ไม่มีอะไรในวินาทีนี้ที่ "ไมลีย์ ไซรัส" สาวฟันจอบหนึ่งในทีมสามเจ้าหญิงดิสนีย์คนนี้ทำไม่ได้ การลงทุนที่แสนคุ้มค่าที่สุดของแม่เหมยก็ตอบแทนนางอย่างคุ้มค่าเหมือนกัน หลังจากที่เพื่อนสาวเดมี่ เซเลน่า ลอกคราบเป็นสาวไปเรียบร้อย แม่ฟันจอบที่อุตสาห์ออกตัวแรงตั้งแต่ครา Party in the USA ก็หาได้ยอมน้อยหน้า สลัดผ้าโชว์บั้นท้ายหนังหุ้มกระดูกไปถูน้องชายนายโรบิน ธิค กลางรายการ VMA อย่างโฉ่งฉ่างจนผู้คนกล่าวถึงไม่ว่าจะเป็นด้านดีถึงด้านไม่ดี จาก Hannah Montana ตัวละครในฝันของสาวมะกันก็กลายร่างเป็นอีตัวแห่งกรุงบาบิลอน แก้ผ้าร่อนน้องสาวโชว์ไปทั่วสหรัฐฯ พร้อมกับการที่ซิงเกิ้ลของนางไม่ว่าจะเป็น We Can' Stop หรือ Wrecking Ball ก็พากันทะยานสู่ชาร์ตบิลบอร์ดสร้างสถิติให้ผู้คนตะลึงพรึงเพริศกันไปทั่วหน้า ประจวบกันดิชั้นก็พอมีเวลาว่างซักกะน้อย เลยขอจับแป้นพิมพ์กลับมารีวิวตามประสาคนขี้บ่นอีกครั้งค่ะ
ภาพรวม แบงเกอร์ในมุมมองของดิฉันคือการแฉตัวตนที่แท้จริงของตัวนางไหมเอง (ตัวตนที่ชอบออกมาป่าวประกาศว่าชั้นน่ะแรงนะยะ) ถ้าเปรียบเป็นภาพถ่ายก็คงพูดได้คร่าวๆว่า NUDE พอควรเลย ดนตรีที่เติบโต หยาบโลน ดิบ และ กล้าหาญ มากยิ่งขึ้นในตัวของสตรีนางนี้ เพลงในงานชุดนี้จะถูกนำเสนอในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คลับแบงเกอร์ อาร์แอนด์บี และดนตรีฮิปฮ่อป ตัวงานค่อนข้างมีหีบห่อชัดเจน นำเสนอให้แบบที่ไม่ทันสมัยมากนัก
ด้านดี/ด้านด้อย สิ่งที่ไซรัสส่งต่อไปยังผู้ฟังเป็นเพลงประเภท "สมัยนิยม" คือไม่ได้หวังความโมเดิร์นไปจากปัจจุบัน แต่ก็ไม่มีความเป็นโรโทรอยู่เช่นกัน ด้านโดดเด่นที่สุดคือการที่นางรู้จักคำว่า"พอดี" คือไม่พยายามยัดในสิ่งที่คนไม่อยากฟังเข้ามาจนมาเกิน บวกกับความหมายแก่นฮาไม่สาระอะไรมากก็ไม่อยากที่จะกลายเป็นงานโปรดของใครหลายๆคนแต่กระนั้นแบงเกิร์ก็ยังซ่อนด้านที่เข้มข้นไว้เหมือนกัน ส่วนด้านด้อยนั้นอาจจะเป็นภาคดนตรีที่ยังไม่จัดจ้าน หรือแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของไมลีย์ได้อย่างชัดเจน (แบบที่เจ๊แนสเคยบอก) ว่าเธออาจได้อิทธิพลของศิลปินท่านอื่นมามากประจวบกับจังหวะที่เธอพยายามสร้างชื่อเสีย(ง) ให้กระฉ่อนไปทั่วปฐพี บางทีหรือบ่อยครั้ง ที่เราฟัง Bangerz แล้วจะชวนให้นึกถึงหน้าของ Rihanna ขึ้นมาเสียดื้อๆ หวังว่า"สักวัน"ไมลีย์จะสามารถหาภาพลักษณ์ที่พอดีได้เหมือนกับเพลงของเธอ และสร้างเอกลักษณ์ให้คนฟังได้ทราบว่า นี่แหละ ไมลีย์ไซรัสซิกเนเจอร์
01 Adore You (4/5)
เปิดตัวอัลบัมด้วยเพลงช้า จังหวะอาร์แอนด์บีกึ่งโซลผสมท่อนร้องที่หมองหม่นเศร้าสร้อย จังหวะช้าโหยหวนไปมา ชวนให้ถึงการร้องชวนง่วงเทปยานของ ล้านนา เดล เรย์ ตัวคอรัสขอเพลงนี้มีแพสชั่นมาก นางเลือกใช้เมโลดี้ต่ำผสมกับคอรัสจางๆปนกับดนตรีคลาสสิกที่แทรกตัวออกมาวาดลวดลายอย่างมีชั้นเชิง แค่เพลงแรกนางก็สามารถทำเราอึ้ง และคาดไม่ถึงได้ขนาดนี้ แทรคต่อไปจะน่าสนใจแค่ไหนกันนะ
02 We Can't Stop (3.5/5)
ถึงจะคนละอารมณ์กันกับเพลงบนแต่กลับเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ รอบนี้ไมลีย์พรีเซนท์เพลงอาร์แอนด์จังหวะปานกลาง คล้ายกับเบรกบีทส์ เจือกับอารยธรรมดนตรีฮิปฮอปและแฝงความเป็นอิเล็กทรอนิกส์ไว้อย่างลงตัว ความหมายไม่พ้นปาตี้ยาอีถูกใจวัยรุ่นมะกันตามคาด ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะดูไม่มีจุดเด่นอะไรมากมายแต่ฟังไปสักพักเป็นติดงอมแงมกันแน่ๆค่ะ อ๋อ ในท่อนฮุคชีแอบเปลี่ยนมาใช้เสียงเพียโนเบาๆแทนด้วยนะ ทำให้ไม่มีอะไรบาดหูจนเกินไป เจ๋งนี่ !
03 SMS (feat. Britney) (3/5)
ต่อกันที่อาร์แอนด์บีฮิปฮ่อปที่ความเป็นคนดับพุ่งทะลุปรอท เพลงนี้บรรจุเสียงร้องแรดๆ ออโต้ทูน และดนตรีดิปสไตล์ไอ้มืด ประกบกับเมโลดี้สังเคราะห์ทั้งหลายแหล่ ก็เก๋ดีนะ ท่อนร้องกึ่งแร๊ปก็ทำมาได้ดีเหมือนกัน จุดเด่นอาจะเป็นเสียงสังเคราะห์ของผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ส่วนบริทนีย์เปรียร์หรือคะ เอามาร่วมงานด้วยทั้งทีแทบไม่มีบทบาทซะเลย ทำแบบนี้อย่าเอามาฟีทซะเลยจะดีกว่านะคระ
04 4x4 (feat. Nelly) (4/5)
อาร์แอนด์บี พ๊อพร๊อก ผสานกันอย่างลงตัว จังหวะสนุกสนานมากประหนึ่งเพลงประกอบการืตูนยังไงยังงั้น ภาคดนตรีทำออกมาโล่งๆเพื่อทำให้ท่อนร้อง-ท่อนแร่ป โดดเด่นขึ้นมา แบบว่าติดหูเก๋ไก๋มาก ไปจนถึงท่อนแตร ทรัมเป๊ะ หรืออะไรสักอย่างนั่นแหละ น้อยๆ แต่ทำให้เพลงน่าสนใจขึ้นมาก ไปจนถึงเสียงพิณ เสียงดนตรีคล้ายกับคาบาเร่ หรือในฮาเร็มอินเดีย ไม่รู้สิคะ เอาเป็นว่าชอบอ๊า ว่าแต่มีใครฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงเพลงประกอบการ์ตูนมั๊ย
05 My Darlin' ( feat. Future ) (3.5/5)
โฟล์คอัลเตอร์เนทิฟ เรียงร้อยท่วงทำนองผ่านเสียงกีร์ต้าเพราะๆ ผสมผสานกับเสียงร้องโหยหวนคู่ประสานของนางไหมกับนายฟิวเจอร์ก่อนที่ดนตรีจะเริ่มเปลี่ยนร่างเป็นฮิปฮ่อปอาร์แอนด์บีแท้ๆ สอดคล้องกับเมโลดี้สังเคราะห์ต่างๆนาๆ มันก็เพราะดีแหละค่ะ แต่ว่าหล่อนจะได้แรงบันดาลใจอินสไปร์เรชั่นมาจาก loveeee song ของห่านศรีริอานน่ามากไปแมะคะ หลับตาแล้วชะนีผิวหมึกเสียงเหน่อพุ่งออกมาเชียว แถมเสียงคอรัสเอ๊กโค่ตอนท้ายเพลงหล่อนมากคร่ะ ยังกับโรงเรียนผีสิง
06 Wrecking Ball (4/5)
เพลงนี้เอง ที่ทำให้ไมลีย์ ไซรัสโด่งดังไปทั่วโลกา เพลงนี้เป็นอิเล็กทรอนิกส์อาร์แอนด์บีที่ได้เมโลดี้เพราะๆประสบกลิ่นอายออเรทอล มานำตัวเพลงผสนมกับเสียงสดของนางก่อนจะตัดสู่ท่อนฮุคทรงพลังแบบเบรกบีทส์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วงหลังของเพลงเริ่มมีคราบดนตรีคลาสสิกและคอรัสไพเราะๆมาเสริมทัพอีก ถ้าใครกำลังมีข้อสงสัยว่า เพลงนี้ถ้านังไหมไม่ลงทุนแก้ผ้าร่อนโยณีไปมามันจะดังรึเปล่า ดิชั้นขอตอบเพลยว่า เพราะขนาดนี้ จะแป้กได้เหรอคะ(เอ๊ะ หรืออาจจะแป้ก) ?
07 Love Money Party (Featuring Big Sean) (5/5)
กลับมาที่จังหวะแก่นๆของแบงเกอร์อีกครั้ง มาถึงก็เจอกับความเด่นของท่อนร้องเพลยที่มาในสไตล์กึ่งแร๊ปกึ่งร้องผสมกับดนตรีฮิปฮ่อปออโต้ทูน และเมโลดี้สังเคราะห์เก๋ๆ ให้อารมณ์ซ่องอวกาศมากๆ ท่อนฮุคติดหูมากที่สุดในโลกเอาเป็นว่าจบเพลงแล้วเรายังคงวนเวียนในหัวว่า "เลิฟ มันนี่ พาร์เต้" ท่อนหลังของเพลงดนตรีเริ่มสลับไปสู่อาร์แอนด์บีแบบดนตรีคนป่าด้วย ครบรสขนาดนี้ ใครจะเกลียดได้ลงคอ
08 #GETITRIGHT (3/5/5)
พ๊อพอารืแอนด์บีแสนสดใสหนึ่งเดียวในอัลบัมนี้ หลังจากเพลงอื่นเป็นปาร์ตี้ใต้ดิน เพลงนี้ก็เหมือนสาวไฮสคูลกำลังเดินอยู่กลางแสงตะวันและเสียงนกร้อง ตัวดนตรีเป็นอาร์แอนด์บีที่มีเพียงปรบมือชัดเจนผสมกับเมโลดี้ สไตล์ฟังก์แสนสดใส ไปจนเสียงผิวปาก แต่พอกลับบมาดูในการร้องแล้ว ... อินี่มันร้องอะไรวะ คือเหมือนเพราะนะคะ แต่หอความพีคและหีบห่อไม่ค่อยเจอ เอาเป็นว่าเพลินๆไปละกัน
09 Drive (4/5)
ฟังอินโทรแล้วตกใจ เพิ่งจะสดใสไปได้ไม่เท่าไหร่ ชั้นกลับกลายเป็นชะนีที่โดนผีชีวะรุมทึ้งอีกแล้วเร๊อ เพราะในท่อนแรกนั้นจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์เบรกบีทส์แตกๆ ก่อนจะกลายร่างเป็นอิเล็กทรอนิกส์แอมเบียนต์ ประสมกับเสียงสดของนาง (แพทเทอร์นเดิมอีกละ) มาที่ท่อนฮุคดีกว่า ก็ยังเป็นอิเล็กทรอนิกส์ฮิปฮอป ในจังหวะอาร์แอนด์บีเหมือนเดิม ได้พอร์ชคอรัสที่เป็นเสียงฮู้ฮูเพราะๆมาช่วยไว้ เพลงนี้อาจแย่กว่าที่คุณคิด และดีกว่าที่คุณคิดเช่นกัน
10 FU (Feat. French Montana) (5/5)
ขึ้นต้นมาด้วยเสียงสดแบบเค้นอารมร์เลย ต่อด้วยท่อนร้องสดๆประสมกับเสียงกดเมโลดี้ คล้ายกับละครเวที ค่อยเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ และระเบิดอารมณ์ในอิเล็กทรอนิกส์อาร์แอนด์บีปนกับดนตรีฟังก์โกธิคต่อกันเลยที่ท่อนของแฟรงก์ มอนทาน่าที่ค่อยเสริมความเป็นร๊อก และดนตรีคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกต่างๆคล้ายบัลเต์และละครเวทีอย่างเต็มที่ เพลงนี้เก๋มาก ดนตรีหลายประเภทสุดๆ ถ้าจะฟังแบงเกอร์ ห้ามพลาดค่ะ
11 Do My Thang (3.5/5)
เกริ่นดนตรีมาด้วยเสียงกระตุกสีงเคราะห์ทุเรสๆขัดกับเมโลดี้สังเคราะห์เพราะๆ ต่อเข้าส่วนเนื้อร้องจริงที่เป็นแอมบ์เบียนต์ ดนตรีนุ่มนวล เร่งจังหวะความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆด้วยเสียงปรบมือตัดอารมรณ์กระทันหันที่ท่อนฮุคเป็นอิเล็กทรอนิกส์ฮิปฮอปจังหวะดิบๆและพระสวดออโต้ทูนอะไรเทือกนั้น รวมกับเสียงพุดของแม่นางและดนตรีที่เริ่มยุ่งเหยิงไปหมด
12 Maybe You're Right (5/5)
เปิดเพลงมาเป็นเสียงรัวกลองแต๊กก่อนที่จะเป็นท่อนร้องที่ผสานเสียงคอรัส ( โอโอโอ ) ที่เพราะมากๆ รวมกับดนตรีที่เป็นอารืแอนด์บีพ๊อพร๊อกกับเสียงเพียโน ท่อนฮุคเริ่มเป็นพ๊อพร๊อกอาร์แอนด์บีเร่งจังหวะเจือความเป็นอัลเตอร์เนทิฟไว้อย่างแนบเนียนมาจนถึงท่อนท้ายที่เริ่มเพิ่งความแน่นจนเป็นมาร์ชตบท้ายด้วยเสียงกีร์ต้าเพราะๆ ขอบอกเลยว่าเพลงช้าเพลงนี้เพราะสุดในอัลบัมนี้แล้วค่ะ
13 Someone Else (4/5)
กลับบมสที่เพลงจังหวะช้าๆแบบเพลงเปิดตัวที่รอบ เป็นเสียงสดของนางไหมอีกแล้ว ดนตรีเป็นอิเล็กทรอนิกส์วาร์ปไปมา จนเป็นคลับเป็นตัวในพรีคอรัสต่อด้วยดนตรีฮิปฮอปเบรกบีทส์เต็มตัว ตัดอารมณ์เป็นแอมป์เบียนต์ในท่อนฮุคและปิดท้ายด้วยฮิปฮ่อปดิบๆพอร์ชคอรัสอย่างที่คาดเดาไว้ ส่วนบริดจ์นั้นใช้วิธีเฟด - เร่งซาวด์คล้ายๆกับรถเครื่องตอนกำลังจะสตาร์ทนั่นล่ะ ก่อนจะกลับมาที่ดนตรีแนวเดิม ฟังได้เรื่อยๆนะคะ ปิดอัลบัมไปแบบชิลๆดีเหมือนกัน
อ้างอิงจาก:
คิดว่าอัลบัมนี้ถูกใจคอฮิปฮอป อิเล็กทรอนิกส์แน่นอน ในขณะเดียวกันคนที่เมนสตรีมพ๊อพก็ยังคงฟังได้นะ อัลบัมนี้ดีกว่าที่คิดเยอะเลย นางมีของดีแท้ๆแต่ภาพลักษณืทำให้ทุกอย่างแย่ลง เรียกว่ายังไงดีละคะ เพลงดี แต่หีมาบัง ก็ได้ละมั๊ง ฮิฮิ