หลังจากที่ผ่านมรสุมการลาออกของสมาชิกและการเพิ่มสมาชิกเข้าไป และดูเหมือนว่าสมาชิกน้องใหม่ของ Kara อย่าง Youngji ก็ทำหน้าที่ได้ไม่เลวร้ายอะไร อีกทั้งยังสามารถกลับไปตีตลาดญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม คราวนี้ Kara กลับมาโปรโมตที่บ้านเกิดแดนกิมจิอีกครั้งด้วยมินิอัลบั้มที่ 7 In Love
ส่วนตัวเชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะคุ้นๆ กับสาวๆ วงนี้อยู่บ้าง ในระยะหลังๆ ภาพลักษณ์สาวๆ วงนี้มีทิศทางแบบเซ็กซี่มากขึ้น ดูโตมากขึ้น แต่ในอัลบั้มชุดนี้เรียกได้ว่าเป็นการย้อนภาพลักษณ์ไปสู่ความเป็น Kara ที่หวานสวย ชวนให้หลงรักรวมถึงตัวเพลงก็ด้วยเช่นกันที่ดูหว๊านนนหวาน แม้แต่เพลงที่ใช้โปรโมตที่จะดูโตขึ้นมาแบบยุคหลังๆ ของ Kara แต่ก็ไม่ได้สาดดนตรีหนักแบบช่วงก่อน
In Love คุมธีมด้วยป๊อปหวานๆ สดใสๆ ที่ถ่ายทอดด้วยความเป็นยูโรป๊อป ดิสโก้ ในขณะที่เพลงช้าก็มีทั้งอาร์แอนด์บีเบาๆ หรือจะเป็นอคูสติกหวานๆก็มีให้เลือกจิ้มเช่นกัน ข้อดีของอัลบั้มนี้(และจริงๆ เป็นจุดแข็งของวงตั้งแต่สมัยยัง 5 คนอีกด้วย) คือ Kara สามารถทำเพลงหวานๆ แบ๊วๆ ได้ขึ้นมาก และเพลงหวานๆ เหล่านั้นไม่ได้สักแต่ใส่ดนตรีหวานเชื่อมหรือแอ๊บแบ๊วสุดพลัง แต่มักจะใส่รายละเอียดในเพลงไว้ตลอด ซึ่งสาวๆ K-pop ในยุคหลังมักแบ๊วลืมหูลืมตาจนเรียกได้ว่าค่อนข้างดาษดื่นและไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันสักเท่าไหร่
ต่อด้วย Cupid (3.5/5) เพลงโปรโมตหลักของอัลบั้มนี้ที่ฟังในไลฟ์โชว์(แบบไม่ชัด) แล้วตกใจว่าความเป็น Kara หายไปไหน ก่อนที่จะได้ฟังเวอร์ชั่นสตูดิโอแล้วใจชื้นขึ้นมาว่า Kara ยังคงความเป็น Kara อยู่ ตัวเพลงถ่ายทอดผ่านความเป็นยูโรป๊อปจ๋า (ชนิดที่เอาเสียงสาวๆ ออกแล้วเอาเนื้อฝรั่งใส่แทนก็แทบจะออกมาป็นเพลงฝรั่งได้เลย) และหยอดเอกลักษณ์ของ Kara ด้วยเสียงเบสว่อนเต็มเพลง โอเคว่าอาจจะไม่ได้หนักหรือเร้าใจเท่าพวก Pandora, Damaged Lady, Mamma Mia แต่ฟังง่ายกว่าและดูตลาดมากกว่า จะมีติก็ตรงท่อนแรพของยองจีที่ก็ทำออกมาได้เสมอตัวแหละ แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าสมาชิกยังเก่ายังอยู่เพลงนี้จะระเบิดศักยภาพไปได้มากขนาดไหน
In Those Days (4.5/5) คือเพราะมากกกกก เป็นบัลลาร์ดป๊อปอาร์แอนด์บีเบาที่เน้นการถ่ายทอดผ่านอารมณ์และเสียงประสานที่สอดรับกันทั้งเพลง คือจำกัดความสั้นๆ แต่เชื่อเถอะว่าเพราะจริงๆ ทุกอย่างออกมาดีงาม กลับมาสนุกสนานสดใสต่อด้วย I Luve Me (3.5/5) เป็นอีกเพลงที่ถ่ายทอดความเป็นดิสโก้ ผสานกับความเป็นป๊อปแดนซ์สมัยนิยม สดใสน่ารักดี
มาที่สองแทร็คสุดท้ายของอัลบัมที่เป็นเพลงคู่ เริ่มจากแทร็คของ Gyuri กับ Youngji ในเพลง Peek A Boo (3.5/5) คือ มัน Kara มากกกกกก Kara ที่สุดดดดดดดด นึกถึงสมัยอัลบั้ม Revolution และเพลงสายแบ๊วของวง อาจดูไม่มีอะไรมากแต่เชื่อสิว่าเพลงแบบนี้แหละที่ Kamilia ทั่วโลกอยากให้มีอย่างน้อยเพลงนึงในอัลบั้ม (ซึ่งก็มีแบบนี้ตลอด) แต่ชอบ Peek A Boo ตอนจบที่เล่นโน๊ตแบบ Pikachu นะ จบได้น่าเอ็นดูมาก