Main :: อ่าน - Fantastic Four : Rise of the Silver Surfer

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง สำหรับ 4 กุมาร เอ๊ย! 4 สี่พลังคนกายสิทธิ์ ตอน กำเนิด ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ รับรองว่างานนี้ใครสักคนต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน ( ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น หุหุ ) ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงงานเปิดตัวภาพยนตร์แนวฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ที่โรงภาพยนตร์ เอสพลานาด รัชดา เมื่อวานนี้ เวลา 20.00 น. พอดีผมเป็นลูกค้าของ AIS เลยมีโอกาสได้ดูรอบ Preview ก่อนใครในราคา 60 บาทซึ่งถือว่าถูกมากๆ ซึ่งงานนี้ AIS เค้าจับมือกับโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ เลยทำให้เราได้ดูก่อนใครในโลก!!! ต้องบอกว่างั้นเลยครับ โดยรอบที่ผมดู ก็คือเมื่อวานนี้ เวลา 20.00 น.นั่นแหล่ะ บรรยากาศภายในงาน ก็คึกคักตามประสาหนังเข้าใหม่ บริเวณงานมีเกมให้เล่นมากมาย เรียกได้ว่าพกพาความไฮเทคต่างๆมาไว้ที่นี่เลยทีเดียว พวกผมเล่นเกมไปสักพัก ก็มาถึงเวลาสำคัญของงานนั่นก็คือ การเปิดตัวภาพยนตร์ที่อลังการงานสร้าง พร้อมแนะนำผู้ให้เสียงพากย์ ไม่ว่าจะเป็น คุณดิลก ทองวัฒนา, โดม ปกรณ์ ลัม, จุ๋ย วรัทยา และ วี วีรภาพ งานนี้ดารานักร้องมาเยอะมาก ก็เพราะหนังเค้าแรงจริงๆครับ ใกล้ถึงเวลามันส์ ผมกับเพื่อนและแฟนก็รีบไปจับจองที่นั่ง แต่ต้องมาช็อค ชีนีม่า อย่างแรง ก็ตอนที่ต้องฝากมือถือไว้กลับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักรออยู่หน้าประตูโรง ทุกโรงครับ! ทำไงได้ เค้าให้ฝากก็ต้องฝากครับ ( ปิดเครื่องไหม? ไม่ปิดครับ ปล่อยให้มันดังไปยังงั้นหล่ะครับ! ) ซึ่งไอ้เหตุการณ์นี้หล่ะทำให้พวกเราได้ดูหนังช้าลงไป 30 นาที แต่เพื่อความปลอดภัย ก็ทำไปเถอะคับ... กว่าจะโปรโมทโฆษณา หนังใหม่ (แฮร์รี่ หน้าเด๋อ มาหล่ะ) และยืนทำความเคารพจบ พวกเราก็ได้ดูเวลา 21.00 น. เย้! ได้ดูซะที โว้ย
สำหรับภาคนี้ต้องขอบอกเลยว่า ทำทุกอย่างได้ดีกว่าภาคแรก ทั้งเนื้อเรื่องที่กระชับ และแฝงข้อคิดหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม ความรัก และมิตรภาพ ซึ่งถูกเพิ่มเติมให้เข้ามาในภาคนี้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวละครเหมือนภาคที่ผ่านมา และใน

เรื่องด้านเอฟเฟค ยังคงรักษาระดับของ Fantastic Four ได้อย่างแน่นหนึบ พูดง่ายๆ ฉากกลางคืนพอรับได้ แต่ฉากกลางวันไม่ผ่านครับ โดยเฉพาะพ่อยางยืดเรา ไม่ผ่านอย่างแรง แต่ก็ยังดีกว่าภาคแรกครับ ( ต้องขอขอบคุณทีมงานคุณภาพที่มาใหม่ด้วยนะครับ ) ตัวละครทั้ง 4 มีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น สามารถปรับตัวกับพลังที่ได้มา โดยเฉพาะรี๊ด ที่มีส่วนทำให้กลุ่มได้ลืมตาอ้าปากกัน ซูซาน ( เจส ) ภาคนี้เธอสวย ฉลาด และดุ ( กับรี๊ด ) มากเลยครับ ทรงผมถูกใจ หน้าตาสดใส และยิ้มน่ารักมากครับ จะมีเพียงบางชุดเท่านั้นที่ไม่ผ่าน แต่โดยรวมโอเคครับ เบ็น ( ไมเคิล ) แม้ออกมาให้ยลโฉมแบบหน้าตาธรรมดาแค่ 2 -3 ฉากเหมือนเดิม แต่ก็แสดงได้สมบทบาท ทำให้อดนึกไม่ได้ว่าช่างเป็นบทที่น่าสงสารที่สุดครับ ( ตรงที่ไม่ได้ใช้หน้าตาตนเองเลย ) สุดท้ายก็คือ จอห์นนี่ ( คริส ) ยังคงรักษาความเจ้าชู้เหมือนเดิม แต่ภาคนี้มีบทบาท และเด่นมากขึ้น เนื่องจากผลการต่อสู้กับนักโต้คลื่นสีน้ำเงิน ทำให้สามารถถ่ายเทแลกเปลี่ยนสถานะของตนกับสมาชิกภายในกลุ่มได้ จนเป็นที่มาของชัยชนะในครั้งนี้ มาพูดถึงซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์กันบ้าง แม้จะ

ปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนไม่มากนัก แต่ในเรื่องนี้ก็ยกให้เค้าเป็นพระเอกอีกคนไปเลย เพราะทุกฉากมีแกหมด ก็เฮียแกฉลาด เก่ง เท่ห์ และบึกขนาดนั้น ปล่อยแกไปสักภาคก็ไม่ว่ากันครับ ( ตอนจบมีลุ้นครับ อิอิ ) ตัวร้ายตลอดกาลอย่าง ดอกเตอร์ ดูม ก็ได้ผลบุญจากนักโต้คลื่นสีน้ำเงิน ทำให้คืนชีพอีกครั้ง ยังคงรักษาความเลวและขี้โกงได้เป็นอย่างดี ดูแล้วนึกถึงฉบับการ์ตูนเลย คนอะไรตายง่ายโครต สำหรับสถานที่ในการถ่ายทำ ภาคนี้จีนงาบไปกินครับ กำแพงเมืองจีนแทบทลาย ก็หวังไว้สักวันว่าคงจะมีฉากตึกใบหยกของไทยเรา บ้างนะครับ เอาเป็นว่าขายกันตรงๆเลยนะครับช่วงนี้ Fantastic Four : Rise of the Silver Surfer วันนี้ที่โรงภาพยนตร์เท่านั้น

สรุป เนื้อเรื่องกระชับ เข้าใจง่าย ไม่คิดมาก ( ความยาวหนังประมาณ 90 นาที ) ให้ 8.5/10
เอฟเฟค ดีมั้งแย่มั้ง 8/10
ภาพ แสง สถานที่ 8/10
รวม 8.2 ครับ Cool

ปล.มัวแต่ชื่นชมกับฉากลุ้นในตอนจบ จนลืมว่าต้องไปเอามือถือ ทำให้ต้องรอคิวเป็นนานสองนาน บ้าจริงครับ อ่อ ขอบคุณสำหรับการอ่านรีวิวของผมในครั้งนี้นะครับ

_________________

หนังสนุกมากคับ ดีกว่าภาคแรกอีก ... แต่ความเด่นของเซิร์ฟตัวเงินก้อยังไม่เท่ากับ 4 ตัวละครหลักเท่าไหร่ ถือว่าหนังกระจายความเด่นของตัวละครในแต่ลพฉากได้ดีเลย

อีกทั้งเอฟเฟกต์ของหนังไม่รู้ว่าจะดีขึ้นรึเปล่า แต่ก้อมีอะไรใหม่ ๆ ให้เห็นเยอะ เหมือนกัน

ปล.แอบบอกว่า สนุกลุ้น และประทับใจมากกว่า ไอ้แมงมุม 3 อีกคับ

เต็ม 10 ให้ 8 ++

เกรด B

_________________
I can make the bad guy good for a weekend.