˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2, 3  ถัดไป
จากแนสทินาถึงคริสทินากับรีวิว Back To Basics
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ จากแนสทินาถึงคริสทินากับรีวิว Back To Basics 


Christina Aguilera : Back To Basics : 5

ท่ามกลางศิลปินหลายพันชีวิตที่ต่างดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในอุตสาหกรรมดนตรี "คริสทินา อากิเลรา"
คือหนึ่งในศิลปินที่สามารถพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ในฐานะศิลปินที่มีพัฒนาการ
ที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์และดนตรีที่เปลี่ยนแปลงสร้างความเซอร์ไพรส์
ได้ตลอดรวมถึงนํ้าเสียงที่ทรงเสน่ห์และพลังพร้อมกับลีลาการถ่ายทอดอารมณ์เพลงที่เชือดเฉือนกระแทกถึงอารมณ์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาถึงตรงนี้แนสต้องขอบอกว่าดีใจมากๆที่ในที่สุดการรอคอยติดตามผลงานชุดนี้ของศิลปินผู้ที่เป็น
ทั้งแรงบันดาลใจในหลายๆด้านและศิลปินผู้ที่มีอิทธิพลเป็นส่วนตัวต่อจิตใจของแนสได้สิ้นสุดลง รู้สึกภูมิใจอย่างมากในฐานะแฟนเพลงและน้องที่เห็นพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างมั่นคง แข็งแกร่งและต่อเนื่องของพี่เสมอมาตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักและติดตามเธอมา7ปีอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่มีเปลี่ยนแปลง

งานเพลงของคริสทินาในชุดนี้ถูกแบ่งออกเป็น2แผ่นโดยที่งานเพลงในแผ่นแรกพัฒนา
ถึงระดับอาร์แอนด์บีที่สามารถบูรณาการจังหวะจะโคนของดนตรีร่วมสมัยอย่างฮิพฮอพ พ็อพ ฟังค์ ซึ่งปรุงแต่งเข้ากับดนตรียุคเก่าอย่างโซล บลูส์และแจ๊ซซ์ได้อย่างลงตัว ส่วนแผ่นที่2เป็นการร่วมงานกับ ลินดา เพอร์รีย์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากดนตรีในยุค20-40หรือ50กว่าๆซึ่งทำออกมาโดยสามารถคงบรรยากาศ
และความสดของดนตรีในยุคนั้นให้ใกล้เคียงที่สุด

อัพเดทเรื่องของปัญหาในอัลบั้มนี้กันจะพบว่าปัญหาสำคัญไม่ใช่ศักยภาพของเพลงแต่เป็นการที่
คริสทิน่าตัดซิงเกิ้ลพลาดทำให้ค่อนข้างเสียโอกาสเรื่องของการทำอันดับค่อนข้างมาก อีกเรื่องหนึ่งคือเธอไม่ดิบพอที่จะสื่ออารมณ์เพลงแบบโซลหรือบลูสส์ได้สังเกตจากการที่เธอถูกค่อนขอดว่า
เพลงส่วนใหญ่ให้อารมณ์แบบยุค60-70ซึ่งจากการที่ฟังแล้วเธอทำเพลงในยุคที่เธอโฆษณาจริงๆค่ะ
คือคุณบางคนเข้าใจว่ากอสเพลที่ได้ยินในอัลบั้มนั้นเป็นเพลงที่อยู่ในยุคโมทาวน์จริงๆไม่ใช่นะคะ มันมีมานานแล้วค่ะก่อนยุคเพลงแจ๊ซซ์ด้วยซ้ำนะถ้าจำไม่ผิด





DISC ONE : MODERN
งานเพลงในแผ่นแรกเป็นการนำแรงบันดาลใจจากดนตรีโซล บลูส์และแจ๊ซซ์มาปรุงแต่งเข้ากับดนตรีร่วมสมัยเช่น ฮิพฮอพ พ็อพ ฟังค์ อาร์แอนด์บี ฯลฯ รวมทั้งมีการใช้แซมเพิ่ลที่หลากหลายและแพรวพราวเป็นการสานเจตนารมณ์ของธรรมเนียมนิยมอัลบั้มเออร์บันในยุคปัจจุบัน ภาคดนตรีโดยรวมออกมาเป็นงานอาร์แอนด์บีชั้นเลิศที่สามารถบูรณาการเส้นแบ่งระหว่างดนตรียุคเก่าเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างเหนือชั้น

เปิดอัลบั้ม Intro (Back To Basics) สามารถเป็นตัวแทนที่ดีในการสื่อให้ผู้ฟังรับรู้ถึงแรงบันดาลใจ จุดประสงค์และภาพรวมของอัลบั้มได้อย่างดี ตามมาติดๆกับ Make Me Wanna Pray Feat. Steve Winwood (3.5/5) นำเสนอในรูปแบบกอสเพลโซลเป็นการเปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี แม้ว่าอาจจะดูยํ่ารอยศิลปินท่านอื่นไปบ้างแต่ถ้ามองในแง่ของพัฒนาการอีกระดับของคริสทินาเองรวมถึงความแปลกใหม่ในงานของเธอนับว่าทำได้ดีสมกับค่าที่รอคอย ตอกยํ้าความเหนือชั้นด้วย Back In The Day (4/5) ซึ่งภาคดนตรีเป็นอาร์แอนด์บีร่วมสมัยที่เข้มข้นไปด้วยองค์ประกอบทางดนตรีที่หลากหลายทั้งโซล ฟังค์และโอลด์สคูลฮิพฮอพ เปรี้ยวจัดๆด้วยการเรียบเรียงที่ทำเก๋ด้วยการแซมเพิ่ลชื่อศิลปินในยุค40-60 รวมทั้งเนื้อหาที่สดุดีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอและงานชุดนี้แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ
ความน่าชมเชยสำหรับการแฝงค่านิยมการอนุรักษ์ดนตรีอเมริกันโดยตรงผ่านทางงานเพลง
และภาพลักษณ์ศิลปินของเธอได้อย่างดี ต่อด้วย Ain't No Other Man (4/5) พ็อพโซลผสานดีกรีร่วมสมัยของสรรพสำเนียงฟังค์และฮิพฮอพจางๆ โดยส่วนตัวเมื่อฟังครั้งแรกรู้สึกธรรมดาอย่างมากดูจะคล้ายๆเพลง Car Wash ที่เธอร่วมงานกับ มิสซี่ เอเลียตท์ ด้วยซํ้า แต่เมื่อให้เวลากับมันมากขึ้นจะเจอรายละเอียดและความชอบที่รอการค้นพบเรื่อยๆทุกรอบการฟัง จนตอนนี้ขอยอมรับว่าคิดถูกแล้วในแง่ของการเลือกเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวเนื่องจาก
ความสมบูรณ์แบบและแปลกใหม่ที่มีเพียงพอของดนตรีทั้งยังสามารถเป็นตัวแทนที่ดีในการสื่ออัลบั้มได้อย่างครบถ้วน ถ้าไมดีจริงคงไม่ขึ้นไปสูงถึงอันดับ6บิลบอร์ดหรอก.

Understand (4/5) พ็อพโซลอาร์แอนด์บีหวานๆแซมเพิ่ล Nearer To You ของ เบ็ตตี้ แฮร์ริส ได้อย่างลงตัวทั้งเนื้อหา ภาคดนตรีและสรรพสำเนียงความร่วมสมัยมีศักยภาพพอที่จะตัดเป็นซิงเกิ้ลได้ คาดว่าคงถูกหูผู้ฟังและถูกใจแฟนๆติ๊อยู่ไม่น้อย. Slowdown Baby (3.5/5) อาร์แอนด์บีจัดๆฟังแล้วนึกถึงงานเพลงของ Destiny's Child อยู่เหมือนกันเนื้อหาประชดเหน็บแหนมแฟนเก่าของเธอได้อย่างเจ็บแสบและมีระดับอยู่ในที ลักษณะการร้องทำให้นึกถึงFighterนิดๆแต่ต่างกันที่เพลงนี้คริสทินาสามารถถ่ายถอดอารมณืที่หลากหลายได้อย่างมีลูกเล่นและเหนือชั้นกว่า. Oh Mother (4/5) บัลลาดที่สามารถสื่อด้านที่อ่อนไหวและเสี้ยวนึงของชีวิตที่เจ็บปวดและยากที่จะเข้าถึงของคริสทินาได้อย่างเป็นรูปธรรม ทุกองค์ประกอบของดนตรีและความนุ่มนวลของนํ้าเสียงแสดงถึงความตั้งใจ ความผูพันและความรักที่บริสุทธิ์ที่เธอมีต่อแม่ยกให้เป็นภาคต่อที่เหนือชั้นของ I'm OK เลย . F.U.S.S อินเทอลูดฝากรักถึงสก็อต สทอร์ช โพรดิวเซอร์คู่บุญเก่า เริ่ดด้วยการใช้นํ้าเสียงนุ่มๆเชือดได้ครบครันทุกเม็ดทั้งด่าตรงๆ ด่าเหน็บๆ ไปถึงจิก แดก ทึ้ง ระคนเหยียดหยามด้วยนํ้าเสียงเล่นซะผู้รับสารลงไปใช้กรรมไม่ได้ผุดได้เกิดเลย รังสีอำมหิตแรงมากเพลงนี้ไม่ทราบว่าที่หายไปนานไปฝึกวิทยายุทธที่ไหนมาเจ้าค่ะ.On Our Way (2.5/5)หลายคนบอกว่าธรรมดานะเพลงนี้โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยในภาพรวมแต่เมื่อเจาะรายละเอียดดนตรีทั้งการอินโทรและแซมเพิ่ลเริ่ดๆ รวมไปถึงเทคนิคการผสมเสียงและลูกเล่นที่มีมากขึ้นของติ๊เองคิดว่าโอเคเลยนะ. Without You (3.5/5) อาร์แอนด์บี พ็อพ หวานๆเย็นๆตามสไตล์ติ๊นาที่เราเคยได้ยินกันใน Blessed กับ Loving Me 4 Me นั่นแหละ แต่เพลงนี้ให้ลูกเล่นที่เหนือชั้นและความสดของดนตรีที่มีมากกว่า (ดนตรีหวานและเพราะมากๆ) มีความเป็นอาร์แอนด์บีที่เด่นชัดขึ้นรวมไปถึงพัฒนาการในการใช้ลูกเล่นเสียงที่หลายและแหลขึ้นไปอีกระดับ เรื่องนํ้าเสียงอย่างหลังนี้ไม่มีทีท่าว่าเธอจะถึงขีดสุดแต่อย่างใด.

Still Dirrty Feat. Nas (3.5/5) ยกให้เป็น Can't Hold Us Down ภาคสอง ฮิพฮอพ โซล เริ่ดๆเสริมทัพด้วยความเป็นแจ๊ซซ์ ฟังค์ และ กลิ่นอายแบบบลูส์นิดๆได้อย่างลงตัว เก่ด้วยเนื้อหาที่ยืนหยัดถึงจุดยืนที่แข็งแกร่ง ของเธอพร้อมกับเป็นตัวแทนที่ลุกขึ้นมายืนหยัดในคุณค่าและความเท่าเทียมในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเพศหญิงดังเดิม . Here To Stay (3.5/5) เพลงโปรดของคุณน้อง อะฮั๊น ดั๊นเอง รวมถึงเป็นเพลงประกอบโฆษณาเป๊ปซี่ เนื้อหายังคงเป็นเครื่องยืนหยัดได้ดีถึงความมั่นใจ ขบถและทะเยอทะยานรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งบนถนนอุตสาหกรรมดนตรีสายนี้. Thank You (Dedication To Fans...) [3/5]ของขวัญน่ารักๆที่เธออุทิศให้แฟนๆ แซมเพิ่ลGenie In a Bottle และ Can't Hold Us Down ได้อย่างเซ็กซี่และลงตัว ที่น่ารักมากๆคือการมิกซ์เสียงแฟนๆที่ฝากข้อความทางโทรศัพท์ได้อย่างเนียนมากๆให้อารมณืเหมือนกับติ๊นากำลังนั่งมีตติ้งอยู่กับแฟนๆกลุ่มนี้ มาดูที่ภาพโดยรวมกันบ้างของพูดตรงๆนะว่าเพลงนี้ค่อนข้างจืดและดูธรรมดามากๆในอัลบั้มอย่างไรก็ตามยังดีใจที่ติ๊นาไม่ได้ลวกเพลงนี้ให้ออกมาเป็นอาร์แอนด์บีดาดๆ ชั้นเชิงลูกเล่นมีครบที่ดูธรรมดาอาจจะเป็นเพราะความตั้งใจในการที่จะสื่ออะไรที่สบายๆ กันเองและเป็นส่วนตัวให้แก่แฟนๆ เริ่ดออกสำหรับสาวเชิ่ดอย่างติ๊นาอ่ะ.

DISC TWO : OLD SCHOOL
จากแผ่นแรกที่นำแรงบันดาลใจมาปรุงแต่งให้มีความร่วมสมัยและเป็นปัจจุบัน มาสู่แผ่นที่สองที่เป็นการร่วมงานระหว่างเธอกับ ลินดา เพอร์รีย์ โดยทั้งคู่ได้คืนชีวิตให้กับดนตรีในยุคนั้นสู่ทศวรรษนี้อีกครั้ง โดยได้ย้อนกลับไปนำเสนอเพลงในยุค20-40หรือ50กว่าๆซึ่งเป็นสมัยที่อิทธิพลของแจ๊ซซ์ บลูส์และโซลเคยรุ่งเรืองถึงสุดๆ นอกจากนี้เธอยังนำเสนอเพลงในรูปแบบเก่าทั้งการเรียบเรียงดนตรี เทคนิคการร้องการทำดนตรี กรรมวิธีในการอัดเสียงเพื่อให้เสน่ห์ มนต์ขลังและความโบราณที่ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้.

เริ่มกันที่ Enter The Circus ที่ดูเหมือนจะเป็นอินเทอลูดทีเด็ดประจำแผ่นนี้ สามารถสื่อได้ถึงอารมณ์ขลังความลึกลับได้อย่างดี องค์ประกอบทางดนตรีอลังการจนน่าขนลุกไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเพลงในอัลบั้มของคริสทินา เชื่อมต่อได้ดีกับ Welcome (4/5) บัลลาดที่เนื้อหาเปรียบเสมือนบทสรุปที่ดีของชีวิตคนเมื่อถึงจุดนึงที่มีการย้อนกลับมาค้นหาศักดิ์ศรี คุณค่าและสัจธรรมของชีวิตตน ในเรื่องภาคดนตรีฟังเผินๆอาจจะสงสัยว่า "โบราณตรงไหน?" ในเมื่อความสดและใหม่มันออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ต้องขอบคุณ "คุณพี่ มาดามจ๊อกกาโล" ที่แนะนำความรู้ด้านดนตรีเกี่ยวกับเพลงนี้ว่าภาคดนตรีใช้เทคนิคในการเรียบเรียงดนตรีแบบยุค40-50ที่ใช้ลูกเล่นการซ้อนทับแทร็คของดนตรีอะไรทำนองนี้แหละค่ะ ให้ความรู้สึกละครเพลงคลาสสิคๆที่เล่นบนบรอดเวย์สุดฤทธิ์ ต่อด้วยเพลงที่ติ๊นาเคยหมายมั่นปั้นมือให้เป็นซิงเกิ้ลที่2 Candy Man (5) หนึ่งในเพลงที่หลายคนจับตามอง ภาคดนตรีนำเสนอในแบบแจ๊ซซ์ย้อนยุคสนุกๆมีกลิ่นอายของจังหวะและบรรยากาศแบบเพลงสวิงในยุคของ บิลลี่ ฮอลิเดย์ (ประมาณยุค30-40กว่าๆ) แซมเพิ่ล Tarzan&Jane Swingin' On A Vine ของเหล่านาวิกโยธินเมื่อไม่นานมานี้ได้อย่างลงตัวเพิ่มเสน่ห์และความหรรษาของเพลงนี้ขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอบสนองอุปสงค์การติดตามทุกเสี้ยววินาทีของแฟนๆได้อย่างดีกับ Nasty Naughty Boy (5) อีกหนึ่งแจ๊ซซืเริ่ดๆที่ให้อารมณืที่แตกต่างออกไปด้วยเครื่องเป่าและเนื้อหาที่เซ็กซี่ร้อนแรงติดเรทอย่างแรงแต่ยังคงไว้ด้วยระดับและชั้นเชิงตามธรรมเนียมแจ๊ซซ์ ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงเจ้าป้า มาริลีน มอนโร จังเลย I Got Trouble (5) ขอปรบมือให้กับความพยายามที่จะย้อนยุคแบบสุดๆ ทำได้ดีมากๆตังเพลงสามารถถ่ายทอดอารมณ์บลูส์โบราณดิบๆได้อย่างดี ฟังแล้วนึกถึงโชว์ในคลับหรูๆแบบในเอ็มวีของเธอไม่ก็เพลงบลูส์แจ๊ซซ์คลาสสิคๆที่ได้ยินกันในวิทยุตามหนังขาวดำย้อนยุคเลยแฮะ ฟังแล้วขนลุกเลยกับเพลงนี้.

มาถึงบัลลาดคอมโบ้เซ็ทชุดใหญ่ที่น่าจะถูกใจแฟนเพลงติ๊เองและบรรดานักฟังเพลงผู้คลั่งไคล้ดิว่าโชว์พลังเสียงทั้งหลาย เริ่มกันด้วย Hurt (3.5/5) ที่แฟนๆเรียกร้องให้เป็นซิงเกิ้ลที่สอง ภาคดนตรีเรียบง่ายแต่ทรงพลังตามมาตรฐานบัลลาดของดิว่า โดดเด่นด้วยนํ้าเสียงและการเค้นอารมณ์แบบพยายามจะบลูส์นิดๆแต่ภาพรวมที่ให้กลับกลายเป็นพ็อพบัลลาดร่วมสมัยที่ค่อนข้างจะทั่วไปแต่เชื่อเลยว่าประทับใจหลายๆคน เท่าที่ทดสอบมาตอนเปิดเพลงนี้พวกเพื่อนๆจะหยุดกิจกรรมทั้งปวงพร้อมกับตะโกนมาอย่างดังมากๆว่า "เพลงใครวะแนส เพราะจัง" เห็นมั้ยล่ะดังได้ไม่ยาก . Mercy On Me (3.5/5) กอสเพลบัลลาดคงความหรูหราและมนต์ขลังทุกองค์ประกอบแบบไม่หลุดคอนเซ็ปท์ฟังแล้วอยากเห็นง่านดูเอ็ทระหว่างเธอกับป้าเอ็ทท่า เจมส์ไม่ก็อยากให้เธอเอาเพลง Lady Sings The Blues ของคุณย่าบิลลี่มาร้องใหม่จัง.Save Me From Myself (3.5/5) เข้าถึงอารมณ์สุดๆด้วยเสียงร้องที่สดและผ่อนคลายที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอคลอไปเรื่อยๆกับดนตรีบางๆให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ดิบและสดมากๆเป็นอีกหนึ่งเพลงที่แนสชอบที่สุดในอัลบั้มนี้เลย. The Right Man (4/5) บัลลาดปิดอัลบั้มที่ทั้งดนตรีและเสียงร้องอลังการสมกับเป็นการปิดอัลบั้มได้อย่างมีชั้นเชิง เนื้อหาอบอุ่น งดงามและเสนอแง่มุมที่ดีของชีวิตในการบูชาความรักและศรัทธาสำหรับการก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆที่ถาโถมสู่ชีวิตเธอโดยตลอดจนกระทั่งเธอพบคนที่ใช่ คนที่หัวใจเธอเปิดรับให้เข้ามาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญหน้าหนึ่งของลูกผู้หญิงคือ "การใช้ชีวิตสมรส" ขอแสดงความยินดีด้วยที่เธอได้พบรักแท้และได้พบคนที่เธอสามารถไว้ใจและฝากชีวิตด้วยได้ ขอให้มีความสุขมากๆและก้าวหน้าไปสู่อนาคตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงทั้งคู่นะคะ.

จากคำชื่นชมของ เอ็ทท่า เจมส์ ที่ว่า "เธอคือนักร้องตัวน้อยที่ยิ่งใหญ่" มันไม่ได้การสรรเสริญเยินยอที่เกินเลยแม้แต่นิดเดียวในเมื่อความสามารถ พัฒนาการและที่สำคัญคุณภาพของผลงานที่เห็นกันเป็นรูปธรรม ในฐานะแฟนเพลงและน้องที่คอยติดตามพัฒนาการของเธอมาโดยตลอดขอยืนยันจากใจว่าภูมิใจในงานชุดนี้ที่สุด รักในความกล้าที่รีไวน์กลับสู่แรงบันดาลใจโดยที่ความสามารถ ความสร้างสรรและพัฒนาการในฐานะศิลปินที่ดีมันกลับเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ความละเมียดละไมและคุณภาพที่สมบูรณ์แบบนี่แหละมั้งคือตัวตนที่แท้จริงของคริสทินาที่แฟนๆรักและศรัทธาในตัวเธอหาใช่ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดไม่ แนสยังคงเชื่อในความเป็นศิลปินที่ดีของเธอรวมทั้งอนาคตที่แข็งแกร่งและมั่นคงบนถนนสายดนตรีของเธอมันยังคงทอดไปอีกยาวไกลมากๆ ที่สำคัญที่สุดในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ก้าวไปสู่อนาคตเคียงข้างกันตลอดด้วยกัน



ฉันเชื่อในตัวเธอมาก

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ๊ายยยยยย หงุดหงิดค่ะรีวิวอันมีค่าของเดี๊ยนเข้ามาอ่านแล้วก็มาสนทนากับเดี๊ยนก็บาง้นะคะ ตอนนี้หงุดหงิดมากๆค่ะไม่มีอะไรทำ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ชอบอัลบั้มนี้โคดดดดอ่า ไม่รุดิ


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
โนจะต้องซื้ออัลบั้มนี้ให้ได้


_________________


สวยและรวยเวอร์
ต้องJessica Simpson
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เพลงป๊อปเก่าๆ แก่ๆ ขาย 90's อย่างไงก็เจ๊งคร่ะ

ท่าทางอีติ๊จะดับจริงน่ะคร่ะ ยกเว้น แฟชั่นชี ที่คนทำกันทั้งเมือง



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
แอร๊ยยย นึกว่าจะหายไปไม่กลับแล้วซะอีก กระทู้นี้ ขอบคุณมากคะ ที่เอามาลงใหม่


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
=[B]luEDoGu[T]= พิมพ์ว่า:
แอร๊ยยย นึกว่าจะหายไปไม่กลับแล้วซะอีก กระทู้นี้ ขอบคุณมากคะ ที่เอามาลงใหม่


ยังไม่หายไปไหนค่ะคุณน้อง ดีนะคะที่คุณพี่เซฟรีวิวชิ้นนี้ไว้ไม่งั้นล่ะก็คนสวยเป็นลมแค่ะถ้าพิมพ์ใหม่

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Fischerspooner พิมพ์ว่า:
เพลงป๊อปเก่าๆ แก่ๆ ขาย 90's อย่างไงก็เจ๊งคร่ะ

ท่าทางอีติ๊จะดับจริงน่ะคร่ะ ยกเว้น แฟชั่นชี ที่คนทำกันทั้งเมือง


เดี๊ยนไม่ใช้คำว่าดับเอาซะทีเดียวนะคะคุณพี่เพียงแต่อย่างที่บอกไปแหละค่ะว่าอีติ๊ทําตัวเอง
เรื่องการที่ไม่รู้จักขยันโปรโมตอ่ะค่ะ แฟชั่นนี้เห็นด้วยนะคะจะดีจะเลวอีติ๊ก็ยะงเป็นที่โจษจันของคนทั่วโลกได้ตลอดเวลายังไม่ถึงขั้นเทรนด์เซ็ทเตอร์แต่ชีก็สามารถเรียกความสนใจได้นะคะ

ป.ล. คุณพี่ขาเพลงแนวนี้ไม่เป็นที่นิยมนักในทศวรรศ90นะคะแก้ข่าวด่วน

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
คือท่าจะขายเพลงย้อนยุคกันในยุคนี้ก็ไม่ค่อยมีใครสนกันล่ะครับ นอกจากจะรักจะชอบแนวนี้กันจริงๆ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 3
ไปที่หน้า 1, 2, 3  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com