˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
1หนังสือ1การ์ตูน ตีแผ่เรื่องจริงของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลก#2
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ 1หนังสือ1การ์ตูน ตีแผ่เรื่องจริงของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลก#2 
สงครามไม่ว่าจะเกิดขึ้นมาสักกี่ครั้ง แรงมากแรงน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครต้องการไปเป็นส่วนหนึ่งของมัน เพราะผลกระทบหลังสงครามไม่เคยสร้างผลดีให้กับคนส่วนมากสักนิดเดียว
มีแต่คนเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับประโยชน์จากมัน

ใครเล่าจะรู้ว่า ต้นตอของสงครามหลายๆครั้ง มันเกิดมาจากกลุ่มคนเห็นแก่ตัวเพียงไม่กี่กลุ่ม
แต่ผลกระทบกลับไปตกกับบุคคลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หลายๆครั้งที่สงครามสร้างความเสียหายชนิดย่อยยับ อีกทั้งยังส่งผลมาถึงคนบริสุทธิ์ และก็หลายครั้งที่ความจริงของก่อนและหลังสงครามถูกปกปิดไว้ไม่ให้คนทั่วโลกรับรู้

วันนี้มีหนังสือสองเล่มมาแนะนำให้ได้อ่านกัน เล่มแรกเป็นหนังสือข้อมูลเชิงลึก
ตามที่เคยนำเสนอเรื่องราวของทหารญี่ปุ่นกับชาวจีนไปแล้วในกระทู้นี้

ทีนี้ขอแนะนำแหล่งที่มาของการโพสกระทู้นั้นบ้าง ในหนังสือเล่มนี้


ชื่อ : The Rape Of Nanking
ชื่อภาษาไทย : หลั่งเลือดที่นานกิง
ผู้แต่ง : Iris Chang
ผู้แปล : ฉัตรนคร องคสิงห์
สำนักพิมพ์ : มติชน
ปี : ๒๕๔๘(พิมพ์ครั้งที่ ๔)
ประเภท : สารคดี
ราคา : ๒๔๐ บาท


เห็นหัวเรื่องแล้วไม่อยากอ่านเอาซะเลย เพราะว่าดูเป็นหนังสือประวัติศาสตร์วิชาการทั่วไป
แต่ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อมาอ่าน(ดีใจมากที่ตัดสินใจเช่นนั้น) เพราะเห็นคำนิยมต่างๆจากผู้กว้างขวางทั่วโลก อีกทั้งช่วงนี้สนใจเรื่องเมือง นานกิง เป็นทุนเดิม จึงตัดใจเสียเงิน240บาทซื้อหนังสือเล่มนี้มา

เมื่ออ่านตั้งแต่อักษรแรกของหน้าแรกไปจนถึงอักษรตัวสุดท้ายของหนังสือ ต้องของอุทานออกมาดังๆว่า โห เป็นไปได้นะนี่ เรื่องบางเรื่องที่ไม่คิดว่าจะมีจริงบนโลกมนุษย์ใบนี้ มันก็เกิดขึ้นแล้วที่ นานกิง อดีตนครหลวงของจีน

สิ่งต่างๆที่ทหารญี่ปุ่นได้กระทำกับชาวจีนนับสิบๆล้านคน และหลายๆเมืองโดยเฉพาะ นานกิง
โดนทหารญี่ปุ่นทำทารุณกรรมสารพัดจะสรรหาวิธีมา เรียกว่า การแข่งขันฆ่ายังมีเลย
กว่า300,000คนที่ นานกิง โดนทหารญี่ปุ่นทรมานสราพัดรูปแบบ ทั้งปล้น ฆ่า ข่มขืน
โดยเฉพาะการข่มขืน เป็นเรื่องที่ยังตราตรึงอยู่ในใจชาว นานกิง มาจนถึงทุกวันนี้

ผู้เขียนทำงานหนักมากๆกับการหาข้อมูลที่ถูกปกปิดโดยรัฐบาลของญี่ปุ่น หรือแม้กระทั้งรัฐบาลจีนเอง(เพราะช่วงหลังๆทั้งจีนและญี่ปุ่นมีข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกันหลายประการ)
ไม่น่าเชื่ออีกว่า ไอริส จาง ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้จะไปค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญ โดยหลักฐานที่ว่า เป็นหนังสือบันทึกเรื่องราวของช่วงเหตุการณ์ในเมือง นานกิง ช่วงปี1937ไปจนถึงช่วงหลังสงคราม เป็นบันทึกที่เขียนโดนชาวเยอรมันซึ่งเป็นสมาชิกพรรคนาซีประจำสาขาที่ นานกิง

เรื่องน่าขนลุกมากมายถูกตีแผ่ออกมาเป็นข้อๆ โดยไอริสต้องเสี่ยงต่อการต่อต้านของนักวิชาการของญี่ปุ่น ที่ยังหน้ามืดตามัว ปกป้องการกระทำเยี่ยงสัตว์เดรัชฉานของทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เชื่อหรือไม่ว่า การกระทำเลวๆของกองทัพทหารญี่ปุ่นถูกปกปิดบิดเบือนมาครึ่งศรตวรรษ ในหนังสือเล่นนี้จะบอกคุณว่า เรื่องที่แท้จริงเป็นเช่นไร และอะไรเกิดขึ้นที่ไหนอย่างละเอียด

ไอริส จาง ไม่ต้องการให้คนทั่วโลกเกลียดชังคนญี่ปุ่น เพียงแต่ต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมายอมรับการกระทำต่างๆในช่วงสงครามโลกนั้นให้ประชาสังคมรับรู้ อย่างที่เยอรมันยอมรับผิดแทนนาซีและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชาวยิวและประเทศรับผลกระทบ
ปู่และย่าของไอริส ได้เผชิญกับเหตุการณ์จริงที่ นานกิง ไอริสจึงมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่อยากให้รัฐบาลญี่ปุ่น ทำอะไรบ้างเพื่อชดเชยแก่สิ่งที่ ชาวจีนเกือบๆ25ล้านคนต้องสูญเสีย

ไม่แปลกเลยถ้าเราอ่านหนังสือเล่นนี้จบแล้วจะเกิดอคติ แก่ชาวญี่ปุ่น นั้นเป็นเพราะอารมณ์ที่ต่อเนื่อง บางคนอาจจะอินมากไปหน่อย แต่ที่อยากให้เข้าใจคือ เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต เพื่อที่ตัวเราจะเจ็บน้อยที่สุด



อีกเรื่องคือการ์ตูนโดยสำนักพิมพ์เดียวกันและผู้แปลคนเดียวกัน




ชื่อหนังสือ : เก็น เจ้าหนูสู้ชีวิต (Hadashi no Gen)
หมวด : วรรณกรรม -- การ์ตูน
ผู้แต่ง : Keiji Nakazawa
ผู้แปล : ฉัตรนคร องคสิงห์, วรจรัส มัญชุนากร
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน


น่าชื่นชมสำนักพิมพ์ มติชนมากๆ ที่กล้าฉีกแนวทางการทำหนังสือของตัวเอง โดยขอซื้อลิขสิทธิ์
การ์ตูนเรื่องนี้มาขายในไทย เพราะเป็นประโยขน์แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป ที่อาจจะยังไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่มนุษย์ต้องเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่สองดีพอ

อ่านสนุกและเข้าใจได้ง่าย เลยเป็นเรื่องง่ายที่น้องๆเยาวชนจะซื้อ(ราคาค่อนข้างแพง ควรขอให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้จะดีกว่า)การ์ตูนเรื่องนี้มาอ่าน

เคนอิจิผู้แต่งการ์ตูนเรื่องนี้ เกิดทันในช่วงที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิโดนทิ้งระเบิดปรมาณู
ซึ่งในปี1945 เค้ามีอายุได้6ขวบ และต้องสู้กับภาวะหลังสงครามมาแล้ว เรื่องราวที่เค้านำมาแต่งเป็นการ์ตูน ล้วนเป็นเรื่องจริงและเป็นสิ่งที่เค้าได้พบเห็นมากับตา

เคนอิจิน่ายกย่อง ด้วยว่าไม่เห็นดีเห็นงามกับคนกลุ่มเล็กในประเทศของตัวเอง(พระจักรพรรดิและรัฐบาล) เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นผู้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่ได้รู้เห็นอะไรเลยกับฝ่ายประมุขและรัฐบาล คนกลุ่มเล็กๆยังดื้อดึงจะเป็นฝ่ายชนะ จนผลของการอยากเอาชนะครั้งนี้ ทำให้ประชากรเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิตายระนาวไปเกือบๆสามแสนคน

ในการ์ตูนท่านทั้งหลายจะเห็นภาพน่าสยดสยองและวิธีการต่อสู้ของชาวญี่ปุ่นหลังการทิ้งระเบิด
น่าหดหู่และเศร้าใจอย่างมาก โชคดียิ่งนักที่เราไม่ได้เกิดในยุคนั้น แต่ผลของยุคนั้นก็ส่งมาถึงยุคนี้ด้วย

ปัจจุบันการ์ตูนออกมาแล้ว 6เล่ม รู้สึกว่าจะมีทั้งหมด10เล่ม จึงจะจบ อยากให้ไปหาเช่ามาอ่าน ถ้างบประมาณน้อย เพราะนอกจากจะได้ความรู้แล้ว เรายังสนุกไปกับตัวละครเอกของเรื่องอย่าง เก็น ผู้ซึ่งทำได้ทุกวิธีเพื่อให้แม่และน้องอยู่รอดในช่วงภาวะวิกฤต



เรื่องน่ารู้

ในปี1937ที่ญี่ปุ่นบุกประเทศจีนเพื่อทำการยึดอำนาจนั้น เมือง นานกิง โดนทหารญี่ปุ่นฆ่า ข่มขืนไปกว่าสามแสนคนอย่างทารุณ

ต่อมาในปี1945 ฮโรชิม่าและนางาซากิโดนกองทัพอากาศของสหรัฐทิ้งระเบิดปรมาณูลง เป็นเหตุให้ชาวญี่ปุ่นตายทันทีเกือบๆสามแสนคน

ตัวเลขการตายของระเบิดยังน้อยกว่าตัวเลขการตายที่ทหารญี่ปุ่นทำทารุณชาว นานกิง ยิ่งนัก

รึนี่เป็น ผลกรรมที่ทหารญี่ปุ่นเคยก่อไว้กับประเทศจีนและเกาหลี

///////////////////////////////////

เยอรมันออกมายอมรับผลการกระทำของพรรคนาซีทั้งหมด ปัจจุบันยังมีการจ่ายค่าเสียฃหายแก่ชาวยิวและประเทศต่างๆที่มีผลกระทบจากนาซี

แต่ญี่ปุ่นยังเมินเฉยต่อการกระทำของกองทัพทหารของตัวเองในช่วงสงคราม อีกทั้งยังพยายามปกปิดบิดเบือนการศึกษาในประเทศของตัวเอง ทำให้เยาวชนในญี่ปุ่นแทบไม่มีใครรู้เรื่องเหล่านี้เลย

ช่วงหลังๆ รัฐบาลจีนเองก็ยังไม่อยากขุดขุ้ยเรื่องเหล่านี้ออกมา ด้วยเกรงว่าผลประโยชน์ทางธุกิจการค้าที่ทำกับญี่ปุ่นจะมีผลกระทบตามมา ในขณะที่คนที่รอดมาจากเหตุการณ์คราวนั้น ยังร้องไห้และสวดอ้อนวอนขอความเป็นธรรม

นักวิชาการเรียกการกระทำเยี่ยงนี้ว่า "การข่มขืนซ้ำ" ซึ่งเป็นการไม่ยอมรับผิดและยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของผู้เคราะห์ร้าย

///////////////////////////////

ประเทศไทยก็เคยได้รับผลกระทบจาก ทหารญี่ปุ่น ในการสร้างทางรถไฟสายมรณะ
ทหารญี่ปุ่นทั้งทรมานและข่มขู่ใช้แรงงานไทยยิ่งกว่าทาส

รู้สึกจะมีการทำทรมานที่โหดสุดๆ แต่จำไม่ได้ว่าทำอะไรไว้

////////////////////////////////////////




ไอริส จาง เสียชีวิตในรถของเธอ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน จากบาดแผลกระสุนปืนหนึ่งนัดที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เธออายุ 36 ปี

จาง เข้ารับการรักษาอาการเครียดในโรงพยาบาลเมื่อห้าเดือนที่แล้ว ขณะที่กำลังรวบรวมข้อมูลสำหรับโครงการเขียนเล่มใหม่ ที่เป็นเรื่องของเชลยสงครามอเมริกัน เมื่อครั้งที่รบกับทหารญี่ปุ่นในฟิลิปปินส์



ขออุทิศข้อมูลของกระทู้นี้ให้กับ ไอริส จาง หญิงสาวผู้กล้าตีแผ่ความจริงให้โลกรับรู้เรื่องราวโหดร้าย




แก้ไขล่าสุดโดย more more more เมื่อ Tue Nov 14, 2006 11:21 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง

_________________
......................................................
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ขอบคุณครับสำหรับสาระดีดี Happy Happy Happy แต่...

สลดใจจัง Crying or Very sad


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เกลียดญี่ปุ่น


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
[size=12]อยากจะบอกอย่างหนึ่งว่าเป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ อ่านด้วยความรู้สึกว่าทำไมมนุษย์ต้องทำกับมนุษย์ด้วยกันได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งภาพข้างในสลดใจมากๆคะ ทุกคนที่นานกิงล้วนแต่เป็นเหยื่อของสงคราม ความทารุณของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะสงครามแต่กลับมีการกระทำเยี่ยงสัตว์ ได้แต่ขอบคุณผู้ที่ยอมสละเวลาและอาจจะเป็นการสละชีวิตของเธอด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีหนังสือเล่มนี้เราก็ไม่มีทางรู้ถึงความโหดร้ายของสงครามได้เลย และอยากจะบอกว่าไม่มีใครที่จะโศกเศร้าจากเรื่องครั้งนั้นได้มากเท่ากับผู้ที่มีชีวิตอยู่และรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นหรอกคะ และในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องนี้เท่านั้น ยังมีเรื่องของฮิลเลอร์, พอลพตอีกนะคะ ยอมรับเลยว่าหนังสือเล่มนี้อ่านแล้วไม่ผิดหวังเลยคะ[/size]

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
นั้นเป้ฯเรื่องของคนรุ่นก่อน

จะมาเกรียดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะถูกซักเท่าไหร่อ่ะ

เพราะไม่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นยุคนี้ซะหน่อย


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
monsternb พิมพ์ว่า:
นั้นเป้ฯเรื่องของคนรุ่นก่อน

จะมาเกรียดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะถูกซักเท่าไหร่อ่ะ

เพราะไม่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นยุคนี้ซะหน่อย

ใช่ เรื่องมันแล้วไปแล้วอ่ะ ก็ปล่อยๆมันไปเถอะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
hi_class พิมพ์ว่า:
monsternb พิมพ์ว่า:
นั้นเป้ฯเรื่องของคนรุ่นก่อน

จะมาเกรียดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะถูกซักเท่าไหร่อ่ะ

เพราะไม่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นยุคนี้ซะหน่อย

ใช่ เรื่องมันแล้วไปแล้วอ่ะ ก็ปล่อยๆมันไปเถอะ


น้องๆคะ คือเรื่องของเรื่องเนี่ย

เค้าไม่ได้จะให้เราอ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น(แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆที่เราจะเกลียด เพราะมันโหดร้ายมากๆ ก็เหมือนลูกใครไปทำชั่วไว้ที่ไหน คนเค้าก็พาลเกลียดไปทั้งโคตร เป็นเรื่องพื้นฐานของความรู้สึกของคน)

แต่ต้องการให้โลกรับรู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้น

ไม่ใช่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล แม้มันจะตายห่ากันไปเกือบหมด

เพียงแต่เค้าอยากเปิดเผยความจริง เรียกร้องความเป็นธรรม

เพียงเพื่อซับน้ำตาเหยื่อทั้งหลายที่โดนทำสารพัด

จะบอกว่าเรื่องมันผ่านมาแล้วก็จริง

แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่เด็กอนุบาลเล่นกันแล้วแย่งของเล่นนะคะ

ฉะนั้น อยากให้น้องๆไปหามาอ่าน จะได้เอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า สงครามมันไม่ได้

สร้างผมดีให้กับใคร

ส่วนใครที่อ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น

กรุณาทำความเข้าใจ บริบทต่างๆในเวลาขณะนั้นด้วยนะคะ

ไปหามาอ่านแล้วจะรู้ว่า มันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร



_________________
ลายเซ็น
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เมย์ สติเฟื่องอารมณ์เพศ พิมพ์ว่า:
hi_class พิมพ์ว่า:
monsternb พิมพ์ว่า:
นั้นเป้ฯเรื่องของคนรุ่นก่อน

จะมาเกรียดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะถูกซักเท่าไหร่อ่ะ

เพราะไม่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นยุคนี้ซะหน่อย

ใช่ เรื่องมันแล้วไปแล้วอ่ะ ก็ปล่อยๆมันไปเถอะ


น้องๆคะ คือเรื่องของเรื่องเนี่ย

เค้าไม่ได้จะให้เราอ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น(แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆที่เราจะเกลียด เพราะมันโหดร้ายมากๆ ก็เหมือนลูกใครไปทำชั่วไว้ที่ไหน คนเค้าก็พาลเกลียดไปทั้งโคตร เป็นเรื่องพื้นฐานของความรู้สึกของคน)

แต่ต้องการให้โลกรับรู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้น

ไม่ใช่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล แม้มันจะตายห่ากันไปเกือบหมด

เพียงแต่เค้าอยากเปิดเผยความจริง เรียกร้องความเป็นธรรม

เพียงเพื่อซับน้ำตาเหยื่อทั้งหลายที่โดนทำสารพัด

จะบอกว่าเรื่องมันผ่านมาแล้วก็จริง

แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่เด็กอนุบาลเล่นกันแล้วแย่งของเล่นนะคะ

ฉะนั้น อยากให้น้องๆไปหามาอ่าน จะได้เอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า สงครามมันไม่ได้

สร้างผมดีให้กับใคร

ส่วนใครที่อ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น

กรุณาทำความเข้าใจ บริบทต่างๆในเวลาขณะนั้นด้วยนะคะ

ไปหามาอ่านแล้วจะรู้ว่า มันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร


เด๋วนี้คุณพี่เมย์เรียบร้อยจัง

เพคระ มามะ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
=luEDoGu[T]= พิมพ์ว่า:
เมย์ สติเฟื่องอารมณ์เพศ พิมพ์ว่า:
hi_class พิมพ์ว่า:
monsternb พิมพ์ว่า:
นั้นเป้ฯเรื่องของคนรุ่นก่อน

จะมาเกรียดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะถูกซักเท่าไหร่อ่ะ

เพราะไม่เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นยุคนี้ซะหน่อย

[b]ใช่ เรื่องมันแล้วไปแล้วอ่ะ ก็ปล่อยๆมันไปเถอะ


น้องๆคะ คือเรื่องของเรื่องเนี่ย

เค้าไม่ได้จะให้เราอ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น(แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆที่เราจะเกลียด เพราะมันโหดร้ายมากๆ ก็เหมือนลูกใครไปทำชั่วไว้ที่ไหน คนเค้าก็พาลเกลียดไปทั้งโคตร เป็นเรื่องพื้นฐานของความรู้สึกของคน)

แต่ต้องการให้โลกรับรู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้น

ไม่ใช่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล แม้มันจะตายห่ากันไปเกือบหมด

เพียงแต่เค้าอยากเปิดเผยความจริง เรียกร้องความเป็นธรรม

เพียงเพื่อซับน้ำตาเหยื่อทั้งหลายที่โดนทำสารพัด

จะบอกว่าเรื่องมันผ่านมาแล้วก็จริง

แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่เด็กอนุบาลเล่นกันแล้วแย่งของเล่นนะคะ

ฉะนั้น อยากให้น้องๆไปหามาอ่าน จะได้เอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า สงครามมันไม่ได้

สร้างผมดีให้กับใคร

ส่วนใครที่อ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่น

กรุณาทำความเข้าใจ บริบทต่างๆในเวลาขณะนั้นด้วยนะคะ

ไปหามาอ่านแล้วจะรู้ว่า มันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร


เด๋วนี้คุณพี่เมย์เรียบร้อยจัง

เพคระ มามะ


แอร๊ยยย คุณน้องคะ

พี่ก็ต้องมีช่วงค้นพบสัจธรรมบ้างแหละค่ะ

แรงมากๆจนคนเกลียดทั้งบอร์ดมาแล้ว

คุณพี่ก็มิสามารถอยู่ร่วมสังคมได้


เพคะ มะเมีย



_________________
ลายเซ็น
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com