
เหมือนกับเมื่อวานเพิ่งจะได้ฟังอัลบั้ม RED เป็นครั้งแรก เผลอแปปเดียวก็ผ่านไปสองปีเต็มๆแล้ว จนกระทั้งแม่นางนำอัลบั้มเต็มชุดที่ห้ามาวางตลอดเมื่อวานนี้สดๆร้อนๆ จั่วหัวตั้งชื่อแบบไม่คิดอะไรมากเป็นปีเกิดตัวเอง ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เจ้าหล่อนเคยใช้ตัวเองมาเป็นชื่ออัลบั้มไปแล้วรอบนึง เราจึงไม่ต้องคอยเบ้ปากแบบตอนที่เห็นศิลปินหญิงสมองกลวงทั้งหลายเอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่ออัลบั้ม(ซึ่งการันตีความแป้กทุกนาง) ไม่พูดมากแล้วค่ะ รีวิวก็ไม่ได้เขียนมานาน อะไรตกๆหล่นๆไปก็ทำใจแล้วกันโน๊ะ แล้วก็นิดนึงเถอะค่ะคุณหญิง ปกอัลบั้มเนี่ย โดนเอาปืนจ่อหัวบังคับให้เลือกมาเหรอคะ เสร่อมากกก
ภาพรวม ทุกครั้งที่มีการพูดถึงอัลบั้มของเทเลอร์ สวืฟท์ ทุกคนจะต้องตั้งคำถามก่อนว่า "คันทรีย์มั๊ย" สำหรับดิชั้นกับอัลบั้มนี้ ก็คงต้องบอกว่ามันไม่ใช่คันทรีย์เลยจ้ะตัวเอง ไม่มีแม้นแต่ร่องรอย วี่แววอะไรสักนิดเดียว คิดว่าทุกคนคงเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดเจนในบรรดาเพลงเร็วในอัลบั้ม RED แล้ว มาสานต่อในอัลบั้มนี้คือการอัพเกรดตัวเองไปเหยียบพื้นที่เพลงป๊อปแบบเต็มตัว ความกระชับ อารมณ์เพลงก็เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยรวมก็จะเป็นเพลงป๊อปตลาด ป๊อปร๊อก สตริง อาร์แอนด์บี ไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์ ว้าย มันแน่มากค่ะหัวหน้า แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าเป็นเพลงป๊อปแล้วจะไม่ดีนะคะ อันนี้ต้องดูกันไปตามความชอบแต่ละคน และเมื่อสาวปากแดงนางนี้ขยับตัวเองมาอยู่ในตลาดเพลงป๊อปแล้ว พวกนักร้องสาวเสียงสังเคราะห์ทั้งหลายก็จงระวังนางให้ดีเถิด
จุดเด่น / จุดดับ อัลบั้มนี้เปลี่ยนไป แต่ไม่ได้แย่ลงแบบที่ใครๆกลัวกัน(อย่างน้อยก็สำหรับชั้นแหละ) จุดเด่นของอัลบั้มนี้คงต้องยกให้กับความสนุก กระฉับกระเฉงที่เราไม่สามารถหาได้ง่ายๆในอัลบั้มชุดก่อนหน้านี้ แนวเพลงนางไม่ได้มาเหนือ ทะลุอวกาศความหมายกระสันผู้ชายแบบอีพวกผมบลอนด์นมโตทั้งหลายในวงการ ก็แค่เพลงป๊อป อาร์แอนด์บี ธรรมด๊าธรรมดา แต่ฟังแล้วก็เกิดความสุขอ่ะค่ะ เข้าใจโน๊ะ ? แต่การเปลี่ยนไปของนางก็เหมือนดาบสองคม นั่นก็คือ คำถามที่ว่า นางจะเสียเอกลักษณ์ของตัวเองไปรึเปล่า คือถ้าไม่มีชื่อนักร้องอยู่ใต้เพลง ก็คงไม่รู้อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะว่ามันเป็นเพลงของนัง เทเลอร์สวิฟ สตรีร้อยองค์ชาติขวัญใจชาวอเมริกันคนนี้ อีกอย่างความเมนสตรีมในอัลบั้มนี้ก็ค่อนข้างที่จะธรรมดา ไม่โดดเด่น เพลงในอัลบั้มถ้าไม่ฟังนานก็แทบแยกไม่ออกว่าเพลงไหนเป็นเพลงไหน อีกจุดที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือแย่ก็คือ อัลบั้มนี้ไม่มีเพลงช้าสั่งลาผัว ครวญครางเป็นเวลาเกือบสิบนาทีดั้งที่ผ่านมาแล้ว อันนี้สำหรับแฟนตัวยงบัลลาร์ดสุดแสนปรานีต หรือนักโคฟเวอร์เพลงอะคูสติกน่ารำคาญตามยูทูปทั้งหลายก็คงต้องปาดน้ำตาไปตามๆกัน
01 Welcome To New York (4/5)
ยินดีต้องรับสู้มหานครนิวยอร์ก และเพลงอาร์แอนด์บีดิบๆระคนไปกับซินธ์-อิเล็กทรอนิกส์ เปิดตัวอัลบั้มให้ความรู้สึกเหมือนกับแสงสีเสียงราวกับอยู่ในปาร์ตี้ เสียงมึนๆออ โต้ทูนทั้งหลายทั้งมวล เพลงนี้ก็สนุกดีนะคะฟังเพลินดี หรือพูดกันตามประสาหยาบๆก็คือ เหมือนเพลงเปิดซ่องในลาสเวกัสน่ะค่ะ ชวนให้เราลุ้นว่าเพลงต่อไปนางจะมาไม้ไหน
02 Black Space (3.5/5)
กรี้ด นี่ชั้นกดผิดไปฟังเพลงของอีนิกกี้ ไมนาจก้นกาละมังเหรอคะ ? เปิดมาก็เป็นฮิปฮอป จังหวะสุดแสนที่จะดิบผสมไปกับเสียงสังเคราะห์ลอยๆอีกแล้ว ถึงจะเป็นการร้องที่ไม่ใช่แร่ป แต่เพลงนี้ก็ติดหูดี เอาเป็นว่าถ้าคนอเมริกันชอบเพลงอาร์แอนด์บีในสไตล์ของนัง Charli XCX เพลงนี้ก็คงจะถูกใจได้ไม่ยาก ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็ติดหูมากๆ
03 Style (5/5)
หรือนี่จะเป็นแทร็คที่เขาลือกันว่าแต่งให้ผัวเก่าจากวงบอยแบนด์ชาวอังกฤษวงนึง อิเล็กทรอนิกพ๊อพมีดนตรีดิสโก้อ่อนๆ จังหวะสนุกสนาน เหมือนเป็นภาคต่อยากของเพลง 22 ในอัลบั้มที่แล้ว ท่อนฮุคเพราะมาก ทั้งเมโลดี้อะไรมันลงตัวไปหมด เนื้อเพลงก็ไม่อะไรมากมายนอกจากพรรณนาถึงการแต่งตัวของผัวและตัวนางเอง มโนไปถึงชีวิตความสัมพันธ์อะไร ฯลฯ ตื่นค่ะอีดอก ! แต่ว่าไม่ได้โน๊ะ เพราะเพลงนี้เพราะมาก แนะนำค่ะ
04 Out Of The Woods (4/5)
อินโทรมาก็เป็นซินธ์ อิเล็กทรอนิกส์ จังหวะอาร์แอนด์บีตามสไตล์ดรีมพ๊อพ ( เล่นเอานึกถึงเพลงของ M83 เลยโน๊ะ ) ให้ความรู้สึกดาร์ค มึนๆงงๆ แต่ก็มีพลังอย่างบอกไม่ถูก ท่อนร้อง คอรัส การสังเคราะห์เสียงเหมือนจะมั่ว แต่ก็ยังเป้นรูปร่างอยู่ บอกไม่ถูกค่ะ เป็นเพลงที่ใช้ได้เลย โดยส่วนตัวเป็นคนชอบอะไรประมาณนี้อยู่แล้วก็โน๊ะ ต้องฟังแล้วมโนว่าตัวเองเป็นชะนีในเรื่อง Evil Dead กำลังวิ่งหนีผีออกมาจากป่า
05 All You Had To Do Was Stay (4/5)
ดัปอาร์แอนด์บีจังหวะไม่หนัก ทีแรกคิดว่านางจะมาเป็นเพลงช้า จนถึงท่อนฮุคสตริงพ๊อพควบไปกับซินธ์อิเล็กทรอนิกส์ และเสียงสังเคราะห์แหลมบาดจิ๊มิ๊ เสต๊ย์ เสต๊ย์ อร๊าย เพลงเพลงแดนซ์ที่ใช้ได้เลยโน๊ะ เพลินไปกับเพลงมากจนรู้สึกตัวอีกทีก็จบเพลงละ
06 Shake It Off (3/5)
เพลงเปิดอัลบั้มที่อุบาทว์ที่สุดในชีวิตของนาง เหมือนของเหลือจากเพลง That's not my name มาผสมกับ The best damn thing หลายเป็นเพลงอาร์แอนด์บีจังหวะเชียร์ลีดเดอร์ที่ฟังแล้วเสร๊อเร่อเพลงนึง ยิ่งมีเสียงแตรควบเข้าไปด้วยที่ชัดเจนว่าไปลอกเค้ามา ยิ่งตรงกลางเพลงที่อีนี่เกิดอารการบ้าน้ำลายมาพูดอะไรยาวเฟื้อย ไม่เอากาพย์แห่เรื่อมาท่องเลยล่ะคะ ?แต่กระนั้นฟังแล้วก็เพลินดีโน๊ะ แอร๊ย
07 I Wish You Would (3/5)
เพลงพ๊อพร๊อกอ่อนๆ จังหวะจะโคนแสนสะอาดปนไปกับเสียงเกากีร์ต้าก่อนจะเริ่มดัปเสตปในช่วงกลางเพลง ลักษณะการร้องเก๋ดีนะคะ กึ่งร้องและแร่ป เพลงไม่น่าเบื่อกระชับมาก พอถึงกลางเพลงก็ปรับเข้าสู้โหมดดิสโก้แดนซ์ อะไรต่อมิอะไรเริ่มยำกันมั่ว แล้วจู่ๆดนตรีก็ดับไป มาเป็นดัปเส๊ปหน่วงๆที่ใช้จังหวะกลองแทนบีทอิเล็กทรอนิกซ์อีกครั้ง อะไรของหล่อนยะ เมาหรอ ?
08 Bad Blood (4/5)
"อย่าคิดที่จะลองดีกับเรจิน่าจอร์จ ในภาพลักษณ์สาวใสซื่อ" เจ้าของประโยคนี้คงกำลังนั่งร้อนๆหนาวอยู่หน้าจอคอมตอนที่ได้ยินเพลงนี้ อาร์แอนด์บีจังหวะดิบๆ ใช้ลักษณะการเรียบเรียกคล้ายกับเพลง Royal ของนังหอยหลอด(Lorde) ไม่มีอะไรมากไปนอกจากความหมายพร่ำเพร้อ มโนอะไรไม่รู้เรื่องไปกับเรื่องของสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่นางเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยชะนีนมโตๆนางนึง ถึงแม้นจะเป็นเพลงด่าที่ดูแล้วจะค่อนข้างเสียเวลาในการฟัง แต่เพลงนี้ก็ติดหูและเก๋ใช้ได้ทีเดียว
09 Wildest Dreams (3/5)
ยังคงไม่ทิ้งลายความเป็นเทเลอร์สวิฟท์ด้วยการคงไว้ซึ่งเพลงช้าที่นิยมการร้องแบบโชว์เสียงแสนโหยหวน และดนตรีเบาๆชวนมึนหัว เพลงนี้ก็ไม่ต่างอะไรเนื่องด้วยการการครวญครางปานจะขาดใจของแม่คุณ เพ้อเจ้อ ตาลอยเหมือนชะนีผู้ป่วย HIV ระยะสุดท้าย ที่กำลังโหยหาโคเคนและเซ็กห่วยๆในวัดพระบาทน้ำพุ ปนไปกับดนตรีที่ไม่รู้จะเรียกว่าคลาสิคได้เต็มปากหรือเปล่า กว่าจะฟังจบได้นี่แทบจะขาดใจตายตาม
10 How You Get the Girl (3/5)
อีพวกที่กำลังเตรียมตั้งกล้องโคฟเว่อเพลงของนางในอัลบั้มนี้ถึงกับยิ้มออกมื่อได้เห็นเพลงนี้ มาปู๊ปก็เป็นเพลงโฟล์คอะคูสติก ผสมจังหวะพ๊อพสตริง และไม่ลืมที่จะจัดออโต้จูนเข้ามาแบบพอดี เพลงนี้เหมือนกับเพลงฤดูร้อนท่ามกลางเมฆครึ้มในอัลบั้ม ท่อนฮุคเร่งจังหวะสนุกสนาน สาดซินธ์เข้ามาแบบพอดิบพอดี เป็นะไรที่ simple และ taylor's style พักหูหลังจากรอดตายหวุดหวิดมาจากเพลงข้างบน
11 This Love (3/5)
เครื่องสาย กีร์ต้าและความละเอียดของดนตรีในอินโทรอาจทำให้เรานึกถึง Begin Again อีกครั้ง แล้วก็เป็นไปตามคาดเมื่อเสียงร้องแมวหง่าวสำลักน้ำลายของนางเริ่มแทรกมาเป็นระยะๆ มีการใส่คอรัส โอ้โอโอ่ มาด้วย สักพักจังหวะก็ฉายแววมาว่าเพลงนี้อาจจะเป็นพวกบัลลาร์ร๊อกนะจ้ะ ตามสไตล์นางแหละค่ะ ค่อยๆเพิ่มดนตรีแล้วก็ไปตู้มตอนท้าย แต่คราวนี้น่าเบื่อค่ะ สู้เพลงเก่าเพลงอื่นไม่ได้เลย
12 I Know Places (2/5)
เสียงเปียโนอ่อนๆและการร้องแบบผีบ้าของหล่อนมันไม่เข้ากันหรอกนะยะ แถมมีกงถ่วง หย่อนจังหวะแบบแปลกๆมาอีก จนมาเฉลยในท่อนฮุคว่ามันเป็นเพลงช้านะยะ ก็ตามสไตล์อาร์แอนด์บีพ๊อพทั่วไป แต่ค่อนข้างน่ารำคาญหน่อย ช่วงหลังของเพลงก็เริ่มเก๋ขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ แต่ดิชั้นไม่เอนจอยเลย ให้ตายสิซาร่า
13 Clean (4/5)
อินโทรขึ้นมาชวนให้นึกถึงเพลงประกอบหนังโป๊ ไปจนเริ่มมีเมโลดี้เก๋ๆเข้ามา อธิบายไม่ถูกอ่ะค่ะ เพลงนี้เพราะนะ ทั้งดนตรีเพราะๆเหือนเครื่องกระทบอะไรซักอย่าง คอรัสหอมหวาน จะหวะค่อนข้างสบาย แนะนำให้ไปฟังค่ะ ถึงแม้นจะค่อนข้างเหมือนเพลงโฆษณาพิพิธภัณฑ์ก็ตาม
14 Wonderland (3.5/5)
ขึ้นต้นมาด้วยซินธ์แวววาว เร่งจังหวะแบบเพลงมาร์ชร๊อก การร้องเร็วๆเหมือนกับขบวนพาเรทเบรกนิสนึง แล้วก็จัดเต็มที่พอร์ลคอรัสดัปเสตป อิเล็กทรอนิกซ์ ซินธ์สังเคราะห์อะไรมาอย่างหนัก เรียกได้ว่าจบพาร์ทแล้วงงไปเลย ชอบนะคะเกร๋ดี
15 You Are In Love (3/5)
เพลงช้ารึเปล่าน้า ขึ้นมาเป็นเสียงกดเพียโนนุ่มๆแล้วก็เสียงของตัวนักร้อง ค่อยๆเร่งจังหวะเป็นอาร์แอนด์บีดิบๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็ติดหูอย่างไม่น่าเชื่อ กระนั้นส่วนตัวที่เป็นคนไม่ค่อยชอบเวลาที่นางมาคราญครางโหวกเหวงเหมือนจะตายมิตายแหล่ จึงขอฟังเพลงนี้แบบข้ามไปข้ามมาแล้วกันนะคะ
16 New Romantics (3.5/5)
เป็นเสียงแตร หรือออร์แกน อะไรก็ช่าง เข้าสู่ตัวเพลงเป็นคลับเรโทร ให้อารมณ์เพลงย้อนยุค ดนตรีดิสโก้เริ่มมีบทบาท ท่อนฮุคงานซินธ์ดิสโก้แดนซ์ก็มาเต็ม สนุกสนานชวนแดนซ์ในสไตล์โอลสคูลดีข่า วรั๊ย ไม่รู้จะอธิบายอะไรมาก แต่ฟังไปนายๆก็มีสิทธิ์เบื่ออยู่เหมือนกันนะคะ ทิ้งทายอัลบั้มไปแบบสนุกสนาน เหมือนช่วงท้ายของงานวันเกิดอะไรแบบนั้น ส่วนอีกสามเพลงที่เหลือไม่รีวิวแล้วกันนะคะ เพราะว่าเป็นแค่เสียงนางมาพูดพล่ามเกี่ยวกับการทำเพลงอะไรน่ารำคาญ
อ้างอิงจาก:
อัลบั้มนี้ คิดว่าใช้ได้เลยค่ะ คงอดที่จะคิดถึงเพลงคันทรีย์ อัลเตอร์เนทิฟของนางอยู่เหมือนกัน แต่อัลบั้มนี้ก็ฟังเพลินอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่ได้แย่อะไร
แก้ไขล่าสุดโดย Pussy เมื่อ Sun Feb 22, 2015 7:04 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง