˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part5+6)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part5+6) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

http://www.facebook.com/hysteriaculture

“สุสานนักเรียน ตอนที่1 เสียงบรรเลงดนตรีไทยอาถรรพ์จากห้องนาฏศิลป์”

บทความ/นิยา่ยในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” (https://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture )เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ

หลิน,ดีไซน์และนาเดียเดินนำของหวานจากห้องคหกรรมมาให้เพื่อนๆที่กำลังจัดหอประชุมอย่างขมักเขม้น “ดาร์ลิ่งขาหิวมั้ยเอ่ย?” ดีไซน์รีบหอบขนมตรงไปหาฮาเวิร์ดพลางเช็ดหน้าเช็ดตาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย “เพื่อนๆค่ะขนมค่า” นาเดียยกถาดขนมขึ้นแล้วร่อนเอวกลางห้องประชุม พวกหนุ่มๆตรงเข้าไปหยิบพายคัสตาร์ดและโดนัทช็อคโกแล็ตตรงหน้าขึ้นมากินอย่างหิวโหย “พวกเธอตรงนั้นอย่าทำเลอะเถอะนะ!” ซิสเตอร์รจิตาตะโกนลงมาจากบนเวที “ซิสเตอร์คนนั้นดุจังเลยนะ” แอนดี้พูดขึ้นอย่างรำคาญ “อ๋อ อีรจิตา!!! โคตรเกลียดแม่งเลย อีดอกเนี่ย!” นาเดียด่าทำเอาเด็กผู้ชายทั้งกลุ่มปล่อยก๊าก “แต่ซิสเตอร์เขาจริงๆใจดีมากนะคะ แค่เป็นคนเสียงดังแค่นั้นเอง” หลินรีบแก้ต่างทำเอาฮโยมินสวนขึ้นทันควัน “บ้าอำนาจล่ะสิไม่ว่า อีนี่อยากจะขึ้นเป็นคุณแม่ฝ่ายปกครองจะตายพวกอาจารย์เขาพูดกัน” บรูโน่และคริสมาสต์หันขวับมาฟังเด็กสาวด้วยความสนใจ “แต่ฉันไม่ชอบซิสเตอร์ฝ่ายปกครองคนใหม่เลยบอกตรงๆนะ วันนั้นฉันกับชาวแก๊งค์เดินอยู่เฉยๆนางก็ตวาดบอกว่าพฤติกรรมของพวกเกิดมาผิดเพศอย่างพวกฉันทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง’” นาเดียพูดขึ้นด้วยความน้อยใจ “ไร้สาระน่ะสิไม่ว่า!!!” มาลินแทรกตัวเข้ามาในกลุ่มเด็กๆ “มิสอยากจะบอกว่าบางทีคำพูดอะไรที่มันไม่ดีที่มันบั่นทอนจิตใจเราฟังมันไว้และเก็บมันเป็นพลังเมื่อเรามีโอกาสก็พิสูจน์ตัวเองซะ มิสเห็นนาเดียมาตั้งแต่ม.1เธอกับเพื่อนๆที่เป็นแบบนี้ก็ไม่เห็นจะมีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายอะไรให้แก่โรงเรียนกลับกันพวกที่เป็นแบบเธอทุกคนเป็นคนมีน้ำใจกับเพื่อนๆและครูในโรงเรียน เป็นเด็กกิจกรรมและทำคุณประโยชน์ให้โรงเรียนหลายอย่าง คำพูดพวกนั้นฟังไว้แล้วก็โยนทิ้งให้มันย้อนกลับเข้าตัวคนพูดไปเลยเชื่อมิสนะ” มาลินยิ้มให้กับพวกลูกศิษย์ “พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่รู้และสามารถตัดสินในสิ่งที่เราเป็น” ซิสเตอร์เวโรนิก้าพูดพลางตบหลังให้กำลังใจนาเดีย “แต่ที่ฉันห่วงคือพวกเกิดมาปกติมากกว่า” มาลินหันไปมองดีไซน์ที่กำลังนั่งตักฮาเวิร์ดพลางป้อนขนมให้แฟนหนุ่ม

พวกเด็กๆร่วมรับประทานอาหารกับบาทหลวง ซิสเตอร์และพวกอาจารย์ที่อยู่ประจำก่อนที่จะเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน “เฮ้ย แอนดี้! เดี๋ยวเด่ะ!!!” ฮาเวิร์ดวิ่งตามมาคล้องคอแอนดี้ “นายมีอะไรอีกล่ะะ?” แอนดี้พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญ “ที่คุยกันไว้วันนี้ไงกล้าป่าว?” ฮาเวิร์ดหมุ่นตัวแอนดี้มาประจันหน้า “เฮ้ย! พวกมึงจะขึ้นไปชั้น8ตอนนี้จริงๆเหรอวะ?” บรูโน่ถามมีแววสนุกของน้ำเสียงขึ้นมาทันที “เออ เด่ะพวกมึงไปด้วยกันป่าว?แอนดี้กล้าป่าวว่ะแมนๆจะได้รู้ว่าตุ๊ดไม่ตุ๊ด” ฮาเวิร์ดตบตูดแอนดี้

“พวกผู้ชายนี่เนี่ยเล่นอะไรไม่รู้เรื่องกันเลยนะถ้าพวกมิสหรือซิสเตอร์จับได้จะทำยังไง?” ฮโยมินที่นั่งรอกับหลินอยู่โต๊ะด้านล่างบ่น “ยัยดีไซน์ก็เป็นไปด้วย เฮ้อ ชะนีอะไร?” กุ๊ยฉ่ายกับนาเดียเสริม “เออ เราเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะไปที่เรือนไทยกลางน้ำซะหน่อย” คำพูดของหลินทำเอานาเดียวี๊ดขึ้นมา “แก๊จะบ้าเหรอนังหลิน!!! มะ มะ ไม่กลัวผีเหรอแก?” นาเดียเสียงสั่น “นั่นสิ แล้วเธอจะไปทำไมอ่ะหลิน?” ฮโยมินถามแบบหวาดๆ “จำวันนี้ที่เราคุยกันในห้องคหกรรมได้มั้ย?ฉันคิดว่าอาจจะเป็นจริงก็ได้นะฉันเลยอยากจะไปกราบขอขมาครูในห้องนาฏศิลป์แทนฟารีดาเผื่อเธอจะอาการดีขึ้น” หลินยิ้มแล้วรีบเดินไป ด้วยความที่เธอเคยอยู่ชมรมนาฏศิลป์มายาวนานเธอจึงรู้สึกชินกับบรรยากาศวังเวงชวนหัวค่ำของโรงเรียนเช่นเดียวกับภาพที่ของเรือนไทยกลางน้ำที่ดูลึกลับชวนขนลุกในยามเกือบสองทุ่มกลับดูสวยงามและสงบนิ่งร่มเย็นสำหรับเธอ หลินคุกเข่าลงตรงหน้าห้องเรียน “ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรมครูแห่งนาฏศิลป์ไทยทุกท่าน ข้าแต่องค์พระพิราพร่างแบ่งภาคของพระอิศวรผู้ทรงเป็นบรมครูสูงสุดของวงการนาฏศิลป์ไทย ข้าพระพุทธเจ้ากราบขอขมาแทนฟารีดาเพื่อนของข้าพเจ้าที่ได้ล่วงเกินทุกท่านไปเพราะอารมณ์โกรธและความไม่รู้ กราบทูลขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดประทานอภัยให้เพื่อนของข้าพเจ้าหายดีโดยเร็วด้วยเถิด” หลินตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะลุกขึ้น “ขอให้หายเร็วๆนะฟารีดา” หลินหันหลังก่อนที่จะได้ยินเสียงประตูห้องเปิดแง้มออกมา “อ้าว เมื่อวานก็ล็อคดีแล้วนี่!” หลินเดินเข้าไปหมายจะปิดประตูแต่กลับได้ยินเสียงของหล่นอย่างแรงในห้อง เธอเดินเข้าไปในห้องเรียนแล้วเห็นชฎาสีทองอร่ามตั้งเปล่งประกายแม้แต่อยู่ในความมืดตรงกลางห้อง หลินค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสชฎาโดยที่เธอไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีร่างของเงาทะมึนขนาดใหญ่ค่อยๆคืบคลานเข้ามารายล้อมรอบตัวเธอ เด็กสาวที่ดวงตาว่างเปล่าค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบชฎาสีทองนั้นขึ้นมาสวมก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับวูบลง

“ไปเบียดแฟนเธอโน่นสิดีไซน์!” คริสมาสต์หันมาเอ็ดเพื่อนหญิงเบาๆด้วยความรำคาญ “ก็มันน่ากลัวนี่ยะ ไอ้นี่นิไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย!” ดีไซน์แหวใส่คริสมาสต์ ณ ขณะนี้เธอควงแขนทั้งฮาเวิร์ดและคริสมาสต์แน่นประหนึ่งขนมแฝดสามเกลอ “กลัวแล้วยูจะขึ้นมาทำไมวะ?” บรูโน่ที่เดินอยู่หลังสุดโดยมีแอนดี้และกาโต้เดินอยู่ข้างหน้าตะโกนขึ้นมา “บรูโน่มึงอย่าตะโกนสิวะเดี๋ยวมิสหรือซิสเตอร์ได้ยินก็ฉิบหายพอดี” ฮาเวิร์ดหันมาด่าบรูโน่ ตอนนี้พวกเขาเดินขึ้นมาถึงชั้นห้าซึ่งบรรยากาศยามค่ำคืนของตึกเรียนที่เซนต์มาบุสน่ากลัวไม่แพ้ความเงียบสงัดของสถาปัตยกรรมด้านนอกรวมถึงเรือนไทยกลางน้ำที่แสนจะวังเวง กาโต้รีบกระโดดเข้าไปเกาะแอนดี้เมื่อต้องเดินผ่านหน้าห้องน้ำชายไปยังบันไดที่4เพื่อขึ้นไปตรงกลางชั้น8 “กาโต้ไหวป่าว?” แอนดี้ถามเมื่อเห็นเพื่อนตัวสั่นผิดปกติ “ห้องน้ำชั้น5นี้ถูกปิดตายแอนดี้ ปีที่แล้วมีซิสเตอร์ฝ่ายปกครองเข้าไปผูกคอตาย ชื่อขนิษฐาน่ะ” ฮาเวิร์ดหันหลังไปหลิ่วตาให้แอนดี้ที่รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจจนรีบถอยห่างจากประตูห้องน้ำ “น่าสงสารซิสเตอร์นะ เป็นคนที่ใจดีมากๆผิดกับอีแก่สากุลลิบลับ” คริสมาสต์ยืนหยุดมองที่หน้าห้องน้ำพลางทำหน้าเศร้า ฮาเวิร์ดที่เห็นกาโต้ยืนตัวสั่นจู่นึกๆสนุกวิ่งเข้าไปผลักเด็กหนุ่มจนชนกับประตูห้องน้ำอย่างแรง “แฮ่!!!มึงกลัวเหรอกาโต้” ฮาเวิร์ดกับบรูโน่หัวเราะลั่นเมื่อเห็นกาโต้ร้องจ๊ากแล้วรีบคลานออกมาซุกตรงแทบเท้าแอนดี้ “ฮาเวิร์ดยูเล่นแรงไปนะดูสิเพื่อนกลัวจนตัวสั่นหมดแล้ว” ดีไซน์ตีที่แขนแฟนหนุ่มดังเพี๊ยะ “แหม ล้อเล่นน่าขำๆใช่มั้ยกาโต้?” แต่ดูเหมือนว่ากาโต้จะไม่ขำกับการล้อเล่นของฮาเวิร์ดในครั้งนี้เด็กหนุ่มนอนตัวสั่นพลางร้องไห้โฮออกมาชนิดควบคุมไม่ได้ แอนดี้ตกใจที่กาโต้ดูเหมือนจะมีอาการลมชักเด็กหนุ่มมือไม้หงิกงอนอนบิดตัวไปมาในท่าทางที่ดูน่าสยดสยอง “กลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว!!!!” กาโต้เริ่มชักกระตุกแล้วดูเหมือนจะอาเจียนออกมา “ไอ้เหี้ย!!! มึงเห็นมั้ยว่าเพื่อนกลัวขนาดไหน” คริสมาสต์ดันฮาเวิร์ดจนเซไปชนกับประตูห้องน้ำ แอนดี้และคริสมาสต์ก้มลงจับตัวกาโต้ไว้ “ไม่มีอะไรนะกาโต้ ไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัว ตั้งสตินะ” แอนดี้พูดกับกาโต้ ฮาเวิร์ดดูเหมือนจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกก่อนที่ประตูห้องน้ำจะสั่นอย่างแรงเหมือนถูกเขย่าจากด้านใน

ฮาเวิร์ดตกใจจนกระโดดออกมาจากหน้าประตูแทบไม่ทันในขณะที่ดีไซน์ร้องกรี๊ดแล้วกระโดดเกาะแขนฮาเวิร์ดเสียงกรีดร้องโหยหวนที่เย็นยะเยือกบาดไปยันขั้วหัวใจดังก้องออกมาจากด้านในห้องน้ำพร้อมกับประตูที่ถูกเขย่าและทุบอย่างแรงอีกครั้ง “จะมีใครอยู่ในนั้นได้ไง?ก็มันถูกปิดตายไปแล้ว” ดีไซน์เกาะแขนฮาเวิร์ดแน่นพลางชี้ไปที่แม่กุญแจขนาดใหญ่ด้านหน้าที่ขณะนี้หลุดออกมาเป็นเสี่ยงๆกองอยู่ที่พื้น เสียงทุบและเขย่าประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฮาเวิร์ดค่อยๆเอื้อมมือไปจะหมุนลูกบิด “อย่าเปิดนะ อย่าเปิด!!!!” กาโต้กรีดเสียงร้อง “เฮ้ย! อย่าเปิด” แอนดี้วิ่งเข้าไปดึงมือฮาเวิร์ดออกจากลูกบิด “อะไรของมึงวะแอนดี้?!!” ฮาเวิร์ดกระชากคอเสื้อแอนดี้ด้วยความไม่สบอารมณ์ “นี่พวกเธอคิดว่ากำลังทำอะไรกันอยู่หา?!!!!” ซิสเตอร์รจิตา ซิสเตอร์เวโรนิก้า มิสมาลินและมิสผกาเดินตรงจากลิฟท์มาทางพวกเด็กๆ โดยที่ซิสเตอร์รจิตาและมาลินมีทีท่าดูเหมือนจะโกรธจัด “เอ๋อ อาจารย์พวกผมเปล่านะครับจู่ๆแม่กุญแจก็หลุดออกมาเอง” ฮาเวิร์ดชี้มาทางประตูห้องน้ำชายที่ถูกปิดตายซึ่งก็ถูกคล้องแม่กุญแจไว้ปกติดีอย่างที่มันเคยเป็นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ด้านล่างกุ๊ยฉ่าย นาเดียและฮโยมินต้องเข้ามาร่วมรับชมรับฟังบรรยากาศอันน่าสลดหดหู่ที่มิสมาลินและรจิตาสวดกลุ่มเด็กที่ขึ้นไปด้านบนเสียยับ “ถ้ากาโต้เป็นอะไรขึ้นมาคอยดูนะฉันจะให้พวกเธอทุกคนซ่อมวิชาวิทยาศาสตร์ทั้งเทอม1เทอม2เลย!!!” มาลินเพิ่งจบบทเทศน์องค์ที่สามไปทำเอาดีไซน์ถึงกับยืนร้องไห้เพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปจริงๆ “หนูขอโทษค่ะอาจารย์ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว” แต่รจิตาสวนขึ้นทันควัน “พวกเธอรู้มั้ยว่าซิสเตอร์และมิสเสียใจแค่ไหนพวกเราเป็นห่วงเธอทุกๆคนแต่ดูสิไม่ได้เชื่อฟังกันเลย” แอนดี้รู้สึกผิดที่เห็นน้ำตาของทั้งมาลินและรจิตาในขณะที่มิสผกาดูเหมือนว่ากำลังนั่งรับชมรับฟังการแสดงละครเวทีที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดชนิดไม่ปิดบังอาการและรอยยิ้มใดๆ “พวกเธอที่ขึ้นตึกทุกคนต้องมาเรียนคำสอนทุกๆวันอาทิตย์ตลอดทั้งเทอมนี้ มีใครคัดค้านการทำโทษนี้มั้ย?” รจิตาถามเด็กๆทุกคนที่ก้มหน้ายอมรับการตัดสินโทษ “ว่าแต่พวกเธอขึ้นไปทำไมกันคะลูกๆบนตึกน่ากลัวจะตาย?” ผการีบแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อมีโอกาสงาม “ผมจะขึ้นไปดูให้เห็นกับตาน่ะครับ เอ่อ คือผมเห็นผู้หญิงสวมชุดขาวยืนบนชั้น8หลายครั้งแล้ว ผมอยากดูให้เห็นกับตาว่ามีใครบนนั้นจริงๆมั้ย?” แอนดี้สารภาพทำเอาผกาปิดปากรวมถึงมาลินกับรจิตาที่หน้าเริ่มถอดสี

“ตายแล้ว!!! นี่แสดงว่าจะมีคนตายอีกแล้วเหรอเนี่ย?” ผกาแสร้งทำเป็นแกล้งหลุดพูดออกมาก่อนจะหันไปสบตามาลินและรจิตาเป็นเชิงขอโทษ “ชอบนักนะเรื่องที่พ่ออธิการห้ามพูดให้เด็กกลัวนี่!” รจิตาดุ “แต่ถึงขั้นนี้เราคงปิดเด็กๆไม่ได้แล้วล่ะค่ะ” ซิสเตอร์เวโรนิก้าเดินเข้ามาในห้องพักครูด้านล่าง “กาโต้เป็นยังไงบ้างคะ?” มาลินถามถึงอาการของลูกศิษย์ด้วยความเป็นห่วง “ไข้ขึ้นสูงมากและเพ้อ ซิสเตอร์ว่ากาโต้คงจะเจอกับอะไรที่น่าตกใจขนาดหนัก นี่พ่อเขาเพิ่งมารับไปโรงพยาบาลเอง” แอนดี้ คริสมาสต์และบรูโน่พร้อมใจกันหันมาทำตาเขียวใส่ฮาเวิร์ด “อะไรเล่าทำไมต้องมาโทษกูคนเดียวด้วย?!!!” ฮาเวิร์ดโวยขึ้นมาแต่มาลินหันมาแว๊ดใส่ “พอแล้ว!!! ที่ยืนตรงนั้นผิดกันทุกคนแหละรู้ไว้ด้วยไม่ต้องโทษกันไปมา” ซิสเตอร์รจิตามองแอนดี้ด้วยความเป็นห่วง “ซิสเตอร์คงต้องบอกความจริงว่าผีผู้หญิงที่ลูกเจอเขาว่ากันว่าเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ ทุกครั้งที่มีคนเห็นเธอจะมีใครสักคนในโรงเรียนตาย” รจิตาตัดสินใจบอกความจริงแอนดี้ “นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะ ซิสเตอร์ว่าเราควรจะให้ลูกๆกลับบ้านกันได้แล้ว” เวโรนิก้าเสนอ “ตรงกลับบ้านกันทุกคนเลยนะอย่าก่อเรื่องอะไรกันอีกโดยเฉพาะเธอนะ ฮาเวิร์ด!!!” มาลินกำชับ

ระหว่างทางเดินออกจากโรงเรียนแอนดี้เงียบสนิทมาตลอดทางเขานึกทบทวนถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่รจิตาบอกพร้อมกับรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ “จะเป็นตัวเขาเองหรือจะเป็นใครสักคนที่เดินอยู่กับเขารึเปล่านะ?” เด็กหนุ่มคิดโดยไม่ได้สนใจฟังเสียงของดีไซน์ที่กำลังเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าห้องน้ำชายชั้น5ให้พวกนาเดียฟัง “ตายแล้ว!!! แล้วหลินล่ะ? นี่ลืมไปสนิทเลยนะเนี่ย” ฮโยมินโพล่งขึ้นมา “ป่านนี้กลับบ้านไปแล้วล่ะแก” นาเดียเสริมด้วยความเป็นห่วง “แต่ฉันว่าน่าจะไปดูสักหน่อยนะแก โทรไปก็ไม่มีใครรับสาย” กุ๊ยฉ่ายเสนอด้วยความเป็นห่วง “ระวังให้ดีล่ะกุ๊ยฉ่าย” บรูโน่ทำเสียงผีล้อเลียนก่อนที่จู่ๆจะมีเสียงดนตรีไทยดังขึ้นมาจากเรือนไทยกลางน้ำ “ฉะ ฉะ ฉันว่าหลินคงกลับบ้านไปแล้วล่ะแก” กุ๊ยฉ่ายรีบเปลี่ยนคอนเส็ปท์ “ป่านนี้ใครมาเล่นดนตรีไทยอีกนะตั้งแต่เมื่อวานแล้ว?” ดีไซน์พูดด้วยความสงสัย


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ฮาเวิร์ดจูงดีไซน์เดินตรงมาที่เรือนนาฏศิลป์กลางน้ำโดยมีฮโยมิน นาเดียและกุ๊ยฉ่ายตามมาติดๆ “I ก็สงสัยมานานแล้วว่าที่เขาร่ำลือกันมันอะไรกันแน่จะได้รู้กันสักทีว่าผีหรือคน” ทั้ง5คนเดินเข้าไปถึงกลางเรือนที่เป็นลานโล่งๆว่างๆในขณะเดียวกันเสียงดนตรีไทยปริศนาก็ยังไม่มีท่าที่ว่าจะหยุดลง ฮาเวิร์ดและดีไซน์แยกตัวไปทางปีกขวาของเรือนที่เป็นโรงเก็บเครื่องดนตรีไทยส่วนอีกสามคนเสนอตัวที่จะไปทางปีกซ้ายซึ่งเป็นห้องเรียน “It’s weird! ห้องนี้เครื่องดนตรีไทยตั้งเยอะแยะแต่ไม่ยักกะมีคนเล่น” ดีไซน์พูดกับฮาเวิร์ดทั้งคู่เดินจนรอบห้องก่อนที่ฮาเวิร์ดจะฉวยโอกาสนี้ดึงตัวดีไซน์มาจูบ “อยากทำแบบนี้ในเรือนกลางน้ำมานานละ มีเซ็กส์กันที่โรงเรียนตื่นเต้นดีออก” ฮาเวิร์ดไซร้ซอกคอของดีไซน์ก่อนจะดึงไอโฟนขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นที่ระลึก อีกห้องหนึ่งกุ๊ยฉ่าย นาเดียและฮโยมินเดินกันจนทั่วแล้วไม่มีวี่แววของหลินหรือใครสักคน “สงสัยคนเล่นดนตรีไทยอยู่กันอีกห้องมั้ง? ก็บอกแล้วว่าห้องนั้นเก็บเครื่องดนตรีไทยไว้เยอะ” นาเดียพูดเสียงสั่นๆ “ไปเถอะแก” กุ๊ยฉ่ายเรียกฮโยมิน “เออ เดี๋ยวๆกำลังสวยอยู่” ฮโยมินส่องกระจกบานใหญ่ระหว่างตู้โชว์เครื่องลายครามโดยไม่ได้สังเกตุถึงสีหน้าของเพื่อนทั้งสองที่เจื่อนลงๆเรื่อยๆ “กรี๊ดดดดด” นาเดียกับกุ๊ยฉ่ายรีบวิ่งออกจากห้องโดยไม่คิดชีวิต “อะไรของพวกมันวะ? คิดเหรอว่าแกล้งแค่นี้ฉันจะบ้าไปกับพวกแก ไม่สำเร็จหรอกตุ๊ด” ฮโยมินหันกลับมาที่กระจกก่อนที่จะผงะกับภาพของนางรำนับสิบที่กระจายตัวรำกันทั่วทั้งห้องรายล้อมตัวเธอ

เสียงกรีดร้องของฮโยมินทำเอาดีไซน์กับฮาเวิร์ดที่กำลังแลกลิ้นกันนัวถึงกับตกใจจนเซไปชนระนาดขนาดใหญ่บนเวทีล้มลงมาจนลูกระนาดขาดสะบั้น “กรี๊ดดด!!!!” ดีไซน์กรี๊ดเมื่อเห็นชิ้นส่วนกระดูกของคนหล่นกระจายออกมาจากใต้ระนาด “นี่มันอะไรกันน่ะฮาเวิร์ด? นั่นหัวกะโหลกคนนี่!” ดีไซน์พูดตัวสั่น ฮาเวิร์ดถ่ายภาพหัวกะโหลกไว้ก่อนทั้งคู่รีบถอยออกจากสถานการณ์อันชวนขนลุกเช่นนี้ทั้งคู่รีบวิ่งออกจากเรือนกลางน้ำผ่านตรงออกจากโรงเรียนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ย้อนกลับมามองสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจับตาดูพวกเขาอยู่ “หลิน” ในชุดนางรำสวมชฎาสีทองอร่ามเดินมาจนถึงกลางเรือนก่อนจะร่ายรำด้วยท่วงท่าอันวิจิตรงดงามบนใบหน้าที่โศกเศร้าว่างเปล่าประดุจไร้วิญญาณเคียงคู่กับเสียงบรรเลงของดนตรีไทยที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งตลอดทั้งค่ำคืน

ช่วง9โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น หอประชุมของเซนต์มาบุสแน่นขนัดไปด้วยบรรดาผู้ปกครองของระดับชั้นมัธยมปลายที่จะเข้ามาร่วมรับฟังแผนการเรียนการสอนหลักสูตรล่าสุดของระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เป็นไปตามกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการและเครือซาเลเซียน กิจกรรมต่างๆของทางโรงเรียน พบปะพูดคุยกับครูประจำชั้นตลอดจนชำระค่าเทอม “หนูหลินหายไปไหนนะวันนี้เห็นว่าจะมาช่วยอาจารย์เป็นฝ่ายต้อนรับผู้ปกครองนี่?” ซิสเตอร์เวโรนิก้าพูดอย่างประหลาดใจเพราะปกติหลินไม่ใช่นักเรียนที่จะเหลวไหลหรือบิดพลิ้วเมื่อทางโรงเรียนของความร่วมมือให้ร่วมกิจกรรม นาเดียกับกุ๊ยฉ่ายพาผู้ปกครองของทั้งสองเข้าไปในห้องประชุมทั้งคู่ดูซีดเซียวเนื่องจากพบเจอเรื่องที่น่าตกใจเมื่อคืน เช่นเดียวกับฮาเวิร์ดและดีไซน์ที่วันนี้ทั้งสองดูเงียบกว่าปกติจนเพื่อนๆผิดสังเกตุ

“ยูสองคนเป็นอะไรวะ?” บรูโน่ถามหลังจากที่พวกเด็กๆเดินออกมาจากหอประชุมปล่อยให้ผู้ปกครองรับประทานอาหารว่างและเตรียมพร้อมสำหรับการประชุม “ปะ เปล่าแค่เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน!” ฮาเวิร์ดกระทุ้งสีข้างดีไซน์ไม่ให้พูดอะไรออกไป “จัดหนักแบบนี้ระวังติดลูกเข้าสักวันนะโว้ย!” คริสมาสต์แซวแต่สองคนก็นิ่งเงียบผิดจากเคยที่ต้องโวยวายไล่ทุบตีเขา แอนดี้ที่เพิ่งพาพ่อไปส่งที่หอประชุมเข้ามานั่งสมทบ “พ่อแม่ของหลินบอกว่าหลินหายไปจากบ้าน ไปค้างบ้านใครรึเปล่า?” แอนดี้ถามและดูเหมือนจะเจาะจงไปที่นาเดียกับกุ๊ยฉ่าย “เออ คือเมื่อคืนเราสองคนไปที่เรือนกลางน้ำก็ไม่เจอหลินค่ะ เจอแต่ เอ่อ…” กุ๊ยฉ่ายตะกุกตะกัก “ผี!!!” นาเดียแผดเสียงขึ้นมาพร้อมร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ทั้งคู่เล่าเรื่องให้เพื่อนทั้งโต๊ะฟังกับภาพนางรำนับสิบในกระจกที่พวกเขาเจอเมื่อคืนจนทำให้วันนี้ฮโยมินจับไข้มาไม่ได้ “บ้าน่าเมื่อคืนพวกเราไม่เห็นเจอใครหรืออะไรเลย” ฮาเวิร์ดพูดทำเอากุ๊ยฉ่ายกับนาเดียหน้าซีด “แล้วถ้าอย่างนั้นใครล่ะคะที่เล่นดนตรีเพราะในห้องเรียนที่พวกเราเข้าไปก็ไม่มีใครสักคนเลย!!!” ดีไซน์ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยิน

ฮาเวิร์ดลากดีไซน์มาแถวๆหลังโรงพละก่อนที่จะเปิดคลิปที่เขากับดีไซน์จูบกันในห้องเก็บเครื่องดนตรีไทยเมื่อคืน ทั้งคู่ตาเบิกโพลงเมื่อเห็นภาพของเงาดำๆหลายร่างที่ปรากฏลักษณะรูปร่างเป็นคนอย่างชัดเจนกำลังนั่งเล่นเครื่องดนตรีไทยโดยรอบตัวของเขาทั้งสองในวิดีโอคลิปมีภาพของการร่ายรำคล้ายการแสดงโขนผ่านตัวของเขาทั้งสองไปมา “ฮาเวิร์ด!!! ดีไซน์ไม่อยากเป็นตัวแทนรำไทยวันไหว้ครูอีกแล้วดีไซน์ไม่อยากไปเรียนที่ห้องนั้นอีกแล้ว ดีไซน์กลัว” เด็กสาวโผเข้ากอดแฟนหนุ่มที่ยังคงยืนตกตะลึงกำไอโฟนแน่นทำอะไรไม่ถูก

คริสมาสต์กำลังสนุกกับการอัพภาพที่เขาและเพื่อนๆมาจัดห้องประชุมเมื่อวาน “เดี๋ยวจะแท็คทุกท่านไปนะคร้าบ” เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เชี่ย!!!” คริสมาสต์สบถก่อนจะเงยหน้ามองแอนดี้หวาดๆ “มีอะไรเหรอคริสมาสต์?” แอนดี้ถามแบบตระเตรียมใจไว้ก่อนว่าคงจะต้องไม่เป็นเรื่องชวนยิ้มในขณะที่บรูโน่แย่งไอโฟนคริสมาสต์มาดู “แอนดี้ยูไม่มีหัวอ่ะ! ไอโฟนมึงแม่งกากว่ะคริส” แอนดี้หยิบไอโฟนไปดูเขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรแต่ก็เป็นเรื่องผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอไม่ใช่เหรอ “ที่ไทยเขาถือว่าเป็นลางไม่ดีค่ะ” นาเดียกับกุ๊ยฉ่ายหยิบไปดู “อุ๊ย!!! นี่เด็กห้องไหนอ่ะ น่ารักจัง?” นาเดียกับกุ๊ยฉ่ายที่เลื่อนดูรูปในอัลบั้มเรื่อยๆกรี๊ดกร๊าดพลางส่งมือถือให้คริสมาสต์ที่หยิบมาดูแล้วส่ายหน้า “เอ๊ะ! เราถ่ายรูปแอนดี้กับเด็กห้องอื่นด้วยเหรอวะเมื่อวาน?” คริสมาสต์เกาหัวแกรกๆ

เลวรำพึงที่ตื่นสายเกือบครึ่งชั่วโมงรีบเดินลงมาจากหอพักซิสเตอร์มุ่งตรงสู่หอประชุมของเซนต์มาบุสอย่างรวดเร็ว “แม่งเอ๊ย เมื่อคืนกูไม่น่าตามไปดราม่ากับกระทู้โน้นกระทู้นี้เสียดึก” เธอเดินบ่นกับตัวเองพลางหัวเราะถึงเรื่องการสับล็อคอินไปป่วนปั่นตามกระทู้ต่างๆเมื่อคืนจนเกือบสว่างคาตา “อู๊ยๆๆๆ” เลวรำพึงบิดตัวไปมาเนื่องจากเธอปวดปัสสาวะอย่างหนักเพราะเธอตื่นมาก็กระโดดเข้าล้างหน้าฉีดน้ำหอมแล้วรีบบึ่งลงมาจาหอนอนทันที “ทำยังไงดีๆ” เลวรำพึงหันซ้ายหันขวาแล้วเห็นเรือนนาฏศิลป์กลางน้ำพอดี “เจ้าประคู้ณณณลูกช้างจะราดแล้วขอประทานอภัยจริงๆเจ้าค่ะ” เลวรำพึงยกมือไหว้แล้วรีบวิ่งตรงเข้าไปที่เรือนกลางน้ำด้วยความที่ข้าศึกใกล้จะบุกถึงประตูด่านสุดท้ายเต็มที เธอเดินเข้าไปในตัวเรือนพลางหันซ้ายหันขวาดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นก่อนจะถอดกางเกงในลงมากองที่หัวเข่าแล้วนั่งย่องๆปล่อยสิ่งที่อัดอั้นลงตรงกลางเรือนไทย “เมี๊ยว!” เธอครางเสียงแมวก่อนที่จะหัวเราะคิกคักด้วยความขบขันในวีรกรรมทำไปได้ของตัวเธอเอง ในขณะเดียวกัน ณ ห้องประชุมคณะนักแสดงที่สวมหัวโขนที่พักอยู่ในห้องรับรองหลังเวทีก็ต่างล้มลงดิ้นพราดๆทุรนทุรายประหนึ่งกำลังถูกไฟร้อนๆคลอกแผดเผาทั้งเป็นโดยที่ไม่มีใครรับรู้ ก่อนที่ทุกคนจะลุกขึ้นด้วยแววตาที่ปราศจากวิญญาณ

เลวรำพึงรีบเดินทำไม่รู้ไม่ชี้ชมนกชมไม้ออกมาจากเรือนนาฏศิลป์มุ่งตรงสู่หอประชุมโดยที่เธอรีบกระวีกระวาดเข้าไปกราบสวัสดีและรองรับผู้ปกครองที่มาช้ากว่าเวลากำหนดประชุม “เชิญเลยค่ะ ทางนี้เลยค่” เลวรำพึงเดินนำผู้ปกครองทุกคนมาที่จุดลงทะเบียนซึ่งขณะนี้ผกากับซิสเตอร์สากุลวดีทำหน้าที่รับผิดชอบอยู่ “มิสปิยะวดี ทำไมเธอถึงมาสาย?” สากุลวดีเอ็ดหลังจากที่ผู้ปกครองทุกคนเดินเข้าห้องประชุมหมดแล้ว “คุณรู้ได้ยังไงล่ะว่าเรามาสาย? ฉันก็ต้อนรับผู้ปกครองด้านล่างอยู่” เลวรำพึงย้อน “ทำผิดแล้วยังไม่ยอมรับ ไร้จรรยาบรรณสิ้นดี คอยดูนะฉันจะรายงานพ่ออธิการ” สากุลวดีตวาดเสียงเข้ม “มึงอยากฟ้องก็ไปฟ้องเลย กูโดนไล่ออกกูก็นอนถอนหมอยอยู่ที่บ้านก็ได้แต่ถ้ากูออกกูก็จะเอามึงออกด้วย มึงอยากรายงานก็รายงานไปเลยกูก็จะรายงานพ่อจรัลว่าตอนดึกๆมึงชอบพานักเรียนประจำลอบออกมาเหมือนกัน แล้วถ้ากูออกมึงอย่าเดินไปนอกโรงเรียนนะเพราะข้างในมึงทำกูได้ ข้างนอกกูก็ทำมึงได้เหมือนกัน” เลวรำพึงแผดเสียงใส่จนสากุลวดีลุกขึ้นจะพุ่งเข้าใส่เธอที่พร้อมจะตั้งรับแต่ถูกมาลินที่เพิ่งเดินออกมากันไว้ ในขณะที่ผกาดูเหมือนจะรื่นเริงกับข่าวสดข่าวเด็ดที่เธอแทบรอเวลาจะขยายความให้เพื่อนครูบาอาจารย์ฟังหลังเลิกประชุมไม่ไหว

ขณะนี้อุไรได้ขึ้นมากล่าวสวัสดีผู้ปกครองก่อนที่จะเชิญบรรดาผู้ปกครองรับชมการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอน “ศึกไมยราพ” โดยคณะการแสดงโขนชื่อดังคณะหนึ่งที่ทางเซนต์มาบุสเชิญมา “กราบสวัสดีค่ะท่านผู้ปกครองที่เคารพทุกๆท่าน ดิฉันมิสอุไรอาจารย์หัวหน้าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่3และเป็นอาจารย์สอนนาฏศิลป์ประจำเซนต์มาบุส วันนี้มีความยินดีที่จะขอต้อนรับท่านผู้ปกครองทุกท่านด้วยการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอน ‘ศึกไมยราพ’ การแสดงโขนถือเป็นหนึ่งในศาสตร์นาฏศิลป์ชั้นสูงที่เผอิญครอบครัวของดิฉันเองมีโอกาสได้รับเกียรติเป็นผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมายาวนานมาก สายเลือดของนาฏศิลป์ไทยที่ไหลเวียนในตัวดิฉันมาโดยตลอดทำให้ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะที่ได้มาเป็นอาจารย์วิชานาฏศิลป์ที่นี่ ถ่ายทอดศิลปะอันล้ำค่าและวิจิตรงดงามนี้ให้ลูกๆเซนต์มาบุสได้ซาบซึ้งและหากโชคดีก็คงจะมีสักเล็กน้อยที่มีใจรักเพื่อที่จะยืนหยัดเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมนี้ให้มีลมหายใจสืบต่อไป ในยุคที่ทุกวันนี้สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากๆและกลายเป็นยุคที่เยาวชนไทยกำลังวิ่งตามเทคโนโลยีและตกเป็นทาสของวัฒนธรรมตะวันตกตลอดจนมีใจหลงใหลในศิลปะของชนชาติอื่นจนมองข้ามถึงความสำคัญของนาฏศิลป์ไทยไป ดิฉันจึงกราบขอโอกาสนี้ในการเชิญชวนผู้ปกครองทุกท่านหากบุตรหลานของท่านมีใจรักที่จะร่วมเป็นหนึ่งในการรักษาและสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของเราโปรดแจ้งความประสงค์มาทางชมรมนาฏศิลป์ไทยของเซนต์มาบุสได้ในทุกๆเมื่อค่ะ ทางโรงเรียนของเรายินดีที่จะร่วมเป็นหนึ่งในการปลูกฝังให้เยาวชนภายใต้รั้วน้ำเงิน-ขาวของเรามีใจรักและอุทิศตัวเพื่อสืยทอดศิลปะนี้” เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่ออุไรพูดจบก่อนที่การแสดงจะเริ่มต้นขึ้น

ที่โรงพยาบาลฟารีดาสะดุ้งตืนขึ้นมาพร้อมกับกรีดร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างๆหนึ่งกำลังร่ายรำอยู่กลางห้อง “อ้าว!!! ตื่นแล้วหรือจ๊ะฟารีดา?” หลินหันมายิ้มให้กับเพื่อนสาวแต่แทนที่ฟารีดาจะคลายความกลัวลงเธอกลับตัวสั่นมากขึ้นและถอยหลังไปจนชิดขอบเตียง แววตาที่หลินมองมาที่เธอนั้นเยือกเย็นและอำมหิตไม่เหมือนกับแววตาที่ใสซื่อ อบอุ่นและเป็นมิตรแบบหลินคนเดิม “เธอมาทำไมหลิน?” ฟารีดาถามเสียงสั่น “มาเยี่ยมแล้วก็มาลาค่ะ!” หลินตอบสั้นๆด้วยรอยยิ้ม เธอหยิบบางสิ่งออกจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโซฟา “คืนนี้เวลาเที่ยงคืน” หลินที่หันหลังให้ฟารีดาพูดขึ้นด้วยเสียงแหบห้าวดังกังวานชนขนลุกของผู้ชาย “กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วย!!!!” เธอหันมาตะคอกด้วยรอยยิ้มอำมหิต ใบหน้าที่ขาวและเรียบเนียนของเธอมีรอยแตกร้าวเหมือนกันหัวโขนที่ถูกฟารีดาเขวี้ยงจนกระจาย ฟารีดากรีดร้องอย่างความคลุ้มคลั่งกับภาพที่เห็น


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com