˹���á Forward Magazine

ตอบ

The Grand Budapest Hote กะ Boyhood
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ The Grand Budapest Hote กะ Boyhood 



ว่าด้วยหนังแนวคอมเมดี้ กึ่งๆชีวประวัติที่เข้าชิงรางวัลหลายสาขามากๆในปีนี้ ชั้นก็เพิ่งจะมีเวลาไปหามา จบแล้วก็ต้องเมาท์มอยนะคร้ะ อารมณ์ประมาณว่าเห่อ


มันไม่ใช่หนังตลกเบาสมองแบบหนังของ Adam Sandler หรือ Scary Movies ผีห่าอะไรนั่น มันเป็นหนังพวก ประวัติศาตร์หน่อยๆ แต่นำเสนออกมาในการถ่ายภาพยนต์คล้ายกับพวกภาพยนตร์สมัยห่อน เคยดู ชาร์ลี แชปลิ้น แมะ นั่นแหละ อีที่ถ่ายคนวิ่งเร็วๆ ตึ้งๆ
สปอย [ ฉากแหกคุกตลกมาก แต่ไม่ได้ขำก๊ากนะ แค่มันตลกอ่ะ ดูแล้วยิ้มในใจ อารมณ์แบบ ว้าย จังไรอ๊า ทำให้นึกถึง shawshank redemtion เลย / ฉากเล่นสกีตอนเข้าเส้นชัยก็ตลก ]

ความตลกในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ความตลกที่แบบ ขำมาก ขำจนฉี่ราด มันเป็นอารมณ์ที่แบบ มานิ่งๆ แต่เราดูแล้วยิ้มอะไรแบบเนี้ย ดูแล้วก็อารมณ์ดี ทั้งที่ประเด็นในหนัง สามารถเอามาทำเป็นหนังดราม่าหนักๆ สงครามเน้นๆสองชั่วโมงครึ่งได้สบายๆ

แต่ว่า Grand Budapest Hotel กลับเลือกที่จะนำเสนอในรูปแบบ สั้นๆ ง่ายๆ ดูแล้วอารมณ์ดี ข้อคิดอะไรที่แทรกเข้ามาก็เป็นธรรมชาติดี หนังดำเนินเนื้อเรื่องเร็วมาก เป็นการเล่าเรื่องแบบ flashback แต่ดูแล้วไม่งง



ชั้นจะไม่มานั่งเปรียบเทียบประเด็นของหนังกับสังคม เพราะชั้นถือว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเว็บโลกสวยในการเขียนรีวิว

แต่ชั้นจะบอกว่ามันเป็นหนังที่ถ่ายทอดเหตุการณ์วิถีชีวิตได้ดีมากๆเรื่องนึงเลยทีเดียว

นักแสดงแต่ละคนต่างมีบท คาแรกเตอร์ของตัวเอง แล้วก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ไม่แย่งซีนกัน เหมือนกับว่า พอใครออกมาก็เหมือนมีสปอตไลท์จับไปที่คนนั้น

ถ้าเพื่อนๆมีเวลาก็ไปดูเถอะค่ะ แค่ชั่วโมงครึ่งเอง ไม่เคยเจอหนังที่ดูแล้วถูกใจแบบนี้มานานมากแล้วจีๆ






บทของ Mr. Gustave ป๋าราฟเล่นซะลืมไปเลยว่านี่คือวอลเดอมอร์ ในขณะที่บท ZERO นั่นแย่งซีนที่สุดของที่สุด



Boyhood

คือต้องบอกก่อนว่าชั้นไม่ได้พยายามจะขวางโลกหรืออะไร หลังจากเห็นหนังกวาดรางวัลไปแบบรัวๆ ชั้นเลยต้องแล่นไปหามาดู

เคลมไว้ว่าถ่ายทำมานานแสนนานข้ามทศวรรติ หนังก็เลยออกมายาวเกือบสามชั่วโมงอย่างที่เห็น

ไปอ่านรีวิว คนก็อวยเข้าไปสิว่าไม่น่าเบื่อ Feel Good สอนชีวิต ฯลฯ
แต่พอชั้นดูจริง คือแบบ อะไรวะ มันน่าเบื่อมากกกก หนังโคตรจืดชืด ที่คนอวยก็คงเพราะเรื่องที่มันถ่ายทำนาน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปมากกว่า ตัวหนังมันก็ไอ้หนังชีวิตสไตล์ Hollywood นั่นแหละวะ

คือแบบ มันก็มีหนังหลายเรื่องที่เป็นแนวนี้ แต่แค่ใช้นักแสดงคนอื่นมาเล่นบทเด็กบทแก่แค่นั้นเอง แล้วชั้นก็คิดว่าหนังเรื่องอื่นก็ไม่ได้ด้อยอะไรไปกว่าเรื่องนี้ตรงไหน

เรื่องนี้ก็แบบ เอื่อยๆ เฉื่อยๆ เหมือนสารคดีไม่มีอะไร ชีวิตก็ธรรมด๊าธรมดา ดูมาเป็นร้อยเรื่องแล้ว เหมือนกัย Home Video ของบ้านใดบ้านหนึ่งมากกว่า

คือถ้าแบบชั้นต้องเสียเวลาสามชั่วโมงดูหนังอะไรแบบนี้ ชั้นสู้ไปเสนอหน้าขอดูฟุตเทจวิดีโอของเพื่อนบ้าน หรือดูสารคดีชีวิตเด็กออทิสติกของช่อง BBC ง่ายกว่าแมะให้ทาย

คือนี่ก็ความคิดชั้นโน๊ะ ใครจะนิยมชบชอบอะไรก็ตามแต่ แต่การไปสาระแนดูชีวิตของชาวบ้านเป็นเวลาสามชั่วโมงนี่มันไม่ใช่สไตล์ชั้นเลยจริงๆ ชั้นขอดูหนังคนบ้าควักตับคสักไส้อะไรแบบนี้ดีกว่า

ชั้นไม่ได้มีสมองไอคิวทะลุล้านหรอกนะคะ เพราะงั้นชั้นเลยไม่ค่อยเกทกับหนังดีๆเริ่ดๆอะไรพวกนี้เท่าไหร่ ถ้าใครถามชั้น ชั้นก็บอกได้แค่ว่ามันอุปทานหมู่แบบหนังของอีโนแลนนั่นแหละ(ว้าย จะมีคนตามมาตบแมะ)

ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่รีวิว จุบุ

และ หนังเรื่องนี้เพลงประกอบเพราะน้ะ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เราชอบ boyhood นะมันฟีลกู๊ดจริงๆ 5555555555555 เกลียดพี่มันตอนเด็ก

ส่วน grand budapest ดูไปนิดเดียวเอง ตอนนั้นง่วงเลยไปนอน Sad


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เดี๋ยวจะลองดูเรื่องนี้ The Grand Budapest Hotel


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com