
ละเลยความสนใจจากวงที่เคยชอบนักหชอบหนาไปนาน พอเวลาผ่านไป ภาพลักษณ์บอยแบนด์สวยหรู น่ารักน่ากินเริ่มหมดไป ดิชั้นก็เริ่มรู้ตัวว่าพวกเขาในเวลานี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เคมีเข้ากันจริงๆ แต่พอมามีข่าวว่าอัลบัมที่สามของห้าสหาย วันไดเรก ชั่นจะออกวางจำหน่าย ก็อดจะไปหามาฟังไม่ได้ จะว่าไปหนุ่มๆเหล่านี้ก็ผ่านอะไรมาเยอะเลยนะ ทั้งที่เดบิวต์มาเมื่อปี 2010 นี่เอง แต่ในปี 2013 ก็มีคอนเสริร์ต World Tour เป็นของตัวเอง และอะไรต่างๆมากพอให้เอามาเรียบเรียงจับทำนองเป็นหัวใจหลักของ มิดไนท์ เมมโมรี่ ที่กล่าวถึงความทรงจำในอดีต ความฝันที่จะเป็นนักร้อง การก้าวสู่ความสำเร็จจนถึงจุดที่สูงสุด(แล้วหรือยัง) ณ จุดนี้ ถึงปากจะด่าจะจิกกัดแต่ก็ยังมีความเอ็นดูอยู่เหมือนเดิม เหมือนกับพ่อแม่ที่มีความรู้สึกว่า ลูกเราโตแล้วนะ ดูเขาสิ ... ไม่พล่ามมากละ เข้าสุ่ตัวอัลบัมเลยค่ะ
ภาพรวม Midnight Memories ไม่ใช่เพลงเก่าเองมารีมิ๊กซ์ใหม่แบบที่ทุกคนกลัวใจกัน ดิชั้นเองตอนแรกก็คร้ามเหมือนกันแหละ เห็นซิงเกิ้ลที่ทยอยหลุดออกมามันของเก่าชัดๆเลยนี่หว่า แต่พอฟังเต็มๆทั้งอัลบัมแล้วถึงได้รู้เลยว่า พวกเขาเปลี่ยนไป และสามารถที่จะใช้คำว่า "โตขึ้น" ได้โดยไม่อายปากแล้ว เทมโพของเพลงเปลี่ยนจากพ๊อพสนุกๆจังหวะติดหูไปพอควร อัลบัมนี้จะเน้นไปทางดนตรีร๊อก ดูท่าว่า 1D จะจับทางของตัวเองได้สำเร็จแล้ว นั่นคือ ร๊อก และพ๊อพร๊อก อัลบัมนี้ตีความเอกลักษณืของพวกเขาในภาคคอนเทมโพลารี จังหวะสนุกยังมีพอให้เห็นประปราย ที่เหลือจะเป็นจังหวะกลางๆ ประกอบด้วยดนตรี พ๊อพ ร๊อก มาร์ช ไปจนถึงอิเล้กทรอนิกส์ อาร์แอนด์บีอ่อนๆ กลิ่นอายย้อนยุคออกมาแจมเต็มไปหมด ส่วนเพลงช้าก็ โฟล์ค โฟล์ค โฟล์ค ค่ะ ทั้งชีวิตทำเพลงช้าเป็นแนวเดียวจริงๆ เอาเถอะ ไม่หวังอยู่ละ
จุดเด่น/จุดด้อย สำหรับพุซซี่ จุดเด่นไม่ใช่ชั้นเชิงดนตรี หรืออะไรที่มันแพรวพราวล้ำโลก แต่มันคือการที่พวกนี้กล้าสลัดคราบบอยแบรนด์แอ๊บแบ๊วว่าเป็นหนุ่มขึ้น อาจจะยังไม่ชัดเจนมากแต่มันก็ดีที่ได้เห็นพัฒนาการของพวกเขา ไปจนถึงเพลงที่ดูแล้วมีจิตวิญญาณมากกว่างานชุดที่แล้ว ไม่ใช่สักแต่จำทำเพลงจังหวะสนุก โจ๊ะพรึมๆ ฟังแล้วกระโดดตามเข้าว่า - ความปราณีตในเพลงที่มามากขึ้น ทั้งการผสมดนตรีลงกับเสียงร้องออกมาได้สมูธ นุ่นวลขึ้นมากๆ เอาเป็นว่าถ้าใครลองฟัง Take Me Home แล้วมาต่อที่อัลบัมนี้แล้วจะรู้เลย ส่วนจุดด้อยก็คือความน่าเบื่อ และเฉื่อยของบทเพลง พอขาดท่อนฮุคติดหู จังหวะสนุกไปแล้วมันก้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ส่วนเพลงช้านี่ก็น่าเบื๊อน่าเบื่อ ฟังแล้วอยากจะเข้าไปไปตบหัวมือกีร์ต้า แล้วตะโกนว่า "หยุดเล่นเพลงโฟล์คซักที !" อ่านะ แล้วอีกอย่างก็คือ เพลงไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เลย ฟังแล้วจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเพลงนี้ชื่อเพลงอะไร ? ... และ อัลบัมนี้เพลงสั้นมาก ส่วนใหญ่ไม่ถึง 3 นาทีด้วยซ้ำ
01 Best Song Ever (3.5/5)
ทุกคนคงเห็น mv แสนตลกโปกฮาของลิงห้าตัวไปแล้ว มาดูที่เพลงกันบ้าง ขึ้นต้นด้วยพ๊อพจังหวะแน่นสอดแทรกเสียงเบสเข้ามาจางๆ เดินจังหวะแบบป๊อปร๊อกทั่วไป ท่อนฮุคติดหูแบบเพลงอัลบัมแล้วๆ แต่รอบนี้จังหวะจะช้า และนิ่งลง เสียงประสานที่แข็งแกร่งขึ้น ปิดด้วยพอร์ชคอรัส โอะ โอ้ โอ ซิกเนเจอร์วง แบบว่า ฟังแล้ว อะไรคือแตกต่างจากอัลบัมที่แล้วยะ ?? แต่ถามว่าฟังได้ไหม เออ มันก็เพลินๆดีนะ
02 Story Of My Life (3.5/5)
เริ่มต้นมาก็ไม่อยากจะฟังแล้ว เป็นเสียงเกากีร์ต้าคลอมากับเสียงร้องสดๆ ตามสไตล์เพลงช้าหากินสิ้นคิดของวงนี้ พูดเลยว่าเกลี้ยดเกลียดเพลงประเภทนี้ ( อ่อ อีแอลบึ้มแล้วชั้นเกลียดเพลง Little thing ที่สุดในโลก) แต่แล้วท่อนฮุกก็เริ่มเปลี่ยนไป คอรัสเริ่มหนาและนิ่มนวลขึ้น จะหวะจะโคนเริ่มเร่งเป็นมาร์ชคลาสสิก ยกความให้เสียงคลอเลยเพลงนี้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะดีไซน์ท่อนฮุกได้ติดหู แล้วก็เพราะกว่านี้นะ อันนี้ดุเนื้อเพลงมันไม่ค่อยเข้ากับจังหวะเท่าไหร่
03 Diana (4/5)
กลับมาตายรังอีกครั้ง ทั้งคนร้องทั้งคนฟังนั่นแหละ กับเพลงพ๊อพร๊อก จังหวะอาร์แอนด์บีแสนติดหูน่ารักแบบฉบับเดิมของหนุ่มๆวงนี้เขาเลย ท่อนฮุคคงไม่ต้องอธิบายมาก ติดหู สนุก แต่ไม่ใช่แบบที่ดนตรีจัดจ้านนะ จะเป็นสไตล์เรื่อยๆมากกว่า ไปฟังเอง รับประกันว่าชอบได้ไม่ยากสำหรับเพลงนี้ แต่ใครที่เบื่อของเก่าแล้วเราขอเสนอให้ไปต่อที่แทรคสี่เเลย
04 Midnight Memories (4/5)
เพลงชื่อเดียวกับอัลบัม รอบนี้ 1D พรีเซ็ทเรโทรร๊อก กลิ่นอายคาบาเร่ ย้อนยุคมาเต็ม เปิดตัวมาด้วยรีฟท์กีร์ต้าหนักๆ เร่งจังหวะในพรีฮุคแล้วก็ตบ-หยอดจัวหวะในคอรัสทั้งเสียงประสาน เสียงกีร์ต้ามาเต็มค่า อีกจุดเด่นนึงคือเสียงเบส เสียงกีร์ต้าเลยนะเพลงนี้ พอท่อนบริดจ์เริ่มขึ้นจังหวะเร็วขึ้นเป็นพ๊อพ ร๊อกแอนด์โรล ปิดท้ายด้วยท่อนติดหู พรีเซ้นอัลบัมแบบเจ๋งๆฝุดๆ
05 You and I (1.5/5)
อะไรจ้ะ ไม่ทันไรก็กลับไปเป็นเพลงช้าอีกแล้ว เบื่ออีวงนี้อย่างนึงคือชอบเอาเพลงช้ามาแทรกกับเพลงเร็วซึ่งมันทำให้เสียอารมณ์มากๆ ส่วนดนตรีทำนองคำร้องก็อะไรค้า ก๊อปของเก่ามาอีกแล้ววว โฟล์คปัญญาอ่อน คลอกับเสียงสด โอ๊ยตาย อีห่า เป็นอะไรมากมั๊ยค้ากับดนตรีพวกนี้ บนกับอีไซม่อนไว้รึไงคะ ว่าถ้าได้ออกเพลงแล้วจะทำเพลงโฟล์ค 100 เพลงถวาย ???? เงิบแปป กรอมาฟังที่ท่อนบริดจ์เลยเถอะ เป็นเสียงริฟท์กีร์ต้า บัลลาร์ดร๊อกเต็มขั้น แต่ก็นะ กว่าจะมาดี มันก็เสียไปแล้วอ่ะ ให้คะแนนสงสารหน่อยละกัน ชิชิ เห็นใจครึ่งหลังเพลงนะยะ เลยให้ขนาดนี้ ไม่งั้นเอาไป 0 !
06 Don't Forget Where You Belong (5/5)
ให้ดิชั้นได้มีวันพรุ่งนี้อีกครั้ง กับเสียงกดคีย์บอร์ดกลิ่นอายอัลเตอร์เนทิฟลอยมาก เริ่มขึ้นท่อนร้องที่พอจะให้อภัยได้ ค่อยๆเพิ่มจังหวะกับเสียงเคาฉาบ ท่อนฮุคพ๊อพร๊อกบัลลาร์ดนุ่มนวล ดนตรีร๊อกเริ่มชัดเจน และมีบทบาทขึ้นในช่วงหลัง แข็งแกร่ง แต่อ่อนโยน เพราะมากค่ะเพลงนี้ ดูแล้วมีสมองกว่าอีเพลงบทเยอะเลย เออ มีตบแปะมาประกอบด้วยนะ สงสัยกลัวคิดถึง
07 Strong (3.5/5)
ขึ้นต้นมาด้วยเสียงเกากีร์ต้า(แบบที่นังเคลลี่คลาร์กสันยอมทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ใช้เครื่องดนตรีชิ้นนี้) รวมกับเสียงร้องต่ำๆ ท่อนฮุกเป็นซินธ์พ๊อพ ติดหูและดูมีอะไรเหมือนกัน พอเริ่มเข้าสู้บริดจ์จะงหวะก็เริ่มเปลี่ยนเป็นพ๊อพร๊อกจังหวะมาร์ชพาเรทและการโชว์เสียงของหนุ่มเซนย์ ผิดท้ายด้วยฮุคประสานเสียง ใช้ได้อยู่
08 Happily (4.5/5)
เป็นที่เราชอบที่สุดในอัลบัมนี้ เป็นพ๊อพร๊อกทัวไป จังหวะแตกๆเหมือนกับเพลงในยุคก่อนๆ เริ่มเร่งจังหวะในพรีคอรัส(กระซิบว่าท่อนนี้เพราะที่สุด) ต่อด้วยฮุกป๊อปร๊อก เจือดนตรีสังเคราะห์ซินธ์ไซเซอร์จางๆ อุ้ยๆ อะไรกัน มีเสียงแบนโจมาเสริมทัพเบาๆด้วยนะ จนถึงได้รู้ว่ามันมีดนตรีคันทรีย์ปนอยู่ด้วยนี่แหละ อร๊ายย ชอบ ชอบ ชอบ
09 Right Now (3.75/5)
อินโทรมาเป็นอิเล้กทรอนิกส์เมโลดี้คลายกับเสียงกดตุ่มโทรศัพท์(เหรอวะ) อธิบายไม่ถูกจริงๆ พอจังหวะเริ่มมาเพลงก็กลายเป็นป๊อปร๊อก อาร์แอนด์บี ท่อนฮุคช้าลง เน้นคอรัสหวานๆนุ่มนวลและดนตรีคลาสสิกกลมกล่อม มีรดชาติของอัลเตอร์เนทิฟบนอยู่จากๆ พอถึงท่อนบริดจ์ก็ได้กอสเปลโวโอโอ้มาเสริมอีกที เพราะดีค่ะ แต่มีจุดด้อยเรื่องการเอามาประติดประต่อกัน
10 Little Black Dress (3/5)
เพลงชื่อน่าสนใจ เหมือนน้ำหอมขายดีของ Avon เพลงนี้เป็นร๊อกแอนด์โรล ตามไสตล์เพลงเก่าชัดๆเลย ทั้งเสียงกีร์ต้าและการแต่งเสียงให้แตกแบบพอประมาณ ติดหูมาตั้งแต่ยังไม่ถึงฮุค - ท่อนฮุคน่าผิดหวังเล็กน้อยตรงที่ไม่มีความแต่งต่างเลย มีการอวดดนตรีกลางเพลงอยู่เหมือนกัน ฉันชอบนะเพลงย้อนยุคประเภทนี้ แต่คิดว่าทำทั้งที น่าจะออกมา "ถึง" กว่านี้นิดนึง แต่ไม่เป็นไร เท่านี้ก็โอเค
11 Trought The Dark (3/5)
กลัวค่ะคุณหลวง เพลงโฟล์คมาอีกแล้ว แต่คราวนี้ดีกว่า เพราะมีการเร่งจังหวะสายกีร์ต้าที่เร็วขึ้น ความหมายน่ารักดีเนาะ ท่อนฮุคเป็นป๊อป พาเรท น่ารักดีเหมือนอยู่ในงานเทศกาลท่อด้วยพอร์ชคอรัสแบบเสียงประสานมาวิน นุ่มนวลแต่บางทีก็มากไป เหมือนกับน้ำหอมที่กลิ่นมัสก์แย่งซีน Note ไปเสียหมด มันเลยดู อู้อี้ๆ แต่กะเพราะอยู่น้า
12 Something Great (4/5)
อีกหนึ่งเพลงโปรด ขึ้นต้นด้วยเสียงอิเล้กโทนเพราะๆ ตัวเพลงเป็นป๊อปโฟล์คจังหวะกลาง จนท่อนฮุคที่มีเสียงเล่นกีร์ต้าชัดขึ้นและจังหวะที่จัดเจน คอรัสเพราะๆเริ่มเข้ามาทำหน้าที่แบบถูกเวลา จนครึ่งท้ายเพลงเท่านั้นแหละที่เป็นคอรัสสังเคราะห์รวมกับอิเล้กโทน หีบเพลง ไวโอลิน เพราะมากๆเลยค่ะ ถ้าใครยังติดใจ Change my mind จากอัลบัมที่แล้ว ต้องไม่พลาด เสียดานท่อนเพราะๆสั้นไปหน่อย
13 Little White Lies (3/5)
วาร์ปเปิดตัวมาเป็นแอมป์เบียนต์ เริ่มขยำกับดนตรีอิเล้กทรอนิกส์อ่อนๆ แล้วกลายมาเป็นพ๊อพมาร์ช ท่อนฮุคเปลี่ยนเป็น Dub-Step สังเคราะห์กับเสียงริฟท์เบสเท่ๆ โอเคมากกับการเปลี่ยนแนวเพลงหลังจากคนเริ่มเบื่อแล้ว แต่มันธรรมดาไปหน่อยนะ น่าจะเอามาสร้างจุดเด่นได้เยอะกว่านี้
14 Better Than Words (3/5)
โฟล์คร๊อก ผสมเสียงผิวปาก แบบขึ้นต้นมาแล้วตกใจเลย จังหวะเป็นอาร์แอนด์บี ผสมกับซินธ์อ่อนๆ ฮุคเพิ่มเสียงริฟท์กีร์ต้าเข้ามา ชวนให้นึกึงเพลงของบอยแบนด์ยุคก่อนๆ เพลงนี้อธิบายความรู้สึกดิชั้นไว้แล้วค่ะ ว่าการที่คุณจะได้มาลองฟังเอง ย่อมดีกว่าอ่านรีวิวของชาวบ้านชาวช่องเป็นไหนๆ
อ้างอิงจาก:
สรุปแล้ว ตอนแรกคือปรามาสไว้มาก ว่าทุกเพลงต้องแย่แต่พอฟังแล้วมันก้ดี อย่าเพิ่งตกใจว่าคะแนนเวอร์ เราว่าอัลบัมนี้เวลาฟังรวมกันมันจะไม่โดเด่น แต่ถ้าลองฟังแบบตั้งใจทีละเพลง จะรู้เลยว่า แต่ละอันไม่ธรรมดาเลย ของดูนะคะ ใครชอบเพลงพ๊อพจังหวะกลางละก็อย่าพลาด