
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/10/17/back-in-the-day-lady-gaga-born-this-way-dance-popelectropop-87-4-55/comment-page-1/#comment-250
http://www.facebook.com/hysteriaculture
Lady Gaga : Born This Way : Dance-Pop/Electropop (87% = 4.5/5)
(อันนี้เอามาลงรอบที่3แล้วและเป็นรอบสุดท้ายค่ะ 5555 ฟังแขแล้วก็รอARTPOPอยู่ เป็นอีกนางที่เราร่วมลุ้นก็กลัวเหมือนกันเพราะ Born This Way นางทำออกมาดีมากจนแตะจุดมาสเตอร์พีซไปแล้วหวังว่าอัลบั้มที่กำลังจะออกจะมาแบบเริ่ดๆเช่นเดิมนะก้านะ)
บ่อยครั้งที่เราได้เห็นอัลบั้มชุดที่สองชี้ชะตาศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างสง่างามล้นหลามมหาศาลว่าจะอยู่หรือจะไปมานักต่อนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินที่เกิดจาก กระแสเพียงชั่วข้ามคืน จวบจนจำพวกที่เป็นเทรนด์ฮิตร้อนแรงแห่งยุคนี่ยิ่งต้องทำการบ้านชนิดรอบคอบให้จงหนักเพราะการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งในวันวานจะว่าไปก็คมกริบไม่ต่างอะไรกับดาบสองคมที่สามารถเชือดคุณให้อันตรธานหลุดวงโคจรไปจากวัฏจักรของดนตรีพ็อพและวัฒนธรรมกระแสหลักเอาได้ง่ายๆเช่นกัน - ถ้าคุณทำมันออกมาได้ไม่ถูกใจสาธารณชนเขา - ตั้งแต่ยุค80sเราได้เห็นการขยับขึ้นมาเป็นแนวหน้าของวงการจากฝากศิลปินหญิงอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเริ่มตั้งแต่ปรากฏการณ์ของมาดอนน่าที่เขย่าโลกทั้งใบกระเจิงมาแล้วตามมาติดๆก็มีดิว่าอย่างวิทนี่ย์ ฮุสทัน,เจเน็ต แจ็คสันและแด๊นซ์ซิ่งควีนอย่างไคลีย์ มิโน้กที่สามารถก้าวผ่านมรสุมยืนหยัดเติบโตมาพร้อมคนฟังกว่า4ทศวรรษบ้างก็สง่างามน่าประทับใจบ้างก็สภาพรุ่งริ่งขาดวิ่นหายใจรวยรินเต็มทีแตกต่างกันไป ยุค90sนี่ขอยกให้เป็นยุคของแม่มาลัย มารายห์ แครี่ย์ ที่ต้องยอมรับว่าไม่มีใครคว่ำเธอลงได้จริงๆในยุคนั้นและสดๆร้อนๆกับยุคสองพันก็คงจะต้องยกบัลลังก์ให้เจ๊หอก บริทนี่ย์ สเปียร์ส เป็นดาวที่ประสบความสำเร็จสูงสุดประจำยุคไปโดยมีไฮไลท์เทียบเคียงก็คือคริสทิน่า อากิเลร่า,บียอนเซ่และเจนนิเฟอร์ โลเพซที่ก็มีอะไรไม่ธรรมดาสามัญเหนือมนุษย์ไม่แพ้กัน สำหรับทศวรรษล่าสุดนี้จะว่าไปก็เห็นแววจองพื้นที่กันเปล่งประกายกากีเปรี้ยงปร้างกันตั้งแต่ช่วงปลายยุคที่ผ่านมาที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะไม่พ้นสุภาพสตรีนามกรเก๋ไก๋อย่าง เลดี้กาก้า - อีกสองท่านที่เด่นมากๆและดูท่าจะมั่นคงกว่าคือริฮานน่ากับเคที่ เพอร์รี่ย์ - ท่านนี้นี่แหละที่พร้อมสรรพไปหมดด้วยความแปลกประหลาดวิจิตรพิสดารล้ำลึกไม่เหมือนคน - นี่ชมนะไม่ได้ด่า - แถมด้วยความสามารถด้านการดนตรี การประพันธ์และแต่งสรรเนื้อร้องที่คุณเธอก็โชว์ฝีมือได้เจ๋งพอตัวเหมือนกันแม้ว่าช่วงหลังๆเจ้าหล่อนจะถูกประชาชีค่อนขอดว่าเน้นไปทางแต่งตัวบ้าๆบอๆทำตัวเสแสร้งโอเวอร์เรตมากกว่าจะมุ่งขายความเป็นศิลปิน บ้างก็ว่าไอเดียเริ่มจะตีบตันวนไปวนมาซ้ำซากหาทางออกไม่เจอและหลายสายตาก็กำลังจับตามองความเป็นไปของ Born This Way สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของหล่อนว่าจะมีขวบที่สองต่อหรือจะปลิดชีพฝังตัวเองทิ้งเฉกเช่นหลายท่านที่ดวงดีมาถูกที่ถูกเวลาและมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้เพียงเพราะกระแสและโชคช่วยแต่สุดท้ายก็ต้องเหี่ยวเฉาไปเพราะหามีฝีมือไม่
รูปแบบดนตรี
คำตอบบรรทัดท้ายด้านบนคือ คุณประเมินหล่อนต่ำไป!!! ภาคดนตรีของ Born This Way นับว่าเป็นอะไรที่ขยับขึ้นมาจากยุค The Fame ชนิดแรงจัดชัดเจนและสุดแสนจะทรงพลังประหนึ่งนางก้าเดินมาโบ๊ะกะโหลกพวกที่จีบปากแช่งชักหักระดูกหล่อนชนิดฉาดใหญ่และแรงมากกกก แม้ว่าในส่วนของภาคดนตรีฐานใหญ่ยังคงไม่หนีจากพ็อพ แด๊นซ์และอิเล็คโทรนิคแต่ก็อย่างที่บอกว่า พัฒนาขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ภาคการนำเสนอบางจุดดูหลุดและเข้าใจค่อนข้างยากบางอันก็ไม่น่าฟังบางอันก็ดูยัดๆแถมๆให้ดูเยอะแน่นเสียดครบ14เพลงไว้ก่อน แต่อัลบั้มนี้ ไม่มีและไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากเธอเก็บเนื้องานได้ละเมียดละไมขึ้นมากเข้าขั้นเกือบสมบูรณ์แบบ ตัวอัลบั้มมีเอกภาพและเรียงร้อยนำเสนอออกมาได้ชนิดทรงพลังและมีความต่อเนื่องชวนดื่มด่ำระยะยาวในตัวในระดับที่สูงมาก (ขนาดที่ดิฉันว่าเป็นแอนตี้แฟนนางก้าตัวแม่ยังต้องขอซูฮกอัลบั้มนี้ว่าเธอทำได้ดีจริงๆ) คือทุกแทร็คทำหน้าที่ในการส่งรับขายและเซฟตัวอัลบั้มกันได้ดีมากขนาดJudasที่ก่อนหน้านี้เขียนด่ายาวเหยียดยังมีส่วนที่ช่วยให้อัลบั้มเดินหน้าไปอย่างไหลลื่นสบายอุรากับเขาคิดดู!! ที่ตกใจก็คือ3ซิงเกิ้ลแรกเป็นอะไรที่ออกมาค่อนข้างกระจายตัวกันมากจนตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะระเบิดศักยภาพและพลังของตัวงานออกมาได้สูงขนาดนี้แต่พอมารวมทีมกันในอัลบั้มนี้แล้วขอบอกว่า น่ากลัวมากๆ ไม่รู้ว่าหล่อนมีตรรกกะในการเรียบเรียงคอมโพสอย่างไรออกมาได้แต่ขอชมที่เพลงของเธอดูเป็นอะไรที่ มีชีวิต ทุกเพลงรวมถึงสมาชิกทุกท่านมีทีมเวิร์คที่ดีมากๆ .ทำงานออกมาดีซะขนาดนี้แถมยังเป็นกระแสแรงขนาดนี้ถ้าตายก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเนอะ จะต้องเป็นหนึ่งในอัลบั้มพ็อพที่ดีที่สุดของปี2011อย่างที่เลดี้กาก้ามันโม้ไว้ก่อนหน้านี้แน่นอนดิฉันกล้าฟังธง!!!
จุดด้อย
สำหรับดิฉัน - ผู้เกลียดเลดี้กาก้าเข้าไส้ - ขอบอกว่า ไม่มี นะ คือถ้ามีก็อาจจะเป็นในจุดที่ตัวอัลบั้มมันมีขอบเขตที่ศักยภาพไต่ระดับไปได้ แค่4ดาว ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปทุกสิ่งอย่างแต่ดิฉันเชื่อนะคะว่าบางทีแม้งานจะออกมา3-4ดาวหรือแค่2ดาวแต่ถ้าเราฟังแล้วรู้สึกมีความสุขเพลิดเพลินไปกับมันแค่นั้นก็น่าจะดีกว่างานที่ถูกแห่แหน5ดาวเพอร์เฟคแต่ฟังไม่รู้เรื่องเป็นไหนๆ บางจุดนักวิจารณ์เขากัดว่า พ็อพขึ้น ซึ่งอันนี้ก็จริงแต่คำว่า พ็อพขึ้น นี่มันมีสองแบบนะ อย่างแรกพ็อพจ๋าแล้วเสี่ยวตลาดโบ๊เบ๊3ตัวร้อยไม่มีชั้นเชิงน่าด่าน่าถีบแต่สำหรับกาก้าชุดนี้นี่เป็นอย่างหลังคือ พ็อพขึ้น ในแง่ของการรังสรรค์เนื้องงานให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและถึงหมู่มากยิ่งขึ้นเนื่องจากตัวเธอเป็นสัญลักษณ์ของดนตรีพ็อพในยุคนี้ไปแล้วซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว เทียบกับThe Fameที่เป็นงานอิเล็คโทรพ็อพที่มีความเป็น80sฉุยฉายตลบอบอวนกับการนำเสนอที่ เก๋ แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้คุณเก่งภาษาอังกฤษจริงๆคุณก็ไม่เข้าใจบางเพลงที่เธอทำออกมาหรอกเนื่องจากเป็นงานพ็อพที่ค่อนข้าง Abstract จับต้องได้ยาก โลดแล่นอยู่ในจินตนาการ ไร้ขอบเขตในความคิดและเป็นนามธรรมนักวิจารณ์เขาถึงได้ชอบยังไงล่ะ ในขณะที่งานชุดนี้ทำออกมาให้จับต้องเข้าถึงได้ง่ายขึ้นมาก สลัดมนตร์เสน่ห์เรโทรแบบ80และนิวเวฟติ๊สท์ๆในอัลบั้มออกไปเข้าไปเล่นกับภาคดนตรีที่หลากหลายขึ้นตั้งแต่การจับมนตร์เสน่ห์ของดนตรีเต้นรำตั้งแต่ยุค80s-90sมาผสานกับลวดลายของแด๊นซ์-พ็อพทศวรรษล่าสุด ยูโร อิเล็คโทรนิค ดิสโก้ เทคโน กรู๊ฟ ดาร์คอัลเทอเนทีฟ อาร์แอนด์บี ฟั้งค์ร็อค บลูส์โซลยันลูกเล่นจางๆของดนตรีจำพวกทริพฮอพ กอสเพล แอมเบี้ยนท์ อาร์ทร็อคยันไปถึงพวกโกธิคโน่น ปัญหาก็คือมันลงตัวสุดพลังไปเลยน่ะสินี่ยังไม่นับเนื้อหาที่เข้าใจหาเรื่องเปรียบเปรยเสียดสีได้อย่างมีวาทะศิลป์อีกนะตั้งแต่ความรัก เซ็กส์ พระเจ้า การเมือง แฟชั่น ตัวตนของมันเองและอีกสารพันสิ่งตามธรรมเนียมของหล่อน เป็นงานที่ตอบสนองความต้องการผู้ฟังได้ครบถ้วนทุกด้านโดยแท้จนน่าขนลุก
ป.ล. โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียงนี่ดูเหมือนกาก้าจะหาตัวเองเจอมากขึ้น อัลบั้มที่แล้วนี่มามั่วไปหมดเดี๋ยวมาดอนน่า เดี๋ยวเกว็นก่อนจะย้ายมาเป็นเฟอร์กี้บ้างและเจโลบ้าง
แทร็คเด็ด
Marry The Night (4.5/5) แทร็คเปิดอัลบั้มที่ขึ้นต้นมาด้วยเสียงออร์แกนโบสถ์เจือจางคลอเคลียไปกับการร้องประหนึ่งเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้าที่ให้ความรู้สึกค่อนข้างขลังก่อนจะสลับไปเป็นดนตรีเต้นรำอิเล็คโทรนิคจัดจ้านสะบัดด้วยยูโรนำตบด้วยดิสโก้เล่นความเป็นดั๊บสเต็ปกระชากๆปะทะกับบีทเทคโน90ได้อย่างลงตัว ไม่ได้ยินลูกเล่นแบบนี้มานานแล้ว ชอบนะ! Born This Way (4.5/5) ไทเทิ่ลแทร็คและเป็นซิงเกิ้ลแรก อิเล็คโทรพ็อพเต้นรำที่สอดแทรกความเป็นเรโทรปลายยุค80คาบต่อกับทศวรรษ90พร้อมกับฮุคที่ติดหูหนึบเป็นเพลงที่ฟังครั้งแรกแล้วหลงรักด้วยแม้จะดูขายง่ายๆโต้งๆโฉ่งฉ่างไม่แคร์สื่อใดๆแต่ด้วยพลังในตัวมันที่ควรค่าสุดๆแก่การจะยกให้เป็น Dance Anthem ประจำปี2011นี้เคียงข้างกับ On The Floor ของเจโลไปเลย หลายสำนักวิจารณ์มาว่าเหมือน Express Yourself ของมาดอนน่าตอนแรกฟังนี่ไม่ได้คิดถึงเพลงเจ๊แม่เลยนะเพียงแต่ตะหงิดๆเฉยๆว่าเหมือนกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนถึงจะเทียบเสี้ยวงานระดับตำนานของอีเจ๊แม่ไม่ได้แต่ก็เป็นเพลงที่ดิฉันประทับใจมากทีเดียว The Edge Of Glory (4
5/5) ที่ขณะนี้เป็นซิงเกิ้ลที่สามอย่างเป็นทางการ - จำไม่ผิดตอนนี้เดบิ้วท์ที่อันดับ3บนบิลบอร์ดชาร์ตแล้ว - ตอนแรกฟังแล้วรู้สึกเฉยๆรู้สึกว่าเป็นเพลงที่แกนมากแต่มากรอบเข้าแล้วรู้สึกว่าเพราะขึ้นเรื่อยๆจนพอมาฟังในอัลบั้มแล้วถึงกับงงว่า ทำไมมันดูดี๊ ดูดีกว่าที่ฟังตอนแรกขนาดนี้ ตัวเพลงเป็นอิเล็คโทรพ็อพติดบีทเต้นรำแบบกรู๊ฟจางๆใส่ลูกเล่นซอฟต์ร็อคอ่อนๆมาเด่นจัดเอาตรงความเป็นสมูธแจ๊ซซ์80ด้วยเสียงแซ็กสวยๆช่วงเบรคเอ๊าท์ทำให้นึกถึงงานของมาดอนน่าช่วงต้นยุค80อย่างพวก I Know It,Shoo Be Doo และพวก Pretender อะไรทำนองนี้เป็นต้นยันงานในอัลบั้มแรกๆของป้าวิทอีกคนก่อนจะใส่ลูกเล่นแบบบาโร๊คอย่างใน Firework ของเคที่ เพอร์รี่ย์และ Viva ของColdplayบวกกับลักษณะการร้องของพิ้งค์ในRaise Your Glassหน่อยๆล่ะใช่เลย เริ่มชอบแล้วสิ Bad Kids (4/5) เปิดตัวเก๋ด้วยกีตาร์ฟั้งค์ร็อคกระชากๆช่วงต้นก่อนจะกลายพันธุ์มาเป็นเพลงจำพวกโอลด์สคูลอิเล็คโทรแด๊นซ์-พ็อพอาร์แอนด์บีติดฟังค์กี้ย์ดิสโก้80กรีดกรายสวิงสวายมากๆ ฟังแล้วนึกถึงตอนที่ป๋าไมค์ ไมเคิ่ล แจ็คสัน ราชาเพลงพ็อพผู้ล่วงลับพยายามยัดเพลงร็อคเข้ากับนิวแจ็คสวิงในช่วงยุค90และผลลัพธ์ออกมาลงตัวมากๆ Scheiße (4/5) เก๋ไก๋แปลกหูดี ฟังแล้วนึกถึงงานฟิวชั่นจำวพกอัลเทอเนทีฟแด๊นซ์ที่จับเอาดนตรีพ็อพ เทคโน ยูโรแด๊นซ์ โรโบติคซาวนด์มาชนกับดั๊บสเต็ปตายกันไปข้าง เปรี้ยวดี ^ ^ เพลงที่รอคอยที่สุดในอัลบั้มคงหนีไม่พ้น Government Hooker (5/5) ที่กรี๊ดกร๊าดประทับใจมากจากเวอร์ชั่นที่หล่อนไปเปิดในงานแฟชั่นก่อนหน้านี้พอมาเจอเวอร์ชั่นอีก้าลงเสียงไปทีแล้วขอลดลง.5คะแนนกลายเป็นดูป่วงประสาทปนตลกกลายๆแทนที่จะเก๋ไทรงพลังชวนขนลุกแบบลูกเล่นดนตรีที่ขึ้นต้นมาด้วยเสียงกอสเพลคอรัสโหยหวนกึ่งคลาสสิคคัลย้ายมาเป็นแด๊นซ์-พ็อพเทคโนติดกลิ่นไทรบัลและลูกเล่นของดาร์คอัลเทอเนทีฟที่หยอดบีทและเทคนิคการร้องแบบอาร์แอนด์บีเข้ากับซาวนด์อิเล็คโทรนิคปรุงแต่งออกมาเป็นเสียงเครื่องจักรและหุ่นยนต์จางๆตอนเข้าเพลง (แบบPoker Faceไงคะ หึหึหึ) ชนิดที่ถ้าคนเล่นไม่แน่จริงก็เตรียมส่งขึ้นเมรุได้เลยเพราะดนตรีเถือกๆนี้หลอมเข้ากับพวกเมนทสตรีมได้ยากพอตัวแต่ขอชมที่กาก้าทำออกมาได้ดีมากๆในแง่การนำเสนอรวมถึงสาส์นในเรื่องของเพศ การเมืองและเนื้หาเชิงเสียดสีมนุษยนิยมที่ช่วยขับขานให้แทร็คนี้ออกมาทรงพลัง เบรคกับบัลลาดช้าๆใน You&I (5/5) เป็นคอนเทมโพลารีย์เจือบีทอิเล็คโทรนิคผสานไลท์แจ๊ซซ์เจือจางในตอนแรกพร้อมกับไต่ระดับหยอดอารมณ์ของความบลูส์โซลขึ้นเรื่อยๆจนระเบิดความดิบถึงขีดสุดตอนท้ายถึงขั้นเป็นบลูส์โซลคันทรีย์ฟังค์จัดจ้านผสานสำเนียงกีตาร์บลูส์ร็อคดิบกร้าวเชือดเฉือน ชนิดที่ไม่เคยคาดหวังว่าศิลปินอย่างกาก้าจะทำเพลงแบบนี้ออกมาได้ดีถึงขนาดนี้ ท้ายสุดกับ Heavy Metal Lover (5/5) กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดทำออกมากับเขาก็ได้ด้วย อวกาศและฮิพมากๆเจ้าค่ะ ดนตรีเป็นอิเล็คโทรซินธิ์พ็อพติดดีพเฮ้าส์เทคโนสำรวยสำราญแบบที่แม่มาลัยของดิฉันชอบทำ บีทดิสโก้ตึ๊บๆและแอมเบี้ยนท์ลอยละล่องประหนึ่ง Goldfrapp อาร์แอนด์บีเทคโนอย่างที่เจเน็ตและบริทนี่ย์นิยมใช้เป็นอาวุธและดีพแทรนซ์ฉบับอีเจ๊แม่มาดอนน่ากับน้าไข่มาเอง เป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้มสำหรับดิฉัน ณ ขณะนี้
สรุป
อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดจากฝากดิว่าพ็อพประจำปี2011นับจาก Femme Fatale ของบริทนี่ย์ในช่วงต้นปี The Fame คืออัลบั้มที่สร้างให้ชื่อของเลดี้กาก้าขึ้นเป็นกระแสร้อนแรงอันดับ1ของโลกแต่ Born This Way นี่แหละจะเป็นอัลบั้มที่สร้างเครดิตในฐานะศิลปินที่ทำ ดนตรีและอัลบั้มที่ดี ประดับชื่อของเธออย่างแท้จริง สร้างมาสเตอร์พีซในอัลบั้มที่สองซะแล้วนับว่าต่อไปเมื่อเดินพ้นจากความเป็นกระแสและติดลมบนเหมือนดิว่าท่านอื่นๆที่เขาเจ๋งจริงๆอย่างมาดอนน่า คริสทิน่า มารายห์และไคลีย์อะไรพวกนี้แล้วเลดี้กาก้าจะเป็นคู่แข่งที่ศิลปินหญิงทุกนางในวัฏจักรดนตรีพ็อพต้องระวังให้ดี