
เดินหน้ามาจนถึงอัลบัมสี่สักที สำหรับหนึ่งในสามสาวดิสนีย์ดีกรีกรรมการสาวรายการประกวดร้องเพลงชื่อดังอย่าง X Factor นามว่า เดมี่ โลวาโต้ ที่ชื่อเสียงของเธอเพิ่งแผ่กระจายตามผองเพื่อน เซเลน่า และ ไมลีย์ มาเมื่อไม่นานนี้เอง แม้ว่าจะมีเพลงฮิตอย่าง สกายแครปเปอร์ หรือ กิฟยัวร์ฮาร์ทอะเบรค ก็ตามแต่ทางด้านความเลื่องชื่อของเธอยังไม่ถือว่าโดดเด่นนักเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เธอยึดอาชีพนักร้องมา และจุดนี้นี่เอง ที่เราจะได้พิสูจน์ว่างานเพลงนี้จะทำให้เธอดังเป็นพลุแตกทั่วสารทิศได้หรือไม่ เชิญเลยค่ะ
ภาพรวม อัลบัมนี้หลังจากฟังจบ เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงมากๆ เห็นจากซิงเกิ้ลเปิดตัวนึกว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์จ๋า เพลงแดนซ์โง่ๆแบบที่นิยมทำกัน ที่ไหนได้ อัลบัมนี้เป็นป๊อป อาร์แอนด์บี โซล ร๊อก วู้ว เต็มที่กับชีวิตจริงๆค่ะ ใครอยากได้ความหลากหลายต้องยกให้อัลบัมนี้เลย ไม่ได้เจอมานานแล้วอัลบัมที่เพลงครบทุกแนวแบบนี้ แถมยังฟังง่ายด้วย ด้านเสียงร้องก็สไตลืเธอนั่นล่ะนะคะ แผดไปแผดมา ตะเบ็งเสียงซะชั้นผวาเลย
จุดเด่น ชอบตรงที่มีครบหลากหลายสไตล์เพลงในหนึ่งเดียวและเข้าใจเรียบเรียงไม่ให้อะไรหนักไปเบาไป เป็นสิ่งที่ครบรสมากๆ แม้มันจะไม่ได้มาสเตอร์พีซ เป็นแนวเด่นในสิ่งนั้นชนิด express มากมาย แต่แค่อัลบัมนี้อันเดียว ก็เหมือนได้ฟังจากศิลปินหลยคนเลย และอาจะเป็นอีกเหตุผลที่ตอนฟังแต่ละเพลงจะเห็นหน้านักร้องแต่ละท่านลอยไปลอยมา ตั้งแต่ snow patrol ยัน อเดล
จุดด้อย เพลงช้าเยอะเกินไป ถือว่าเกินค่อนอัลบัมอีกล่ะมั้ง แถมเธอยังเดินรูปแบบเพลงช้ากันในแพทเทอร์นเดิมๆ ทำให้น่าเบื่อ อีกอย่างคือความแรงของดนตรีที่ค่อนข้างมากในทุกแทรคเมื่อรวมกับเสียงตะเบ็งหวีดกรี้ดแผดแล้วยิ่งปวดหู รังแต่จะทำห้ฟังได้ไม่นาน
01 Heart Attack (3.5/5)
อิเล็กโทรพ๊อพ อาร์แอนด์บี แฝงลูกเล่นสตริงและดัปหนักๆผนวกกับเสียงร้องทรงพลัง เริ่มต้นด้วยการสังเคราะห์เสียงกันสุดฤทธิ์แล้วสลับเข้าสู่เพลงจริงๆ มีการแฝงดนตรีแบบสตริงเข้าไว้ด้วย ท่อนฮุคนั้นโหยหวน และพลังสูงมาก เหมือนว่าเธอเค้นเสียงมาหมดเนื้อหมดตัวไม่กลัวฮาร์ทแอทแทคเลย เป็นอะไรที่เต็มที่มาก หรืออาจจะมากไปด้วยซ้ำ เพลงนี้จึงกลายเป็นอะไรที่ไม่สามารถฟังได้นานๆ
02 Made in the USA (3/5)
อิเล็กทรอนิกผ๊อปสตริง จังหวะอาร์แอนด์บีติดหูแบบไม่แรงเกินไปตัดกับเพลงข้างต้น และขึ้นท่อนฮุคกับแบบจังหวะเดิมแค่เสริมจังหวะให้หนักขึ้นอีกนิด มีดีตรงบริดจ์และท่อนส่งท้ายที่เป็นมาร์ชคันทรีย์น่ารักดี อาจจะทำให้เรานึกถึงเจสซี่ เจ ในภาคอเมริกัน เกิร์ล กันเบาๆ
03 Without The Love (4/5)
โซลป๊อป และอาร์แอนด์บีผสมจังหวะอาร์แอนด์บี โดดเด่นจากดนตรีสวยๆและคารัสเพราะๆ เดินเพลงด้วยเสียงกดเพียโนจังหวะสนุกน่ารัก ท่อนฮุคแบบป๊อปอาร์แอนด์บีเพราะๆ รวมกับดนตรีหวานๆ เหมือนกับเราอยู่ในงานแต่งงานสีขาวที่เต็มไปด้วยดอกไม้หอมกันเลยทีเดียว ตัดจังหวะนิดๆด้วยเบรกบีทในท่อนบริดจ์ไม่ให้อารมณ์ของเพลงน่าเบื่อจนเกินไป
04 Neon Lights (3.5/5)
เปิดตัวด้วยเสียงเพียโนดิบๆ และเสียงเพียวๆของนาง ตบจังหวะเพิ่งด้วยอาร์แอนด์บีฮิปฮอป และกลายร่างเป็นคลับอาร์แอนด์บี ไล่โน๊ตโพรแกรมมิ่งสไตล์ดิสโก้ตามฉบับเพลงสมัยนี้ แต่ยังไม่ให้เปลี่ยนจังหวะด้วยกลองดิบๆแปลงๆ ปิดท้ายด้วยท่อนแดนซ์ปาตี้ครบสูตร คิดว่าเพลงนี้จะฟังง่ายกว่าถ้าเธอปล่อยดนตรีออกมามากกว่านี้ อันนี้เหมือนนางอยากทำให้มันต่างจากเพลงปาตรฃี้สมัยนี้ แต่ว่า อารมณ์ไปไม่ถึงสุดๆค่ะ
05 Two Pieces (4/5)
มาร์ชบัลลาร์ดด้วยเสียงกลองและเพียโนกลมกล่อม และภาคการร้องที่ออกมาโซลเป็นเพลงแรก ท่อนฮุคดนตรีกับแบบบัลลาร์ดร๊อกทรงพลัง ท่อนบริดจ์กระชากอารมณ์คล้ายๆกับละครเพลง ถ้าคุณชอบอลิเชีย คีย์ คุณต้องรักเพลงนี้แน่ๆ
06 Nightingale (3.5/5)
จากแม่คีย์ก็กลายเป็นอเดล ดาวน์เทมโพ สไตล์โซล เสียงเพียโนและการร้องเพียวๆของนาง ท่อนฮุคสอดเสริมดนตรีให้นุ่มนวลขึ้น และการร้องแสนทรงพลัง ส่วนที่สองนั้นยกให้เป็นหน้าที่อาร์แอนด์บี ปิดฮุคสุดท้ายด้วยคอรัสแพรวพราวกันไปแบบเพราะๆ
07 In Case (3/5)
นี่เธอ ! ทำไมเพลงช้ามันติดกันรวดเลยยะ ชั้นไม่เข้าใจ ดาวน์เทมโพผ่านเสียงเพียโนอีกเพลง แต่อันนี้น่าฟังขอกว่าเพลงบน เพราะไม่มีดนตรีมากมายให้ปวดหัว เมื่อรวมกับเสียงร้องเค้นความดันของเจ้าตัว คือถ้ามันโผล่ออกมาตอนปิดอัลบัมน่าจะเข้ากับอะไรต่อมิอะไรมากกว่านี้
08 Really Don't Care (feat. Cher Lloyd) (4/5)
อาร์แอนด์บีป๊อป ประสมสตริงและกลินอายป๊อปร๊อกกันแบบพอดี การไล่เมโลดี้ในช่วงแรกผ่านกลองหนักๆอาจทำให้เรานึกถึงเพลง I love it ของอิโคน่าพ๊อพ ท่อนฮุคไล่จังหวะแบบสตริงนำมาก่อนแล้วต่อด้วยพ๊อปร๊อก อาร์แอนด์บีสนุกๆ มีซินธ์ร่วมแจมกันแบบพอดี กว่าแชร์จะออกมาแร่ปกันด้วยเสียงน่ารักแก่นๆก็ร่วมจะจบเพลงเข้าแล้ว ออกน้อยแต่เริ่ดมากค่ะ
09 Fire Strater (4/5)
อัลเตอร์เนทิฟกลิ่นป๊อป ผ่านการไล่เสียงกีร์ต้าที่ชวนนึกถึงเพลง Chasing cars ไม่ทันไรท่อนฮุคก็กลายร่างเพลงจังหวะช้าและปิดท้ายด้วยดัปดนตรีโคลงเคลงไปหมด แต่เพราะดี แล้วจู่ๆก็จบเพลงแบบเปลียนอารมณ์เฉยเลย คือว่า อะไรกันค้า
10 Something That We're Not (3/5)
ขึ้นมาซะย้อนยุค แบบสตริงอาร์แอนด์บีย้อนยุค ส่วนตัวเพลงก็เป็นเรโทร ป๊อปร๊อก(แอนด์โรล?) และท่อนฮุคหยุบหยอดจังหวะอาร์แอนด์บีติดหุดี และเสียงสังเคราะห์ "ปารัป ปาร้าร้า"อะไรที่ฟังแล้วน่ารักดีแฮะ
11 Never Been Hurt (3.5/5)
อัลเตอร์ทิฟหม่นๆในตอนแรก แกมจังหวะมาร์ชหนักๆ เร่งจังหวะไปเรื่อยๆ และท่อนฮุคป๊อปร๊อกเพราะๆ ตบท้ายด้วยดัปเสตป และเบรกบีทแปลกๆ กับเสียงร้องโหยหวยของเธอ แปลกพิลึก แต่ก็ฟัได้แบบไม่น่าเกลียด ท่อนริดจ์กลายร่างเป็นบัลลารืดร๊อก เสียงกีร์ต้าไวโอลินอะไรมากมาย สรุปเพลงนี้ชีจัดเต็มค่ะ เพราะด้วยที่สำคัญ
12 Shouldn't Come Back (5/5)
มาทุกแนวจริงๆอัลบัมนี้ โฟล์คอะคูสติก และเสียงร้องสดๆแบบทอดอารมณ์ ท่อนฮุคเสียงหลบเพราะและได้ความรู้สึกใจจะขาดมาก น่าจะร้องแบบนี้ตั้งแต่เพลงแรกๆ ท่อนฮุคสองเริ่มเพิ่มดนตรีให้กลายเป็นคลาสสิคบัลลาร์ดและคอรัสนุ่มนวล ถือเป็นเพลงช้าที่ดีที่สุด ในอัลบัม
13 Warior (4/5)
ไม่จบไม่สิ้นกับเพลงช้า โซลบัลลาร์ดเสียงเพียโนเศร้าๆ ท่อนฮุคแบบเดิมมาแผดเสียงคำรามโหยหวนไปมา นี่ไม่ใช่การ์ตูนดิสนีย์นะยะแม่คุณ มันก็ไม่มีอะไรมากมาย เสียงเพียโน กับเสียงครางปานจะขาดใจของเจ้าหล่อน เฮ้อ ~ มุขเดิมทั้งกะปี ดีนะที่เพราะไม่งั้นล่ะก็ หืมม
อ้างอิงจาก:
ลังเลมาก ระหว่าง A- และ B+ (ใจจริงคือชอบมาก จะให้ A ไปมันก็แค่เพลงป๊อปธรรมดา) เอาไงดี ... อัลบัมนี้เหมาะกับคนทุกคน เพราะมีครบทุกแนวที่คุณอยากฟังแน่นอน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรมีติดบ้าน แต่ไม่แนะนำให้ฟังบ่อย เพราะจะเบื่อเพลงช้า