˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part7+8)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part7+8) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

http://www.facebook.com/hysteriaculture

“สุสานนักเรียน ตอนที่1 เสียงบรรเลงดนตรีไทยอาถรรพ์จากห้องนาฏศิลป์”

บทความ/นิยา่ยในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” (https://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture )เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ

การแสดงโขนบนเวทีหอประชุมที่เซนต์มาบุสดำเนินไปอย่างร้อนแรงด้วยท่วงท่าการร่ายรำอันวิจิตรที่สร้างสุดยอดนาฏศิลป์สมบูรณ์แบบขึ้นมาบนเวทีที่แม้แต่ตัวของอุไรเองยังรู้สึกประหลาดใจเพราะแม้แต่ตลอดชีวิตของเธอยังไม่เคยชมการแสดงโขนที่ไหนที่จะแสนติดตราตรึงใจขนาดนี้ทุกองค์ประกอบบนเวทีเปี่ยมไปด้วยความละมุนละไมประหนึ่งเป็นการร่ายรำที่เนรมิตออกมาจากก้นบึ้งของวิญญาณ บาทหลวงจรัลดูเหมือนจะพึงพอใจที่ผู้ปกครองทุกคนนั่งนิ่งประหนึ่งถูกสะกดตลอดเวลาของการแสดงอันน่าหฤหรรษ์นี้แต่แล้วเมื่อถึงเวลาของการปะทะกันระหว่างทัพพระรามและทัพยักษ์นักแสดงทุกคนบนเวทีต่างหบิบดาบขึ้นมาฟาดฟันกันอย่างรุนแรงหนักหน่วงสมจริงสมจังชนิดที่ทำเอาเลวรำพึงกับผกาที่นั่งชมอยู่ด้านล่างต่างหวีดร้อนด้วยความตกใจ บรรยากาศบนเวทีเปรียบเสมือนสมรภูมิสงครามย่อยๆนักแสดงทุกคนบนเวทีต่างฟาดฟัรกันอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนกับจะฆ่ากันจริงๆ “กรี๊ดดด” เสียงผู้ปกครองผู้หญิงในหอประชุมหลายคนร้องเมื่อตัวแสดงฝ่ายยักษ์ตัวหนึ่งถูกฟันเสียจนคอขาดเลือดกระฉูดเต็มเวที “สมจริงสมจังมากๆ” ซิสเตอร์เวโรนิก้าอุทานด้วยความตกตะลึง ก่อนที่เสียงกรีดร้องและปรบมือด้วยความประทับใจจะค่อยๆกลายเป็นเสียงกรีดร้องที่มาจากความสยองขวัญเมื่อตัวแสดงฝ่ายพระรามคนหนึ่งถูกแทงและกรีดแหวกหน้าท้องออกมาชำแหละให้เห็นเครื่องในก่อนที่ตัวยักษ์ทุกตัวจะมารุมล้อมกันกินตับไตไส้พุงสดๆเหม็นคาว “นี่มันอะไรกันนี่มิส?!” พ่ออธิการยืนขึ้นด้วยความตกใจก่อนหันไปทางอุไรที่หน้าซีดเผือด ผู้ปกครองหลายคนพากันวิ่งกรูออกไปจากหอประชุมเพราะความหวาดกลัวจนเกิดเป็นการเบียดเสียดล้มทับกันพัลวัน ในขณะที่นักแสดงด้านบนก็เดินหน้าฆ่าฟันกันจนล้มตายคนแล้วคนเล่า

นักแสดงสวมหัวโขนยักษ์ที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายบนเวทีท่ามกลางศพระเนระนาดในสภาพที่สุดแสนจะสยดสยองกำลังยืนชี้นิ้วมาที่เลวรำพึงที่กำลังยืนตกตะลึงอยู่ด้านล่างก่อนจะกระโดดพุ่งลงมาด้านล่างเวทีแล้วคว้าดาบไล่ฟันครูสาวที่กรีดร้องพลางวิ่งหนีพัลวันเพื่อเอาชีวิตรอด ซิสเตอร์สากุลวดีที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้เธอตัวเกร็งและกำมือแน่นก่อนจะแผดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบอกชอบใจกับภาพความหายนะที่เธอเห็นบนเวทีเธอหัวเราะอย่างเสียสติอยู่บนเก้าอี้กับภาพของเลือดและความตายที่เธอประทับใจเธอกรีดร้องก่อนจะชักดิ้นชักงอตาค้างอยู่บนเก้าอี้เนื่องจากเลือดที่สูบฉีดหัวใจอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นสุขสมอย่างถึงขีดสุดที่เธอได้รับ

เลวรำพึงวิ่งหลบชายสวมหัวโขนที่วิ่งตามพร้อมตวัดดาบแกว่งไกวหมายจะปลิดชีพเธอ หญิงสาวล้มลงตรงขั้นบันไดชั้นบนสุดก่อนที่ชายสวมหัวโขนยักษ์ที่กำลังร่ายรำตามมาจะเงื้อดาบขึ้นหมายที่จะฟันลงกลางหัวของเธอแต่แล้วชายคนนั้นก็ยืนค้างพลางชักกระตุกอย่าวแรงเมื่อขาของเขามากระทบถูกขาของเลวรำพึง เลวรำพึงมองที่ขาของตัวเองที่มีเลือดไหลเยิ้มออกมาก็พอจะเข้าใจทันที วันนี้เธอมีประจำเดือนและระหว่างที่เธอวิ่งหนีจนล้มลงนั้นรอบเดือนของเธอ (ที่ปกติมาเยอะอยู่แล้ว) คงไหลลงมาเปรอะเปื้อนที่ขา “ต่อให้คุณไสยมนตร์ดำหรือแม้แต่ภูติผีถ้าเจอกับของต่ำมันต้องคลายอิทธิฤทธิ์ไปทันทีทันใด” เลวรำพึงท่องกับตัวเองเมื่อนึกถึงข้อความในกระทู้เรื่องผีๆสางๆที่เธอไปดราม่ามาเมื่อวาน หญิงสาวฉวยโอกาสนี้ลุกขึ้นในขณะที่เจ้าของร่างสวมหัวโขนที่เพิ่งได้สติทิ้งดาบลงพลางถามเธอว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่เลวรำพึงพุ่งตรงเข้าผลักร่างของชายคนนั้นอย่างแรงจนร่างของเขาลอยตกลงมากลิ้งอยู่หลายตลบจนกระแทกกับพื้นคอหักหมุนได้รอบสิ้นใจอยู่แทบเท้าสากุลวดีที่ยังคงชักกระตุกอยู่บนเก้าอี้ หัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้และดวงตาถลนกลอกไปมาอย่างวิปลาส

งานประชุมผู้ปกครองในวันนั้นต้องยกเลิกเช่นเดียวกับที่การเรียนการสอนในวันจันทร์เนื่องจากตำรวจต้องการปิดพื้นที่บริเวณหอประชุมเพื่อเก็บหลักฐาน ข่าวถูกรายงานออกไปว่า “เป็นเหตุการณ์สยดสยองระหว่างแสดงโขนที่เบื้องต้นสันนิษฐานว่ามาจากการใช้สารเสพย์ติดของนักแสดง” เนื่องจากเบื้องต้นพบสารเสพย์ติดประเภทหลอนประสาทในกระเป๋าของพวกนักแสดง ซึ่งข่าวนี้ทำให้ผู้ปกครองหลายคนยังคงอุ่นใจที่จะฝากบุตรหลานให้เรียนต่อในเซนต์มาบุสในขณะที่ส่วนหนึ่งก็ยืนยันว่าจะขอให้ลูกๆของต้นย้ายทีเรียน แอนดี้เป็นหนึ่งในคนที่ยังไม่แน่ใจกับคำตอบซึ่ง ณ ขณะนี้พ่อของเขาเปิดโอกาสให้แล้วว่าถ้าเ่ไม่สบายใจที่จะเรียนในเซนต์มาบุสพ่อของเขาก็จะใช้เส้นสายฝากให้เข้าเรียนที่ รร นานาชาติใกล้บ้าน ในตอนแรกเขาอยากจะขอพ่อย้ายโรงเรียนแต่ภาพของเพื่อนๆและครูบาอาจารย์ก็ผุดขึ้นในหัวของเขา เด็กหนุ่มรู้สึกรักเพื่อนใหม่ของเขาและความอบอุ่นที่เขาได้รับในโรงเรียนนี้เชื่อได้เลยว่าชีวิตนี้คงหาจากที่โรงเรียนไหนอีกไม่ได้ แอนดี้เปิดเฟซบุ๊คส์ดูอัลบั้มภาพที่คริสมาสต์แท็คเขามามันเป็นภาพวันที่พวกเขาไปช่วยจัดหอประชุมแต่แล้วเด็กหนุ่มก็สะดุดกับภาพหนึ่งซึ่งเป็นภาพของเขายืนถ่ายคู่กับคิรินทร์ซึ่งแอนดี้รู้สึกงงว่าเขากับคิรินทร์ไปถ่ายภาพร่วมกันตอนไหนแต่แล้วแอนดี้ก็อดอมยิ้มไม่ได้ เขาเซฟภาพที่เขาถ่ายคู่กับคิรินทร์มาเป็นภาพวอลเปเปอร์รวมถึงแคปภาพบนมือถือเพื่อที่เขาจะสามารถเปิดภาพเพื่อนตี๋ของเขาดูเมื่อใดก็ได้ที่เขาคิดถึง

มาลิน,ผกาและเลวรำพึงผลัดเวรมาเฝ้าดูอาการโรคหัวใจของซิสเตอร์สากุลวดีตามคำสั่งของพ่ออธิการ “เอ่อ ครูแมวคะ คือวันนี้ดิฉันได้ยินว่าซิสเตอร์สากุลชอบลอบพาเด็กออกมาจากหอแดงตอนดึกๆนี่มัน เอ่อ หมายความว่ายังไงเหรอคะ?” ผการีบเปิดฉากเม้าท์ “เราก็ไม่ทราบนะคะมิสคือปกติแมวจะตื่นมาเข้าห้องน้ำช่วงดึกๆเป็นประจำและก็มองมานอกหน้าต่างก็จะเห็นซิสเตอร์ยังใส่เสื้อแม่ชีอยู่เลยค่ะแล้วเดินเข้าไปในหอแดงบ้างและบางทีก็พาเด็กกลุ่มหนึ่งออกมาบ้าง” เลวรำพึงกระซิบซึ่งประเด็นนี้แม้แต่มาลินยังร่วมฟัง “คงเป็นกลุ่มเด็กที่ย้ายตามซิสเตอร์มาจากหาดใหญ่น่ะค่ะ พฤติกรรมค่อนข้างแปลกกันทุกคนคือส่วนมากจะเก็บตัวอยู่แต่กับพวกของตัวเอง ว่าแต่ซิสเตอร์มองไปนอกหน้าต่างทำไมเหรอคะตอนดึกๆ?” มาลินถาม “คือแมวได้ยินเสียงดนตรีไทยน่ะค่ะมิส” คำตอบของแมวทำเอาน้ำส้มพุ่งออกจากปากของผกาก่อนที่จะควบคุม ‘ว๊ายย ครูแมวขาจะชะโงกมาดูทำไมคะ? รู้มั้ยคะว่านั่นน่ะไม่มีใครเล่นนะคะมันมาจากไหนก็ไม่รู้ค่ะ” ผกาพูดเสียงสั่นทำเอาเลวรำพึงสะดุ้งโหยง “พูดเป็นเล่นน่าคุณ!!!” แต่เป็นมาลินที่เป็นฝ่ายตอบ “เชื่อมิสเขาเถอะค่ะคุณแมวคือนี่เป็นเหมือนกับสิ่งลี้ลับของโรงเรียนเราที่ไม่มีใครหาสาเหตุได้แต่ช่วงหลังๆจะหนักข้อเฮี้ยนขึ้นๆทุกปีๆ อย่างปีนี้ก็ฟารีดา” พอมาลินพูดจบเธอก็เหมือนนึกขึ้นได้ “พูดถึงฟารีดาฉันขอตัวไปดูอาการเธอหน่อยดีกว่า ฝากทางนี้ด้วยนะคะมิสทั้งสอง”

ฟารีดาตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าท่ามกลางเสียงดนตรีไทยและการร่ายรำของชายสวมหัวโขนและนางรำนับสิบภายในห้อง เธอดึงสายน้ำเกลือออกจากแขนโดยไม่ได้สนใจเลือดที่กำลังไหลทะลักอาบท่วมแขน มาลินที่เดินฮัมเพลงมาถึงหน้าห้องฟารีดามองลอดกระจกเข้าไปแล้วถึงกับช็อคเนื่องจากเธอเห็นฟารีดาในชุดนางรำที่เลือดอาบแขนและใบหน้าขาวโพลนกำลังร่ายรำอยู่กลางห้องนอนโดยด้านหลังของเด็กสาวเหมือนกับมีเงาดำๆที่กำลังชักใยให้เธอร่ายรำไปตามท่วงทำนองที่เขากำหนด “ฟารีดา!!!” มาลินเปิดประตูเข้าไปแต่เด็กสาวเคลือนไหวตัวมาทางเธออย่างรวดเร็วจนน่าขนลุก ฟารีดาตรงเข้าบีบคอมาลินและดันเธอไปชนกับกำแพงอย่างแรงจนเธอล้มลงก่อนจะเคลื่อนตัวหายไปทางบันไดหนีไฟ มาลินรวบรวมกำลังทั้งหมดลุกขึ้นยืนและวิ่งตามลูกศิษย์ไป

“มิสคะ เราหิวจัง” เลวรำพึงบ่นกับผกา “ออกไปซื้ออะไรกินกันดีกว่าค่ะ อีแก่นี่มันหลับอยู่ไม่เป็นไรหรอก” ผกาพูดพลางเบะปากไปทางสากุลวดี “อีเหี้ยนี่มันไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ ฮิฮิ พวกเราไปกันแป๊ปเดียว” เลวรำพึงหัวเราะและเดินนำผกาออกจากห้องไป



ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เลวรำพึงและผกาเดินมาถึงตรงลิฟท์ก่อนที่ผกาจะหันไปเห็นร่างในชุดนางรำเคลื่อนผ่านพวกเธอไป “ว๊ายย หีแม่แหก!!!” ผกาหวีดร้องทำเอาเลวรำพึงสะดุ้งตาม.”หีแม่กูก็แหก!!! มีอะไรคะมิส?” ก่อนที่ผกาจะทันตอบมาลินก็วิ่งมาพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองฟัง ทั้งสามคนและพยาบาลเวรสองสามคนกระจายตัวกันตามหาตัวของฟารีดา ผกากับพยาบาลเวรวิ่งมาถึงสวนหย่อมบนชั้น5ของโรงพยาบาลทั้งหมดได้ยินเสียงของดนตรีไทยและเสียงขับเสภาชวนขนลุกดังขึ้นข้างบน ผกาเงยหน้าขึ้นไปเห็นฟารีดาในชุดไทยกำลังร่ายรำอยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาล “ฮัลโหลจิ๋มเหรอ ฟารีดาอยู่บนดาดฟ้าเธอรีบขึ้นลิฟท์ตามไปเร็ว!!!” ผกากดโทรศัพท์โทรหามาลิน

มาลิน เลวรำพึงและบุรุษพยาบาลสองคนขึ้นไปถึงบนดาดฟ้าทุกคนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นร่างสีดำขนาดใหญ่กำลังชักใยให้ฟารีดาร่ายรำในท่วงท่าสยดสยอง ฟารีดาค่อยก้าวขาขึ้นไปบนขอบกำแพงหมายจะกระโดดลงมาแต่มาลินวิ่งเข้าไปถึงตัวของลูกศิษย์เสียก่อน เลวรำพึงยืนมองการฉุดกระชากตัวฟารีดาของมาลินกับบุรุษพยาบาลแต่ทั้งหมดกับถูกเด็กสาวผลักออกมาด้วยอำนาจมหาศาลอยางเหลือเชื่อ เลวรำพึงถอดผ้าอนามัยของตัวเองออกมาแล้ววิ่งตรงเข้าไปแปะที่ชฎาของฟารีดาทำเอาเด็กสาวกรีดร้องจนตัวงอก่อนจะหมดสติไป

ฟารีดาฟื้นขึ้นมาในห้องผู้ป่วยของเธอก่อนจะโผเข้ากอดมาลิน “อาจารย์ขา หนูขอโทษ” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ในขณะที่มาลินยืนน้ำตาไหลแล้วกอดลูกศิษย์ไว้แน่น “ไม่เป็นไรนะลูก มันผ่านไปแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ครูจะพาเธอไปกราบขอขมาที่ห้องนาฏศิลป์นะ” ผกาที่ยืนเช็ดน้ำตาจู่ๆก็ร้องกรี๊ดดังสนั่นเมื่อหันไปเห็นหัวโขนอันที่ฟารีดาเขวี้ยงแตกอยู่บนตู้เย็น “มันมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะลูก?!!!” ผกาถามเสียงสั่น แต่ฟารีดาก็ส่ายหน้าด้วยความงุนงงเช่นกัน เลวรำพึงเดินไปหยิบหัวโขนอันนั้นมาวางไว้กับพื้นพร้อมชฎาก่อนที่จะแหกขายืนคร่อมแล้วถกกระโปรงขึ้น “ทำไมมิสทำแบบนั้นล่ะคะ?!!!” มาลินพูดด้วยความตกใจ “ล้างอาถรรพ์ค่ะ” เลวรำพึงตอบพลางเริ่มฉี่รดลงไป

“ถึงวันนี้โรงเรียนจะหยุดแต่ครูก็ขอขอบใจนะคะที่ลูกๆยินดีมาซ้อมกันหลังจากเรื่องน่ากลัวเมื่อวาน” อุไรพูดขึ้นโดยมองลูกศิษย์ทุกคนอย่างรู้สึกขอบคุณ ฮโยมินยืนกล้าๆกลัวๆลังเลใจที่จะพูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกไปแต่เป็นดีไซน์ที่พูดขึ้นแทน “อาจารย์คะ หนูขอโทษนะคะแต่หนูกับฮาเวิร์ดจำเป็นจะต้องถอนตัวค่ะเพราะคุณพ่อคุณแม่ท่านไม่อยากให้พวกเรามา เอ่อ เป็นตัวแทนค่ะ” เช่นเดียวกับฮโยมินที่รีบเอ่ยขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกัน อุไรมองเด็กทั้งสามอย่างรู้สึกผิดหวังในขณะที่หลิน,คริสมาสต์และแอนดี้ยืนเงียบ “แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?” อุไรพูดขึ้นด้วยความกลุ้มใจพลางยืนมองหน้าเด็กที่เหลืออีกสามคน “อันที่จริงเราซ้อมกันไปก่อนก็ได้นะแต่ปัญหาคือขาดตัวแทนฝ่ายหญิงไปอีกคนนึงน่ะสิ” อุไรนั่งลงอย่างอ่อนแรง “เดี๋ยวหนูเป็นตัวแทนให้ค่ะ!” ฟารีดาที่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิน ผกาและเลวรำพึงพูดขึ้น เด็กสาวเดินเข้าไปกราบเท้าอุไรพลางเอาพวงมาลัยมาคล้องแขนทำเอาอุไรถึงกับน้ำตาร่วง “ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรแล้วนะ” อุไรลูบหัวเด็กสาว คริสมาสต์กับแอนดี้สบตากันแล้วยิ้มอย่างมีความสุขก่อนที่คริสมาสต์จะหันไปยิ้มให้หลินซึ่งเด็กหนุ่มถึงกับตกใจในแววตาเยือกเย็นอำมหิตของหลินที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ฟารีดาและทุกคนในห้องจุดธูปอธิษฐานต่อหน้าหิ้งพระ เด็กสาวกราบขอขมาครูบาอาจารย์แห่งนาฏศิลป์ไทยที่เธอเคยล่วงเกินและมอบคำสัตย์ว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ยืนหยัดเพื่อสืบทอดศิลปะของนาฏศิลป์ไทยระหว่างนั้นเลวรำพึงก็พึมพำขอขมาที่เธอเคยมาปล่อยเบาล่วงเกินที่นี่ไว้เช่นกัน

ฟารีดาที่หลังจากเรื่องเมื่อคืนแล้วอาการบาดเจ็บของเธอก็ทุเลาลงอย่างรวดเร็วชนิดน่าเหลือเชื่อ “เพลงที่ครูจะให้ใช้รำ ครูเลือก ‘เพลงโหมโรงขวัญเมือง’ (ปี่พาทย์ไม้แข็ง) นะคะลูกๆเพลงนี้มีความหมายเพื่อจะขอความเป็นสิริมงคลจงบังเกิดแก่ชุมชนนั้นๆหลังจากผ่านช่วงเวลาร้ายๆมา ครูก็อยากจะให้ลูกทุกคนตั้งใจกันอุทิศการรำในครั้งนี้เป็นขวัญเป็นการเปิดนิมิตหมายที่ดีและความรุ่งเรืองให้ประดับเซนต์มาบุสของเรา” อุไรกล่าวกับเด็กๆ

ตลอดระยะเวลาการซ้อมทุกสิ่งผ่านไปอย่างราบรื่นทั้งแอนดี้และคริสมาสต์ต่างพัฒนาไปมาก ในขณะที่ฟารีดาที่แม้จะยังขยับตัวเก้ๆกังๆอยู่ก็ทำได้ดีมากๆเมื่อสมาธิเข้าที่ส่วนหลินนั้นช่างวิจิตรและสง่างามเสียจนอุไรยังบอกว่าเก่งกว่าตน

การซ้อมเสร็จสิ้นในช่วงเวลาเที่ยงเนื่องจากตำรวจจะเข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐานของเหตุสะเทือนขวัญเมื่อวาน “หลินเมื่อวานเห็นพ่อแม่บอกว่าเธอหายไปจากบ้านอ่ะ พวกท่านเป็นห่วงมากเลยนะ ไปอยู่ไหนมาอ่ะ?” คริสมาสต์ถาม “ไปเฝ้าฟารีดาทั้งคืน” หลินตอบห้วนๆก่อนจะเดินจากไป ในขณะที่ฟารีดายืนนิ่งแล้วนึกทบทวนถึงภาพของหลินที่ยืนรำอยู่ในห้องพักคนไข้ของตน “อะไรของเขาวะ? แอนดี้กูไปเยี่ยวก่อนนะ เด่วไปกินข้าวเซ็นทรัลกัน ฟารีดาไปด้วยกันมั้ย?” คริสมาสต์ตะโกนถามในขณะที่ฟารีดาพยักหน้าก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำด้วยอีกคน

แอนดี้เดินมาหาที่นั่งตรงม้านั่งใกล้ๆเรือนนาฏศิลป์ก่อนที่เด็กหนุ่มจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “คิรินทร์!” แอนดี้ทักเด็กหนุ่มหน้าตี๋ที่เขาหาตัวมาตั้งนานตั้งแต่หลังวันเปิดเรียน “ตั้งแต่วันนั้นที่ห้องพยาบาลเราก็ไม่เห็นนายเลย หาตัวยากจังนะ” แอนดี้พูดกับคิรินทร์ เขาทั้งคู่เดินอยู่ในสวนหย่อมของโรงเรียน “นายหาเราไม่เจอเองมากกว่าเราก็อยู่แถวๆนี้ตลอด” คิรินทร์หันไปยักคิ้วใส่แอนดี้ “ว่าแต่จะหาตัวเราทำไมเหรอ?” คิรินทร์ถามขึ้นเรื่อยๆ “เอ่อ ไม่รู้สิ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็อยากเจออยากเป็นเพื่อนอยากคุยด้วย” แอนดี้รีบตอบกลบเกลื่อนเขาสงสัยว่าทำไมจู่ๆถึงรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมา “หน้าแดงนะ ร้อนเหรอ?” คิรินทร์หยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาแล้วซับเหงื่อบนหน้าของแอนดี้ แอนดี้อดมองเข้าไปในนัยน์ตาทรงเสน่ห์ของเขาไม่ได้ คิรินทร์เป็นหนึ่งในคนที่มีดวงตาที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาแม้ว่าบางทีตาเขาจะดูดุๆเหมือนคนเก็บงำอะไรไว้ในใจตลอดเวลาแต่ไม่เคยมีดวงตาของใครสะกดเขาได้ขนาดนี้มาก่อน “ตานายสวยจังนะ!” แอนดี้หลุดพูดออกไปก่อนจะทันควบคุมตัว “ทำไมครับ ชอบผู้ชายตาสวยเหรอ?” คิรินทร์หยอกแอนดี้ “บ้า!!!ว่าแต่นายมีแฟนรึยัง? คงเป็นขบวนแน่ๆเลยล่ะสิ หล่อๆแบบนี้ แฟนผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ?” แอนดี้หยอกกลับ คิรินทร์ที่กำลังน้ำผ้าเช็ดหน้าชุบก๊อกน้ำแล้วหันมาบรรจงเช็ดหน้าแอนดี้อีกครั้ง “แล้วนายว่าอย่างเราน่าจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ?” แอนดี้จับมือของคิรินทร์ที่กำลังเช็ดหน้าเขาอยู่มากำไว้แน่น “เราว่านายจะชอบผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่แปลกเพราะไม่ว่านายชอบอะไรก็ดูดีเสมอในสายตาเรา” คิรินทร์หัวเราะแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของคริสมาสต์ดังขึ้น “อยู่ไหนฟระ?” คริสมาสต์ถาม “เดินเล่นที่สวนหย่อม เดี๋ยวเดินไปหา” แอนดี้ตอบ “คิรินทร์ไปกินข้าวที่เซ็นทรัลกันมั้ย?” แอนดี้เอ่ยปากชวน “วันนี้เราคงไม่สะดวก ไว้วันหลังค่อยไปด้วยกันนะ” เด็กหนุ่มปฏิเสธ แอนดี้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะยิ้มสู้ “ไม่เป็นไร วันไหนไปด้วยกันสองคนก็ดี งั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะเพื่อนๆรอ” แอนดี้บอกลาก่อนจะจำใจหันหลังเดินกลับไปทางเรือนนาฏศิลป์ “แอนดี้” เด็กหนุ่มเรียก “อะไรเหรอ?” แอนดี้หันหลังมาแล้วคิรินทร์ก็เดินเข้าไปจูบหน้าผากของเขา “ตอนนี้คงรู้แล้วนะว่าเราชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย”

แอนดี้รู้สึกถึงความอบอุ่นและสุขใจอย่างแปลกประหลาดที่ไหลเวียนในตัวตลอดช่วงทานอาหารกลางวันและเดินเที่ยวกับคริสมาสต์และฟารีดาเขาแทบหุบยิ้มไม่ได้เลยเขาเชื่อว่าเพื่อนของเขาทั้งสองก็คงจะสังเกตุเห็นถึงความสุขใจอันแทบจะผิดปกตินี้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน “พ่อครับผมอยากเรียนที่นี่ต่อครับ ผม’รัก’เพื่อนที่นี่และคุณครูทุกคนก็ใจดีกับผมมากๆครับ” แอนดี้บอกพ่อเมื่อเขากลับถึงบ้านก่อนจะขอตัวเข้าไปพักผ่อนในหัอง “ทำไมนะ?” เขาพึมพัมกับตัวเองในห้องนอน เด็กหนุ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงคิดถึงคิรินทร์อยู่ตลอดและเขาไม่เคยรู้สึกกับเพื่อนชายคนไหนแบบนี้มาก่อนมันพิเศษกว่าคำว่าความเป็น”เพื่อน”จริงๆ แอนดี้เอามือลูบไล้ใบหน้าของเขาพลางคิดถึงใบหน้าของคิรินทร์ตอนที่กำลังเช็ดหน้าให้เขาก่อนที่จะเด็กหนุ่มจะหลับไปอย่างมีความสุข

ฮาเวิร์ดกับดีไซน์นัดพวกเพื่อนๆปาร์ตี้กันที่คอนโดของฮาเวิร์ดในนั้นมีฮโยมินและบรูโน่รวมอยู่ด้วย “เฮ้ย วันนี้ที่กูรวมชาวแก๊งค์นี่คือมีอะไรจะบอกว่ะ!” ฮาเวิร์ดบอกพวกเพื่อนๆพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟัง “โม้สัสว่ะไอ้ฮาเวิร์ด” บรูโน่แขวะเมื่อได้ฟังเรื่องเล่าทั้งหมดแต่แล้วดีไซน์ก็เป็นคนเปิดคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายกับฮาเวิร์ดในห้องเก็บเครื่องดนตรีไทยให้คนทั้งกลุ่มดู จากเสียงฮือฮาโห่ร้องเป่าปากในช่วงแรกกลายเป็นเงียบกริบเมื่อทุกคนเห็นภาพชายในชุดไทยหลายคนกำลังเล่นดนตรีไทยอยู่ในห้องที่มืดสนิทและเงียบสงัด “และนี่!!!” ฮาเวิร์ดเปิดภาพหัวกะโหลกที่หล่นมาจากใต้ระนาดเอกให้ทุกคนดู “กูว่ามันต้องมีอะไรว่ะ ไม่งั้นแม่งไม่เฮี้ยนขนาดนี้หรอกห้องนาฏศิลป์โรงเรียนเราอ่ะ กูถึงเรียกพวกมึงมาเพื่อเราจะนี่เว้ย ถ่ายสารคดีหาความจริงอัพลงยูทูบกับโซเชี่ยลแคมกันทีนี้ดังแน่ๆ ใครอยากเป็นเน็ตไอดอลก็มาจอยกับกู สนใจมั้ยวะ?” ฮาเวิร์ดพูดขึ้นพลางยักคิ้วมองเพื่อนทั้งกลุ่มด้วยความท้าทาย


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com