˹���á Forward Magazine

ตอบ

Sia : Chandelier
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Sia : Chandelier 


http://www.facebook.com/HysteriaCulture

http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/03/19/get-into-the-groove-sia-chandelier-indie-popalternative-75-3-55/

Sia : Chandelier : Indie Pop/Alternative (75% = 3.5/5)

ตอนแรกแอบเศร้าที่เห็นเจ๊เซีย “เซีย เฟอร์เล่อร์” ศิลปินอินดี้พ็อพและนักแต่งเพลงมากความสามารถจู่ๆออกมาประกาศอำลาวงการชนิดสายฟ้าแล่บด้วยความที่หลังจากที่ได้รู้จักนางและติดตามฟังผลงานของนางนี่ต้องขอกราบคารวะด้วยยาดองของอีลำยิงตบรวดชนิดสามโหลเลยว่านางเจ๋งจริงอะไรจริงทั้งเสียงร้องที่ดิบและทรงพลังอันสามารถขับขานวาทะศิลป์กรีดใจในบทเพลงของนางให้อยู่ในระดับที่เกินกว่าคำว่า “เลอค่า” คือมันเป็นอะไรที่เลิศและเจิดสุดๆชนิดที่งงว่าอีเจ๊ความสามารถขนาดนี้ทำไมถึงเพิ่งจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเอาอีตอนหลังออกอัลบั้มชุดที่5ไปแล้ว?!!!!

แต่แล้วจู่ๆอีเจ๊ก็ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่แกะกล่องชื่อ “Chandelier” มาหลังวันหวยออกงวดล่าสุดนี่เองเจ้าค่ะไม่รู้ว่านางของขึ้นหรืออยากจะอำลาแฟนเพลงเก๋ๆกับอีกสักอัลบั้มที่เห็นข่าวลือว่าอาจจะวางขายช่วงเดือนมิถุนายนศกนี้ถ้ากระบวนการทุกสิ่งอย่างเรียบร้อยเบ็ดเสร็จเป็นไปตามกำหนด อีกหนึ่งหรือ!คือ “หรือว่าตอนที่เจ๊ออกมาประกาศอำลาวงการนี่เจ๊จะดีดค้า?!!!!” เอาล่ะๆแฟนจ๋าไม่ปากหมาแล้วเพราะเดี๋ยวถ้าอีเจ๊มันเกิดเปลี่ยนใจชิ่งไปตามที่พูดจริงๆก็จะมานั่งโศกาอาดูรกันอีก – - แต่ที่ว่าอำลานี่คือผันตัวไปเป็นเบื้องหลังสินะ!

นับว่าเป็นการกลับมาออกเพลงของตัวเองให้แฟนๆฟังอีกครั้งหลังจากหายต๋อมทิ้งช่วงจาก “We Are Born” อัลบั้มชุดที่ห้ายาวนานถึง4ปีซึ่งอีเจ๊เซียก็ไม่ได้ไปพักผ่อนอะไรหรอกค่ะเพราะหลังจากได้รับเทียบเชิญให้มาแต่งตั้งหลายเพลงในอัลบั้ม “Bionic” งานในตำนานของ “คริสทิน่า อากิเลร่า” แล้วก็ดูเหมือนว่าเท้าเซียจะไม่ติดดินเสียแล้วเพราะได้กลายร่างเป็นนักเต้นเพลงเนื้อหอมสาละวนวิ่งวุ่นเขียนเพลงให้ศิลปินดังๆไปทั่วไม่ว่าจะเป็นริฮานน่า,บียอนเซ่,แฌร์,ไคลี่ย์ มิโน้กไปถึงระดับนางพญาอย่างบียอนเซ่หรือเจ้าหญิงเพลงพ็อพอย่างอีเจ๊หอก “บริทนี่ย์ สเปียรส์” ก็เรียกใช้บริการของเธอเช่นกัน ไหนจะจากความสำเร็จระดับมหาศาลบนบิลบอร์ดชาร์ตกับเพลง “Taitanium” ที่ร่วมงานกับโปรดิวซ์เซอร์เฮ้าส์ “เดวิด เกตต้า” คนเคยเก๋นั่นอีก แค่นี้เครดิตในวงการเพลงของนางเซียก็เรียกได้ว่าขยับขึ้นมาจากศิลปินอินดี้ที่ขลุกอยู่แต่ในออสเตรเลียมาเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลระดับย่อมๆของวงการได้อย่างเต็มปากและภาคภูมิ

ดูเหมือนว่าอิทธิพลจากการเขยิบเข้ามาร่วมงานและมีชื่อเสียงในโลกของดนตรีกระแสหลักจะส่งผลต่อการทำดนตรีของเซียพอควรเพราะขึ้นต้นเพลง “Chandelier” มานี่กลิ่นอายเร็กเก้ฟิวชั่นและเออร์บันตลบอบอวนแบบริฮานน่าก็เล่นทำเอาสะดุ้งโหยง “นี่เรากำลังจะได้เห็นเซียในฉบับ2.0ที่เสียความเป็นออริจินัลไปแล้วหรือไร?” แต่ไม่ทันอ้าปากจะด่าเจ๊ก็สำแดงความแปลกและความดิบในแบบของเซียให้เห็นในท่อนคอรัสที่ตบกลับเข้าสู่ภาคของความเป็นสาวเซียในแบบฉบับอินดี้หม่นๆเกรี้ยวกราดและดุดันเข้าใจยาก แรกๆก็ฟังดูแปลกๆแต่ก็นับว่าเป็นงานอัลเทอเนทีฟที่เท่ห์และแน่นอนประหลาดในแบบเซียที่แฟนๆเดนตายหลายคนฟังแล้วคงชอบนี่ฟังไปนานๆเข้ายังแอบเคลิ้มเลยนะไอ้ท่อนคอรัสทีเสียจริตแหกปากฟาดงวงฟาดงาเอ็ดตะโรแผดเสียงหวีดเป็นเปรตนั่นถึงจะดูเกินๆไปแต่ฟังไปฟังมามันก็กลายเป็นความงดงามและน่ารักไปโดยปริยาย แต่เสียอยู่อย่างเดียวเสียงเจ๊นี่ไปอย่างเห็นได้ชัดแล้วนะคะเมื่อเทียบกับสมัยอัลบั้ม “Some People Have Real Problems” นี่แฟนจ๋าบอกเลยว่าหล่อนร้องดร็อปลงอย่างน่าตกใจคือคุณภาพในการร้องเธอไม่ได้แย่นะแต่มันสะท้อนถึงสภาวะข้างในและสุขภาพของเธอที่เหมือนสุดจะเข็นเวลาขึ้นเสียงสูง หากท่านผู้อ่านไม่เชื่อโปรดลองไปหาเพลง Electric Bird หรือ Breath Me มาฟังจะรู้ว่าเซียเคยแน่นกว่านี้เยอะ – - อีเจ๊มึงเพลาๆเรื่องยาบ้างนะอยากเป็นวิทนี่ย์ ฮุสทันหรือเอมี่ ไวน์เฮ้าส์ภาคออสซี่หรือไง? รักนะโว้ยถึงได้เตือน!!


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com