˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
Britney Spears : Work Bitch
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Britney Spears : Work Bitch 


http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/09/16/get-into-the-groove-britney-spears-work-bitch-dance-popedm-100-55/comment-page-1/#comment-167

http://www.facebook.com/hysteriaculture

Britney Spears : Work Bitch : Dance-Pop/EDM (100% = 5/5)

อีกหนึ่งความคาดหวังอันสูงส่งและการรอคอยอันยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปี2013นี้ได้สิ้นสุดลงไปพร้อมกับความรู้สึก”อิ่มเอมใจ” ก่อนอื่นขอสารภาพเลยว่าสำหรับ “บริทนี่ย์ สเปียรส์” นี่ตัวดิฉันเองไม่เคยได้มีความรู้สึกที่กระสับกระส่ายร้อนรนทุรนทุรายถึงขั้นต้องนับวันนับคืนรอฟังงานใหม่ๆของเธอมาตั้งแต่หลังจากยุคIn The Zoneแล้วซึ่งก็นับว่านานพอดูเพราะความรู้สึกนี้มันก็ทิ้งช่วงจากMe Against The Musicจะว่าไปก็ห่างร่วมจะสิบปีเข้าไปได้แล้วกระมังกับความรู้สึกตื่นเต้นจนกินไม่ได้นอนไม่หลับต้องมาร่วมเค้านท์ดาวน์นับถอยหลังกับเพื่อนๆในเฟซบุ๊คส์ปูพรมแดงต้อนรับซิงเกิ้ล “Work Bitch” ผลงานหวนคืนสู่บัลลังก์ของเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงพ็อพท่านนี้ที่ล่าสุดเชื่อว่าทั่วทั้งโลกคงจะได้ร่วมฟังไปพร้อมๆกัน(ก่อนกำหนด)แล้ว

ตอนแรกได้คุยกับสาวกของบริทนี่ย์หลายท่านที่นอกจากจะลุ้นระทึกตื่นเต้นกับการคัมแบ็คครั้งนี้แล้วอีกใจหนึ่งก็ยังมีแอบกลัวว่าการกลับมาของเธอในครั้งนี้จะไม่เปรี้ยงเท่าที่คาดหวังเนื่องด้วยกระแสตอบรับของพวกศิลปินดิว่าบนชาร์ตเพลงแลดูจะไม่ตื่นตัวเท่าที่ควรขนาดตัวแม่ของยุคอย่าง “เลดี้กาก้า” กับเพลงล่าสุดที่ถึงแม้จะติดชาร์ตสูงถึงท็อป5แต่ในแง่ของความเป็นปรากฏการณ์กลับจะเรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้สร้างอิทธิพลใดๆที่สามารถสร้างความฮือฮาในแบบที่เคยรวมถึงหลายคนก็กลัวจะผิดหวังเนื่องจาก “การอวยเกินจริง” ของสื่อต่างประเทศที่ดูเหมือนจะยกย่องเพลงนี้กันประหนึ่งว่าเป็นเพลงแห่งปีเลยทีเดียว

มาที่ Work Bitch ของบริทนี่ย์ที่ตอนแรกอ่านวิจารณ์เห็นสื่อนอกเปรียบเทียบว่าเป็น Break The Ice+In The Zone 2.0แถมยังเด็ดดวงกว่าHold It Against Meหลายเท่าตัวก็ทำเอาดิฉันใจชื้นว่า “เอาน่า!!! มันก็คงจะเป็นอะไรที่เริ่ดพอตัวแหละ” ถึงแม้ว่าจะแอบมีเกรงกลัวในใจอยู่ลึกๆเงียบๆเนื่องจากซิงเกิ้ลเปิดตัวสองเพลงก่อนหน้านี้อย่างWomanizerที่ไม่ค่อยโดนใจดิฉันเท่าไรและไหนจะHold It Against Meที่ดูเรียบๆธรรมดาๆดาดดื่นเกลื่อนกลาดแถมตลาดเกินแม้จะติดหูก็ตามที อีกทั้งพอได้ยินว่าเป็นฝีมือโปรดิวซ์จากคุณ “วิล.ไอ.แอม.” แห่งวง Black Eyed Peas (แค่ชื่อก็สยองแล้ว)ที่ก่อนหน้านี้เกี่ยวก้อยจับมือคว้าอันดับหนึ่งไปด้วยกันกับซิงเกิ้ล Scream&Shout อันทำให้วลีเด็ด “Britney Bitch!” กลับมาเป็นเทรนด์ฮิตสะท้านโลกากันอีกครั้ง…ดิฉันก็เริ่มบวกลบคูณหารสำหรับการเผื่อใจ

แต่พอได้มาฟังจริงๆแล้ว “ช็อค!!!” ช็อคมากค่ะBreak The IceหรือIn The Zone 2.0ที่เขาว่านี่สำหรับตัวดิฉันคิดไปอีกอย่างเลยทีเดียวคือต้องขอบอกว่าเพลงนี้สมบูรณ์แบบมากๆมากเกินพอที่จะประกาศศักดาในฐานะ “New Era” ของเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงพ็อพท่านนี้เลยทีเดียวส่วนตัวคิดว่าเป็นอีกครั้งที่บริทนี่ย์สร้างมาสเตอร์พีซให้แก่ตนเองหลังจากที่เธอมีซิงเกิ้ลเปิดตัวที่ดีสุดๆเจ๋งสุดๆไปแล้วตั้งแต่ Baby One More Time,Me Against The Musicและก่อนหน้านี้กับGimme Moreที่ล่าสุดก็เพิ่งโดนWork Bitchโค่นบัลลังก์พร้อมสร้างสถิติกลายเป็นเพลงเปิดตัวที่ดีที่สุดของบริทนี่ย์ในบรรทัดฐานส่วนตัวของดิฉัน สิ่งที่ชอบที่สุดในเพลงนี้คือ “ความชัดเจน” บนแนวทางใหม่ของตัวเองไม่มีกล้าๆกลัวๆอีกต่อไปซึ่งก็นับว่าการตัดสินใจของเธอกับการขยับจากดนตรีพ็อพเต้นรำขึ้นสู่ระดับElectronic Dance Musicหรือที่ศัพท์ยุคนี้เรียกกันเก๋ๆย่อๆว่าEDMชนิดเข้มข้นเต็มตัวอย่างที่ได้ยินนอกจากจะเป็นการประกาศศักดาของภาพลักษณ์ทางดนตรีสดใหม่สำหรับเจเนอเรชั่นใหม่ของ “บริทนี่ย สเปียรส์” รวมถึงแสดงให้เห็นเด่นชัดเลยว่าในที่สุดเธอก็ “ยอมรับ” ในแนวทางที่เหมาะกับตนเองและทำมันแบบสุดโต่งไม่แคร์โลกให้เราๆได้ดูชมและรับฟังกันเสียที ที่ขอใช้คำว่า”ยอมรับ”มากกว่า”ค้นพบ”ก็เพราะส่วนตัวคิดว่าบริทนี่ย์ค้นพบตัวเองเจอแล้วตั้งแต่อัลบั้ม In The Zone ดนตรีแนวอิเล็คโทรนิคโต่งๆแบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่เคยทำเพียงแต่การทำแบบจับต้องในสไตล์ทดลองกับการทำแบบลงมาลุยชนิดทุ่มสุดตัวแบบตายกันไปข้างหนึ่งอย่างที่ได้ยินใน Work Bitch มันต่างกันหลายเส้นฟางกับโครงสร้างของบีทเต้นรำสไตล์ดีเจคัลเจอร์ที่สาดความเป็นอิเล็คโทรนิคคลับแบงเกอร์บีทตึ๊บๆหนักๆโครงสร้างแข็งแรงจนมึนกันไปข้างมาหมดทั้งรสของแทรนซ์กึ่งโพรเกรสซีฟชนิดที่ตัวพ่ออย่างอาร์มิน ฟาน บูเรนมาได้ยินจะต้องตาเหลือกตบบีทความเป็นคลับแด๊นซ์ด้วยการสาดมิติของความเป็นเทคโนแรงๆโพรแกรมมิ่งเฟี้ยวฟ้าวผสานกับกลิ่นของเออร์บันและดีพเฮ้าส์ลอยละล่องที่ก็ตีคู่มากับลูกบ้าในการนำเสนอของบริทนี่ย์ในเชิงกึ่งพูดกึ่งร้องได้อย่างดีสรรพสำเนียงของนางที่เราคุ้นเคยยังคงความจี้ประสาทไว้ชนิดครบครันชนิดที่ฟังแล้วอดจะลุกขึ้นมาร่ายรำกับท่วงทำนองเก๋ๆและจริตการร้องแจ๋ๆแสบทรวงของนางไม่ได้ ใครจะยังไงไม่รู้แต่ฟังแล้วขนลุกน้ำตาเพราะว่า “เกินความคาดหมาย” จริงๆกับการกลับมาของเธอในครั้งนี้ – - สมศักดิ์ศรีตัวแม่สุดๆ

มีความรู้สึกว่าสตูดิโออัลบั้มชุดที่8ของบริทนี่ย์ที่กำลังจะวางแผนช่วงปลายๆปีนี้นี่มีสิทธิ์สูงทีเดียวนะคะที่จะเป็นอัลบั้มปล่อยของอีกครั้งหลังจากIn The ZoneกับBlackoutซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะล่าสุดคิดว่า Femme Fatale ที่แม้จะได้รับกระแสตอบรับดีกลับออกมาเมนทสตรีมจ๋าจนน่าตกใจการที่ได้ยินถึงสัญญาณการกลับมาของความเป็นตัวตนของบริทนี่ย์และพลังขับเคลื่อนอันอัดแน่นเต็มเปี่ยมแบบที่เธอเคยมีมาใน Work Bitch อีกครั้งก็น่าจะการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าเหล่ากองทัพคนรักเจ๊หอกไม่ต้องกลัวผิดหวังแน่นอนเพราะ It’s Britney Bitch! พร้อมแล้วที่จะสร้างปรากฏการณ์เขย่าโลกทั้งใบอีกครั้ง…ชื่อนี้มาทีไรจะต้องเป็นเทรนด์คอยดูสิ!!!


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เราเฉยๆ ปกติไม่ค่อบเกทกับพวกเพลงคลับอยู่แล้ว เพลงนี้แดนซ์เมโลดี้มากไปนิด เหมือนพวก LMFAO อยากได้หีบห่อดีๆแบบ Femme fatale มากกว่า

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ส่วนตัวชอบครับ มันดิบดีนะ คือมันมีรายละเอียดแต่มันมีความดิบ(เถื่อน555)ของมันอยู่ ส่วนตัวเชียร์และประทับใจครับ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เคยอ่านกระทู้หนึ่ง ไปสัมพาษใครไม่รู้ จำไม่ได้ บอกว่าอัลบั้มนี้อีบิตจะพลิกวงการเพลงป๊อป
เลยตอบกระทู้ไปประมาณว่า มันคงไม่กะพลิกอะไรหรอก แค่ออกเพลงมาสะกิดติ่งของมันเท่านั้นแหละ

พอได้ยินเพลงนี้ คิดใหม่เรยค๊ะ สัมผัสได้ถึงแนวเพลงที่เปลี่ยนไป มันสุดโต่งในแบบของมัน มั่นจัยในตัวเองกว่าที่เคยเปน แระทำให้รู้ว่านางก้อเปนหนึ่งในศิลปินเพลงป๊อปที่สามารถขับเคลือนวงการเพลงป๊อปหรือพลิกโฉมวงการเพลงได้เหมือนกัน ดูถูกอีนี่ไม่ได้แร้วจิ


like like like



แก้ไขล่าสุดโดย AL เมื่อ Mon Sep 16, 2013 5:24 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________
You better work, bitch
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เราว่าบริทกับวิลไอแอมร่วมงานกันก็ดีนะ

วิลไอแอมเองเห็นได้ชัดว่าพยายามออกห่างแนวตัวเอง ที่ปกติได้ยินซาวด์ปุ๊ปก็จำได้เลย เหมือนเอาเพลงฮิตตัวเองมาีรีไซเคิลซ้ำๆ ขอบใจที่ไม่ทำกับบริท

เราว่าเพลงนี้มันเฉยๆ มาเลยอ่าถ้าไม่มีซาวด์ เป็นการเอาซาวด์เข้าสู้ตรงๆ


การร้องในเพลงร้องไปเรื่อยๆ ไ่ม่มีการดีไซด์ทำนอง หรือเนื้อเพลงอะไร หรือวิธีร้องอะไรแบบเท่ห์ๆ สวยๆ

แต่เพลงก็มันส์ดีนะแบบนี้



_________________
เสพย์ อ่าน คิด เขียน

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
บอกได้เต็มปากเลยว่ามันเป็นการก้าวข้ามสิ่งเดิมๆ ที่ชีได้ทำมาจริงๆ หลายคนบอกว่าชีย่ำอยู่กับที่ ซึ่งชีได้พิสูจน์มาในหลายๆ อัลบัมแล้วว่า ชีไม่ได้ย่ำกับที่ แต่ชียืนพื้นความเป็น Pop ไว้เท่านั้น เพลงนี้ออกมาก็เหมือนตีแสกหน้าคนที่เคยด่าว่าชีไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ ให้ตัวเองค่ะ ต้องยอมรับว่าชีสร้างบารมีในสมัยรุ่งเรืองไว้ชนิดที่ครอบคลุมแทบทั้งวงการ การวางตัวของชีในฐานะศิลปินคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปกัดใครเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือหวังชื่อเสียงจากการอวยคนนั้นคนนี้ ผู้ทรงอิทธิพลของชีคือ Madonna Janet MJ Whitney ซึ่งชีก็ให้สัมภาษณ์มาทุกครั้ง ไม่มีการเปลี่ยนไปเรื่อย ตามกระแสไป สื่อถามถึงใครกูก็รักคนนั้น แต่ชีมีจุดยืนที่ชัดเจนว่า ชั้นรักอี 4 คนนี้ ชั้นก็จะรักมันต่อไป ซึ่งแน่นอน บุคคลเหล่านี้ส่งอิทธิพลถึงชีทั้งงานเพลง งานเต้น เมื่อก่อนชีถูกเรียกว่า New Madonna หรือ New Janet อะไรก็ตาม แต่ชีก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ชีไม่ได้เป็นใคร ชีคือ Britney Spears แน่นอน เราคงเห็นได้ชัดว่าปัจจุบันนักร้องคนไหนออกมาใหม่ก็ล้วนแต่ถูกยกขึ้นมาเทียบกับ Britney แทบทั้งนั้น

โอเค พูดถึงในแง่ของอิทธิพลของชี ทำให้โปรดิวเซอร์มือทองของวงการ ต่างก็อยากร่วมงานกับชีทั้งนั้น โดยเฉพาะใน Era การ Comeback ของชีหลังช่วงโกนหัว ทั้งโปรดิวเซอร์คู่บุญอย่าง Max Martin หรือคนอื่นๆ แต่ Era นี้ ชีคงอยากทำอะไรที่แตกต่างจากเดิมจริงๆ เพลงนี้ออกมาก็พอจะระบุแนวทางของอัลบัมได้อย่างดี โปรดิวเซอร์ที่เรียกว่าคิวทองอย่าง Dr.Luke ก็ไม่ได้ถูกเรียกใช้งานอีกต่อไป กลายเป็น Will.I.Am มาเสียบกุมบังเหียนของอัลบัมนี้แทน ซิงเกิ้ลแรกถึงได้ฉีกจากของเดิมออกมาจนโลกตะลึงค่ะ กรั่กๆ ซึ่งออกมาแล้ว มันออกมาเกินคาดจริงๆ ไม่มีใครคิดว่าชีจะทำเพลงแบบนี้ออกมา อีคลิปปลอมๆ ที่หลุดมาก็ดูมีสเต็ปธรรมดาของชี แต่ของจริงออกมาเท่านั้นแหละ ทุกคนไม่มีใครคาดเลยว่าชีทำ EDM ที่ใส่ยูโรแดนซ์แบบจัดเต็ม คนชอบก็ชอบไปเลย ไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย

อย่างที่ชีได้เคย Tweet ไว้ว่าอัลบัมนี้ไม่ใช่อัลบัมที่กะจะตีตลาดแบบตลาดแตก แต่ชีทำเพื่อแฟนๆ จริงๆ ดังนั้น แฟนๆ ก็หวังจะดันให้ได้ที่ 1 กัน ส่วนจะได้ไม่ได้ก็คงอีกเรื่อง แต่ที่แน่ๆ แฟนๆ ตื่นเต้นกันจนห*สั่นแล้วค่ะ กรี๊ดดดดดด

GODNEY LEGENDARY SPEARS IS BACK TO WORK BITCH!


mouth mouth mouth sing sing


_________________
CLICK

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ARTLIFE พิมพ์ว่า:

การร้องในเพลงร้องไปเรื่อยๆ ไ่ม่มีการดีไซด์ทำนอง หรือเนื้อเพลงอะไร หรือวิธีร้องอะไรแบบเท่ห์ๆ สวยๆ


การร้องของบริทในเพลงนี้มันแตกต่างจากการร้องในยุคก่อนๆ ของบริทนะ แล้วก็ต่างกับศิลปินคนอื่นด้วย เดี๊ยนว่าในตลาดมีอีบริทเนี่ยแหละ ที่การร้องมาแนวนี้แปลกสุดละ คนอื่นก็ร้องไปตามจังหวะทั่วไป ไม่ได้แปลกใหม่โนะ


_________________
CLICK

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ชอบอะ
like

ข้อสงสัยคือ เพลงมันแปลกๆ ฟังมาจะ 50 รอบ
ยังร้องตามไม่ค่อยได้เลย เราว่าต้องตั้งใจฝึกร้องเลยละ ถึงจะร้องตามได้

Confused Confused Confused Confused


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 4
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com