
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/08/08/goldfrapp-tales-of-us-folktronicaambientdream-popexperimental-90-4-55/
hysteria
Goldfrapp : Tales Of Us : Folktronica/Ambient/Dream Pop/Experimental (90% = 4.5/5)
วงอิเล็คโทรนิคสุดเปรี้ยวจากอังกฤษซึ่งเป็นวงดนตรีที่มีอิทธิพลต่อชีวิตการเสพย์ดนตรีแขนงนี้สำหรับดิฉันที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับคออิเล็คโทรนิคเชื่อว่าหากเอ่ยชื่อของสองจอมขมังเวทย์อย่าง Goldfrapp แล้วแม้ว่าวันเวลาจะล่วงเลยเข้าสู่ค.ศ.2013ก็ตามทีแต่หลายคนยังคงจำมนตร์เสน่ห์ที่พวกเขาเคยร่ายไว้ใน Felt Mountain อัลบั้มชุดแรกอันเป็นงานอิเล็คโทรนิค ทริพฮอพ แอมเบี้ยนท์และโฟล์คโทรนิก้าชั้นบรมครูจนได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างหนาหูกับกึ๋นในการรังสรรค์ดนตรีที่ไม่ธรรมดาก่อนจะสลัดมาทำเปรี้ยวในอัลบั้มชุดถัดไปในBlack Cherryและต่อยอดขึ้นสู่จุดไฮไลท์ของอาชีพกับอัลบั้ม Supernature ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นงานที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างที่สุดของทางวง ตามมาด้วย Seventh Tree งานของทางวงที่ดิฉันคาดว่าชอบที่สุดเป็นการส่วนตัวกับการดำดิ่งลงลึกสู่จิตวิญญาณและระเบิดออกมาเป็นงานดาวน์เทมโพ อคูสติคและโฟล์คโทรนิก้าที่เรียบง่ายแต่เมโลดี้เข้มข้นและทรงพลังและล่าสุดก่อนหน้านี้กับ Head First อัลบั้มที่ลดชั้นเชิงของตัวเองเข้าสู่ความเป็นเมนทสตรีมที่น่าจะเสพย์ง่ายที่สุดแล้วของทางวง
ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วส่วนตัวค่อนข้างผิดหวังกับอัลบั้มชุด Head First ในระดับที่มากพอสมควรทีเดียว ถึงแม้ว่ามันจะหวานหูฟังง่ายและไม่ต้องปีนกะไดฟังแบบงานในสามอัลบั้มแรกแต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นงานที่ดูเหมือนลด ชั้นเชิง ของGoldfrappที่สูงเสียดฟ้าลงมาเล่นกับสิ่งที่พวกเขาอยู่เหนือระดับกว่าซึ่งแม้ว่าจะเล่นบนภาคดนตรีที่เป็นตัวของพวกเขาเองแต่เชื่อเถอะว่าแฟนๆบางท่านก็คงมีรู้สึกเหมือนกันว่า พวกเขาทำได้ดีกว่านี้มากแถมเนื้องานยังดูลวกและสำเร็จรูปกระป๋องกระแป๋งฉาบฉวยจนมันเป็นความเจ็บปวดสูงสุดที่มันเป็นอัลบั้มพะยี่ห้อ Goldfrapp หนึ่งในวงอิเล็คโทรนิคที่ดีที่สุดของโลก
ดังนั้นการกลับมาของพวกเขาในครั้งนี้กับ Tales Of Us ผลงานชุดล่าสุดสำหรับเราแล้วนับว่าเป็นอัลบั้มชี้เป็นชี้ตายนะคะว่า Goldfrapp นั้นยังขลังอยู่มั้ยหรือจะหมดมุขกลายเป็นอดีตไปแล้วซึ่งก็ขอบอกว่าโล่งอกโล่งใจเพราะส่วนตัว ประทับใจ ในเนื้องานของอัลบั้ม Tales Of Us ค่อนข้างมากซึ่งฟังปราดเดียวรอบแรกแล้วขอตัดสินเลยว่าอัลบั้มชุดนี้เป็นภาคต่อที่ย่ำรอยตามงานชุด Seventh Tree ที่มีความใกล้เคียงกันมากในแง่ของการนำเสนอดนตรี อาทิ งานโฟล์คโทรนิก้าอันจะบีทกีต้าร์อคูสติคมาทดลองกับอิเล็คโทรนิคและงานจำพวกดาวน์เทมโพ แอมเบี้ยนท์ยันดรีมพ็อพบางแทร็คทำให้คิดถึงงานทริพฮอพช่วงสมัยบุกเบิกของทางวงแต่ก็คงเรียกว่าทริพฮอพได้ไม่เต็มปากนักเนื่องจากแฝงตัวมากับซาวนด์จำพวกอคูสติค ออเครสตร้าและโพรแกรมมิ่งจางๆ ภาพรวมแล้วนับว่าเป็นอีกครั้งที่ทางวงสลัดงานอิเล็คโทรนิคยูโรบีทเปรี้ยวๆ ซินธิ์พ็อพเต้นระบำเก๋ๆและอิเล็คโทรแคลชแรงๆที่แฟนๆคาดหวังไปโดยสิ้นเชิงสู่งานที่เรียบง่ายแต่เข้มข้น ทรงพลังและมีมิติกรีดลึกแบบSeventh Treeจะต่างกันก็ตรงที่Tales Of Usเป็นด้านที่นำเสนอความหมองหม่นอนธกาลและลึกลับมากกว่าSeventh Treeที่ฉายด้านที่สว่าง สวยงามและบริสุทธิ์เรืองรอง
เปิดอัลบั้มด้วย Jo (4.5/5) ที่ชวนให้อดนึกถึงเพลงA&Eและแทร็คเปิดอัลบั้มของSeventh Treeไม่ได้ด้วยความที่เดินเรื่องมารูปแบบใกล้กันเลยทีเดียวกับงานอคูสติคโฟล์คโทรนิก้าเรียบง่ายผสานมนตร์เสน่ห์ของแอมเบี้ยนท์หลอนๆลอยละล่อง ฟังแล้วขนลุก Annabel (4.5/5) แค่ท่วงทำนองของกีต้าร์โปร่งคลอไปกับเสียงร้องที่ใสกังวานแต่เปี่ยมไปด้วยความดิบกร้าว หมองหม่นและลึกลับของเจ๊อลิสันแค่นี้ก็จับคนฟังอยู่หมัดแล้ว โหยหวนมาก! Ulla (4.5/5) ขึ้นต้นมาทำเอาคิดถึงงานหลอนๆแบบสมัย Felt Mountain เพียงแต่จากภาพรวมแล้วดูเป็นงานเชิงทดลองระหว่างดรีมพ็อพ อคูสติค ดาวน์เทมโพและออเครสตร้ามากกว่าจะเป็นแอมเบี้ยนท์หรือทริพฮอพที่เป็นเครื่องหมายการค้าของทางวง
มาที่ Thea (4.5/5) ที่ส่วนตัวคิดว่าออกแนวโต่งและมีจังหวะมากที่สุดจนฉีกทะลุออกจากภาพรวมของตัวงานมากที่สุดแล้วนับว่ามาสายเอ็กซ์เพอริเมนทัลที่สุดในอัลบั้มมีตั้งแต่ซินธิ์ตึ๊บๆที่อาละวาดฟาดสนั่น ทริพฮอพดุๆหม่นหมองลึกลับ แอมเบี้ยนท์โหยหวนก่อนจะเติมมิติพิสดารดารอีกด้วยสารพัดโพรแกรมมิ่งเสียดายที่ไม่ได้ใส่ความเป็นยูโรบีทหรือดิสโก้เปรี้ยวๆจนแรงไปเป็นอิเล็คโทรแคลชแบบที่ทางวงทำออกมาได้ดีเสมอ แค่โพรแกรมมิ่งที่เย้าหยอกกับบีทอคูสติคในช่วงต้นเพลงก็รู้ว่า Simone (4.5/5) ต้องเป็นอะไรที่ออกมาไม่ธรรมดาแน่ๆแม้จะเรียบง่ายแต่ก็เป็นงานสไตล์ทริพฮอพและดาวน์เทมโพบนความเป็นโฟล์คโทรนิก้าที่งดงามน่าดูชมเช่นเดียวกับ Stranger (4.5/5) แค่บีทอคูสติคเพราะๆกับความล่องลอยของแอมเบี้ยนท์ฉาบด้วยออเครสตร้าหวานๆกรีดเสียงสวยแค่นี้ก็ทำซะลอยออกนอกโลก ปิดอัลบั้มด้วย Clay (4.5/5) ที่ดนตรีสวยหวานบาดใจที่สุดโดยตัวเอกขอยกให้บีทอคูสติคและความเป็นงานคลาสสิคคัลครอสโอเว่อร์นิดๆจากออเครสตร้าสวยๆ อำลาผู้ฟังได้เพราะพริ้งอลังการสุดๆ
จะว่าไปคะแนนบวกไปบวกมาโดยรวมแล้วจะให้5เต็มก็ได้แหละเพียงแต่อาจจะเป็นเพราะว่าเราติดตามผลงานของพวกเขามาตั้งแต่ Felt Mountain ซึ่งตั้งแต่ชุดแรกยัน Seventh Tree เป็นงานที่เรียกได้ว่าแทบจะบี๊ตงานก่อนหน้าของตัวเองได้เกือบหมดไม่ก็มีทิศทางการนำเสนอที่น่าสนใจ ซึ่งเรารอคอยที่จะได้ฟังมาสเตอร์พีซอีกชุดจากพวกเขามากกว่าแต่อย่างไรก็ตาม Tales Of Us ชุดนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในงานระดับแนวหน้าของปี2013นี้อย่างแท้จริง