˹���á Forward Magazine

ตอบ

Daft Punk : Random Access Memories
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Daft Punk : Random Access Memories 


http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/07/13/daft-punk-random-access-memories-electronic-82-45/comment-page-1/#comment-53

http://www.facebook.com/HysteriaCulture?ref=br_rs

Daft Punk : Random Access Memories : Electronic (82% = 4/5)

หลังจากนั่งฟังและเก็บข้อมูลมานานร่วมเดือนวันนี้ก็ได้ฤกษ์ถือโอกาสเขียนวิจารณ์ Random Access Memories สตูดิโออัลบั้มชุดล่าสุด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นงานลำดับที่4) ของคู่ดูโอ้อิเล็คโทรนิคเลื่องชื่อจากแดนฝรั่งเศสอย่าง Daft Punk ที่คงต้องยอมรับว่าเป็นงานชุดแรกของทางวงที่ดิฉันสนใจฟังจริงจังอาจจะด้วยเรื่องของการที่ส่วนตัวไหลตามมาฟังอิเล็คโทรนิคหลังยุคมาสเตอร์พีซของเขาค่อนข้างนานโขและความสำเร็จอย่างมหาศาลของอัลบั้มนี้ที่เห็นว่าเปิดตัวขึ้นอันดับหนึ่งบนอัลบั้มชาร์ตไปกว่า20ประเทศท่ามกลางเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่บางท่านตำหนิติเตียนวิจารณ์อัลบั้มชุดนี้ว่าค่อนข้างน่าผิดหวังซึ่งจริงหรือไม่จริงคงต้องแล้วแต่รสนิยมส่วนตัวของผู้ฟัง แต่อย่างไรก็ตามก็คงปฏิเสธไม่ได้นะคะว่า Random Access Memories นี่น่าจะเป็นอัลบั้มของทางวงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในแง่ของ Commercial Success นับตั้งแต่ที่เคยมีมา

เท่าที่สังเกตุดูประกอบกับอ่านข้อมูลอ้างอิงจากบางแหล่งนี่ก็เห็นตรงกับที่เขาว่านะคะว่า Random Access Memories ชุดนี้ธีมของภาคดนตรีดูเหมือนทิศทางจะเน้นหนักไปแถบๆช่วงปลายยุค70sตลอดถึงช่วงต้นยุค80sกับงานดนตรีอิเล็คโทรนิคและซินธิ์พ็อพผสานเครื่องดนตรีสดทั้งความเป็นร็อคย้อนยุค เครื่องเป่า ออเครสตร้าตลอดจนคอรัสประสานเสียงในโบสถ์ที่จับมาชนกับลูกเล่นต่างๆทั้งจากดรัมส์แมชชีน วินเทจโวโคเดอร์ให้เสียงออกมาบิดเบี้ยวเป็นซาวนด์โรโบติคตลอดจนโพรแกรมมิ่งและสารพัดลูพต่างๆซึ่งเท่าที่ฟังแล้วให้อารมณ์ไปในทาง “คลาสสิค” มากกว่าจะเปรี้ยว ฮิพหรือเก๋ล้ำแบบที่คาดเดาไว้ช่วงต้นในข้อมูลอ้างอิงเห็นพวกนักวิจารณ์ต่างเปรียบเทียบแรงบันดาลใจของอัลบั้มนี้กับมาสเตอร์พีซจาก Fleetwood MacไปจนถึงPink Floydว่าอาจจะเป็นหนึ่งในแม่แบบแต่ส่วนตัวเรากลับคิดถึง Pet Shop BoysกับFisherspoonerมากกว่า

แทร็คที่ชอบนี่ก็ต้องกราบเรียนว่าที่หยิบยกขึ้นมาเขียนต่อไปนี้ก็เต่างเป็นแทร็คที่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นแนวหน้าของงานชุดนี้และชอบจริงๆ ตั้งแต่เปิดอัลบั้มมากับ Give Life Back To Music (4/5) เพลงเปิดอัลบั้มี่ฉายอิทธิพลของงานร็อคย้อนยุคสไตล์ร็อค80sที่ผสานเข้ากับดนตรีซินธิ์พ็อพเต้นระบำดืดดึ๋ง ฟั้งค์และเทคโนเฟี้ยวฟ้าวเท่ห์ดี สำหรับคนยุคใหม่ฟังแล้วคิดถึงภาคที่อ่อนกว่าของThe Rapture,The KillersและThe Strokesอะไรพวกนี้ถ้าได้ลุงนีลจาก Pet Shop Boys มาโปรดิวซ์และลงเสียงให้ก็คงออกมาประมาณนี้กระมังลดทอนความห่าม ดิบกร้าวและเก๋าสู่อารมณ์กรุยกรายของฟลอร์เต้นรำ มาที่ Giorgio By Moroder (5/5) ที่ภาคการนำเสนอแปลกๆแต่น่าสนใจและโดดเด่นจนขอยกให้เป็นไฮไลท์ของอัลบั้มนี้ทีเดียวด้วยการลงเสียงเป็น Spoken Words คล้ายๆจะเป็นสุนทรพจน์ไม่ก็Story Tellerที่เล่าเรื่องราวของเขาผ่านไมค์ตั้งแต่รุ่นสังคโลก60sยันไมค์ของศตวรรษที่21ชนกับความเฟี้ยวฟ้าวของซินธิ์ ดิสโก้ ดรัมส์แมชชีน บีทดนตรีเฮ้าส์ไปยันไลน์ดรัมส์แอนด์เบสจางๆและปิดท้ายด้วยเครื่องสายออเครสตร้ากรีดเสียงสวยไล่ไปจนซาวนด์สแครชนับว่าเป็นการนำเสนอที่เก๋ไก๋ดีไม่หยอก เข้มข้นดีนะ! ต่อด้วย Within (4.5/5) งานสูตรสำเร็จที่กระแทกใจเราเข้าอย่างจังถ่ายทอดผ่านเพียโนสไตล์มินิมัลลิสท์และความเป็นแจ๊ซซ์เล้าจ์นขมุกขมัวด้วยเพอร์คัสชั่นสุดสุนทรีย์โดยลงเสียงร้องผ่านวินเทจโวโคเดอร์ที่เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างกรีดใจที่สุด

Instant Crush (4.5/5) ที่เห็นว่าตัวเดโมเพลงนี้ตอนแรกยื่นเสนอพี่จูลส์ คาซาบลังก้าหัวหอกThe Strokesด้วยนะคะตัวเพลงใครฟังเป็นยังไงไม่รู้นะคะแต่ส่วนตัวดันนึกไปถึงงานอินดี้พ็อพเย็นๆกระจ่างใสแบบ Tahiti80ที่บีบเอาความเป็นพ็อพร็อคชนกับอิเล็คโทรพ็อพและซินธิ์ตลอดจนอารมณ์โซลหวานๆลอยๆฟังแล้วก็รู้สึอบอุ่นเพลิดเพลินดีแต่ข้างในรู้สึกหนาวเหน็บเหลือเกิน เหงาว่ะ! Lose Yourself To Dance (3.5/5) ผลลัพธ์ที่ได้จากความปรารถนาในการทำดนตรีเต้นรำผสานกับกลองสดๆความเป็นฟั้งค์ผิวสีในเพลงโดดเด่นพอๆกับจังหวะร็อคหนักแน่นก็นับว่าใช้ได้เพราะส่วนมากเห็นหลายศิลปินที่อุตริจะทำเพลงเต้นรำกับดนตรีสดมักจะหายนะกว่านี้ เพลงที่โต่งที่สุดในอัลบั้มนี้คงต้องยกให้แก่ Touch (4.5/5) งานFuturisticสไตล์เอ็กซ์เพอริเมนทัลแท้ๆมีตั้งแต่โพรแกรมมิ่งและอิเล็คโทรนิคหลอนๆช่วงเปิดตัวเข้าสู่ตัวงานที่คล้ายๆจะเป็นมิวสิคคัลไล่ไปเป็นงานเต้นระบำแบบฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้สลับกับอารมณ์รื่นเริงของเครื่องเป่าแบบโซลและอีกสารพัดนั่งแยกแยะรายละเอียดมันส์มากก่อนจะลากไปจบด้วยคอรัสเสียงประสานในโบสถ์แบบกอสเพลหลังออเครสตร้าสวยๆ แปลกดี ปิดท้ายด้วย Get Lucky (4.5/5) งานเต้นระบำสไตล์โอลด์สคูลประสานฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้ติดหูมาก ชอบอ่ะ!

จะว่าไปสำหรับเราในฐานะที่ไม่ใช่แม้แต่แฟนขาจรของ Daft Punk ฟังแล้วคิดว่าก็โอเคนะคะคืออัลบั้มก่อนหน้านี้ของพวกเขาจะยังไงบ้างนี่ก็ไม่รู้นะแต่ Random Access Memories สำหรับดิฉันสอบผ่านในฐานะ “งานคุณภาพ”




แก้ไขล่าสุดโดย Armand D'Angouleme เมื่อ Sat Jul 13, 2013 5:26 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
like like like


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Timeline ความยิ่งใหญ่ของ daft punk นี่ส่วนตัวเราคิดว่าพอๆ หรืออาจจะมากว่า mj
ซะด้วยซ้ำ(ในแนวทางนั้น)
เป็นทั้งรากฐาน และผู้ให้กำเนิดอย่างจริงๆจังๆ

แล้วในฐานะแนวหน้าที่บุกเบิกมาตลอด เค้าจะมองการทำอัลบั้มใหม่ยังไง
มั่นใจว่าแฟนคลับทุกคนคาดหวังว่า daftpunk จะทำอะไรล้ำๆ ฉีกสมัยและset trendไว้
แบบที่ทำมาตลอด(ล่าสุดกับหนังเรื่องtron)

แต่คำตอบคือ daftpunkเลือกที่จะอยู่กับแนวทางที่ตัวเองเป็นออริจินัล
พูดถึงอดีตของตัวเอง อย่างในfragment of time, Giorgio By Moroder

ซึ่งมันเป็นอะไรที่หักปากกาเซียนมาก
แล้ววงนี้มีอิทธิพลกับวงการ graphic designและ hipster มาก(ในแง่ของการดีไซน์)

บอกได้เลยว่ารอดูเทรน retro มาเต็มแน่นอน ทั้งดนตรี และแฟชั่น


_________________
.



ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Corerill พิมพ์ว่า:
daftpunkเลือกที่จะอยู่กับแนวทางที่ตัวเองเป็นออริจินัล
พูดถึงอดีตของตัวเอง อย่างในfragment of time, Giorgio By Moroder

ซึ่งมันเป็นอะไรที่หักปากกาเซียนมาก
แล้ววงนี้มีอิทธิพลกับวงการ graphic designและ hipster มาก(ในแง่ของการดีไซน์)


อื้มนะ!

เหมือนเคยได้ยินว่าทวิเทพ Daft Punk ทั้งสองเคยออกมาบ่นประมาณว่า เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์(คงหมายถึง EDM มั้ง?)ทุกวันนี้มันช่างเละ และห่วยบรม หุๆอิๆ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com