
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/03/09/major-lazer-apocalypse-soon-alternative-hip-hopdancehallelectronicreggaetondub-step-100-55/
Major Lazer : Apocalypse Soon : Alternative Hip-Hop/Dancehall/Electronic/Reggaeton/Dub Step (100% = 5/5)
เล่นเอาหน้าแหกเป็นเสี่ยงๆเพราะดิฉันเพิ่งมาทราบข่าวว่า ดีเจสวิตซ์ หนึ่งในผู้บุกเบิกโปรเจ็ค Major Lazer วงอัลเทอเนทีฟฮิพฮอพ,อิเล็คโทรนิก้าและจาไมกันแด๊นซ์ฮอลล์เอาใจเด็กแว๊นซ์ร่วมกับ ดีเจดิพโล สุดหล่อได้สะบัดตูดเดินออกจากวงไปแล้วด้วยเหตุผลในเรื่องของ แนวคิดทางดนตรีที่แตกต่างกัน ซึ่งมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องเสียหายใหญ่โตอะไรมากมายหรอกค่ะถ้าการชิ่งออกจากวงของคุณพี่มันไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี2011แต่บ.ก.เพจHysteriaของเรายังละเมอมาจวบจนปี2014ว่า Major Lazer ยังคงเป็นสวิตซ์และดิพโลแถมยังจัดรีวิวอัลบั้ม Free The Universe ที่วางขายไปเมื่อปีที่แล้ว - 2013 - พร้อมให้เครดิตพี่สวิตซ์ (ที่ออกจากวงไป2ปีแล้ว) เสียสง่างาม ณ จุดนี้ต้องกราบขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกๆท่านทั้งทางเพจ,ทางบล็อคและทั้งทางFF Magจริงๆ วันหลังจะพยายามทำการบ้านเรื่องการอัพเดทข้อมูลของศิลปินให้เป็นที่แน่ใจกว่านี้มากกว่าจะเน้นเขียนสดรีวิวสดๆอย่างเดียวค่ะ!
แก้ไขความเข้าใจส่วนตัวเสียใหม่พร้อมทำใจยอมรับว่า สวิตซ์ นั้นไม่ได้อยู่ในMajor Lazerอีกต่อไปแล้วโดยโปรดิวซ์เซอร์ที่ดิพโลเลือกมาร่วมทีมแทนที่คู่หูเก่าที่ร่วมก่อตั้งโปรเจ็คนี้มาด้วยกันคือ ดีเจ Jillionaire และ Walshy Fire โดยท่านหลังเป็นหนึ่งในสี่ของสมาชิกวง Black Chiney ทีมดีเจและวิศวกรเสียงชาวจาไมกันเชื้อสายจีนซึ่งทั้งคู่ก็ได้ร่วมฝากผลงานในฐานะMajor Lazerกับผลงานอีพีหนึ่งชุดและอัลบั้ม Free The Universe เมื่อปีที่แล้วที่ติดหนึ่งในอัลบั้มที่บ.ก.เพจโปรดปรานที่สุดอีกด้วย (แต่ไม่ได้ให้เครดิตพี่ทั้งสอง) และล่าสุดกับผลงานอีพีชุด Apocalypse Soon ที่ออกมาต้อนรับฤดูร้อนบ้านเรากันตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ในส่วนของภาคดนตรีในอีพีชุดนี้โดยรวมแล้วก็ยังไม่ได้ขยับไปจากความเป็นMajor Lazerแบบเดิมๆที่หลายคนคุ้นเคยเสียเท่าไรหรือเรียกให้ถูกคือ ไม่ได้ขยับไปไหนเลย มากกว่าเพราะตัวงานใน Apocalypse Soon ก็ยังคงยื้นพื้นที่ดนตรีเออร์บันแบบอัลเทอเนทีฟฮิพฮอพและจาไมกันแด๊นซ์ฮอลล์ผสานเข้ากับลูกเล่นของดั๊บสเต็ปและอิเล็คโทรนิคอันเป็นสไตล์เอกลักษณ์ของทางวงที่ทำไว้เอาใจคอเพลงเต้นระบำโซนจาไมกันและพวกหลงใหลในศิลปะของดนตรีคลับแด๊นซ์แบบคลับฮิพฮอพดำปิ๊ดปี๋ฟิวชั่นกับอิเล็คโทรนิคตึ๊บๆทั้งหลายแต่ที่ให้คะแนน100%เต็มเนื่องจากงวดนี้มาเต็มและลงตัวมากๆไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความมิติในการเรียบเรียงและความทรงพลังในการนำเสนอเรียกได้ว่าระเบิดความห่าม ความบ้าและความแว๊นซ์กันชนิดมันส์สะใจเกรียนสุดๆ
แรกเริ่มเดิมทีศิลปินที่ยกโขยงมาร่วมงานกันในโปรเจ็คของเหล่า Major Lazer นี้ส่วนมากจะเป็นพวกอินดี้หลบลี้กันอยู่ใต้ดินชนิดที่เอ่ยชื่อแต่ละคนมาหลายคนอาจจะมีกระพริบตากันปริบๆด้วยความที่เฉพาะทางและรู้จักกันเป็นกลุ่มๆมากแต่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆชื่อของวงนี้จะติดตลาดเมนทสตรีมมากขึ้นรวมถึงส่วนหนึ่งทางพี่ดิพโลคงตั้งใจจะผลักดันวงเข้าตลาดกระแสหลักให้จงได้ด้วยเราจึงได้เห็นชื่อของศิลปินระดับบิ๊กและเก๋าเกมส์ลอยลมบนในวงการจริงๆมาช่วยเรียกแขกอย่างในชุดนี้ก็มีพี่ ฟาร์เรลล์ วิลเลี่ยมส์ ที่ก็เข็นทั้งDaft PunkและRobin Thickeขึ้นอันดับหนึ่งบิลบอร์ดHot100ไปเมื่อปีที่แล้วซึ่งก็มาร่วมงานในแทร็คเปิดอัลบั้ม Aerosol Can (4.5/5) เพลงอัลเทอเนทีฟฮิพฮอพผสานจังหวะเต้นระบำของจาไมกันสไตล์Major Lazerแท้ๆอย่างที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยชุด Guns Dont Kill People Lazer Do! อาจจะดูมุขเดิมๆไปนิดแต่เชื่อว่าสาวก Major Lazerต้องชอบแน่ๆแถมพี่ฟาร์เรลล์ยังแร็พได้เปรี้ยวสุดๆ มาที่ศิลปินอีกคนที่น่าจะเรียกความสนใจได้ไม่แพ้กันนั่นคือ ฌอน พอล ในเพลง Come On To Me (5/5) อันนี้มาในแนวจาไมกันแด๊นซ์ฮอลล์ผสานเครื่องเป่าคาลิพโซ่เพราะๆเรียบเรียงดนตรีได้เจ๋งมากๆมีทั้งฮิพฮอพ อิเล็คโทรนิคไปถึงจังหวะเต้นระบำพื้นเมืองโซนแอฟโฟร่-แคริบเบี้ยนรับฤดูร้อนแท้ๆที่นำมาประยุกต์ปรุงแต่งในเพลงให้ร่วมสมัยและมีเสน่ห์ขึ้น Sound Bang Feat. Machel Montano (4.5/5) ขึ้นต้นมาเป็นเร็กเก้หวานๆเพราะๆชวนโยกแต่พอเข้าเพลงตบมาทั้งเฮ้าส์ อิเล็คโทรนิค ดั๊บและแด๊นซ์ฮอลล์ก่อนจะวนลูพกลับไปเป็นเร็กเก้ใสๆอีกครั้ง ชอบนะ! แทร็คถัดไป Lose Yourself Feat.RDX&Moska (5/5) อีกหนึ่งงานโลโก้ของMajor Lazerที่มีติดไว้เป็นอาวุธลับทุกอัลบั้มกับอัลเทอเนทีฟฮิพฮอพผสานอิเล็คโทรนิค ดั๊บสเต็ปและจาไมกันแด๊นซ์ฮอลล์แรงๆเอาใจคอคลับแด๊นซ์ทั้งหลาย มันส์สะใจสุดพลังมาก! ส่งท้ายด้วย Dale Asi Feat. Mr.Fox (4/5) กระเดียดไปทางทริพฮอพอืดๆแบบที่ดิพโลเคยทำช่วงต้นยุคเพียงแต่นำความเป็นอิเล็คโทรนิคและฮิพฮอพมาทดลองกับแด๊นซ์ฮอลล์และเวิลด์ สโลวแจมผิดธรรมเนียมและบรรยากาศแต่ก็นับว่าเป็นเพลงที่ดีอยู่โชคดีที่ปล่อยของมา4เพลงรวดก่อนหน้านี้เพลงนี้เลยฟังดูไม่ค่อยน่าผิดหวังเท่าไร
น่าเสียดายที่ส่วนตัวได้ฟังอัลบั้มนี้หลังจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ตัดสินอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำเดือนไปแล้วไม่งั้น Morning Phase ของป๋าเบ็คอาจจะชวดตำแหน่งให้อัลบั้มไป แต่ไม่เป็รไรเราสามารถยกยอดหลังวันที่25มาไว้เดือนมีนาคมนี้ได้ถ้าไม่มีงานของศิลปินที่วางขายในรอบเดือนมีนาคมท่านใดถูกใจกว่ารับรองว่า Apocalypse Soon ชุดนี้คว้าตำแหน่งอัลบั้มยอดเยี่ยมของเดือนมีนาคมนี้แน่นอน