โดราเอม่อน เดอะมูฟวี่ : ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006
กำกับ ฮิโรชิ ฟุกุโตมิ
ให้เสียงพากย์ ทีมพากย์ MCOT
แนว อนิเมชั่น
คะแนน 10 /10
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปีของภาพยนตร์ตอนยาวของโดราเอม่อน ซึ่งตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะนั้นเป็นตอนแรกที่ออกฉายและทำรายได้ถล่มทลายอย่างมากเมื่อปี 1982 ในตอนนั้นเมืองไทยเองยังไม่มีซีรี่ส์โดราเอม่อนฉายทางโทรทัศน์ หนังเข้าฉายในบ้านเราหนึ่งเดือนทำรายได้ไปถึง 2 ล้านบาทในสมัยนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และในโอกาสครบ 25 ปี โดราเอม่อนตอนยาวนี้จึงได้ถูกนำมาสร้างใหม่ และสร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและสวยงามอย่างที่เราไม่เคยเห็นโดราเอม่อนตอนไหนทำได้สมจริงและมีมิติเท่านี้มาก่อน
โดราเอม่อนตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะ เป็นตอนยาวที่เริ่มเรื่องแบบเดิมๆ ในซีรี่ส์ที่ซึเนโอะนำฟอสซิลเล็บของไดโนเสาร์มาอวดและโดนบิตะเกิดอิจฉาจนพลั้งปากไปว่าจะเอาไดโนเสาร์ทั้งตัวมาให้ดู ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อโนบิตะไปขุดเจอฟอสซิลไข่ไดโนเสาร์และนำมาฟักจนเป็นตัว แถมยังเลี้ยงดูตั้งชื่อว่าพีซุเกะให้เสร็จสรรพ ข่าวลือเรื่องไดโนเสาร์ในสวนสาธารณะทำให้โนบิตะตัดสินใจพาพีซุเกะกลับไปอยู่ในยุคของมัน แต่ด้วยความผิดพลาดไทมแมชชีนชำรุด พวกของโนบิตะต้องติดอยู่ในยุคไดโนเสาร์แถมยังถูกพวกนักล่าไดโนเสาร์ตามล่าเพราะต้องการตัวพีซุเกะอีกด้วย
ทันที่ที่หนังเปิดตัว แฟนซีรี่ส์ทางโทรทัศน์จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภาพยนตร์ฉบับใหม่นี้ ด้วยภาพที่ให้มิติลึกและดูสมจริงอย่างมาก ฉากหลังทุกอย่างเป็นสามมิติ แม้ว่าตัวละครจะเป็นสองมิติแต่ก็ดูกลมกลืนเข้ากันได้ดีและดูน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก ความเปลี่ยนแปลงของตัวละครหลักอย่างโนบิตะและเพื่อนๆ อาจจะเปลี่ยนไปแต่ก็ยังให้อารมณ์ที่คุ้นเคยได้ดีเหมือนเดิม แต่ที่ดูไม่เปลี่ยนก็โดราเอม่อนนี่ล่ะ
เราได้เห็นภาพเมืองที่โนบิตะอยู่มีมิติมากขึ้น สวยงามเหมือนจริงมากขึ้น และทีเด็ดของหนังฉบับนี้ก็คือสีสันและมุมกล้องที่ใหม่สดมากๆ สำหรับภาพยนตร์การ์ตูน เพราะแทบจะทุกฉากให้แสงและมุมกล้องของภาพที่ทำให้เราแทบลืมไปเลยว่ากำลังดูหนังการ์ตูนอยู่ ถ้าหากโดราเอม่อนตอนยาวเมื่อปี 1982 จะเป็นตอนที่คลาสิคที่สุดแล้ว ตอนยาวฉบับใหม่นี้ก็เป็นตอนที่ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่งสวยสดงดงามและยอดเยี่ยมที่สุดเช่นกัน อีกสิ่งที่หนังปรับเปลี่ยนและดัดแปลงเพิ่มขึ้นก็คือฉากแอ๊คชั่นที่ทำออกมาอย่างตื่นเต้นและสวยงามในเวลาเดียวกัน ทั้งฉากไล่ล่าในอุโมงค์กาลเวลาและฉากหนีเหล่าร้ายที่แม่น้ำรวมถึงฉากเทอร์ราโนดอนกลางหุบเหวที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งกว่านั้นในภาคดนตรีและระบบเสียงเซอร์ราวนด์ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสอย่างมาก บอกได้เลยว่าบันทึกเสียงดีมากๆ จนทางโรงภาพยนตร์ที่จัดฉายอาจจะต้องเบาเสียงลงนิดหน่อยเนื่องจากระบบเสียงกระหึ่มแบบนี้อาจทำให้เด็กเล็กๆ ตกใจได้
ไม่เพียงแต่หนังจะเปลี่ยนในเรื่องของฉากหลัง การให้แสงสี และมุมกล้องที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่หนังยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโกลาหลเมื่อมีข่าวไดโนเสาร์ที่สวนสาธารณะ หรือของวิเศษอย่างผ้าคลุมกาลเวลา รวมไปถึงการสื่อสารของตำรวจกาลเวลาที่ล้วนแต่เสริมให้เรื่องสมจริงและมีที่มาที่ไปได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งกว่าหนังคนแสดงจริงหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำไป
โดยปกติแล้วการ์ตูนชุดโดราเอม่อนตอนยาวมักมีคติเตือนใจและสร้างสำนึกในเรื่องต่างๆ ที่เน้นย้ำมากก็คือเรื่องรักษาธรรมชาติ ซึ่งจากเดิมในตอนไดโนสาร์ของโนบิตะนั้นเน้นในเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่ไม่ทิ้งกันในยามยาก และเรื่องผลของการกระทำที่จะส่งผลต่ออนาคต ซึ่งในตอนที่สร้างใหม่นี้ก็ได้เสริมเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมเข้ามาอีกด้วย เรียกว่าทำให้หนังตอนนี้ทั้งสมบูรณ์แบบและสมเจตนารมย์ของอาจารย์ฟูจิโอะฟูจิโกะจริงๆ
นอกจากนี้หนังยังสร้างมิติให้เรื่องราวมากขึ้นอีก ทั้งที่เป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อยและไม่เคยมีอยู่ในฉบับหนังสือการ์ตูนหรือต้นฉบับอนิเมชั่น นั่นก็คือการเปรียบพีซุเกะเป็นเหมือนลูกของโนบิตะโดยใช้ฉากคุณแม่อุ้มท้องกับตอนที่โนบิตะซ่อนไข่ไว้ในเสื้อซึ่งทั้งขบขันและสะท้อนความผูกพันธ์ของตัวละครได้ดียิ่งขึ้นด้วย
และแม้องค์ประกอบของหนังทุกอย่างล้วนทำออกมาอย่างละเอียดและสวยงามแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้โดราเอม่อนเป็นที่รักของแฟนๆ ชาวไทยมากยิ่งขึ้นก็คือเสียงพากย์ของทีมนักพากย์ช่องเก้าที่ไม่เพียงแต่จะเข้าคาแร็คเตอร์ตัวละครที่เราคุ้นเคยมากว่า 20 ปีเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสนุกสนานด้วยมุกและน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหาใครมาเทียบไม่ได้เลยจริงๆ
ภาพที่คุ้นตาแฟนๆ อาจจะเปลี่ยนไปก็จริง แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ก็คือความสนุกสนาน ความสดใส และความบันเทิงในแบบโดราเอม่อนนั้นยังอยู่อย่างครบถ้วน เมื่อดูแล้วจะได้เห็นความพยายามและความตั้งใจอย่างมากของทีมงานสร้างอนิเมชั่นชุดนี้จนรู้สึกชื่นชมและประทับใจแทนอาจารย์ฟูจิโอะ ฟูจิโกะไม่ได้ ที่จริงแล้วมันจะยิ่งประทับใจมากกว่าเดิมด้วย หากแฟนหนังที่เคยได้ชมภายนตร์ฉบับปี 1982 ในบ้านเราตอนนี้ก็จะพาลูกพาหลานไปดู เก็บเกี่ยวความประทับใจและความสนุกสนานพร้อมกันได้เป็นความสุขของทั้งครอบครัวอย่างแน่นอน
_________________
