
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/01/23/get-into-the-groove-manic-street-preachers-if-you-tolerate-this-your-children-will-be-next-britpop-100-55/
Manic Street Preachers : If You Tolerate This Your Children Will Be Next : Britpop (100% = 5/5)
แทบไม่อยากจะเชื่อว่าแม้กระทั่งในช่วงเวลาของทศวรรษ90sอันเป็นช่วงเวลาที่ความนิยมในดนตรีแนวบริทพ็อพหรืออัลเทอเนทีฟร็อคบานสะพรั่งอย่างถึงขีดสุด แต่ Manic Street Preachers วงร็อคปัญญาชนที่ส่งตรงจากเวลซ์กลับต้องใช้เวลากว่า5-6ปีในการสร้างสถิติอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงและอัลบั้มฝั่งสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกให้ตัวพวกเขาเอง - ผลงานชุดแรกของพวกเขาคือ Generation Terrorists ในปี1992 - ทั้งที่จริงๆแล้วฝีไม้ลายมือและทักษะชั้นเชิงทั้งการทำดนตรี แต่งเพลงและเอกลักษณ์อันเอกอุในการถ่ายทอดบทเพลงผ่านน้ำเสียงของวงนี้สำหรับดิฉันนี่ขอคารวะให้อยู่ในขั้น สุดยอด ชนิดที่กล้าพูดว่าถ้าวัดกันโดยตรงเฉพาะที่ตัวผลงานล้วนๆOasisกับBlurที่เป็นไฮไลท์ของแวดวงร็อคอังกฤษในวินาทีนั้นก็มีหนาวไปเหมือนกัน
นับจากช่วงเวลาที่ได้รับความสนใจอย่างถึงขีดสุดจากมหาชนเมื่อตอนเปิดตัวสุดโต่งในลุ๊คส์วงพั้งค์ร็อคสับกีต้าร์มันส์ระยับกับอัลบั้ม Generation Terrorists สู่ผลงานที่ได้รับการพูดถึงและอ้างอิงจากสื่อมวลชนและนักวิจารณ์มากที่สุดอย่าง The Holy Bible (ที่ส่วนตัวดิฉันไม่เห็นด้วยว่าเป็นงานชุดมาสเตอร์พีซเพราะเท่าที่ฟังๆมาน่าจะทั้งหมดแล้วคิดว่ามีชุดอื่นที่ดีกว่า) และจุดเปลี่ยนของวงในอัลบั้ม Everything Must Go ที่กลายเป็นวงร็อคสามชิ้นหลังจากการหายสาบสูญไปอย่างลึกลับของ ริชชี่ย์ เอ็ดเวิร์ด หนึ่งในสมาชิกของทางวงซึ่งทำให้The Manicsผันตัวจากเจ้าชายจอมขบถแห่งเวลซ์สู่ความเป็นวงร็อคปัญญาชนพุ่งเป้าเสียดสีการเมืองและสังคมโลกชนิดเต็มตัวซึ่งก็ได้รับการตอบรับแห่แหนในระดับที่เหนือความคาดหมาย ส่งผลให้อัลบั้มชุดถัดมาในปี1998อย่าง This Is My Truth Tell Me Yours อันเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่5ทะยานขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มฝั่งสหราชอาณาจักรเป็นชุดแรก (และชุดเดียวจวบจนวันนี้ของพวกเขา) เช่นเดียวกับที่ If You Tolerate This Your Children Will Be Next ซิงเกิ้ลเปิดตัวของอัลบั้มได้สร้างสถิติอันดับหนึ่งของทางวงเป็นเพลงแรกบนชาร์ตเพลงฝั่งอังกฤษและถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพลงเดียวของ The Manics ที่เล็ดลอดไปได้รับความสนใจบนสถานีโมเดิร์นร็อคของฝั่งอเมริกา
ด้วยแรงบันดาลใจโศกนาฏกรรมของสงครามกลางเมืองในสเปนรวมถึงอาสาสมัครทหารชาวเวลซ์ที่เข้าไปร่วมรบกับระบอบเผด็จการของฟรานซิสโก ฟรังโก้ในสงครามครั้งนี้ ซึ่งเมื่อหลอมรวมปรุงแต่งเข้ากับทัศนะทางการเมืองและการเสียดสีสภาวะการณ์ของสังคมโลกผ่านมุมมองของศิลปินและปัญญาชนในเจเนอเรชั่นหลังแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อให้เกิดสาส์นทางดนตรีอันทรงพลังใน If You Tolerate This Your Children Will Be Next มากมายทีเดียว โดยส่วนตัวเชื่อว่าบทเพลงๆนี้ของพวกเขาสามารถกรีดและแทรกซึมเข้าไปถึงหัวใจทุกๆดวงโดยไม่เลือกชนชั้นและอุดมการณ์ในการดำรงชีวิตเพราะมันช่างใกล้ตัวและตีแผ่ความเป็นจริงที่เจ็บปวดเหลือเกินจนใครๆก็สัมผัสได้ มีท่อนๆนึงในเพลงนี้ที่ชอบมากๆคือ If I Can Shoot Rabbits,Then I Can Shoot Facists ซึ่งก็นับว่าเป็นการเล่นกับสัญลักษณ์ของเผด็จการและสะท้อนถึงความรุนแรงและการถูกกระทำของผู้บริสุทธิ์ได้อย่างครบถ้วนชัดเจนภายในประโยคเดียว ยิ่งมาชนดนตรีสไตล์อัลเทอเนทีฟร็อคเข้มๆแต่ท่วงทำนองละเมียดละไมและสวยงามตามธรรมเนียมของบริทพ็อพหรือดนตรีร็อคฝั่งอังกฤษประกอบกับเสียงร้องอันเจิดจรัสของพี่เจมส์ ดีน แบรดฟีลด์นักร้องนำของวงที่ผสานทั้งความเกรี้ยวกราดและวิญญาณของเสรีชนก่อนจะระเบิดมันออกมาเป็นบทเพลงที่แสนจะปวดร้าวอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของ Manic Street Preachers ที่มีครบทั้งเนื้อหาสาระ การวิพากษ์เสียดสีและการผสานอารมณ์ขั้นเทพได้อย่างสมบูรณ์แบบเสียขนาดนี้คะแนนเต็ม100%ที่ให้ยังน้อยไป
พูดก็พูดเถอะค่ะจุดประสงค์ที่เขียนรีวิวเพลงนี้ขึ้นมาก็เพราะมันเป็นอะไรที่ช่างประจวบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเมืองในวินาทีของประเทศไทยเราโดยแท้ ในฐานะคนที่มีคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลดิฉันเชื่อนะคะว่าหนึ่งในเหตุผลที่ประชาชนนับล้านยืนขึ้นในวันนี้ก็เพราะคำนี้แหละ If You Tolerate This Then Your Children Will Be Next หากผู้ใหญ่ในวันนี้ยังคงจำทนต่อความไม่ชอบธรรม ความไม่ชอบธรรมก็ยังคงเป็นพันธนาการที่ผูกมัดอนาคตของชาติต่อไป - บางทีให้แม่งแตกหักกันซะตั้งแต่วันนี้ไปเลยดีกว่านะคะจะได้จบๆไป!