ อย่างงานเมนสตรีมพ็อพในซิงเกิ้ลแรกที่ให้ผลเกินคาด งานทดลองที่เป็นพ็อพแท้ๆอย่าง I Knew You Were Trouble ก็ถูกปล่อยมาให้ผู้ฟังได้ชิมลางกัน ซึ่งมันก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด โดยตัวเพลงทำยอดโหลดได้มากกว่า 416,000 ดาวน์โหลดด้วยกัน ทำให้สวิฟท์เบนเข็มมาเลือกเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลที่3ในทันที แล้วก็เป็นที่สวิฟท์คิดจริงๆ เพราะตอนนี้ตัวเพลงทำยอดโหลดและหยอดแอร์ได้ดีเว่อร์ทั้งบนอเมริกาและเกาะอังกฤษ เนื่องจากมันทั้งแมสและเป็นงานพ็อพแท้ๆ โดยลืมไปเลยว่าเป็นงานที่มาจากนักร้องเพลงคันทรี่ย์ ไม่ใช่นักร้องสายเมนสตรีม ที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นงานพ็อพที่โดดเด่ดมาก ชนิดที่ว่าอีนักร้องพ็อพบางตัวทำได้ไม่ดีเท่าเพลงนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งเพลงนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า พ็อพเมนสตรีมไม่ใช่งานทดลองของนางอีกต่อไป เพียงแค่นางเบนเข็มก้าวเท่ามาเท่านั้น ทั้งพรหมแดงและความสำเร็จอีกมายรอรับเธออยู่ ถ้านางทำเพลงพ็อพละก็ บอกได้เลยว่าทั้ง อีก้า อีห่านนา อีแขเตรียมสะเทือนได้เลย เพราะฝีมือนางมีอยู่แล้ว แต่ที่นางมีมากกว่าคือบรรดาแฟนคลับที่คอยซัพพอร์ตนางแบบบ้าคลั่ง และอย่าลืมว่ามีคนอีกมากไม่ฟังเพลงนางเพราะคิดว่าเป็นงานคันทรี่ย์ ถ้านางจับงานพ็อพเต็มตัวเมื่อไหร่ นางอาจจะได้กลุ่มคนตรงนั้นเพิ่มอีกด้วย



ต่อยอดกับความสำเร็จและเปิดตำนานหน้าต่อไป Red Tour โดยเป็นทัวร์คอนเสิร์ตลำดับที่3ของเธอ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถเปิดทัวร์ๆหนึ่งได้ ถ้าฐานแฟนคลับไม่แน่นพอหรือยอดขายไม่ดีพอ ลืมมันไปได้เลย เพราะนั้นต้องไม่เกิดกับของเทย์เลอร์ สวิฟท์ในปีถึง2ปีนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ทัวร์นี้จะต่อยอดเธอไปได้ไกลแค่ไหน ถ้าโชคดี เผลอๆตำแหน่งศิลปินหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกปีหน้าอาจจะชื่อเทย์เลอร์ สวิฟท์ก็เป็นไปได้


ถ้าให้สรุปแบบอวยๆก็คือ นางดัง สวย และรวยเว่อร์มาก ตอนนี้จะหยิบจะจับอะไรก็เป็นที่สนใจ ขนาดตดยังหอมเลย ต่อให้อัลบั้มต่อไปงานนางจะทำเพลงดร็อพกว่านี้ก็ไม่สามารถทำลายชื่อเสียงนางได้ นอกจากนางจะทำตัวของตัวเองด้วยการ เป็นเอดส์หรือมีคลิปวินมารุมโทรมโดยบรรดาผัวเก่าว่าจ้างก็ว่าไป แต่ตอนนี้ยากจริงๆที่จะยกให้ศิลปินหญิงคนไหนขึ้นไปเทียบรัศมีความดังของนาง เพราะว่าขนาดแกรมมี่ยังต้องเกรงใจยกอั้ลบั้มแห่งปีให้แก่ Fearless นี้ยังไม่รวมรางวัลยิบย่อยจากทั้งแกรมมี่และรางวัลจากเจ้าอื่นอีกมากมาย ทำให้ตอนนี้นางเป็นศิลปินที่ครบเครื่องที่สุดก็ว่าได้ เพลงก็ดัง สถิติก็มี อัลบั้มก็ขายดีเว่อร์ แฟนคลับก็เพียบ แถมกล่องรางวัลก็บานเบอะ ถ้านางยังเป็นอย่างงี้ต่อไป เชื่อเลยว่านางต้องขึ้นแท่นศิลปินหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเร็วๆนี้แน่นอนค่ะ




แก้ไขล่าสุดโดย nini เมื่อ Fri Dec 11, 2015 11:54 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่านนานมากกกกกกกกก555+
เรื่องอิเทยไม่พูดรัยมาก ตามหนูรีค่ะ
Laughing


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ก็ขอชื่นชมนางนะ เพราะตอนนี้กำลังกรี๊ด I Knew You Were Trouble มันแบบว่าดั๊บสเต็ปเริ่ดเว่อร์มาก ตอนแรกไม่คิดว่านางจะทำเพลงแรงงี้ได้ เห็นภาพลักษณ์หงิมๆติ๋มๆ


_________________

ความสวย ความเมา ไม่เข้าใครออกใคร
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เป็ฯกระทู้แรกจริงๆ ที่ยาวมากๆแล้วอ่านจบ กิ้สสสสสสสสส Very Happy Very Happy Very Happy พี่รีเริ่ดเวอรืเอ๊าะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com