˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (3)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (3) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

hysteria

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เรื่องเล่าสยองขวัญจากห้องน้ำนักเรียนชายที่ถูกปิดตาย เล่ม2 (3)

บทความ/นิยายในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” ( http://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture)เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

ร่างสูงตระหง่านในชุดคลุมสีดำของซิสเตอร์สากุลวดีโบกสะบัดออกมาจากลิฟท์กลางห้องโถงรับแขกของหอพักซิสเตอร์ที่เงียบสงัดอ้างว้างและมืดสนิท เธอค่อยๆนำคีย์การ์ดเปิดประตูทางเข้า-ออกก่อนจะเดินแสยะยิ้มออกมานอกตัวอาคารซึ่งขณะนี้มีกลุ่มเด็กทั้งชายและหญิงในชุดยูนิฟอร์มกว่า20คนยืนรอเธออยู่ด้านนอก “ท่านแม่อธิการครับผมเตรียมการทุกสิ่งไว้เรียบร้อยตามแผนที่คุณแม่สั่ง” เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ทั้งหมดจะเคลื่อนตัวตามหลังสากุลวดีไป เลวรำพึงที่แอบซ่อนตัวรออยู่ในมุมมืดของห้องรับแขกเดินออกมาในชุดหนังรัดรูปสีดำที่ดูไปดูมาคล้ายจะเป็นชุดฮัลโลวีนคอสเพลย์แบบนางแมวป่าอะไรทำนองนั้นหากแต่ต่างไปตรงที่เธอรูดซิปผ่าตั้งแต่หน้าอกจนถึงสะดือ “ที่นี้ล่ะฉันจะกระชากหน้ากากช็อคการีในคราบแม่ชีของแกให้ได้” เธอกำโทรมือถือทั้งไอโฟนและกาแล็กซี่S4ที่ชาร์ตแบ็ตอย่างเต็มเปี่ยมไว้ในมือก่อนที่จะเดินสะกดรอยตามกลุ่มของสากุลวดีออกไปโดยในใจเธอหวังจะถ่ายคลิปที่สากุลวดีแอบออกไปเที่ยวผับไม่ก็ขณะที่กำลังเริงสวาทกับหมู่นักเรียนจากวิทยาเขตุหาดใหญ่ที่ติดสอยห้อยตามเธอมา

“นี่พวกเธอมั่นใจถึงขนาดนั้นจริงๆเหรอ?” ดีไซน์ถามพวกแอนดี้หลังจากที่พวกเขาถูกไล่กลับมาจากห้องพักผู้ป่วยของกาโต้อย่างไม่เชื่อหูในขณะที่มือก็กำลังปอกแอปเปิ้ลให้ฮาเวิร์ด “ฉันมั่นใจเกิน90%เพราะเสียงทุ้มต่ำของพ่อกาโต้นั่นเหมือนที่เราได้ยินในโทรศัพท์เป๊ะ!” ฟารีดายืนยันเช่นเดียวกับคริสมาสต์ที่รีบเสริม “แถมพ่อของกาโต้ยังมีอาการลนลานจนน่าสงสัยด้วยพอพวกเราพูดถึงเรื่องแจ้งความ” ทั้งกลุ่มดูเหมือนจะตื่นเต้นกับหลักฐานนี้ยกเว้นหลินที่ดูซึมไปถนัดตา “แต่ถ้าเป็นพ่อกาโต้จริงๆเขาจะจำเสียงของดีไซน์ได้ยังไงล่ะคะทั้งๆที่เขาแทบจะไม่เคยมาประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนเลย” หลินทักท้วง “ฉันว่าถ้าเป็นพ่อของเขาจริงๆเรื่องนี้กาโต้ต้องมีส่วนด้วยเชื่อมั้ยล่ะ?” ฟารีดาเสนอ “เป็นถึงหมอไม่น่าเชื่อว่าจะมีความคิดต่ำๆแบบนี้” ดีไซน์ส่ายหน้าก่อนจะหันมามองแอนดี้กับคิรินทร์ที่ต่างนั่งโซ้ยมาม่าคัพกันอย่างหิวโหยโดยไม่พูดไม่จาอะไร “สองคนนั้นถ้าไม่ว่าอะไรรบกวนต้มมาม่าให้ดีไซน์ด้วยสิคะ” เธอกลืนน้ำลายเพราะกลิ่นหอมหวนของมาม่ารสต้มยำสองถ้วยลอยเข้าจมูกในขณะที่คิรินทร์รีบพยักหน้า “เดี๋ยวยูก็อ้วนหรอกนี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ!” ฮาเวิร์ดแซวแต่ก่อนดูเหมือนดีไซน์กำลังสนใจภาพของคริสมาสต์ที่กำลังนอนสลบเหมือดแอ้งแม้งไปทั้งชุดยูนิฟอร์มตรงมุมห้องมากกว่า “ซกมกจริงๆ!!!” ฟารีดาส่ายหน้า “ว่าแต่คืนนี้ยูจะอาบน้ำมั้ย? ถ้าไม่อาบก็ไปนอนตรงมุมโน้นกับคริสมาสต์เลยนะ กลิ่นตัวเธอตีกับกลิ่นน้ำหอมแรงมาก!!!” ดีไซน์หันมาหยิบมาม่าคัพที่แอนดี้เดินมาส่งให้ก่อนจะหันไปป้อนแฟนหนุ่ม “สองคนนั้นจะไปไหนอ่ะ?” ฮาเวิร์ดถามแอนดี้กับคิรินทร์ “เอ่อ อาบน้ำทำไมเหรอ?” แอนดี้หันมาตอบด้วยความงุนงง “อาบด้วยกันเลยเหรอ? อย่าทำอะไรกันนานนะอย่าร้องเสียงดังด้วยเห็นใจกูนิดนึง” ฮาเวิร์ดยักคิ้วก่อนจะเอาหัวซบลงไปนอนหนุนตักดีไซน์ “ไอ้บ้าฮาเวิร์ดนี่!” ฟารีดาสำลักรูทเบียร์

เลวรำพึงแอบเดินสะกดรอยตามสากุลวดีและกลุ่มนักเรียนในยูนิฟอร์มของเซนต์มาบุสที่เดินนำ “ศุภกร” จากบีทีเอสศาลาแดงมาจนถึงโบสถ์แห่งหนึ่งย่านสีลมที่เธอไม่คุ้นเคย “มาทำอะไรกันที่โบสถ์เนี่ย?!!!” เลวรำพึงอุทานออกมาด้วยความสงสัยใจหนึ่งเธอรู้สึกหงุดหงิดที่เรื่องราวทั้งหมดมันผิดคาดเนื่องจากในวินาทีแรกสุดเธอคิดว่าสากุลวดีจะพาเด็กๆไปสถานที่อโคจรไม่ก็โรงแรม หญิงสาวยืนสังเกตุการณ์อยู่ข้างนอกก็ไม่พบถึงวี่แววความผิดปกติใดๆเธอยืนฟังเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเพลงแล้วเพลงเล่าสลับกับการอ่านข้อความจากพระคัมภีร์ชื่อที่เลวรำพึงไม่คุ้นเคยจนเธอแทบจะยืนหลับอยู่ตรงพุ่มไม้ใหญ่ข้างประตูรั้ว นับเป็นความผิดมหันต์ที่เธอเลือกใส่ชุดหนังสีดำมาสำหรับปฏิบัติการลับนี้เพราะแทนที่จะเป็นจุดสนใจบรรดาหนุ่มๆในผับอย่างที่เธอตั้งใจไว้ในตอนแรกแต่ตอนนี้มันกลับดึงดูดยุงนับร้อยตัวให้มาหามรุมที่ตัวเธอจนหญิงสาวทนไม่ไหวจนตัดสินใจแอบลอบเข้าไปในรั้วโบสถ์ เลวรำพึงค่อยๆย่องตัดรูปปั้นนักบุญและสวนหย่อมลานน้ำพุหน้าโบสถ์ก่อนจะค่อยๆแอบไปชำเลืองมองข้างหน้าต่างเธอเห็นว่าขณะนี้ซิสเตอร์สากุลวดีกำลังยืนแนะนำศุภกรต่อหน้าคณะบาทหลวง,ซิสเตอร์และเด็กๆในชุดยูนิฟอร์มของหลากหลายโรงเรียนพร้อมรอยยิ้มโอบอ้อมอารีชนิดที่เลวรำพึงแทบจะไม่เชื่อสายตาก่อนที่หญิงสาวจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีคนเดินมาจับไหล่ “ซิสเตอร์มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ?” บาทหลวงวัยฉกรรจ์คนหนึ่งถามเลวรำพึง “เอ่อ คือๆหนูๆมาเที่ยวกลางคืนแล้วเมาค่ะเลยเดินมาเรื่อยแล้วมาเจอโบสถ์ที่นี่ สวยแปลกตาดีไม่เคยมา!” เธอเรียกตัวเองว่า “หนู” ทั้งที่จริงๆแล้วอายุน่าจะมากกว่าบาทหลวงคนนั้นถึงสองรอบพร้อมกับพ่นคำโกหกชนิดไฟแล่บ “อ่า พระผู้เป็นเจ้าท่านคงนำทางคุณมาที่นี่ มาสู่แสงสว่าง อย่างไรก็ตามซิสเตอร์สนใจเข้าไปร่วมฟังมิสซาในโบสถ์ของเรามั้ยครับ?” บาทหลวงเสนอแต่เลวรำพึงรีบปฏิเสธทันควัน “วันนี้ไม่เหมาะกระมังคะเพราะหนู เอ่อ คือซิสเตอร์เมาและที่สำคัญแต่งตัวไม่สุภาพ แฮะๆ” เธอยื่นหน้าอกให้บาทหลวงดู “ถ้าเป็นอย่างนั้นวันไหนซิสเตอร์สนใจจะมารับฟังพระวจนะขององค์พระเป็นเจ้า พ่อขอเชิญที่โบสถ์เราได้ทุกเมื่อนะครับ พ่อชื่อ ‘คมกฤษณ์’ ยินดีที่ได้รู้จักและขอพระอวยพร” บาทหลวงเดินมาส่งเลวรำพึงที่หน้าประตูแล้วมองดูเดินออกไปจนลับตา “ท่านแม่อธิการครับผมไล่มันไปแล้ว!” คมกฤษณ์รีบโทรศัพท์รายงานสากุลวดีทันทีหลังจากที่เลวรำพึงเดินหายลับตาไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและดูดุดันอำมหิตต่างจากเมื่อแต่กี้โดยสิ้นเชิง

เลวรำพึงเดินออกมาจนถึงตัวถนนสีลมที่แม้ว่าจะล่วงเลยเข้าไปตีสองกว่าๆแล้วแต่ถนนเส้นนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยสีสันของแสงไฟจากบรรดาผับบาร์ ร้านอาหารและร้านรวงต่างๆข้างทางแม้ว่าในส่วนของการจราจรจะดูเบาบางลงไปถนัดตาแล้วก็ตามที เธอเดินผ่านฝรั่งร่างสูงใหญ่หลายคนที่หันมามองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายแต่ก็ไม่มีใครสักคนที่เป็นที่สนใจเตะตาเธอแม้แต่น้อย ณ วันนี้เธอรู้แล้วว่า “ปกรณ์” สามีเก่าของเธอคือรักแรก รักแท้และเป็นรักเดียวในชีวิต เธอรู้สึกผิดที่เธอบดขยี้ความไว้วางใจของเขาด้วยการฉ้อโกงบริษัทเพื่อเงินมูลค่าเพียงไม่กี่ล้านบาทซึ่งวันนี้มันแลกมาด้วยการที่เธอต้องอาศัยอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ เลวรำพึงในวันนี้สูญเสียอิสรภาพเช่นเดียวกับ “ความรัก” อย่างแท้จริงที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต หญิงสาวเดินชนผู้ชายร่างใหญ่สองคนที่บริเวณกลางหน้าซอยคอนแวนต์ที่เงียบสงัดก่อนที่ชายคนนั้นจะรีบประคองเธอไว้แน่น “ขอโทษครับ” ก่อนที่เขาจะเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากอุดจมูกเธอและทุกอย่างก็ดับมืดลง

พิภพลืมตาขึ้นมาในห้องพักผู้ป่วยที่มืดสนิท ชายหนุ่มหันมองไปรอบๆตัวพร้อมกับหัวสมองที่มึนงงสะลึมสะลือเขาพยายามทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาจำได้คือเขาตัวชาและหมดสติไปแล้วก่อนหน้านี้เขาได้ไปทำอะไรไว้หนอ? พิภพพยายามจะนึกทบทวนเขาจำได้ว่ารุ่นน้องที่ชื่อแอนดี้ที่เขาเห็นในฝันเมื่อกี้มาเรียกตัวเขาไปดูอาการมิสมาลินครูประจำชั้นเก่าสมัยม.5/1 “ม.5/1 เหรอ?” พิภพพึมพำก่อนที่ใบหน้าของคิรินทร์จะปรากฏขึ้นในห้วงความคิดของเขาใบหน้าที่ยังคงเรียบเนียนหล่อเหลาเหมือนเมื่อ10ปีที่แล้วแต่ต่างออกไปตรงที่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นในแววตาของเพื่อนคนนี้เขารู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนและหมดเรี่ยวแรงจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเขาจ้องหน้าเพื่อนเก่าที่เขาจำได้ไม่เคยลืมคนนี้ว่าแต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?ก็คิรินทร์ตายไปตั้งนานแล้วนี่หน่า พิภพทิ้งตัวลงนอนเขาคิดว่าเขาคงจะเหนื่อยมากเกินไปเพราะเขาก็พักผ่อนเพียงไม่ถึง5ชั่วโมงติดต่อกันมา4วันแล้วรวมถึงอาจจะเป็นความรู้สึกผิดข้างในเรื่องการตายของคิรินทร์มาโดยตลอด พิภพสะดุ้งสุดตัวเมื่อเขาเห็นภาพเลือนลางของผู้ชายคนหนึ่งมายืนปลายเตียงชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งเหงื่อโทรมหน้าพลางมองไปรอบๆห้องอย่างหวาดๆก่อนที่จะรีบเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะเทน้ำเปล่าดื่มเพื่อสงบสติอารมณ์

“แอวว๊ะะะ” พิภพอาเจียนออกมาอย่างหนักทันทีเมื่อปากของเขาสัมผัสกับน้ำเขามองแก้วน้ำในมือที่มันกลายเป็นคล้ายๆน้ำหนองที่มีหนอนตอมยั๊วะเยี๊ยะ “เฮ้ย!!!” พิภพปัดแก้วจากข้างเตียงตกลงมากระจายเป็นเสี่ยงๆที่พื้นก่อนที่เขาจะก้มหน้าอาเจียนเอาหนอนที่ชอนไชปากลงไปยันลำคอของเขา พิภพรู้สึกเหมือนว่ามีใครจิกหัวเขาและกดอย่างหนักจนเขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ชายหนุ่มพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดดิ้นให้พ้นจากพันธนาการนั้นก่อนจะหวดซ้ายป่ายขวาก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาได้แล้วพบภาพของผู้ชายเนื้อตัวแดงเกรียมสองคนตรงหน้าที่ยืนรอเขาอยู่ “พิภพเรามารับเจ้าแล้ว!” นายแพทย์หนุ่มร้องโหยหวนก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา “เฮ้ยๆ กูฝันไปเหรอเนี่ย?!!!” พิภพมองไปรอบๆห้องด้วยความหวาดกลัวก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนทับบางสิ่งบางอย่างบนหมอน นายแพทย์หนุ่มลืมตาขึ้นก่อนที่จะตาของเขาจะถลนเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นคิรินทร์ที่กำลังยืนอยู่บนหมอนของเขาจ้องตอบเขากลับมา “มึงกลัวมาเลยเหรอพิภพ?” สิ้นเสียงของคิรินทร์พิภพก็ร้องลั่นก่อนจะรีบกระโดดลงจากเตียงก่อนที่เขาจะล้มลงไปนั่นอยู่กับพื้น หมอหนุ่มกุมเท้าของเขาที่ถูกเศษแก้วที่พื้นบาดลึกจนเลือดไหลอาบก่อนที่จะขยับตัวหนีหนอนหลายร้อยตัวที่ชอนไชอาเจียนของเขาบนพื้น “โง่จริงๆเพิ่งปัดแก้วแตกไปแท้ๆยังทะลึ่งโดดลงไปเหยียบอีกเป็นหมอภาษาอะไร?” คิรินทร์ค่อยๆเดินลงมาจากเตียงก่อนที่เขาจะเหยียบเศษแก้วเหล่านั้นแล้วย่างสามขุมตรงมาที่พิภพที่พยายามจะคลานหนีสุดชีวิตก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง

“อย่าๆอย่าทำกู หนาวๆเหลือเกิน” พิภพสำลักก่อนที่เขารู้สึกเหมือนจะถูกเลื่อนออกมาอย่างแรง พิภพในสภาพที่เปลือยกลายล่อนจ้อนเขารู้ตัวว่ากำลังนอนอยู่ในตู้แช่ศพโดยมีคิรินทร์ยืนมองอยู่ ชายหนุ่มรีบตะเกียกตะกายออกจากตู้แช่ศพก่อนจะค่อยๆคืบคลานมาทางคิรินทร์ “คิรินทร์กูผิดไปแล้ว มึงอย่าทำกูเลย กูกลัวๆ ฮือๆ” ชายหนุ่มปล่อยโฮพลางยกมือไหว้ก่อนที่เสียงของตู้แช่ศพตู้อื่นๆจะค่อยๆเลื่อนออกมาพร้อมกับบรรดาศพของชายฉกรรจ์นับครึ่งร้อยที่รอการพิสูจน์ทางนิติเวชค่อยๆยืนขึ้นแล้วเดินลงมาล้อมตัวพิภพไว้ศพพวกนี้เป็นศพตายโหงของคนประสบอุบัติเหตุรถชน ไฟคลอก จมน้ำจนสภาพบวมอื่นรวมถึงโดนฆาตกรรมร่างไร้วิญญาณเหล่านั้นยืนล้อมพิภพด้วยดวงตาที่ปิดสนิทและสีหน้าปราศจากความรู้สึกหากแต่มีเพียงองคชาติของพวกมันเหล่านั้นที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ “ถือว่าเราหายกันนะพิภพ!” สิ้นเสียงคิรินทร์พิภพก็แผดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทรมานจากการถูกบรรดาศพนับครึ่งร้อยรุมข่มขืนอย่างวิตถารจนขาดใจตายคาห้องดับจิต

“คิรินทร์ๆ คิรินทร์ครับตื่นได้แล้วครับ” แอนดี้เขย่าตัวคิรินทร์ก่อนที่แฟนหนุ่มของเขาจะลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้างัวเงียสลึมสะลือโดยที่แอนดี้ไม่รู้เลยสักนิดว่านั่นคือการแสร้งทำอย่างแนบเนียน “นี่ยังเช้าอยู่เลยนะแอนดี้!!!” คิรินทร์หน้ามุ่ยก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มเมื่อแฟนหนุ่มขยี้หัวเขา “คนอะไรนอนหลับยังยิ้มอยู่คนเดียวฮึ? เดี๋ยวฟารีดาอาบน้ำเสร็จแล้วพวกเราก็เป็นคิวต่อไปครับเพราะเดี๋ยวพยาบาลจะเข้ามาเช็ดตัวให้หลินและพวกเราจะได้ไปรอข้างนอกก่อน” แอนดี้หัวเราะ “นี่เธอฝันอะไรเหรอจ๊ะคิรินทร์? ดีไซน์เห็นเธอนอนยิ้มตั้งแต่ตอนตีห้า” ดีไซน์ที่กำลังหนีบผมให้ตรงหันมาถาม “ฝันดีมากเลยครับ” คิรินทร์ยิ้มเขินๆ “ฝันถึงแอนดี้สินะ นอนกอดกันทั้งคืนเลยนี่” ฟารีดาเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำตอนนี้เธอใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนเรียบร้อยก่อนจะนั่งลงข้างๆดีไซน์พลางจ้องมองหลินที่กำลังซดซีเรียลมื้อเช้าด้วยความเอร็ดอร่อย “แล้วนี่เราจะปลุกสองคนนั้นยังไงดีเนี่ย?” ฟารีดาส่ายหน้าระหว่างมองสภาพของฮาเวิร์ดและคริสมาสต์ที่ยังคงหลับอุตุอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนตั้งแต่เมื่อวาน “สองหนุ่มป๊อปประจำห้อง5/3ในสภาพอันชวนสลด” ดีไซน์หยิบไอโฟนขึ้นมาถ่ายภาพของฮาเวิร์ดและคริสมาสต์ที่นอนแหกแข้งแหกขาหัวไปทางขาไปทางพลางหัวเราะคิกคัก

นับว่าดีไซน์และฟารีดาต้องขุดความสามารถที่มีอยู่แทบจะทุกเล่มเกวียนในตัวสำหรับการปลุกทั้งคริสมาสต์และฮาเวิร์ดก่อนที่จะลากให้ทั้งคู่ที่ปฏิเสธหัวชนฝาว่าจะไม่อาบน้ำให้เข้าห้องอาบน้ำไปโดยศิโรราบ “หอมชื่นใจที่สุดเลยค่ะ” ดีไซน์โผเข้ามากอดฮาเวิร์ดที่ยืนหน้าบูดอยู่หน้าห้อง “ว่าแต่เราจะไปไหนกันก่อนดีล่ะ ไปเยี่ยมกาโต้หรือไปเยี่ยมมิสกันก่อน?” แอนดี้ถามขึ้นมาโดยที่เขารู้คำตอบในใจก่อนอยู่แล้ว

เลวรำพึงตื่นขึ้นมาในห้องมืดๆเหม็นอับแห่งหนึ่ง เธอพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องล้มลงเพราะเชือกขนาดใหญ่ที่มัดข้อเท้าและโยงมาถึงข้อมือสองข้างของเธอไว้ “ใครมันทำกับกูแบบนี้เนี่ย?!” ครูสาวพูดอย่างมีอารมณ์ด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะถูกผ้ามัดปากไว้แน่นเช่น เธอพยายามนึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนที่เธอจะจำได้ว่าถูกชายร่างใหญ่สองคนโปะยาสลบที่กลางซอยคอนแวนต์ หญิงสาวรีบทิ้งตัวลงนอนก่อนจะได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดแล้วเปิดประตูเข้ามาในห้อง “ให้ฆ่ามันเลยมั้ยครับคุณแม่อธิการ? อ๋อ ยังเหรอครับ โอเคครับ ผมจะฆ่ามันตอนที่มันตื่นจะได้เล่นสนุกกับมันด้วย” เลวรำพึงแสร้งหรี่ตามองด้านหลังของชายคนนั้นก่อนที่จะพยายามรวบรวมสติทั้งหมดเพื่อจะเอาชีวิตรอด


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com