
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/06/25/back-in-the-day-blue-all-rise-poprb-80-45/
Blue : All Rise : Pop/R&B (80% = 4/5)
เชื่อเถอะว่าจู่ๆก็เกิดอาการคิดถึงอัลบั้มชุดนี้ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนถึงขั้นอดรนทนไม่ไหวต้องไปขุดกลับขึ้นมาฟังอีกรอบพร้อมกับเขียนรีวิวงามๆอุทิศให้แก่ All Rise อัลบั้มเปิดตัวของสี่หนุ่มวง Blue สี่หนุ่มบอยแบนด์แห่งสหราชอาณาจักรที่สามารถทะยานขึ้นอันดับหนึ่งบนยูเคชาร์ตบ้านตัวเองอย่างไม่ยากเย็นพร้อมกับปรากฏการณ์คลั่งไคล้นิยมชมชอบทั้งสี่หน่อนี้ไปแทบจะทั่วทุกมุมโลกชนิดที่ส่วนตัวกล้าพูดว่าของดีจากอังกฤษวงนี้ในช่วงเวลานั้นไม่แพ้พวก One Direction ของพวกน้องๆหนูๆที่ดังกันถล่มทลายในยุคนี้แน่นอน
สำหรับคนที่ทันวงการเพลงสากลช่วงต้นยุค2000sก็น่าจะรู้จักกิตติศัพท์ของวงBlueอันประกอบไปด้วย ดันแคน สุดหล่อขวัญใจบ.ก.เพจHysteria (เปิดตัวว่าเป็นไบเซ็กช่วลแล้วด้วย .กรี๊ดดด!!!),ลี หนุ่มน้อยจอมทะเล้นตัวป่วนของวงผู้มาพร้อมกับเสียงโหยหวนแหลมปรี๊ดส์, ไซม่อน หนุ่มผิวสีสุดเซ็กซี่เจ้าของเสียงโซลทุ้มนุ่มอบอุ่นควบด้วยตำแหน่งแร็พเพอร์วงและทิ้งท้ายด้วย แอนโธนี่ ผู้ไม่โดดเด่นสักเท่าไรนักแต่ดูดีๆก็น่ารักกลมๆปุ๊กลุ๊กน่ากอดดีไม่หยอกแถมเวลายิ้มทีเล่นเอาใจละลายอีกต่างหาก ในช่วงเวลานั้นพวกเขาเป็นเจ้าของเพลงฮิตที่สถานีวิทยุบ้านเรารักใคร่และยังคงหยิบยกมาเปิดกันยันวินาทีนี้ชนิดไม่ยอมส่งกลับอังกฤษให้รู้แล้วรู้รอดเสียทีอย่างอัลบั้มนี้ที่เด็ดๆก็ All Rise,Too Close,Best In Me และ If You Come Back ที่เชื่อว่าเด็กบ้านเราต้องรู้จักกันดีแน่นอน สำหรับดิฉันนอกจาก Backstreet Boys กับ Nsync ที่หลงใหลคลั่งไคล้มากๆพอเหยียบย่างเข้าทศวรรษสองพันก็มีสี่หนุ่มวงนี้แหละค่ะที่เราอันเชิญขึ้นหิ้งพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ นึกว่าจะต้อนทนฟังแต่Westlifeไปตราบนานเท่านานแล้วเชียว หึหึหึ
เห็นหน้าปกดูหล่อเหลาใสกิ๊งกันขนาดนี้อย่าได้ปรามาสว่าพี่ๆทั้งสี่เขาจะทำเพลงแบบพ็อพกิงก่องแก้วหวานใสแบบสารพัดบอยแบนด์ที่แจ้งเกิดกันไม่ทันไรก็ต่างดาหน้าล้มตายเกลื่อนกลาดในยุค90sเพราะงานดนตรีของวงBlueโดยรวมเป็นงาน พ็อพอาร์แอนด์บี เท่ห์ๆเก๋ไก๋สมค่าบอยแบนด์หน้าใหม่ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคมิลเลเนียมไม่เชื่อลองฟัง All Rise (5/5) ไทเทิ่ลแทร็คที่เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวและเพลงโลโก้ตลอดกาลของทางวงที่ทำออกมาได้เปรี้ยวล้ำจนบอยแบนด์รุ่นพี่จากฟากมะกันอย่าง Nsync ยังต้องเหลือบค้อนกับงานพ็อพอาร์แอนด์บีเท่ห์ๆประสานบีทเต้นรำกระฉึกกระฉัก กลิ่นอายแบบสตรีทอาร์แอนด์บีและท่อนแร็พเริ่ดๆผนวกเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวเหมาะเจาะที่สุด ทั้งเมโลดี้สวยพลิ้วไสวติดหูและท่อนคอรัสสุดอัจฉริยะฟังแล้วก็คงต้องบอกว่าเห็นด้วยกับตำแหน่งบอยแบนด์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งวงการดนตรีพ็อพต้นยุคมิลเลเนียมโดยแท้ เพลงถัดมา Too Close (4/5) ที่คัฟเว่อร์มาจากซิงเกิ้ลในปี1997ของวง Next ฉบับของพวกBlueทำออกมาในสไตล์เออร์บันพ็อพที่โดดเด่นบนซินธิไซเซอร์เฟี้ยวฟ้าว ฟั้งค์ โซลและดิสโก้ส่วนตัวคิดว่าเข้มดีแต่อาจจะมีเพลงอื่นในอัลบั้มที่ตรงจริตกว่าเลยไม่ค่อยสนใจเพลงนี้เท่าไรนัก อย่าง FlyBy II (4.5/5) อันนี้โชยกลิ่นอายคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีสุดกลมกล่อมบนท่วงทำนองมิดเทมโพเนิบนาบประสานบีทฮิพฮอพกระฉึกกระฉักและเสียงสังเคราะห์เฟี้ยวฟ้าวเปี่ยมมิติ รักหมดใจเลยแฮะ! สลับมาฟังเพลงใสๆกันบ้างกับ Best In Me (5/5) เพลงที่ดิฉันโปรดปรานที่สุดตลอดกาลของพวกพี่ๆเขา งานอาร์แอนด์บีใสๆโซนทีนพ็อพแบบBackstreet Boysเอาใจคลื่นวิทยุอีซี่ลิสนิ่งและคอเพลงอดัลท์คอนเทมโพรารี่ย์พวกสี่หน่อก็มีเหมือนกันค่ะแถมทุกวันนี้ก็ยังเปิดในบ้านเราให้ได้ยินบ่อยๆอยู่ อีกหนึ่งเพลงที่ยกให้ขึ้นทำเนียบคลาสสิคที่เห็นเปิดบ่อยมากตามห้างและสถานีวิทยุบ้านเราก็คงหนีไม่พ้น If You Come Back (4.5/5) กับงานพ็อพบัลลาดโชว์พลังเสียงเพราะๆแม้จะไม่ทรงพลังชวนขนหัวลุกเท่ากับงานของพวกWestlifeแต่ก็กล้อมแกล้มเอาไปท้าชนได้ชนิดไม่ต้องเหนียมอาย ในขณะที่ Long Time (4/5) ที่ฟังเทคนิคการประสานเสียงแบบอะแค็พเพลล่าแล้วก็ขอยกให้เป็นน้องๆ Boyz II Men เลยทีเดียว
น่าเสียดายที่การกลับมาครั้งล่าสุดของพวกเขาออกแนวเงียบฉี่ปราศจากกระแสตอบรับหรือแม้แต่เยื่อใยอันดีใดๆ พูดก็พูดเถอะฟังงานชุดใหม่เมื่อเทียบกับ All Rise ผลงานมาสเตอร์พีซในช่วงเวลาลอยลมบนของพวกเขาแล้วอายแทนฉิบถึงขั้นอยากจะเสนอตัวไปขุดหลุมแล้วเอาอัลบั้มใหม่นั้นฟังเสียให้มิดแทนแล้วมโนต่อไปว่าปิดตัวไปด้วย Guilty อะไรๆก็ยังจะดูสวยงามกว่า (นี่ขนาดดิฉันไม่ใช่ศิลปินยังอายแทนขนาดนั้น) เอาเป็นว่ารีวิวชุดนี้นอกจากความคิดถึงคนึงหาแล้วยังแฝงไปด้วยจุดประสงค์ที่จะประกาศให้โลกรู้เพื่อจะลืมกันไปแล้วว่า Blueก็เคยมีผลงานดีๆกับเขาเหมือนกัน!