Dakota Armani พิมพ์ว่า:
หยกรู้สึกว่า กับตันสมิทได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว
แต่ประเด็นที่เรือจมที่หยกเคยคิดไว้ก็คือ
1. เรือซึ่งทำด้วยเหล็กกล้าหนาและคุณภาพที่ต้องเรียกว่าดีมากๆ ความจริงแล้วนั้นหากได้รับความกระทบกระเทือนหรือโดนขูดด้วยภูเขาน้ำแข็ง ความจริงไม่น่าก่อความเสียหายได้ขนาดนี้
แต่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่า เหล็กที่นำมาต่อเรือนั้นแช่สารบางอย่างมากเกินไปซึ่งสารนั้น (หยกจำไม่ได้แล้ว) เมื่อเจอกับความเย็นจัดจะทำให้เหล็กกล้าอย่างดีผุกร่อนได้
2. ภูเขาน้ำแข็ง อย่างที่หลายๆคนรู้กันดีว่า ส่วนล่างของภูเขาน้ำแข็งนั้นจะมีความใหญ่กว่าส่วนที่อยู่เหนือน้ำหลายเท่า ดังนั้น เมื่อเรือไททานิคซึ่งคิดว่าหลบพ้นจากภูเขาน้ำแข็งแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าส่วนล่างของภูเขาน้ำแข็งที่ยื่นออกมาได้ทำความเสียหายให้กับเรือเสียแล้ว
3. เรือบรรทุกน้ำหนักมากมายมหาศาล การที่จะเลี้ยวเรือภายในช่วงเวลานั้น คงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะตัวเครื่องต่อให้กี่แรงม้า ก็ไม่สามารถช่วยผลักดันตัวเรือให้เลี้ยวหลบภูเขาน้ำแข็งได้
ในประเด็นนี้ หยกคิดว่า ถ้าลองย้อนเหตุการณ์กลับไปได้หยกเลือกที่จะหยุดเรือดีกว่าเดินเครื่องเต็มกำลัง เพราะการเดินเครื่องเต็มกำลังก็ส่งผลให้เข้าใกล้หายนะมากขึ้น
4. คนที่อยู่ห้องส่งวิทยุ ละเลยที่จะฟังข้อความเตือนจากเรือใกล้เคียง จึงทำให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในคือวันนั้นได้
...และ ถ้าเรือหักเป็นสองท่อนจริงๆเหมือนอย่างในหนัง ขอเดาวว่าเรือมีน้ำหนักมากและเหตุผลข้างต้นจากข้อหนึ่งที่หยกได้พูดไปแล้ว คิดว่าเหตุผลนั้นคงจะมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยค่ะ
น้องคิดถูกและล่ะ เพราะว่า เรือในสมัยก่อนโลหะมีส่วนผสมของกำมะถันสูงก่าปกติ ทำให้เวลาโดนความเย็นจัด เป็นเวลานาน จะทำให้เหล็กเปราะบางลงถึงแม้ว่าจะมีความหนาก็ตาม เวลาชนกับภูเขาน้ำแข็งทำให้มีรอยถลอกทั้งหมด 7 จุด ตั้งแต่ด้านหน้าจนเลยช่วงห้องกักน้ำไป ไม่ได้เป็นรอยฉีกขาดยาวรอยเดียวอย่างที่เข้าใจกันแต่แรก
ส่วนเรื่องเรือหักลง 2 ท่อนเป็นความจริง ส่วนซากเรือส่วนหลัง มีการผุกร่อนมากกว่าส่วนหน้ามาก เพราะเกิดจากย่อยสลายของแบคทีเรียและลุลินทรีย์สูงกว่าส่วนหน้าเรือ หลังจากนั้นไม่นานถูกกู้ขึ้นมา แต่บอลลูนที่กู้ขึ้นมาอันนึงขาดลง ทำให้ส่วนหลังจมลงไกลจากส่วนหัวเรือมากกว่าเดิมอักโข